สวัสดี! ผู้มาเยือน ยินดีต้อนรับสู่ Quaint School Community คอมมูโรงเรียนสำหรับผู้พิการ

Go down
Skai
Skai
เทียบเท่ามัธยมศึกษาปีที่ 5
INFO.Khannika Aksawarakgosol
นักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 5

Star Piece468
CHIPS+99 M 426 K 398
Credit
Whirl The Series  - Page 3 Exp111100 / 100100 / 100Whirl The Series  - Page 3 Exp211

-25% Grade Exp.

PASSPORT
 :
Whirl The Series  - Page 3 Exp111650/1875Whirl The Series  - Page 3 Bar-em13  (650/1875)
 :

Whirl The Series  - Page 3 Empty Re: Whirl The Series

Sat 30 Jan 2016, 04:48
เคราะห์ซ้ำกรรมซัดจริงๆ ครับ
Nearmoki-2b
Nearmoki-2b
เทียบเท่ามัธยมศึกษาปีที่ 1
INFO.Narin
อดีตผู้อำนวยการโรงเรียน

Star Piece0
CHIPS+65 M 413 K 676
Credit
Whirl The Series  - Page 3 Exp111100 / 100100 / 100Whirl The Series  - Page 3 Exp211

Whirl The Series  - Page 3 Empty Re: Whirl The Series

Sat 30 Jan 2016, 18:11
Edit : มีการลบความคิดเห็นไม่เหมาะสมออกจากกระทู้
Edit2 : เพิ่มเติมมารยาทในการออกความคิดเห็นที่หน้า 1




EP.26

หลังจากที่ ราย รัตติกาล และ นรินทร์ ได้ปรึกษาหารือกันแล้ว
จึงออกบทสรุปว่าจะเดินทางกลับไทยทันทีที่นรินทร์พอฟื้นตัว
จนสามารถเดินได้ด้วยตนเอง ที่จำเป็นต้องรีบร้อนเป็นเพราะ
พวกเขาต้องการรู้เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดกับเรเน่จากปากเจ้าตัว
ทว่าเธอในตอนนี้ไม่สามารถให้คำตอบได้ และคนที่อาจจะ
ช่วยให้ความทรงจำของเธอกลับมาได้ก็ติดงานอยู่ที่ประเทศไทย

ในเช้าวันใหม่นั้น ผู้อำนวยการผู้กำลังนั่งพักผ่อนอยู่ก็ได้ยินเสียง
เสียดสีของเนื้อผ้า เสียงกอกแกกดังมาจากเตียงข้างเคียง

"อรุณสวัสดิ์ครับ"

เสียงทุ้มเอ่ยด้วยภาษาอังกฤษ เขาคลี่ยิ้มเจือจางที่มุมปาก
หญิงสาวกระพริบตาถี่ตามประสาคนพึ่งตื่นนอน เธอยันตัว
ลุกขึ้นนั่งก่อนจะหันไปทางต้นเสียง

"อรุณสวัสดิ์ค่ะ.."
"คุณจำอะไรได้มากขึ้นบ้างมั้ย?"

เรเน่ยกมือขึ้นขยี้ตา ก่อนที่จะส่ายหน้าปฏิเสธ น่าเสียดายที่
ภาษากายสื่อไปไม่ถึงคนตาบอดแต่อย่างใด นรินทร์ยังคง
ลุ้นด้วยดวงใจที่เปี่ยมหวัง แพทย์บอกว่าถ้าเธอได้การพักผ่อน
อย่างเพียงพอและสมองได้รีเซ็ตตัวเอง บางทีพอตื่นขึ้นมา
อาจจะจำทุกอย่างได้เช่นปกติ นี่ก็ผ่านไปคืนนึงแล้ว และ
เขาก็รอเพื่อที่จะถามประโยคนี้มาทั้งคืน ทางฝั่งเรเน่เอง
ก็จ้องมองนรินทร์อย่างพินิจพิเคราะห์ เธอมองเรือนผม
สีดำยุ่งเหยิง ค่อยๆเลื่อนสายตาลงมายังใบหน้าที่คล้าย
คนรู้จัก ชายคนนั้นนั่งหลับตาทั้งๆที่ฟ้าสว่างแล้ว

"ทำไมถึงหลับตาเหรอคะ? ยังไม่ตื่นดีหรือ?"

ผู้อำนวยการอึ้งไปเล็กน้อย คำถามใสซื่อเป็นคำตอบ
ที่ดียิ่งกว่าสิ่งใด เรเน่ควรจะรู้ดีว่าเขามีอดีตกับดวงตา
ที่ไม่ต้องการให้ใครรับรู้ จึงหลับตาอยู่ตลอดเวลา
ชายหนุ่มฝืนยิ้มเล็กน้อยเพราะไม่อยากให้อีกฝ่าย
รู้สึกตึงเครียด

"ผมตาบอดน่ะ ถึงลืมตาไปก็มองไม่เห็นอะไรหรอกครับ"
"ข ขอโทษนะคะ!!"

ถ้อยคำรู้สึกผิดดังขึ้น น้ำเสียงฟังดูเลิ่กลั่กทำอะไรไม่ถูก
จนชายผู้พิการทางสายตาต้องเอ่ยปลอบว่าไม่เป็นไร
เรเน่จับผ้าห่มไว้แน่น พอสังเกตได้ว่าภายในห้องไม่มี
บอดิการ์ดคนสนิทอยู่ด้วย ก็ยิ่งทำตัวไม่ถูกเข้าไปใหญ่

"พอจะรู้ไหม.. ว่าคนที่อยู่ด้วยกันเมื่อวาน.. เขาอยู่ที่ไหน?"
"ผมคิดว่าเขาคงจะมาที่นี่ทันทีเมื่อถึงเวลาเยี่ยมไข้"

หญิงสาวคอตกเมื่อรับรู้ว่าช่วงนี้ยังเป็นเวลาเช้าตรู่
เช้าเสียจนโรงพยาบาลยังไม่เปิดรับแขกเยี่ยมเยียน
เธอถอนหายใจเสียงดังทีหนึ่ง

"มีอะไรไม่สบายใจรึเปล่าครับ?"
"อยากกลับไทยเร็วๆน่ะค่ะ ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่ามาอยู่ที่นี่
ได้ยังไง แต่บรัชกับคนอื่นๆในบริษัทจะต้องรออยู่แน่ๆ
ฉันไม่เคยหายไปไหนนานๆแบบนี้มาก่อน"

นรินทร์รับฟังหญิงสาวพูดถึงคนและบริษัทที่ไม่มีอยู่แล้ว
ภายในใจรู้สึกหดหู่ที่ต้องรับฟัง ทว่าสัญญากับรัตติกาล
ไว้แล้วว่าจะอธิบายให้เรเน่ฟังเฉพาะเรื่องที่ไม่หนักหนา
จนเกินไป ทั้งหมดนี้ก็เพื่อไม่ให้ผู้ป่วยกระทบกระเทือน
ทางจิตใจมากไปกว่านี้ ผู้อำนวยการกลืนน้ำลายทีหนึ่ง
ก่อนเอ่ยปาก

"คุณกำลังไม่สบาย ผมเชื่อว่าคุณรอยด์จะต้องเข้าใจ
อย่างแน่นอนครับ"

ทันใดนั้นเองที่ผู้ฟังหันหน้าหาต้นเสียงเร็วไว ดวงตา
สีมะนาวเบิกขึ้นมองด้วยแววตาตั้งคำถาม เมื่อไม่ได้
ยินประโยคตอบรับนรินทร์จึงนึกขึ้นได้ว่าได้เอ่ยสิ่ง
ที่ไม่ได้ตั้งใจจะพูดออกไป

"คุณรอยด์?... คุณรู้จักบรัชงั้นเหรอคะ?"

ไร้ซึ่งคำตอบ ชายหนุ่มยกมือขึ้นปิดปากอย่างลืมตัว
เรื่องราวที่เกิดขึ้นทำให้เขาเข้าหน้าเรเน่ไม่ค่อยติด
เพราะฉะนั้นเจ้าตัวจึงลำบากใจที่จะต้องคุยกับเธอ
แม้ตัวเธอจะจำเขาไม่ได้เลยก็ตามแต่

"เอ่อ.. ผมได้ยินคุณพูดถึงเขา.."
"แต่ฉันไม่เคยเรียกบรัชด้วยนามสกุลนะคะ?"

เรเน่จ้องชายหนุ่มแปลกหน้าตาไม่กระพริบ อันที่จริง
เธอก็เคยคิดอยู่บ้างว่าชายคนนี้มีหน้าตาคล้ายกับ
บอร์น รอยด์ พอตัว คล้ายพอที่จะทักผิดได้หาก
เดินสวนกันตามท้องถนน แต่เธอเคยคิดว่าเรื่อง
ทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องบังเอิญ

"คุณรู้จักฉันด้วยงั้นหรือคะ?"
"........"

ไม่รู้ทำไมคำถามธรรมดาถึงทำให้รู้สึกโหวงใจ
อย่างน่าประหลาด ผู้อำนวยการครุ่นคิดอยู่สักพัก
จากนั้นจึงพยักหน้าเชื่องช้าเป็นการตอบรับ

"งั้นคุณก็คงรู้ในสิ่งที่ฉันไม่รู้ใช่มั้ย!!"

เสียงใสดังขึ้นด้วยความปิติยินดี นอกจากเรื่องที่
ความทรงจำหายไปส่วนหนึ่งแล้วก็ไม่มีใครยอม
ปริปากบอกอะไร เธอรู้เพียงว่าความทรงจำขาด
หาย แต่ไม่รู้ว่าสิ่งที่ขาดหายไปคืออะไร

"น่าเสียดายนะครับ แต่ผมไม่ได้รู้มากขนาดนั้นหรอก"
"ง งั้นเหรอคะ.. น่าเสียดายนะคะ"

เรเน่คอตกหงอยเหงาราวลูกสุนัขที่ถูกทิ้งไว้เพียงลำพัง
ความหวังที่มีพังทลาย การสนทนาถูกเว้นว่างช่วงหนึ่ง
จากนั้นการซักถามจึงเริ่มต้นอีกคราวอย่างไม่ยอมแพ้

"คุณชื่ออะไรหรือคะ?"

แม้รอยยิ้มจะประดับอยู่บนใบหน้า แต่ใจของชายหนุ่ม
ช่างบอบช้ำราวโดนเข็มตอกเล่มแล้วเล่มเล่า ตอนแรก
ที่พบกันเรเน่ก็ใช้เขาเป็นตัวแทนของคนอื่น พอมาตอนนี้
กลับกระทำซ้ำร้ายด้วยการลืมตัวตนของเขาไปจากใจ
ริมฝีปากเรียวเม้มแน่นเก็บอารมณ์แสนอัดอั้น

"นรินทร์"

น้ำตาไหลออกจากหัวตาโดยที่คนฟังไม่ได้ตั้งใจ

"เอ๊ะ?"

นิ้วเล็กแตะสายน้ำตาบนใบดวงแก้ม คิ้วขมวดเข้าหา
กันด้วยความสับสน ทำไมอยู่ๆน้ำตาถึงไหลออกมาล่ะ?
หญิงสาวรีบปาดเช็ดน้ำตาให้หายไป แต่ความรู้สึก
ภายในดวงใจนั้นไม่สามารถปาดเช็ดมันออกไปได้
เธอรู้สึกแปลกๆ ดวงใจว่างเปล่าเสียจนเปลี่ยวเหงา
เหมือนอะไรบางอย่างขาดหายไป เรเน่มองหน้า
ชายหนุ่มผู้มีนามว่านรินทร์ หากไม่ว่าจะมองเท่าไหร่
ก็ไม่ได้คำตอบอะไรขึ้นมา เธอไม่รู้จักเขา

"ชื่อเพราะจังเลยนะคะ.. เหมือนภาษาไทยเลย"
"นรินทร์เป็นชื่อภาษาไทยครับ ผมเกิดที่เมืองไทย"
"ถ้าอย่างนั้นคุณก็ต้องพูดภาษาไทยได้น่ะสิคะ!!"

ผู้อำนวยการคลี่ยิ้มให้น้ำเสียงที่เหมือนจะร่าเริงขึ้นบ้าง

"ก็ต้องได้สิครับ"

เขาเอ่ยตอบเป็นภาษาไทยสำเนียงไทยแท้ชัดเจน

"สุดยอดเลย ฉันก็พูดได้เมือนกานนะ!!"

เรเน่รีบอวดด้วยการโต้ตอบเป็นภาษาไทยบ้าง แม้สำเนียง
จะไม่ได้ชัดเจนอะไรแต่ก็ฟังออกแปลได้โดยง่าย

"ถ้าจะพูดแบบนี้คุณพูดภาษาอังกฤษเถอะ อย่าลำบากเลย"

นรินทร์หลุดหัวเราะอย่างช่วยไม่ได้ แถมยังหลุดพูดจา
กล่าวล้อออกไปทั้งที่ปกติไม่ค่อยได้พูด

"โถ่~"

เสียงหัวเราะดังขึ้นภายในห้องผู้ป่วยส่วนตัวที่มีเตียงสองเตียง
วางอยู่ข้างกัน หนุ่มสาวพากันหัวเราะทั้งๆที่สถานการ์แท้จริง
แล้วค่อนข้างตึงเครียด แต่ตอนนี้สำหรับนรินทร์แล้ว ขอเพียง
แค่เธอยังตื่นขึ้นมาในทุกๆเช้า นั่นก็เพียงพอแล้ว..





TBC ๐ ๐ ๐

Signature ------------------------------------------------>
Whirl The Series  - Page 3 Ckbaw
Nearmoki-2b
Nearmoki-2b
เทียบเท่ามัธยมศึกษาปีที่ 1
INFO.Narin
อดีตผู้อำนวยการโรงเรียน

Star Piece0
CHIPS+65 M 413 K 676
Credit
Whirl The Series  - Page 3 Exp111100 / 100100 / 100Whirl The Series  - Page 3 Exp211

Whirl The Series  - Page 3 Empty Re: Whirl The Series

Sat 06 Feb 2016, 02:40
EP.27

เสียงที่ได้ยินคือเสียงหัวเราะคิกคัก ชายหนุ่มเปิดประตูเข้ามายัง
ห้องพักผู้ป่วย ภาพที่เห็นคือหนุ่มสาวสองคนกำลังพูดคุยออกอรรถรส
สายตาจับจ้องอยู่ที่หญิงสาวความจำเสื่อมที่ดูหน้าตาสุขสบายใจ
สุขสบายใจเสียจนน่าหงุดหงิด...

"อ๊ะ ราย!! อรุณสวัสดิ์ค่ะ นี่สายขนาดนี้แล้วเหรอเนี่ย"

เรเน่หันมองนาฬิกาเรือนกลมที่ตั้งติดพนังสะอาด เข็มนาฬิกาขี้เลข
ยามสาย ในช่วงหน้าหนาวในพื้นที่เขตตอนเหนือเช่นนี้ มันเป็นเรื่อง
ปกติที่พระอาทิตย์มักอู้งานในฤดูกาลหนาวเหน็บ ท้องฟ้าตอนนี้ยัง
ไม่สว่างดีนัก มีเพียงแสงสว่างเจือจางให้พอรู้ว่าเป็นยามกลางวัน

"เป็นยังไงบ้าง?"

ร่างสูงสาวเท้าเข้าห้อง สายตาชำเลืองมองอีกหนึ่งผู้ร่วมห้อง
ระหว่างเดินผ่านเตียง รอยยิ้มบนสีหน้าผู้อำนวยการจางหายไป
เหลือเพียงใบหน้าสงบนิ่ง เขาพยักหน้าทักทายเสียงที่เดินผ่าน
พอเป็นพิธี รายเดินผ่านเตียงนรินทร์มายังอีกเตียงหนึ่งที่ตั้งอยู่
ริมฝั่งหน้าต่าง

"เน่จำได้ทุกอย่างเลยค่า!!~"

หญิงสาวยกมือตะเบะท่าทีอารมณ์ดี สิ่งที่ได้กลับคือคือสายตา
เอือมระอา จำได้เฉพาะเรื่องเก่าๆสิไม่ว่า ตอนนี้สมองของเรเน่
เหมือนคอมพิวเตอร์ยุคเก่าที่ขาดการอัพเดท บอดิการ์ดมอง
สำรวจร่างกายคนเป็นนายตั้งแต่หัวจรดเท้า เจ้าของร่างกาย
รู้ว่ากำลังถูกมอง หากไม่ได้รู้สึกว่ากำลังถูกละลาบละล้วง
เธอยิ้มให้เมื่อสายตาอีกฝ่ายเลื่อนมาสบดวงตากันและกัน

"ราย เน่เบื่อแล้วง่ะ เน่ไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อยทำไมต้อง
มานอนโรงพยาบาลด้วย"

สำหรับหญิงสาวผู้ที่ได้อยู่แต่ในโรงพยาบาลนั้น แม้หมอ
จะยืนยันว่าความทรงจำบางส่วนของเธอขาดหายไป
แต่ภายในโลกแคบๆและห้องสีขาวแห่งนี้ ทุกอย่างยัง
เป็นแบบเดิม

"งั้นไปเดินเล่นมั้ย?"
"ไปค่า~"

คนตัวเล็กรีบกระโดดลงจากเตียงและวิ่งไปบริเวณหน้าห้อง
เธอก้มลงใส่สลิปเปอร์สีขาวไซด์ใหญ่เกินพอดี จากนั้นจึง
หันกลับมองชายหนุ่มด้วยดวงตาเป็นประกาย ราวกับสุนัข
แสนร่าเริง เรเน่ในตอนนี้คือคนที่ไม่จำเป็นต้องแบกรับหน้าที่
ไม่ใช่คนที่คอยช่วยเหลือผู้อื่นอยู่เบื้องหลัง ไม่ใช่คนที่เสียสติ
เพราะสูญเสียคนรัก แต่เป็นเพียงหญิงสาวธรรมดาที่มีความสุข
กับชีวิตประจำวัน เมื่อคนร่าเริงหุนหันเดินออกจากห้องไป
บอดิการ์ดจึงทำท่าจะเดินตามไปด้วย เขาเดินไปหยุดอยู่ที่
หลังประตูห้อง ก่อนจะชำเลืองสายตามองอีกร่างที่อยู่บนเตียง

"ทั้งๆที่ทำร้ายจิตใจไปเสียขนาดนั้น แล้วนายยังมีหน้ามา
คุยหัวเราะกับเรเน่อีกเหรอ?"

นรินทร์หันหน้าไปทางต้นเสียง ใบหน้าของเขาเรียบเฉย
ไม่ได้ฉายแววโกรธเคืองหรือโศกเศร้ามากไปกว่ากัน

"สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือการทำให้เธอความทรงจำ
กลับคืนมา โรงเรียนกำลังอยู่ในอันตราย มีแต่เธอเท่านั้น
ที่จะแก้ปัญหานี้ได้ ผมไม่สนว่าคุณเรเน่จะคิดหรือรู้สึก
อย่างไรต่อผม และผมจะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องโรงเรียน
เรื่องนี้จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง"

รายกำมือระงับอารมณ์โกรธเกรี้ยวไว้ในใจ ก่อนจะกระแทก
ประตูปิดเสียงดังสนั่น ภายในห้องถูกปล่อยให้เหลือเพียง
ชายหนุ่มผู้อำนวยการที่นั่งสีหน้าเคร่งเครียดอยู่เพียงลำพัง

.
.
.

"รายๆ คิดเหมือนเน่มั้ยว่าคนที่อยู่ในห้องนั่นเหมือนบรัชสุดๆ
ไปเลย อย่างกับฝาแฝดแหนะ!!"

เรเน่บอกเล่าดวงตาลุกวาว เธอเดินชมดอกไม้ภายในสวนสีเขียว
ของโรงพยาบาลด้วยใบหน้าติดรอยยิ้มอ่อนหวาน แม้ดอกไม้
บางส่วนจะตายไปเพราะความหนาวของฤดูกาล แต่สวนใหญ่
แห่งนี้ก็ยังคงให้บรรยากาศสดชื่นกว่าในห้องพักผู้ป่วยเป็นไหนๆ
บอดิการ์ดหนุ่มเหยียดยิ้มมุมปากให้อย่างไม่มีอารมณ์ร่วม
แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ถอดเสื้อโค้ทตัวนอกออกคลุมไหล่เล็ก
อย่างสุภาพบุรุษที่ดี เรเน่ยิ้มรับขอบคุณด้วยท่าทีเรียบเฉย
เหมือนไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร

"ว่าแล้วเน่อยากโทรไปหาบรัชจังเลย บรัชจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง"
"ฉันโทรบอกให้แล้ว"
"แต่เน่อยากคุยเองด้วยนี่นา"
"เธอไม่เชื่อใจฉันเหรอ?"

เสียงทุ้มเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ หญิงสาวรีบหันมอง
เพื่อนของเธอ

"ไม่ใช่นะคะ!! เน่เชื่อที่รายพูดทุกอย่างนั่นแหละ จริงๆนะ!!"

คนตัวเล็กกว่าเงยหน้ามองด้วยสีหน้าไม่สบายใจ เธอแสดง
ออกความรู้สึกอย่างเถรตรงจริงใจ ชายหนุ่มพ่นลมหายใจหนัก
ทีหนึ่ง

"ฉันจัดการเรื่องทุกอย่างให้หมดแล้ว เธอควรจะพักผ่อนให้เต็มที่"
"ค่ะ..."

เสียงใสหงอยไปทันตา การสนทนาถูกเว้นว่างไปช่วงหนึ่ง
หากหญิงสาวผู้อดทนอยู่ในบรรยากาศอึดอัดไม่ไหวก็ทำลาย
ความเงียบลงด้วยการเริ่มประโยคสนทนาเรื่องใหม่

"คุณนรินทร์เค้าพูดภาษาไทยได้ด้วยนะคะ บังเอิญมากเลย"
"เธอไม่ควรคุยกับคนแปลกหน้ามั่วซั่ว"
"เอ๋~ แต่คุณนรินทร์เขาบอกว่าเขารู้จักกับเน่นะคะ"
"ใครก็อยากเป็นคนรู้จักของว่าที่ผู้นำตระกูลกิลเล็ตกันทั้งนั้น"
"แต่เน่ว่าคุณนรินทร์ไม่ใช่คนแบบนั้นหรอกค่ะ เขาคุยสนุกนะ"

บอดิการ์หนุ่มหรี่ตามองคนเป็นนายด้วยสายตาไม่สบอารมณ์
เขาก้าวขาเดินนำหน้าเธอไป หญิงสาวได้แต่มองแผ่นหลังกว้าง
ด้วยสายตางุนงง แต่ก็เดินตามหลังไปแต่โดยดี

"รายได้สังเกตุมั้ยว่าคุณนรินทร์เขามองไม่เห็น? แต่เน่เห็น
ตอนที่เขาทานข้าว เขาทานเองได้อย่างแม่นยำ มันสุดยอดมาก
แล้วก็นะคะ... ตอนนั้นที่คุณนรินทร์..."


"เลิกพูดถึงคนอื่นสักทีได้มั้ย!!"


เสียงตะคอกทำเอาร่างบางสะดุ้งโหยง เธอผงะถอยหลังเล็กน้อย
สีหน้าสดใสผลันเปลี่ยนจืดซีด เธอเพียงหวังหาเรื่องพูดคุยเพราะ
เห็นว่าเพื่อนของเธอกำลังอารมณ์ไม่ค่อยดี แต่ผลที่ได้กลับตรงข้าม
หญิงสาวเม้มปากไม่พูดอะไรอีก ดวงตาสีมะนาวล่อกแลกมองซ้ายขวา
ทันทีที่เห็นท่าทีหวาดกลัวชายหนุ่มก็สำนึกได้ว่าตนทำรุนแรงกว่าเหตุ

"ฉัน.. ขอโทษ..."

รายค่อยๆก้าวขาเข้าหาร่างบาง พลางมองใบหน้าหม่นหมองและ
คาดโทษโกรธตนอยู่ในใจ ทั้งหมดที่คิดคือความปรารถนาดีอยาก
ช่วยเหลือ ทั้งๆที่เป็นตัวเขาเองที่เสนอกับทุกคนให้ปิดบังเรื่องการ
เสียชีวิตของ บอร์น รอยด์ เพราะไม่ต้องการให้เรเน่เสียใจไปกว่านี้
แต่ในตอนนี้กลับเป็นตัวเขาเองที่ทำร้ายเธอ ชายหนุ่มยกมือขึ้นลูบ
ศีรษะและเรือนผมสีครีมอย่างทะนุถนอม

"อดทนหน่อยนะ เดี๋ยวก็ได้กลับไทยแล้ว"

หญิงสาวพยักหน้าให้ช้าๆทั้งที่สีหน้ายังคงไม่สู้ดีนัก เธอจะอดทน
เพื่อที่จะได้กลับไปหาเหล่าบุคคลอันเป็นที่รัก โดยไม่ได้เฉลียวใจ
เลยว่ากาลเวลาที่ล่วงเลยผ่านได้พลัดพรากทุกอย่างไปจากเธอแล้ว..





TBC ๐ ๐ ๐

Signature ------------------------------------------------>
Whirl The Series  - Page 3 Ckbaw
Nearmoki-2b
Nearmoki-2b
เทียบเท่ามัธยมศึกษาปีที่ 1
INFO.Narin
อดีตผู้อำนวยการโรงเรียน

Star Piece0
CHIPS+65 M 413 K 676
Credit
Whirl The Series  - Page 3 Exp111100 / 100100 / 100Whirl The Series  - Page 3 Exp211

Whirl The Series  - Page 3 Empty Re: Whirl The Series

Fri 26 Feb 2016, 20:19
EP.28

เวลาผ่านไปกว่าสองอาทิตย์ที่ผู้อำนวยการนรินทร์และเรเน่
ใช้ชีวิตอยู่บนเตียงผู้ป่วยโดยแทบไม่ได้ออกไปไหน

"ฉันละเกลียดการนอนอยู่บนเตียงเฉยๆเหลือเกิน"
"ผมด้วยคน"

ข้อดีเพียงอย่างเดียวที่ได้จากเวลาที่สูญเปล่าคือระดับ
ความสัมพันธ์ที่เปลี่ยนจากคนไม่รู้จักกลายเป็นคนที่
สามารถคุยกันได้อย่างสบายใจ พวกเขายืนยืดเส้น
ยืดสายอยู่ที่สนามบินประจำเมืองที่อาศัยอยู่ ถึงแม้
จะไม่ได้ใหญ่โตขนาดสนามบินหลักของประเทศ
แต่สำหรับคนที่แทบไม่ได้เห็นอะไรนอกจากกำแพง
สีขาว นี่ก็ถือเป็นวิวทิวทัศน์ที่มีอะไรระดับหนึ่ง หญิง
สาวผมสั้นเกาะหน้าต่างใสมองดูเครื่องบินที่จอด
เรียงราย ส่วนชายหนุ่มที่แม้จะมองไม่เห็น แต่ก็ยืน
อยู่เป็นเพื่อน เบื้องหลังพวกเขาห่างออกไประยะหนึ่ง
มีชายหญิงอีกคู่ที่กำลังยืนคุยกันอยู่

"ฉันคิดว่าฉันควรจะกลับไปไทยด้วย"

เสียงนั้นดังมาจากชายผมชมพูที่ดูไม่ค่อยสบอารมณ์

"ถ้าคุณกลับไปด้วยแล้วใครจะดูแลบริษัทเวิร์ลละคะ?"

คำถามสวนกลับจากหญิงสาวเลขา รัตติกาล

"แต่เรเน่จะรู้สึกยังไงถ้าเธอต้องไปอยู่ในสภาพแวดล้อม
ที่ไม่รู้จักใครเลย?"

หญิงสาวตอบคำถามด้วยการชี้นิ้วไปทางเรเน่และนรินทร์
ที่กำลังยืนคุยกันอย่างออกอรรถรส รายมองตามด้วย
สายตาที่ไม่ยินดีนัก หญิงสาวปลายฝั่งเริ่มรู้ตัวว่ากำลัง
ถูกมองจึงเดินเข้ามาหาด้วยรอยยิ้มที่ประดับใบหน้า

"มีอะไรกันเหรอคะ?"
"คุณรายเขาเป็นห่วงที่จะปล่อยคุณกลับไทยคนเดียวน่ะค่ะ"
"เฮ้ย!!"

เรเน่มองไปทางบอดิการ์ดหนุ่มด้วยสีหน้าประหลาดใจเล็กน้อย
ชายหนุ่มหลบสายตาเพราะปกติแล้วเขาไม่ใช่คนแสดงออก
ความรู้สึกอย่างตรงไปตรงมานัก หญิงสาวยิ้มน้อยๆก่อนจับ
มือใหญ่ขึ้นกุมบีบไว้

"เดี๋ยวถึงแล้วจะโทรหานะคะ เน่ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ
ทันทีที่ได้พบบรัชทุกอย่างก็จะไม่เป็นไรแล้ว"

รอยยิ้มที่ได้นั้นกลับเป็นตัวทิ่มแทงลึกลงไปในใจผู้ฟังทุกคน
มีเพียงเธอคนเดียวที่ยังไม่รู้ว่าคนที่กำลังรอพบอยู่นั้นไม่มีตัวตน
อยู่อีกต่อไป รายบีบมือกลับเล็กน้อย

"เดี๋ยวพอถึงไทยแล้วเธอจะต้องไปรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล
อีกแห่งจนกว่าจะหายสนิท พอความทรงจำกลับมาครบแล้ว
รัตติกาลจะเป็นคนพาไปส่งเธอที่บริษัทควิ้นท์เอง..โอเคนะ?"
"ค่ะ!! ความทรงจำหายไปแบบนี้ก็แย่เหมือนกันนะคะ เน่คง
ช่วยทุกคนทำงานไม่ได้มาก ก็เลยต้องรักษาตัวให้ดีก่อนสินะคะ!!"
"อืม..."

เสียงคนอธิบายดังแผ่วลงเรื่อยๆจากความละอายใจในคำโป้ปด
สิ่งที่เอ่ยกล่าวล้วนไม่มีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นบริษัทควิ้นท์ หรือคนที่
เรเน่ต้องการพบมากที่สุด รัตติกาลที่เห็นสีหน้าไม่สู้ดีของราย
จึงตัดสินใจดันหลังเรเน่เบาๆเพื่อบอกให้เธอไปเตรียมตัวขึ้นเข้า
เกตสนามบิน หญิงสาวยิ้มรับก่อนจะวิ่งไปตามชายตาบอดคนรู้จัก
ให้เดินไปด้วยกัน เลขาสาวก้าวขาทำท่าจะเดินไปบ้างแต่ก็ชะงัก
หยุดในเพียงไม่กี่ก้าว เธอหันกลับหาหนุ่มบอดิการ์ดผู้ยืนเซื่องซึม
อยู่เพียงลำพัง

"อย่าห่วงไปเลยค่ะ แล้วดิฉันจะถ่ายคลิปคุณเรเน่ระหว่างที่เธอ
ยังคงน่ารักแบบนี้มาฝาก"

หญิงสาวยกนิ้วหัวแม่โป้งให้ขณะที่สีหน้ายังเรียบเฉยและดูเหมือน
คนง่วงนอน

"ไม่ได้ห่วงเรื่องนั้นสักหน่อย!!"
"หึหึ.."

รัตติกาลหัวเราะในลำคอเล็กน้อยด้วยด้วยความสนุกจากการหยอกล้อ
แต่ในใจแล้วทำไปเพื่อหวังจะให้สีหน้าหม่นหมองของอีกคนดูดีขึ้นบ้าง
เธอโบกมือลาโดยไม่หันมองก่อนจะค่อยๆเดินลับสายตาจากไป





"โหววววววว~ สุดยอดดดดดด!!!"

เวลาการเดินทางอันแสนน่าเบื่อผ่านพ้นไปหลายชั่วโมง เรเน่และ
นรินทร์ใช้เวลาบนเครื่องบินทั้งหมดไปกับการนอน ส่วนรัตติกาล
ที่ปกติแล้วมักเห็นนอนกลางวัน บัดนี้กลับใช้เวลาไปกับการอ่าน
หนังสือการแพทย์อันเต็มไปด้วยศัพย์เฉพาะมากเกินเข้าใจ ในฐานะ
จิตแพทย์ส่วนตัวของเรเน่ เธออยากจะให้คนไข้กลับมาเป็นปกติ
โดยไวที่สุดเพื่อที่จะแก้ไขสถานการณ์ที่ยังค้างคาอยู่ และเพื่อที่เธอ
จะได้ไม่ต้องคอยโกหกซ้ำซ้อนมากไปกว่านี้

พวกเขาเดินทางมาถึงภายในอาณาเขตโรงเรียนเพื่อผู้พิการใน
นามของควิ้นท์ และเป็นเรื่องโชคดีที่ภายในโรงเรียนแห่งนี้ไม่มี
เขียนบอกชื่อเสียงเรียงนามเจ้าของในที่ใดๆเลย ยกเว้นที่ป้ายทางเข้า
โรงเรียนที่สลักไว้ด้วยตัวอักษร Angsana New ฟ้อนต์ 26
ในชื่อ เรเน่ กิลเล็ต ที่ขนาดใหญ่กว่ามดเพียงแค่เล็กน้อย

"ไม่อยากเชื่อจริงๆว่าที่นี่จะเป็นโรงเรียน"

ดวงตาสีมะนาวเปล่งประกายราวกับเด็กที่ได้พบกับสวนสนุกในฝัน
เธอเกาะหน้าต่างรถมองวิวทิวทัศน์ร่มรื่นและตึกสูงที่ถูกออกแบบ
มาอย่างปราณีต หลากหลายความรู้สึกถาโถมเข้ามาในตัวหญิงสาว
เธอทั้งรู้สึกตื่นเต้น ดีใจ และตื้นตันใจอย่างประหลาด

"คุณนรินทร์อาศัยอยู่ที่นี่จริงๆเหรอคะ นี่มันสุดยอดมากเลยนะ!!"

ผู้อำนวยการหัวเราะแห้งๆ มันช่างเป็นสถานการณ์ที่ให้ความรู้สึก
แปลกประหลาดและรับมือยากเสียเหลือเกิน เมื่อเจ้านายของเขา
ชื่นชมชีวิตและความเป็นอยู่ของเขาทั้งๆที่ตัวเองเป็นคนที่ทำให้เขา
มายืนอยู่ตรงนี้ได้ นรินทร์และรัตติกาลตัดสินใจร่วมกันเรื่องที่จะ
ปิดบังเรื่องที่เรเน่คือเจ้าของของโรงเรียนเพื่อผู้พิการในนามของควิ้นท์
ไม่เช่นนั้นเรเน่อาจจะระคายใจถึงการคงอยู่ของบริษัทควิ้นท์ก็เป็นได้

"ผมขอโทษนะครับที่ต้องให้คุณมาอยู่ที่นี่ก่อน เพราะโรงเรียนของ
เราเป็นโรงเรียนเพื่อผู้พิการ จึงมีโรงพยาบาลอยู่ภายในโรงเรียนด้วย
ผมคิดว่าคุณรัตติกาลน่าจะช่วยเหลือและใส่ใจคุณได้ดีกว่าหมอ
ภายในโรงพยาบาลทั่วไป ในระหว่างนี้เธอจะดูแลคุณเพียงคนเดียว"
"เกรงใจจังเลยค่ะ ไม่เห็นต้องทำขนาดนี้เลย"
'รัตติกาลก็เป็นจิตแพทย์ส่วนตัวของคุณอยู่แต่ต้นแล้วง่ะ..'

ชายหนุ่มปาดเหงื่อที่ผุดอยู่ตามขมับ เขาโกหกไม่เก่งเอาเสียเลย
และมั่นใจเหลือเกินว่าถ้าจะเสียเรื่องหรือความแตกขึ้นมาละก็
มันจะต้องเป็นความผิดของเขาอย่างแน่นอน ชายผู้ไม่มั่นใจในตัวเอง
กลืนน้ำลายพลางพยายามให้กำลังใจตัวเองอยู่ในใจ

รถขับมาจอดยังที่จอดรถส่วนของพนักงาน รัตติกาลที่เป็นคนขับรถ
เดินลงมาเปิดประตูให้ผู้อำนวยการและแขกผู้มาเยือน ชายหนุ่ม
ใช้ไม้เท้าแตะกระทบฟื้นปูนก่อนจะค่อยๆยันตัวออกจากรถสีดำสนิท
อีกด้านนึงคือหญิงสาวที่ยังคงสนอกสนใจอยู่กับสถานที่แปลกใหม่
เรเน่เดินตามหลังไปโดยที่ดวงตายังมองสำรวจรอบกายอย่างใคร่รู้
ระหว่างทางเหล่าบุคลากรและพนักงานต่างพากันยกมือไหว้
บ้างก็หยุดเดินและโค้งศีรษะทำความเคารพอย่างมีมารยาท
เรเน่มองผู้คนรอบกายสลับกับหนุ่มสาวที่เดินอยู่เบื้องหน้า

"ทุกคนหยุดทักทายกันหมดเลย.. พวกคุณเป็นคนสำคัญของที่นี่
เหรอคะ?"
'พวกเขาทักทายคุณนั่นแหละ!!'

นรินทร์คันปากอยากพูดแต่ก็ได้ต้องเก็บไว้ในใจ เป็นซะอย่างนี้
แล้วเขาจะเก็บความลับเอาไว้ได้นานไหมนะ ชายหนุ่มหันไปยิ้มให้
หากไม่ได้เอ่ยวาจาใดๆ เขารอให้แขกผู้มาเยือนได้รับรู้ด้วยตนเอง
รัตติกาลเดินนำขึ้นลิฟไปยังชั้นสามอันเป็นชั้นสูงสุดของอาคารเรียน
เธอตรงไปหยุดอยู่ที่หน้าประตูห้องที่เขียนกำกับเอาไว้ว่า
'ห้องผู้อำนวยการโรงเรียน' จากนั้นจึงกดรหัสเข้าห้องอย่างคล่องแคล่ว
เสียงประตูปลดล็อคดังขึ้นทันทีที่กดรหัสเรียบร้อย คนกดรหัสเปิดประตู
และผายมือเชื้อเชิญให้อีกสองคนเข้าไปในห้อง เรเน่ค่อยๆเดินตามไป
เป็นคนสุดท้ายอย่างกล้าๆกลัวๆ

"เราต้องมาทำเรื่องและทักทายผู้อำนวยการกันก่อนหรือคะ?"
"ครับ"

หญิงสาวแปลกถิ่นกวาดสายตาไปรอบห้องด้วยดวงใจที่ตื่นตระหนก
เล็กน้อย ห้องผู้อำนวยการถูกจัดแต่งตีมสีทึบ ฟอนิเจอร์ต่างๆล้วน
คุมโทนสีมืดทึบ ช่างแตกต่างจากห้องนอนสีขาวที่บริษัทของเธอ
เหลือเกิน ร่างบางยืนห่อไหล่โดยไม่รู้ตัว ชายหนุ่มปล่อยให้เธอ
ซึมซับบรรยากาศหวังว่าอาจจะทำให้ความทรงจำฟื้นขึ้นบ้าง

"แล้วท่านผู้อำนวยการอยู่ไหนเหรอคะ.. ที่นี่ไม่เห็นมีใครอยู่เลย?"

ความหวังที่มีล่มสลายด้วยคำถามที่บอกชัดเจนว่าไม่มีอะไรดีขึ้น
เมื่อได้ยินเช่นนั้นเขาจึงยื่นมือไปในทางที่คิดว่าผู้มาเยือนยืนอยู่
ชายหนุ่มสูดหายใจเข้าเฮือกหนึ่งก่อนเอ่ยปาก

"ขออนุญาตแนะนำตัวอีกรอบนะครับ"

เรเน่ยื่นมือจับทักทายตามธรรมเนียมตะวันตก แม้สีหน้ายังงงงวย

"ผมนรินทร์ เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งนี้ ยินดีที่ได้รู้จักครับ"
"เอ๋!!!!!!!!"





TBC ๐ ๐ ๐

Signature ------------------------------------------------>
Whirl The Series  - Page 3 Ckbaw
avatar
ผู้มาเยือน
ผู้มาเยือน

Whirl The Series  - Page 3 Empty Re: Whirl The Series

Fri 26 Feb 2016, 20:24
มาต่อแล้วสินะครับ
เย้ๆ

Whirl The Series  - Page 3 2848346881
avatar
ผู้มาเยือน
ผู้มาเยือน

Whirl The Series  - Page 3 Empty Re: Whirl The Series

Sat 27 Feb 2016, 10:59
เย้ๆ
Nearmoki-2b
Nearmoki-2b
เทียบเท่ามัธยมศึกษาปีที่ 1
INFO.Narin
อดีตผู้อำนวยการโรงเรียน

Star Piece0
CHIPS+65 M 413 K 676
Credit
Whirl The Series  - Page 3 Exp111100 / 100100 / 100Whirl The Series  - Page 3 Exp211

Whirl The Series  - Page 3 Empty Re: Whirl The Series

Sat 27 Feb 2016, 22:17
EP.29

"เอ๋!!!!!!!"
"ส่วนทางนั้นคือเลขาของผมเอง คุณรัตติกาล"
"เอ๋!!!!!!!"

หญิงสาวที่มักจะรักษามาดปัจจุบันงุนงงเป็นไก่ตาแตก
เธอหันหาหญิงสาวหน้าง่วงที่เคยได้ยินกิตติศักดิ์ว่าเป็น
จิตแพทย์ หรือว่าจิตแพทย์ที่ว่าจะเป็นเพียงงานพิเศษ(?)
รัตติกาลอดไม่ได้ที่จะแอบขำสีหน้าที่ไม่ค่อยได้เห็นนัก

"เพราะฉะนั้นคุณไม่ต้องเกรงใจไปหรอกนะครับ
ผมอยากจะตอบแทนที่คุณอยู่คุยเป็นเพื่อนผมตั้งสองอาทิตย์"

นรินทร์คลี่ยิ้มบางหวังบอกให้อีกฝ่ายผ่อนคลาย

"ฉันอยู่ที่นี่ได้จนกว่าจะหายดีจริงๆน่ะเหรอคะ.."
"ครับ แน่นอนอยู่แล้ว"

เรเน่หันมองหญิงสาวเลขา ซึ่งเธอก็พยักหน้ายินดี

"แล้วเรื่องที่พักละคะ?"
"ถ้าคุณไม่รังเกียจละก็ จะนอนกับผม..."
"ไม่ได้ค่ะ!!"

เลขาสาวค้านทันควัน รัตติกาลสาวเท้าเร็วไวไปยังคนร่างสูง
เธอเขย่งขากระซิบแผ่วเบา

"ไม่ได้นะคะ ไหนบอกว่าไม่อยากทำงานไงล่ะ!!
นี่เป็นเวลาดีแล้วนะคะที่เราจะจบเรื่องทั้งหมดนี่"
"ผมไม่ได้จะทำงานสักหน่อย เพียงแต่ว่า...."
"ไม่ได้ค่ะ"
"แต่ว่า!!..."
"ไม่มีแต่ค่ะ"

หญิงสาวผมดำเดินมาจับข้อมือผู้มาเยือนและเดินตรงไป
ทางประตูห้อง

"ดิฉันจะดำเนินเรื่องที่พักให้คุณเรเน่ในหอพักนักเรียน
แล้วก็จะพาเธอไปหาคนที่อาจจะช่วยเธอได้ ขอตัวก่อนนะคะ"

เรเน่มองคนพูดสลับกับเจ้าของห้องด้วยสีหน้าตามไม่ทัน
หากยังไม่ทันได้เอ่ยปากถามก็โดนลากออกนอกห้องไปเสียก่อน
เลขาสาวดำเนินเรื่องพร้อมทั้งพาเรเน่ขึ้นไปดูที่พักชั่วคราวของเธอ
จากนั้นจึงมุ่งหน้าต่อไปที่ห้องพยาบาลประจำโรงเรียน ระหว่างทาง
เรเน่จดจ้องเหล่านักเรียนในชุดเครื่องแบบสีม่วงด้วยแววตาสนใจ
เธอสนใจในโรงเรียนแห่งนี้เป็นอย่างมาก และลึกๆแล้วก็ดีใจอยู่
ไม่น้อยที่ได้รับอนุญาตให้อยู่ที่นี่นานขึ้นอีกหน่อย

ทันทีที่ทั้งสองก้าวขาเข้ามาในห้องพยาบาลที่ขนาดใหญ่มากเมื่อ
เทียบกับห้องพยาบาลภายในโรงเรียนทั่วไป หมอทุกคนที่พวกเขา
เดินผ่านก็ต่างพากันทิ้งงานทิ้งเอกสารและหันมายกมือไหว้
บางคนที่อายุมากกว่าก็ใช้การก้มศีรษะเล็กน้อยเป็นการเคารพ
นี่เลขาผู้อำนวยการมีอิทธิพลภายในโรงเรียนมากขนาดนี้เชียวหรือ?
เรเน่ได้แต่คิดในใจอย่างไม่รู้ความ

เสียงรองเท้าส้นสูงหยุดอยู่ที่หน้าประตูห้องส่วนตัวที่ถูกปิดอยู่
รัตติกาลเหล่มองหญิงสาวผู้แสดงสีหน้าสงสัยอย่างไร้เดียงสา

"ที่นี่ที่ไหนเหรอคะ?"
"ห้องของคนที่ดิฉันคิดว่าเธออาจจะสามารถช่วยคุณได้..
แน่ใจนะคะว่าจะเข้าไป?"
"คะ?"

เลขามองอย่างพิจารณา ตราบใดที่เรเน่ยังสติดีพร้อมเธอจะ
ไม่มีวันยอมพบคนๆนี้อย่างเด็ดขาด แต่ว่าเรเน่ในตอนนี้กลับ
ตอบรับอย่างว่าง่าย บ่งบอกถึงความทรงจำที่ขาดหายไป
อย่างแท้จริง หญิงสาวผู้นำทางสูดหายใจเข้าทีหนึ่งก่อนเคาะ
ประตู รออยู่ไม่นานเจ้าของห้องก็ออกมาเปิดประตูต้อนรับ
หากทันใดนั้นเองที่เหมือนเวลาถูกหยุดลง เจ้าของห้องที่
มักยิ้มแย้มบัดนี้ไร้ซึ่งรอยยิ้มบนใบหน้า ดวงตาสีนภาจดจ้อง
ภาพเบื้องหน้าราวกับไม่เชื่อสายตา แม้แต่รัตติกาลที่เป็นคน
ใกล้ชิดก็ยังไม่เคยเห็นสีหน้าเช่นนี้ของเจ้าของห้องมาก่อน

"บอส...เน่...?"
"อ๊ะ บันนี่นี่นา!! มาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกันคะ!!"

เรเน่ยิ้มกว้าง เธอโผเข้ากอดร่างบางในชุดเสื้อกาวน์หมอ
ร่างที่ถูกกอดนั้นนั่งสนิท ราวกับเป็นเพียงรูปปั้นเทพี
รัตติกาลเดินตามเข้าห้องก่อนปิดประตูตามหลังเบามือ
ดวงตาสีราตรีจ้องมองเพื่อนร่วมงานด้วยความเป็นห่วง

"ลิน.. ไหวมั้ย?"

เลขาสาวเอ่ยระหว่างแตะมือบนไหล่เพื่อนแผ่วเบา
เรเน่ขมวดคิ้วไม่เข้าใจ เธอไม่เคยได้ยินชื่อนั้นมาก่อน

"ลิน?..."
"เกลินน่ะค่ะ... ชื่อของฉันเอง"
"เอ๊ะ!?!"

หญิงสาวชาวสวิตเด้งตัวออกจากอ้อมกอดแทบจะทันที
หน้าเธอถอดสีไปถนัดตา

"อย่าบอกนะว่าคุณเกลินนั้นบังเอิญหน้าตาเหมือนบันนี่
เหมือนที่คุณนรินทร์บังเอิญหน้าเหมือนบรัชไม่มีผิด
โลกปัจจุบันจะมีฝาแฝดเยอะเกินไปแล้ว!!"

เลขาสาวกุมขมับ ถึงเรเน่ในตอนนี้จะไม่มีเล่ห์เหลี่ยม
คมคายจนจับทางได้ยากเหมือนตอนก่อนที่จะความ
ทรงจำเสื่อม แต่ความไร้เดียงสาเธอก็ทำเอาปวดหัว
อยู่ไม่น้อยเหมือนกัน

"ม ไม่ใช่ค่ะ ฉันคือ 'บันนี่ บลู' ที่บอสรู้จักนั่นแหละค่ะ
แต่นั่นเป็นเพียงนามแฝง ชื่อจริงๆของฉันคือ 'เกลิน คริสตัน'"

เรเน่พยักหน้าเข้าใจ เวลาเดียวกับที่สังเกตเห็นน้ำตาที่
เอ่อคลอดวงตาสีนภา เธอจึงเข้าไปเช็ดน้ำตาให้ด้วยความอาธร
ครั้งนี้หมอสาวเป็นคนรวบกอดคนตัวเล็กกว่าเอาไว้แทน

"บอสเน่หายไปไหนมาคะ!! ในช่วงเวลาที่ผ่านมา!!"
"น เน่ไม่ได้ไปไหนนะคะ? จริงอยู่ที่ก่อนหน้านี้เน่รักษาตัว
อยู่ที่โรงพยาบาลที่สวิต แต่นอกนั้นเน่ก็อยู่บริษัทตลอดนะ
บันนี่.. เอ้ย เกลินต่างหากมาทำอะไรที่นี่?"
"บริษัทอะไรคะ?"
"บริษัทควิ้นท์ของเราไง"
"แต่บริษัทควิ้นท์..."
"ลิน!!"

เสียงเรียกแทรกขึ้นทำให้เจ้าของชื่องะชักหันมองผู้เรียก

"อาจจะกะทันหันไปหน่อย แต่รัตต้องการกำลังของลิน
ตอนนี้คุณเรเน่สูญเสียความทรงจำทั้งหมดเกี่ยวกับปัจจุบัน
เธอมีความทรงจำถึงแค่ประมาณก่อน 'วันนั้น' "

จิตแพทย์สาวใช้นิ้วชี้ปาดผ่านลำคอเชื่องช้าเป็นการอธิบาย
่ว่า 'วันนั้น' หมายถึงวันสุดท้ายที่ บอร์น รอยด์ มีชีวิตอยู่
เพราะอยู่กันมานานจึงทำให้เกลินเข้าใจรัตติกาลโดยง่าย
แต่ถึงเช่นนั้นใบหน้าสวยก็แสดงท่าทีสับสนเหมือนไม่ต้อง
การที่จะเข้าใจ

"บอสคะ ไม่จริงใช่มั้ยคะ!! มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
แล้วบอสหายไปไหนมาตั้งหลายปี!?!"

เสียงสับสนเอ่ยถามโดยที่มือยังคงโอบกอดร่างบางเอาไว้แน่น
ราวกับกลัวว่าร่างนั้นจะหายไปไหน เธอปล่อยให้น้ำตาไหลริน
โดยไม่คิดปิดบัง เกลินเคยทำงานเป็นแพทย์ประจำบริษัทควิ้นท์
จนถึงวันที่ บอร์น รอยด์ เสียชีวิต จากนั้นเรเน่ก็หายตัวไปอย่าง
ไร้ร่องรอยโดยที่ไม่มีพนักงานคนไหนได้ข่าวคราวของเธออีก

"ลิน.. รัตขอโทษนะ เรื่องมันคงจะหนักไปสำหรับลินใช่มั้ย"

เกลินส่ายหน้า เธอปล่อยให้เพื่อนเห็นสายน้ำตาด้วยความเต็มใจ
มันเป็นน้ำตาที่มีทั้งความดีใจ เสียใจ น้อยเนื้อต่ำใจ ผสมปนเปกันไป
หมอสาวพยายามคลี่ยิ้มให้คนเป็นห่วงเท่าที่พอจะทำได้

"ไม่เลย.. ลินรอวันนี้มานานมาก ลินเชื่อว่าบอสเน่จะต้องกลับมาที่นี่
แต่ลินรอมานานมาก.. นานหลายปี.."
"ทำไมล่ะ? ก็ก่อนไปโผล่ที่สวิตเน่ยังนั่งทานข้าวเย็นกับบัน.. เอ้ย เกลิน
อยู่เลยนะคะ ถ้ารอเน่อยู่แล้วทำไมถึงไม่กลับไปที่บริษัทล่ะ?"

เกลินกระพริบตาไม่เข้าใจ เธออยู่ที่โรงเรียนนี้มาไม่ต่ำกว่าหกปีแล้ว
และจำครั้งสุดท้ายที่ทานข้าวกับเจ้านายเก่าคนนี้ไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
หมอสาวเปิดปากทำท่าจะเอ่ยหากถูกเรียกเสียก่อน ดวงตาสีนภาหัน
มองเลขาสาวผู้ส่ายหน้าเป็นเชิงบอกว่าอย่าพึ่งพูดเรื่องเจาะลึกอะไร
และให้ตามน้ำไปก่อน เกลินพยักหน้าเล็กน้อยเป็นเชิงรับรู้ เธอขยับ
ร่างบางออกเล็กน้อยเพื่อที่จะดูใบหน้าที่ไม่ได้พบมาแสนนานให้ชัดขึ้น
โดยรวมแล้วเรเน่แทบไม่ได้รูปร่างหน้าตาเปลี่ยนไปจากครั้งสุดท้ายที่
เจอเลย แม้แต่ทรงผมบ็อบนั้นก็ยังคงเป็นทรงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
สิ่งที่เพิ่มเติมมาคือสะเก็ตแผลและรอยขีดข่วนตามเรียวแขนและขา
แม้ทุกอย่างจะแทบเหมือนเก่า ทว่าเกลินกลับรู้สึกว่าอะไรบางอย่าง
ขาดหายไป ซึ่งมันทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดอย่างบอกไม่ถูก

"รัต.. ขอบคุณนะ ขอบคุณที่ทำให้ลินได้เจอกับบอสอีกครั้ง.."
"ถ้ามันทรมานเกินไปก็บอกนะ...."
"ไม่เลย ลินมีความสุขมากจริงๆ"

รอยยิ้มของผู้พูดกลับเป็นรอยยิ้มขมขื่น เพราะหลากหลายคำถาม
และความรู้สึกกำลังคละคลุ้งอยู่ภายในใจ แต่เธอเลือกที่จะให้ความ
สำคัญของเจ้านายเก่าก่อนตัวเอง หญิงสาวพยายามปาดเช็ดน้ำตา
แม้มันจะไม่ยอมหยุดไหลให้เสียเท่าไหร่

"แล้วนี่สรุปมีอะไรให้ลินช่วยเหรอ?..."
"รัตคิดว่าถ้าได้เจอกับคนบริษัทควิ้นท์อาจจะช่วยอะไรได้บ้าง
แต่ดูเหมือนมันจะล้มเหลวอีกแล้วสินะ"
"แล้วทำไมอยู่ๆบอสเน่ถึงได้ความทรงจำย้อนกลับขึ้นมากันล่ะ?"

เลขาสาวกระตุกกึก แม้แต่ตัวคนผู้โดนกล่าวถึงก็ยังหันมองด้วย
ความสงสัยไม่แพ้กัน ทว่าไม่มีคำตอบใดๆหลุดออกมา
มีเพียงสีหน้าเจ็บปวดที่หลุดรอดออกมาให้รับรู้ เกลินมองด้วย
สีหน้าสับสนครู่หนึ่ง จากนั้นจึงผลันเปลี่ยนจริงจัง

"ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ปล่อยมันไปเถอะ ลินจะช่วยแก้ไขให้
อีกแรงเอง"


TBC ๐ ๐ ๐

Signature ------------------------------------------------>
Whirl The Series  - Page 3 Ckbaw
Nearmoki-2b
Nearmoki-2b
เทียบเท่ามัธยมศึกษาปีที่ 1
INFO.Narin
อดีตผู้อำนวยการโรงเรียน

Star Piece0
CHIPS+65 M 413 K 676
Credit
Whirl The Series  - Page 3 Exp111100 / 100100 / 100Whirl The Series  - Page 3 Exp211

Whirl The Series  - Page 3 Empty Re: Whirl The Series

Sun 28 Feb 2016, 01:44
EP.30

รัตติกาลฝากฝังเรเน่ไว้กับหมอเกลินเพราะหวังว่าการได้อยู่
กับอดีตลูกน้องจะทำให้เธอนึกอะไรออกขึ้นมาบ้าง แท้จริง
แล้วเรเน่ตัวจริงจะหลีกเลี่ยงการพบกับคนจากบริษัทควิ้นท์
เพราะมันจะทำให้เธอนึกถึงการเสียชีวิตของอีกหนึ่งหัวหน้า
บริษัทควิ้นท์ เพราะฉะนั้นการอยู่กับเกลินอาจจะกระตุ้นจิต-
สำนึกเจ้าตัวในทางใดทางหนึ่ง เรเน่อาจจะนึกขึ้นมาได้ด้วย
ตนเองถึงเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดจนถึงปัจจุบัน

แต่ผลที่ได้ในตอนนี้มีเพียงบทสนทนาสนุกสนานระหว่าง
เจ้านายเก่าและลูกน้องที่ไม่ได้พบกันมานานหลายปี เรเน่
ไม่มีทีท่านึกอะไรออกแม้แต่น้อย รัตติกาลถอนหายใจ
เล็กน้อยกับการทดลองที่ล้มเหลวอีกครั้ง แต่รอยยิ้มของ
สองสาวก็ไม่อาจทำให้รัตติกาลเรียกสิ่งนี้ว่า 'ความผิดพลาด'
ได้ซะทีเดียว

ช่วงเวลาผ่านเลยไป โดยส่วนใหญ่แล้วเรเน่จะอยู่ภายใต้
การดูแลของหมอเกลิน หากบางเวลาที่หมอติดธุระหรือ
มีงานต้องดูแลนักเรียน เรเน่ก็จะได้ไปนั่งฆ่าเวลาอยู่กับ
ผู้อำนวยการนรินทร์ และทุกๆวันที่เธอจะต้องไปตรวจ
ร่างกายกับรัตติกาล ตอนนี้เวลาผ่านมาได้สามวันแล้ว
ตั้งแต่เรเน่ได้เข้ามาพักฟื้นตัวที่โรงเรียนเพื่อผู้พิการใน
นามของควิ้นท์ และตอนนี้ก็เป็นคราวของผู้อำนวยการ
ที่จะเป็นคนดูแลเธอ

หญิงสาวแปลกถิ่นเดินสำรวจห้องทำงานผู้อำนวยการ
ขณะที่ชายหนุ่มเจ้าของห้องกำลังนั่งง่วนอยู่กับเอกสาร

"ฉันสังเกตมานานแล้ว ใครเป็นคนตกแต่งห้องนี้หรือคะ?"
"ทำไมหรือครับ?"
"ห้องนี้ถูกประดับด้วยกรอบรูปจากจิตกรคนที่ฉันรู้จักดี"
"หืม?.. ช่างเป็นเรื่องบังเอิญจังเลยนะครับ"
"นั่นสินะคะ..."

ดวงตาสีมะนาวจดจ้องอยู่บนกรอบรูปสีน้ำมัน ที่มุมภาพ
มีเขียนกำกับว่า BR ซึ่งเป็นอักษรย่อจาก บอร์น รอยด์
เธอหันมองชายผู้หน้าตาคล้ายกับจิตรกรสลับกับภาพวาด
คิ้วบางขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัยก่อนที่จะเลิกสนใจ
กับภาพวาดและเดินไปหาคนที่นั่งทำงานอยู่แทน เรเน่ยืน
มองชายหนุ่มอย่างพิจารณา

"คุณนรินทร์คะ"
"ครับ?"
"คุณคงไม่ใช่บรัชหรอกใช่มั้ยคะ?"

บรรยากาศห้องผลันเงียบสนิท เจ้าของห้องค่อยๆวางมือ
จากเอกสารภาษาเบลล์ ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นเชื่องช้าตาม
ต้นเสียง สีหน้าของเขาติดโทนขมขื่นตามประสาคนเก็บ
ความรู้สึกไม่เก่ง คำพูดที่ดูนุ่มนวลแต่ก็เจือจางความเจ็บปวด

"ต้องขอโทษด้วยนะครับ แต่ผมก็เป็นได้แค่ผมนี่แหละ.."

แม้น้ำเสียงจะแผ่วเบาแต่กลับส่งความรู้สึกได้อย่างชัดเจน

"ข ขอโทษนะคะที่พูดแบบนั้น..."

เรเน่รีบขอโทษจากใจจริง ไม่รู้ทำไมใบหน้าฝืนยิ้มของ
ผู้อำนวยการถึงทำให้เธอรู้สึกอึดอัดใจจนไม่สามารถทน
อยู่เฉยได้ หญิงสาวรีบขอโทษขอโพยยกใหญ่

"ผมจะยกโทษให้คุณก็ได้ ถ้าคุณตามใจผมอย่างนึง"
"อะไรเหรอคะ? ถ้าทำได้ฉันจะทำให้อย่างแน่นอน"

เหงื่อผุดขึ้นบนใบหน้าเนียนใสเล็กน้อยด้วยความลุ้นใจว่า
อีกฝ่ายจะมาไม้ไหน เธอมองหน้าลุ้นคำตอบด้วยสีหน้าจริงจัง

"นั่งคุยเล่นเป็นเพื่อนผมหน่อยสิ"
"อ.. เอ๊ะ?"
"ไม่ได้เหรอ?"
"ด ได้สิคะ..."

หญิงสาวเดินไปทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟายาวสีดำที่อยู่ห่างจาก
โต๊ะทำงานไม่ไกล ร่างบางนั่งหลังตรงด้วยกริยาเกรงประหม่า
นรินทร์เริ่มหยิบกระดาษและใช้นิ้วถูอ่านตัวอักษรอีกครั้งระหว่าง
ที่ปากก็เอ่ยคำถาม

"ช่วยเล่าให้ผมฟังได้ไหม?.. เกี่ยวกับบอดิการ์ดของคุณ"
"หมายถึงรายหรือคะ?"
"ใช่ ตอนที่อยู่โรงพยาบาลเขามาเยี่ยมคุณบ่อยมากเลย
บ่อยเสียจนผมนึกว่าพวกคุณเป็นคู่รักกันเสียอีก"
"ฮะๆๆๆ เรื่องแบบนั้นเป็นไปไม่ได้หรอกค่ะ"

ผู้อำนวยการเงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจ แม้มือจะลูบผ่านกระดาษหาก
ไม่มีสารใดๆถูกส่งสู่สมอง เขาให้ความสนใจทั้งหมดกับการสนทนา

"เอ๋? ทำไมล่ะครับ?"
"ถ้าเป็นแบบนั้นละก็ คงมีปัญหาตามมามากมายอย่างแน่นอน"
"ทำไมการที่คุณกับคุณรายรักกันถึงก่อให้เกิดปัญหาล่ะครับ?"

นรินทร์เสียงเบาลงในตอนสุดท้ายเพราะนึกได้ว่าตนกำลังถามสู่รู้
แต่เรื่องนี้ก็คาใจเขามาตลอดตั้งแต่ที่อยู่ในโรงพยาบาล ถ้าหากราย
รักเรเน่จริงอย่างที่คิดละก็ ทำไมเขาถึงไม่เคยแสดงท่าทีอะไรเลยล่ะ?
ชายหนุ่มกลืนน้ำลายระหว่างรอฟังคำตอบด้วยดวงใจที่ใคร่รู้

"เพราะว่าฉันคือ เรเน่ กิลเล็ต แล้วเขาคือ ราย เกร์ดีน น่ะค่ะ"

คิ้วหนาผูกกันเป็นปม ถึงใจจะใฝ่รู้แค่ไหนแต่ร่างกายก็ยังคงสงบนิ่ง
และทำเป็นวุ่นวายกับเอกสารที่อ่านได้ประมาณบรรทัดละห้านาที
หญิงสาวที่มองเห็นคิ้วเป็นปมนั้นจึงเอ่ยอธิบายต่อ

"ตระกูลกิลเล็ตและตระกูลเกร์ดีนทำงานร่วมกันมานานมากแล้ว
และคงทำงานร่วมกันไปอีกนาน ตระกูลเกร์ดีนทำงานองค์รักษ์
ให้ตระกูลกิลเล็ตมาตลอด ไม่แปลกที่เราสองตระกูลจะสนิทกัน
รวมถึงเรื่องความรักก็เช่นกัน มันไม่แปลกเลยที่คนใกล้ชิดกัน
ขนาดนั้นจะมีความรู้สึกรักใคร่ต่อกัน แต่เพราะว่ามันเป็นเรื่องปกติ
ทางหัวหน้าตระกูลจึงออกกฏห้ามให้กิลเล็ตและเกร์ดีนแต่งงานกัน
เพราะท่านเล็งเห็นว่าถ้ามีทายาทที่เกิดขึ้นจากเลือดกิลเล็ตและ
เกร์ดีนละก็ ทายาทที่ว่านั้นก็อาจจะมีความรักกับคนจากกิลเล็ต
ไม่ก็เกร์ดีนต่ออีกทีหนึ่ง นั่นจะทำให้วงจรนรกกำเนิดขึ้น สุดท้าย
แล้วทายาทภายในตระกูลทั้งสองก็จะมีแต่คนไม่สมบูรณ์พร้อม
เพราะว่าเป็นบุตรที่กำเนิดจากพ่อแม่ที่มีสายเลือดเดียวกัน"

นรินทร์รับฟังด้วยความเข้าใจ เขาพยักหน้าเล็กน้อยเป็นเชิงบอก
ว่ากำลังฟังอยู่ หลายครั้งที่เขามีความรู้สึกว่าตระกูลกิลเล็ตนั้น
ช่างบ้าอำนาจและไร้ซึ่งเหตุผล แต่กฏข้อนี้เป็นสิ่งที่เขาสามารถ
เข้าใจได้ ชายหนุ่มครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนเอ่ยถามต่อ

"แล้วถ้าสมมุติคุณรายเกิดรักคุณขึ้นมาล่ะ? มันจะเกิดอะไรขึ้น?"
"ถ้าเรารักกันอย่างจริงจังและเปิดเผย เราทั้งคู่จะถูกไล่ออกจาก
ตระกูล และฉันจะถูกปลดจากตำแหน่งว่าที่ผู้นำตระกูล ถึงฉัน
จะไม่ได้สนใจตำแหน่งนั่นเท่าไหร่ก็เถอะ"

เรเน่ยักไหล่โดยไม่รู้ว่าตัวเธอในปัจจุบันนั้นกำลังต่อสู้เพื่อที่จะ
ได้ตำแหน่งผู้นำตระกูลคนต่อไปอย่างเอาจริงเอาจัง

"งั้นถ้าคุณรายบอกรักคุณ?... คุณจะตอบรับเขาไหม?"

คำถามถูกเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเหมือนไม่ได้ใส่ใจ แต่นั่นก็เป็น
เพียงน้ำเสียงที่ผู้อำนวยการประดิษฐ์ขึ้น เรเน่เอียงคอครุ่นคิด
ชั่วครู่ จากนั้นจึงตอบด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา

"ฉันคงไม่ตอบรับหรอกมังคะ"
"ท ทำไมล่ะ? ผมเห็นเขาดีกับคุณมากนะ"
"โถ่ คุณนรินทร์คะ ผู้ชายโลกนี้มีตั้งเยอะตั้งแยะ ทำไมฉันต้อง
เลือกคบกับคนที่จะทำให้มีปัญหาคอขาดบาดตายตามมาด้วยละคะ"

คำตอบที่ได้เป็นคำตอบเรียบง่ายจากใจจริง จริงเสียจนน่าตกใจ

'นี่เราควรสงสารคุณรายหรือเปล่านะ..."

ชายหนุ่มคิดในใจพลางปาดเหงื่อที่หยดไหลแม้จะอยู่ในห้องแอร์

'ก๊อกๆๆ'
"อ๊ะ!!"

รอยยิ้มเผยขึ้นบนใบหน้าผู้อำนวยการทันทีที่ได้ยินเสียงเคาะประตู
เขาลุกขึ้นเดินไปทางประตูโดยไม่ต้องพึ่งไม้เท้าแต่อย่างใด

"ใครเหรอคะ?"
"พอดีช่วงบ่ายนี้ผมมีประชุมครู ผมเลยเรียกคนมาช่วยดูแลคุณน่ะครับ
เขาพึ่งกลับมาจากข้างนอกพอดีเลย"

เสียงนั้นอธิบายก่อนเปิดประตูห้องเผยให้เห็นร่างผู้มาเยือน...





TBC ๐ ๐ ๐

Signature ------------------------------------------------>
Whirl The Series  - Page 3 Ckbaw
Nearmoki-2b
Nearmoki-2b
เทียบเท่ามัธยมศึกษาปีที่ 1
INFO.Narin
อดีตผู้อำนวยการโรงเรียน

Star Piece0
CHIPS+65 M 413 K 676
Credit
Whirl The Series  - Page 3 Exp111100 / 100100 / 100Whirl The Series  - Page 3 Exp211

Whirl The Series  - Page 3 Empty Re: Whirl The Series

Mon 29 Feb 2016, 02:22
EP.31

ประตูเปิดขึ้นเผยร่างชายผมทองในชุดสูทสีขาวสุภาพ
กระเป๋าเดินทางใบโตอธิบายถึงการเดินทางระยะไกล
ดวงตาสีนภาดุดันจ้องมายังหญิงสาวผมไม่วางตา
ฝ่ายคนถูกมองลุกขึ้นยืนต้อนรับเป็นมารยาท เธอส่ง
ยิ้มให้คนแปลกหน้าอย่างเป็นมิตร ทว่าผู้มาเยือนถึง
กับชะงักและแสดงสีหน้าเหยเกเมื่อได้เห็นรอยยิ้มหวาน

"นั่นใครอะ?"

ชายหนุ่มถามอย่างไม่เชื่อสายตา เมื่อเห็นเช่นนั้น
หญิงสาวจึงสาวเท้าเดินเข้าหาและยื่นมือหวังทักทาย

"ฉัน เรเน่ กิลเล็ต ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ"
"จะบ้ารึไง ไม่ได้หมายความว่าแบบนั้นสักหน่อย!!"
"เอ่อ.. คือว่าเรื่องมันเป็นอย่างนี้.."
"คุณเป็นคนที่จะมาดูแลฉันงั้นหรือคะ ต้องขอโทษ
ด้วยนะคะที่ทำให้ลำบาก แล้วก็ขอบคุณมากนะคะ"

รอยยิ้มหวานที่มากับออร่าอ่อนหวานราวกับมีดอกไม้
ลอยอยู่รอบตัวทำเอาหนุ่มผู้มาเยือนถึงกับขนลุกชัน
ทั้งๆที่แอร์ก็ไม่ได้หนาวขนาดนั้น เรเน่เห็นอีกฝ่าย
ไม่มีทีท่าอยากจับมือด้วย จึงชักมือกลับด้วยท่าทาง
หงอยผิดหวัง ดวงตาสีมะนาวช้อนมองด้วยความไม่
มั่นใจว่าควรทำตัวอย่างไร

"แล้ว.. คุณเป็นใครคะ?"
"เป็นอะไรของหล่อนเนี่ย เธอไม่มีทางลืมฉันได้หรอก"
"อ..เอ๋?"
"ฉันก็ เอลิท รอยด์ ไง"
"รอยด์?..."

ดวงหน้าใสซีดไปถนัดตา เธอผงะเล็กน้อยโดยไม่รู้ตัว

"ห หรือว่าคุณคือสามีในกฏหมายของบรัช!!!"
"อะไรทำให้เธอคิดแบบนี้เนี่ย!!!"

เอลิทผงะตามไปอีกคน เขาถอยหลังไปชนร่างสูงของ
ผู้อำนวยการ คนร่างสูงควานจับตัวและบีบไหล่เขาเบาๆ

"สมองที่ความทรงจำไม่ครบถ้วนทำให้เธอคิดแบบนั้นน่ะครับ.."
"ความทรงจำไม่ครบถ้วน?"

ถ้าเป็นคนอื่นพูดเอลิทก็คงจะคิดว่าเป็นเพียงมุขตลกอยู่หรอก
แต่คำพูดนี้ดันหลุดออกมาจากปากนรินทร์ที่ไม่ได้หยอกล้อ
พูดเล่นเป็นเรื่องปกติ เขามองผู้อำนวยการสลับกับหญิงสาวที่
ครั้งหนึ่งเคยรู้จักมากกว่านี้

"คุณเอลิทครับ.. ระหว่างที่คุณไม่อยู่มีเรื่องหลายๆอย่างเกิดขึ้น
มีเรื่องบางอย่างเกิดกับเรเน่ทำให้ความทรงจำเธอย้อนกลับไป
ระดับหนึ่ง... ผมไม่ได้บอกล่วงหน้าเพราะคิดว่าคุณคงไม่เชื่อ
ถ้าไม่ได้เห็นกับตาตัวเอง.."

ดวงตาสีนภาจ้องมองคู่กรณีอย่างไม่เชื่อหู แต่ด้วยความเคารพ
ที่มีต่อนรินทร์ทำให้เอลิททำใจเชื่อในที่สุด นรินทร์จับไหล่เล็ก
และก้มลงกระซิบข้างหูแผ่วเบาที่สุดที่คิดว่าทำได้

"ในความทรงจำของเรเน่ตอนนี้.. พี่ชายของคุณยังมีชีวิตอยู่"

ทันใดนั้นเองที่ร่างเล็กกระโจนตัวออกไปกระชากคอเสื้อหญิงสาว
เขาเปล่งเสียงตะคอกระหว่างที่มือดึงกระชากร่างบางเข้าใกล้

"วันแรกที่เธอรู้สึกตัว!!.. มันคือวันที่เท่าไหร่!!!"
"อ เอ๋??"
"คุณเอลิท!!"

นรินทร์รีบจ้ำเท้าตามไปหวังไกล่เกลี่ย เอลิทปัดมือนรินทร์ออก
อย่างไม่ใยดี

"ไม่มีใครสงสัยบ้างเหรอว่ายัยนี่ความทรงจำย้อนกลับไป
ในช่วงเวลาไหน แล้วทำไมถึงต้องเป็นวันนั้นๆ!?!"

ผู้อำนวยการตกใจในกริยาที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน โดยปกติแล้ว
หนุ่มรักษาการณ์ห้องปกครองมักจะรักษากริยามารยาทอยู่เสมอ
แต่เรื่องที่เอลิทพูดนั้นก็เป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้ พวกเขารู้แค่ว่า
เรเน่มีความทรงจำเหลือถึงแค่ตอนก่อนที่ บอร์น รอยด์ จะเสียชีวิต
แต่ไม่เคยมีใครถามวันและเวลาที่ชัดเจน

"ตอบมา!!"
"ว วันที่ '......' ปี '......' "

หญิงสาวเบี่ยงหน้าไปอีกฝั่งด้วยความกลัว ร่างบางสั่นคลอนไปทั้งกาย
หยาดน้ำตาไหลล้นจากเปลือกตาที่ปิดแน่นสนิท ทว่าเอลิทหาได้ใส่ใจไม่
เขากำลังตกตะลึงอยู่กับสิ่งที่ได้ยิน เพราะวันที่ได้ยินนั้นตรงกับวันสุดท้าย
ที่เรเน่ได้พบกับ บอร์น รอยด์....

"พี่ออกไปที่ไหน!! บอกมาสิว่าพี่ออกไปที่ไหน!!"

น้องชายคนเดียวของ บอร์น รอยด์ เขย่าร่างบางในมือเต็มแรง

"ฮืออ.. เจ็บ..."
"อย่ามาสำออยนะ!! พี่ออกไปที่ไหน!!"
"พอได้แล้ว!!!"

เสียงตะคอกดังขึ้นแทรกเรียกสติของชายหนุ่มฝ่ายปกครอง
ดวงตาสีนภาเบิกกว้างมองหน้านรินทร์ที่เดินเข้ามาดึงตัวเขา
ออกจากหญิงสาวผู้หวาดกลัว ผู้อำนวยการกอดร่างสั่นคลอน
เอาไว้ทั้งๆที่สภาพร่างกายของเขาเองก็ไม่ได้สมบูรณ์พร้อม
มือที่ลูบเรือนผมนุ่มอยู่นั้นมีร่องรอยจากการถูกทำร้าย เล็บมือ
เองก็ฉีกขาดจนเห็นเนื้อด้านใน

"เอลิท ผมไม่ได้เรียกคุณมาทำแบบนี้"
"ผ ผมขอโทษ... ผมขอโทษครับ"

เป็นเพราะผู้อำนวยการมีรูปลักษณ์ภายนอกเหมือนกับพี่ชาย
ของเอลิทไม่มีผิด คำติเตียนของนรินทร์จึงส่งไปถึงกลางใจ
หนุ่มฝ่ายปกครอง ความรู้สึกผิดที่กัดกินใจทำให้เขาก้าวขา
ออกห่างอีกฝ่าย

"ตอนนี้เราควรจะให้ความใส่ใจกับความรู้สึกของเรเน่
เธอผ่านเรื่องร้ายๆมามาก ถึงคุณจะรู้เรื่องในอดีตไปถึงขนาดไหน
มันก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอดีตได้หรอก สิ่งที่สูญหายไปแล้ว
จะไม่มีวันย้อนกลับมา"

เสียงทุ้มเอ่ยโทนต่ำเพื่อไม่ให้เป็นการดูหมิ่น แต่ก็ต้องการที่จะ
บอกว่าต่อให้เค้นหาข้อมูลและสืบหาเรื่องของ บอร์น รอยด์
ไปสักเท่าไหร่ มันก็ไม่มีทางทำให้เขากลับมามีชีวิตอีกครั้งได้
เอลิทหลบสายตามองต่ำ เขายกมือทั้งสองขึ้นลูบหน้าเพื่อสงบ
สติอารมณ์

"ขอโทษครับ.. ผมคงไม่สามารถดูแลเธอตอนนี้ได้ ขอตัวนะครับ"

ชายตัวเล็กหันหลังวิ่งออกจากห้องไป เจ้าของห้องถอนหายใจ
น้อยๆก่อนจะหันกลับมาให้ความสนใจกับร่างในอ้อมแขน
เขาปล่อยมือออกเพราะคิดว่าสาวเจ้าคงไม่ชินกับการโดนผู้ชาย
แปลกหน้ากอด หญิงสาวสะอื้นพลางยกมือปาดเช็ดน้ำตา

"น่ากลัว.. กลัวจังเลย.. ฮึก.."

นรินทร์ฟังเสียงสะอื้นด้วยความคิดประหลาดใจ แม้เขาจะเคย
เห็นเรเน่ร้องไห้มาหลายครั้งหลายคราว แต่ไม่มีสักครั้งที่เธอ
จะร้องไห้เพราะรู้สึกกลัวอะไรสักอย่าง โดยปกติแล้วถ้ามีเรื่อง
ร้ายเกิดขึ้นเธอจะเป็นคนที่ออกมาเผชิญหน้าแล้วพูดว่า
'เน่จะปกป้องนรินทร์เอง' ด้วยซ้ำไป ถึงเขาจะไม่ได้ชอบที่ต้อง
ให้ผู้หญิงตัวเล็กๆมาปกป้องก็เถอะ เสียงฟันที่กระทบกันเพราะ
ความหวาดกลัวทำให้เขานึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้

เรเน่ก็เป็นแค่ผู้หญิงบอบบางคนหนึ่ง...





TBC ๐ ๐ ๐

Signature ------------------------------------------------>
Whirl The Series  - Page 3 Ckbaw
avatar
ผู้มาเยือน
ผู้มาเยือน

Whirl The Series  - Page 3 Empty Re: Whirl The Series

Mon 29 Feb 2016, 02:28
โอ้....คุณเอลิท
Nearmoki-2b
Nearmoki-2b
เทียบเท่ามัธยมศึกษาปีที่ 1
INFO.Narin
อดีตผู้อำนวยการโรงเรียน

Star Piece0
CHIPS+65 M 413 K 676
Credit
Whirl The Series  - Page 3 Exp111100 / 100100 / 100Whirl The Series  - Page 3 Exp211

Whirl The Series  - Page 3 Empty Re: Whirl The Series

Mon 29 Feb 2016, 02:57
EP.32

"ขอโทษนะครับที่สุดท้ายก็ต้องมารบกวนคุณจนได้"

ผู้อำนวยการหัวเราะแห้งๆระหว่างเดินเข้ามายังห้องสีขาว
ภายในห้องพยาบาลใหญ่ หญิงสาวเจ้าของห้องยิ้มรับไมตรี

"ไม่เลยค่ะ ให้ลินได้ช่วยบ้างเถอะนะคะ"

หมอสาวลุกขึ้นต้อนรับแขกผู้มาเยือน เธอยิ้มให้กับเจ้านาย
เก่าผู้เดินเข้ามาด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก

"บอสเน่เป็นอะไรไปคะ?"

เกลินมองเรเน่ด้วยความเป็นห่วง ก่อนจะหันมองนรินทร์
ด้วยสายตาตั้งคำถาม แต่นึกได้ว่าไม่สามารถสื่อสารทาง
สายตากับคนที่หลับตาอยู่ตลอดได้ เธอจึงเปลี่ยนเป็น
ประโยคคำพูดแทน

"เกิดอะไรขึ้นหรือคะผอ.?"

หญิงสาวพูดระหว่างมองดวงตาแดงก่ำของผู้เป็นนายเก่า

"เกิดเรื่องขึ้นนิดหน่อยน่ะครับ.. คุณช่วยอยู่กับเธอระหว่าง
ที่ผมประชุมรอบบ่ายได้ไหม?"
"ต้องได้อยู่แล้วสิคะ"

หมอตอบพลางลูบหลังปลอบประโลมหญิงสาวตัวเล็กกว่า

"บอสเน่คะ ไปทานอะไรอร่อยๆด้วยกันดีกว่านะคะ"
"อะไรอร่อยๆ?..."

เรเน่เงยหน้ามองด้วยแววตาที่สดใสขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย
นรินทร์แอบขบขันพฤติกรรมหลอกล่อด้วยของกินอยู่ในใจ
เมื่อยืนฟังบทสนทนาจนแน่ใจว่าหญิงสาวพอดีขึ้นแล้วเขา
จึงค่อยๆเดินจากออกมาโดยไม่ให้อีกฝ่ายรู้ตัว นรินทร์เดิน
แกว่งไม้เท้าหวังจะขึ้นไปประชุมครู

"อ๊ะ ผอ.คะ!!"
"อ้าว คุณรัต?"

ระหว่างทางนั้นเองที่เขาเดินสวนกับเลขาประจำตัว
ชายหนุ่มเดินถอยหลังก้าวสองก้าวตามทิศทางของเสียง
ที่ได้ยิน หญิงสาวผมดำเข้ามาช่วยถือเอกสารทั้งหมดที่
ผู้อำนวยการถืออยู่ ก่อนทั้งคู่จะเริ่มเดินไปด้วยกัน

"คุณเรเน่ละคะ?"
"ผมฝากไว้กับหมอเกลิน ตอนแรกเห็นคุณเอลิทพึ่ง
กลับมาเลยกะว่าจะให้ช่วยดูแลหน่อย แต่ปรากฏว่า
คุณเอลิทกลับอาละวาดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน"
"คุณเอลิทเนี่ยนะคะอาละวาด?"
"อืม ผมเองก็ตกใจเหมือนกัน"

รัตติกาลมองหน้าคู่สนทนาเพื่อประเมินสถานการณ์
แม้ผู้อำนวยการจะบอกว่าตกใจ แต่สีหน้ายังสงบนิ่ง
ไม่มีวี่แววตื่นกลัว แปลว่าสุดท้ายแล้วสถานการณ์
ยังอยู่ภายในการควบคุมของเขาอยู่

"คุณเอลิทถามถึงวันที่ที่เธอรู้สึกตัวในโรงพยาบาล
ตามความทรงจำของเรเน่ เธอให้คำตอบเป็นวันๆหนึ่ง
ที่โรงเรียนแห่งนี้ยังไม่ได้ถูกสร้างขึ้นเสียด้วยซ้ำ
แปลว่าความทรงจำเธอย้อนไปไม่ต่ำกว่าเจ็ดปี"
"ถ้าให้ดิฉันเดา วันวันนั้นคงเป็นวันสุดท้ายที่เธอพบ
กับ บอร์น รอยด์ ก่อนที่เขาจะไม่กลับมาอีกเลย"

นรินทร์หันหาต้นเสียงด้วยสีหน้าประหลาดใจกึ่งชื่นชม

"โอ้โห ผมคงต้องมาถามหวยงวดหน้ากับคุณซะแล้ว"

เลขาสาวกลั้วหัวเราะอย่างสำรวมในกริยา เธอมอง
ชายหนุ่มที่มีรอยยิ้มน้อยๆประดับอยู่บนใบหน้า

"ผอ.หายโกรธคุณเรเน่แล้วเหรอคะ?"

คนฟังกระตุกทันทีที่ได้ยิน เขาชะงักครุ่นคิดสักพัก
ระหว่างที่ขายังคงก้าวเดินอยู่ตลอด ผ่านไปชั่วครู่
การสนทนาจึงเริ่มเดินต่ออีกครั้ง

"ผมก็ยังไม่หายโกรธซะทีเดียวหรอก แต่ผมคิดว่า
เรเน่ในตอนนี้ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นอะไรด้วย และเธอ
กำลังต้องการความช่วยเหลือ มันคงไม่ถูกถ้าผม
จะไปเอาเรื่องเอาราวกับเด็กสาวที่อายุไม่น่าถึงสิบแปด"

จริงอยู่ที่ร่างกายของเรเน่คือร่างกายของหญิงสาวโต
เต็มวัย แต่จิตใจภายในตอนนี้เธอเป็นเพียงแค่เด็กสาว
ม.ปลายผู้อ่อนต่อโลกและสั่นกลัวเมื่อถูกตะคอก

"ไม่นึกเลยนะคะว่าคำนี้จะออกมาจากปากคนที่คิด
จะ 'ทำงาน' กับเด็กสาวอายุไม่ถึงสิบแปดปี"
"ผ ผมไม่ได้คิดจะ 'ทำงาน' สักหน่อย!! มันก็แค่..."
"เอาเถอะค่ะๆ คุณทำตัวเป็นปกติกับเธอนั่นแหละดีแล้ว
ตราบใดที่คุณไม่ 'ทำงาน' แค่นั้นก็พอ"

รัตติกาลตอบตัดบทเพราะกำลังคิดถึงเรื่องอื่นอยู่ในสมอง

'บางทีคุณเรเน่ในตอนนี้อาจจะมีข้อมูลของฆาตกรที่
ฆ่า บอร์น รอยด์ ก็ได้...'


เลขาได้แต่คิดพิจารนาอยู่ในใจ เพราะเธอรู้ดีว่าต่อให้
เสนอขึ้นมาก็คงถูกคนเป็นนายปฏิเสธ เพราะคนอย่าง
นรินทร์จะต้องให้ความใส่ใจกับสุขภาพของเรเน่มากกว่า
ข้อมูลเหล่านี้อย่างแน่นอน





อีกด้านหนึ่งคือหญิงสาวสองคนที่กำลังนั่งรับประทาน
อาหารกลางวันกันอย่างมีความสุข หมอสาวนั่งเท้าคาง
มองเจ้านายเก่าด้วยสีหน้าอิ่มอกอิ่มใจ เธอมองหญิงสาว
ผู้ไม่ได้พบมานานไม่วางตา เรเน่หาวเล็กน้อยหลังทาน
ข้าวอิ่ม

"ทานข้าวพึ่งอิ่มก็ง่วงซะแล้วหรือคะ ฮะๆๆๆ"
"แฮะๆๆๆ"
"บอสเน่อย่าลืมทานยาให้ครบทุกตัวด้วยนะคะ"

เกลินดันกระปุกยาหลากสีไปทางร่างที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม
ภายในห้องทำงานส่วนตัว คนไข้เบ้ปากไม่ชอบใจเล็กน้อย

"เน่ไม่เห็นเข้าใจเลยว่าทำไมถึงต้องทานยาเยอะขนาดนี้"
"จะได้หายไวๆยังไงคะ"

หมอสาวยิ้มหวานปลอบประโลม อันที่แท้จริงแล้วยาเหล่านั้น
เป็นยารักษาโรคทางจิตเวชที่มีอยู่ก่อนหน้าโดยไม่ได้เกี่ยวข้อง
อะไรกับอาการความจำเสื่อมเลย เพียงแต่อยู่มาวันหนึ่งคนไข้
ดันจำไม่ได้ว่าเคยทานมันก็เท่านั้น

"นะคะ ทานเถอะนะคะ"

หญิงสาวออดอ้อนแสนน่ารักจนอีกฝ่ายยอมใจอย่างช่วยไม่ได้
เรเน่หยิบยาใส่ปากทีละเม็ดก่อนกลืนยาจำนวนหนึ่งลงคอด้วย
ความช่วยเหลือของน้ำเปล่าแก้วเย็น

"เก่งมากค่ะ"

รอยยิ้มหวานถูกส่งจากคนเป็นหมอ คนไข้ยิ้มตามอย่างไรเดียงสา

'แค่กๆๆๆ'

หากทันใดนั้นเองที่เรเน่ไอเสียงดัง คนเป็นหมอดูฟังออกว่ามัน
ไม่ใช่การไอเหมือนมีอะไรติดคอ แต่มันคือการไอเหมือนจะ
สำรอกออกมามากกว่า ด้วยสัญชาติญาณของคนเป็นหมอ
ทำให้เธอรีบพาร่างบางไปยังอ่างล้างมือที่โดยปกติแล้วไว้ใช้
ล้างมือก่อนเข้าตรวจ

'แค่กๆๆๆๆ'

หญิงสาวไอไม่หยุดและสุดท้ายก็อาเจียรออกมาในที่สุด
หมอสาวลูบหลังปลอบประโลมระหว่างเอ่ยบอกว่าไม่เป็นไร
ทว่าสีหน้าของคนปลอบประโลมกลับซีดเซียวเสียยิ่งกว่า
คนไม่สบาย ดวงตาสีนภาเบิกมองภาพเบื้องหน้าด้วยสายตา
เจ็บปวดทรมาน เพราะความเป็นหมอทำให้เธอนึกคิดถึง
สาเหตุของการอาเจียร ทว่าเหตุผลที่นึกออกนั้นกลับทำให้
เกลินทรมานใจเสียจนไม่อยากยอมรับ

'ไม่นะ.. ขอให้อย่าเป็นอย่างที่คิดเลย..'



TBC ๐ ๐ ๐

Signature ------------------------------------------------>
Whirl The Series  - Page 3 Ckbaw
avatar
ผู้มาเยือน
ผู้มาเยือน

Whirl The Series  - Page 3 Empty Re: Whirl The Series

Mon 29 Feb 2016, 20:30
ปูเสื่อ~~
Nearmoki-2b
Nearmoki-2b
เทียบเท่ามัธยมศึกษาปีที่ 1
INFO.Narin
อดีตผู้อำนวยการโรงเรียน

Star Piece0
CHIPS+65 M 413 K 676
Credit
Whirl The Series  - Page 3 Exp111100 / 100100 / 100Whirl The Series  - Page 3 Exp211

Whirl The Series  - Page 3 Empty Re: Whirl The Series

Tue 29 Mar 2016, 01:32
EP.33

การประชุมในฝั่งผู้อำนวยการล่วงผ่านไปโดยไม่มีข้อมูล
ใดๆถูกจดจำอยู่ในสมองของผู้อำนวยการ ซึ่งเขาที่รู้ตัวเอง
ดีว่าความคิดยุ่งเหยิงจนไม่สามารถมีสมาธิเรื่องงานก็ได้
กล่าววานให้เลขาสาวจดรายละเอียดทุกอย่างไว้ให้เป็นที่
เรียบร้อย ทันทีที่การประชุมจบลงหัวหน้าการประชุมก็ลุก
ขึ้นและใช้ไม้เท้านำทางตัวเองออกจากห้องอย่างรวดเร็ว
เหล่าครูต่างกระพริบตามองกริยาที่เปลี่ยนไปของนรินทร์
ที่ปกติแล้วจะนั่งคุยเล่นกับทุกคนและรอจนกว่าคนจะออก
จากห้องประชุมจนหมด แล้วตัวเองจึงลุกตามออกไป

แต่เนื่องจากวันนี้เป็นกรณีเร่งด่วน ชายหนุ่มรีบสาวเท้ามายัง
ห้องพยาบาลอันเป็นสถานที่ที่ฝากฝังคนป่วยไว้ในการดูแล
ของเกลิน

'ก๊อกๆ'

ประตูถูกเปิดออกหลังจากที่เสียงเคาะประตูดังขึ้นไม่นานนัก
หมอสาวมองผู้มาเยือนด้วยสีหน้าไม่สู้ดีก่อนจะเชื้อเชิญ
ให้เข้ามาในห้องทำงานส่วนตัว เธอชะโงกหน้ามองซ้ายขวา
เมื่อเห็นว่าไม่มีใครจึงค่อยปิดประตูลง

"บอสเน่นอนพักผ่อนอยู่ที่เตียงคนไข้นะคะ"
"ครับ?.."

คำตอบรับนั้นติดโทนเสียงสงสัยในเวลาเดียวกัน ถึงเขาจะ
ประชุมอยู่นาน แต่เวลาในตอนนี้ก็เป็นแค่ยามเลิกเรียนของ
เหล่านักเรียน ยังไม่ใกล้เวลาฟ้ามืดแต่อย่างใด

"เรเน่เป็นอะไรรึเปล่าครับ?"
"......"

ความเงียบทำเอาใจหัวใจที่เต้นไวอยู่แล้วเพิ่มจังหวะไวยิ่งขึ้น
ถึงความอยากรู้จะมากแค่ไหนแต่สุภาพบุรุษก็รอจนกว่าหมอ
จะพร้อมและเอ่ยถ้อยคำด้วยตนเอง

"บอสเธออาเจียนเมื่อกลางวันค่ะ ลินเลยให้เธอนอนพัก..."
"อาเจียน? แต่ปกติเธอทานได้ทุกอย่างไม่เคยแพ้อะไร"
"......"

สีหน้าหมอสาวเต็มไปด้วยความอึดอัดใจชัดเจน แม้แต่คน
มองไม่เห็นก็ยังสัมผัสได้ว่ามีอะไรบางอย่างผิดปกติ เมื่อไม่ได้
คำตอบชายหนุ่มจึงพยายามคิดหาคำตอบด้วยตัวเอง บรรยากาศ
ห้องผลันเงียบสนิทไปชั่วคราว

"บ้าน่า..."
"คุณไม่ได้กำลังบอกผมใช่มั้ยว่าเรเน่...."

ใบหน้าผู้อำนวยการซีดเซียวไปถนัดตา เขาผงะถอยหลังชน
ประตูห้อง ร่างที่พิงประตูอยู่นั้นดูอ่อนแรงไปในทันใด

"คุณเกลิน.. บอกผมสิว่ามันไม่ใช่แบบที่ผมคิด..."
"......"

ทางด้านหมอสาวเองก็ไม่ได้สีหน้าดีไปกว่าแขกผู้มาเยือนเสีย
เท่าไหร่ เธอนั่งก้มหน้าอยู่บนเก้าอี้ทำงานตัวประจำโดยไม่พูด
อะไร มือเล็กทั้งสองกำแน่นอยู่บนหน้าตัก

"บอกผมสิว่าเรเน่ไม่ได้กำลังตั้งครรภ์!!"
"จ ใจเย็นก่อนเถอะค่ะผอ. ตอนนี้มันยังอาจจะเร็วไปหน่อย
ที่จะตัดสินใจ ถึงแต่ละคนจะมีระยะเวลาการแพ้ท้องไม่เท่ากัน..."
"แต่มันก็มีความเป็นไปได้อยู่ดีไม่ใช่เหรอครับ!!"
"ผอ.คะ ใจเย็นก่อนนะคะ!!..."

"อ อือ.. โวยวายอะไรกันคะ?"

เสียงที่สามทำเอาคนที่เหลือพร้อมใจหยุดการสนทนาลงอย่าง
พร้อมเพรียงกัน เกลินหันมองหญิงสาวบนเตียงคนไข้ผู้ชันตัว
ขึ้นนั่ง เรเน่ขยี้ตางัวเงียโดยไม่ได้จริงจังกับคำถามที่เอ่ยมากนัก

"ม ไม่มีอะไรสำคัญหรอกค่ะ.. บอสเป็นยังไงบ้างคะ?"
"ดีขึ้นแล้วค่ะ ว่าแต่คุณนรินทร์ประชุมเสร็จแล้วหรือคะ?"
"ครับ..."

หญิงสาวถามเพราะต้องการรู้ถึงเวลาในปัจจุบัน ดวงตากลม
เหลือบมองนาฬิกาที่แขวนอยู่บนผนังเพื่อความมั่นใจ ดูเหมือน
ว่าเธอจะหลับไปนานพอสมควรเลย คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน
ด้วยความแคลงใจ ปกติเธอไม่ใช่คนที่มีนิสัยการนอนกลางวัน
แม้ในช่วงเวลาที่ต้องนั่งเฉยๆในโรงพยาบาล เธอก็มักจะใช้
เวลาไปกับการอ่านหนังสือแทนที่จะนอนพักผ่อน

"เรเน่ครับ"
"ค คะ?"

ร่างบางสะดุ้งหลุดออกจากภวังค์ เธอเงยหน้ามองชายในชุดสุภาพ
ชายหนุ่มเหยียดรอยยิ้มที่ใครมองก็รู้ว่าฝืนให้ก่อนจะเอ่ยถาม

"ออกไปเดินเล่นด้วยกันมั้ยครับ? แดดร่มแล้ว"
"ไปค่า~"

หญิงสาวกระโดดลงจากเตียงด้วยท่าทีแสนร่าเริง ชายหนุ่มบอกให้
เธอออกไปรอหน้าอาคาร หากเขาทำธุระเสร็จเรียบร้อยแล้วจะ
ตามออกไป ทันทีที่บุคคลที่สามออกไปจากห้องรอยยิ้มเฝื่อนๆ
ก็หายไปจากใบหน้าคนเก็บความลับไม่เก่ง

"อย่าพึ่งด่วนตัดสินใจไปเลยนะคะ ลินยังไม่ได้ตรวจร่างกายเธอเลย"
"ผมทำใจบอกเธอไม่ได้.."
"ไม่เป็นไรค่ะ มันไม่ใช่ความผิดผอ. ต้องไม่มีอะไรเกิดขึ้นแน่นอนค่ะ
ผอ.เองก็ออกไปสูดอากาศเป็นเพื่อนบอสซะหน่อยเถอะนะคะ"
"ครับ..."

ผู้อำนวยการเดินคอตกออกไปจากตึกเรียน รอบข้างมีเสียงเดิน
ของเด็กนักเรียนที่คาดว่ากำลังเดินกลับบ้านและเสียงกระทบกัน
ของใบไม้ที่เกิดจากแรงลมยามเย็น ชายหนุ่มเรียกหาเรเน่เพราะ
ไม่สามารถจำแนกเสียงหรือรับรู้ถึงการคงอยู่ของเธอได้ เสียงใส
ตอบรับก่อนเดินเข้ามากระตุกแขนเสื้อเชิ๊ตเพื่อเป็นการบอกว่า
กำลังยืนอยู่เคียงข้าง นรินทร์เผยยิ้มเพียงบางเบาก่อนจะก้าวขา
เดินออกไป

หญิงสาวผู้เริงร่ามองซ้ายขวาเพื่อดื่มด่ำกับบรรยากาศหลังเลิกเรียน
ดวงตาสีมะนาวจ้องมองเหล่านักเรียนที่กำลังพูดคุยเรื่องไร้สาระ
เสียงหัวเราะของคนไม่รู้จักทำให้รอยยิ้มเผยบนใบหน้าเนียนใส
เธอกำลังมีความสุขมากกับการเดินเล่นที่แสนจะธรรมดา ความสุข
นั้นก็ส่งไปถึงคนเคยสนิทที่เดินตามหลังอยู่ไม่ไกล ทำไมเขาจะไม่ล่วงรู้
ความรู้สึกของเจ้านายที่ทำงานร่วมกันมาหลายปี แต่สำหรับผู้อำนวยการ
แล้วนี่เป็นสถานการณ์ปกติที่เกิดขึ้นทุกวัน เขาไม่ค่อยเข้าใจนักว่าเรเน่
กำลังมีความสุขกับอะไร จึงได้แต่เดินตามหลังไปเงียบๆ

'ครึกๆๆๆๆ'

เสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นจากไกลๆและดูเหมือนท่าจะเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อตั้งใจฟังก็สามารถรับรู้เพิ่มเติมได้ว่ามันคือเสียงล้อกระทบกับพื้นปูน
โดยมีเครื่องยนต์เป็นตัวขับเคลื่อนด้วยความเร็วที่ไม่ธรรมดาทีเดียว
ผู้อำนวยการถอนหายใจเฮือกหนึ่งก่อนจะเปล่งเสียงขึ้น

"ริแอร์ครับ"
"อึ๋ยย!!"

เสียงเครื่องยนต์ค่อยๆชะลอช้าและหยุดตัวลง มันคือเสียงเครื่องยนต์
ขับเคลื่อนอัตโนมัติของรถเข็นผู้ป่วย คนบนรถเข็นคือสาวน้อยผมเปีย
สีทองที่ยาวไปถึงสะโพก เจ้าของขนตาสีทองแพสวยหันมองผู้อำนวย
การด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก ดวงตาสีมรกตล่อกแล่กไปมา เด็กสาวฝืนส่ง
รอยยิ้มแห้งหืดให้ผู้อำนวยการ ร่างบางในชุดนักเรียนสีม่วงห่อตัว
ราวกับอยากจะหายไปจากตรงนั้น

"ข ขอโทษค่ะ.. ซิ่งไปหน่อย.. แฮะๆ..."

ผู้อำนวยการเดินเข้าไปยังต้นเสียงที่อยู่ห่างออกไประยะหนึ่ง

'แกรก'

เสียงไม้เท้าอลูมิเนียมกระทบกับขารถเข็นที่เป็นอลุมิเนียมเช่นกัน
เมื่อระบุตำแหน่งได้แล้วชายหนุ่มจึงยกปลายไม้เท้าขึ้นตีที่เรียวขา
อย่างเบามือทีสองที

"จะรีบไปไหนฮึ? แม่สาวนักซิ่ง"
"แฮะๆๆ ขอโทษค่า"

เด็กสาวหัวเราะแห้งๆตอบพลางยกมือขึ้นเกาท้ายทอย เธอเบี่ยง
สายตาไปทางอื่นเพื่อหลบหนีความผิดที่กำลังเสียดแทงหัวใจ
ถึงผู้อำนวยการจะไม่ได้ใช้น้ำเสียงดุดันหรือวาจารุนแรง แต่เธอ
รู้ดีว่าความเป็นห่วงของชายคนนี้สามารถทำให้เขายืนบ่นนักเรียน
ได้เป็นชั่วโมงๆ ซึ่งแน่นอนว่าเธอมีประสบการณ์ใกล้ชิดกับเรื่องนี้
ริแอร์มองซ้ายมองขวาหาทางเอาตัวรอด หากทันใดนั้นเองที่
ดวงตามรกดสบเข้ากับอะไรบางอย่าง อะไรบางอย่างที่ทำให้
ถึงกับต้องอ้าปากค้าง

"น นั่นมัน..."
"ริแอร์ กำลังฟังผมอยู่รึเปล่า? ที่ผมต้องพูดก็เพื่อความปลอดภัย
ของคุณเองนะครับ"
"ผอ.คะ... นั่น... นั่นมัน..."

เด็กสาวชี้ไปทางอะไรบางอย่าง แต่นึกขึ้นได้ว่าไม่สามารถสื่อสาร
กับชายหนุ่มได้ด้วยภาษากาย เพราะฉะนั้นเธอจึงเปลี่ยนภาษากาย
เป็นภาษาพูดแทน

"คนๆนั้น..."

ทันใดนั้นเองที่นรินทร์สามารถคิดตามได้ถึงความตื่นตกใจของนักเรียน
เพราะริแอร์กำลังเห็นบางสิ่งที่เธอมั่นใจว่าจะไม่มีวันเห็นภายในรั้ว
โรงเรียนแห่งนี้ ดวงตาสีมรกตจ้องมองหญิงสาวผมสั้นในชุดกระโปรง
ผู้กำลังเริงระบำไปกับบทเพลงของธรรมชาติโดยไม่รู้ตัวว่ากำลังเป็น
หัวข้อการสนทนาของผู้อื่น ริแอร์ไม่ได้เพียงประหลาดใจกับการ
ปรากฏตัวของผู้หญิงคนนั้น หากเธอตกตะลึงกับท่าทางแสนสุขใจ
อย่างไร้เดียงสา สาวกับเป็นเพียงแค่เด็กสาวผู้มีความสุขคนหนึ่ง
ดวงตาของสองสาวสบประสานกัน หญิงสาวผู้มีอายุกายมากกว่า
คลี่ยิ้มหวานให้ระหว่างที่ร่างกายยังคงเคลื่อนไหว

"ริแอร์.."
"คะ!?!"

ร่างบางสะดุ้ง เธอหันกลับมองเจ้าของเสียงทุ้มด้วยสีหน้างุนงง
เสียงที่เอ่ยนั้นดูนิ่งขึ้นเพื่อบอกถึงความจริงของของสถานการณ์

"ขึ้นไปรอผมที่ห้อง เราคงต้องคุยกันเรื่องการควบคุมความเร็วรถเข็น"
"อ เอ๊ะะ!!!"

แม้ริแอร์จะชอบขับเคลื่อนรถเข็นด้วยความเร็วราวขับเฟอรารี่จน
ทำเอานักเรียนคนอื่นหลบแทบไม่ทันมาหลายหน แต่เธอก็เพียง
เล่นสนุกตามประสา ไม่คิดว่าจะกลายเป็นเรื่องใหญ่โตไปได้
ผู้อำนวยการเดินเข้าใกล้ร่างบางยิ่งขึ้นก่อนที่จะโน้มตัวลงเอ่ย
ด้วยน้ำเสียงที่แผ่วลง

"ขึ้นไปรอผมที่ห้อง พอส่งเรเน่ที่หอเสร็จแล้วจะตามขึ้นไป"





TBC ๐ ๐ ๐

Signature ------------------------------------------------>
Whirl The Series  - Page 3 Ckbaw
avatar
ผู้มาเยือน
ผู้มาเยือน

Whirl The Series  - Page 3 Empty Re: Whirl The Series

Tue 29 Mar 2016, 15:32
ริแอร์มาแล้ว~~~
Nearmoki-2b
Nearmoki-2b
เทียบเท่ามัธยมศึกษาปีที่ 1
INFO.Narin
อดีตผู้อำนวยการโรงเรียน

Star Piece0
CHIPS+65 M 413 K 676
Credit
Whirl The Series  - Page 3 Exp111100 / 100100 / 100Whirl The Series  - Page 3 Exp211

Whirl The Series  - Page 3 Empty Re: Whirl The Series

Tue 29 Mar 2016, 17:14
EP.34

ณ.ดาดฟ้าของโรงเรียน มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งกำลังนั่งมองวิวทิวทัศน์
โรงเรียนจากมุมบน มือเล็กจับรั้วดาดฟ้าไว้ขณะที่มองนักเรียนคนอื่นๆ
กำลังเดินกลับหอ บ้างก็กำลังเดินไปขึ้นรถกลับบ้านกับผู้ปกครอง
สายลมยามเย็นพัดเรือนผมสีทองพริ้วไหว ดวงตาสีมรกตที่มองผอง-
เพื่อนนั้นแฝงไปด้วยความอ่อนโยน

'ตึก ตึก ตึก'

เสียงเดินของใครบางคนหยุดลงที่หลังรถเข็นผู้ป่วย

"ผ่านมาครึ่งปีแล้วสินะคะ.. สำหรับ 'เหตุการณ์นั้น'"

เสียงใสเปรยโดยไม่ได้หันหลังมอง แต่ก็มั่นใจดีว่ากำลังพูดอยู่กับใคร

"มันไม่ใช่ความผิดของเธอหรอกนะ"

คนที่อยู่ด้านหลังตอบน้ำเสียงอ่อนนุ่ม มันเป็นเสียงของผู้ชายคนหนึ่ง

"แต่ถ้าหนูทำอะไรสักอย่าง.. เรื่องแบบนั้นคงไม่เกิดขึ้น มันทำให้หนู
รู้สึกแย่ทุกครั้งที่ต้องอยู่ที่ดาดฟ้าแห่งนี้"

มือหนาแตะลงบนบ่าเล็กที่กำลังสั่นคลอน เขาบีบกระชับไหล่เล็กนั้นไว้

"ริแอร์ เรื่องมันผ่านไปแล้ว ตอนนี้เธอก็อยู่ม.หกแล้ว โตแล้วนะ
คนที่โตแล้วเขาไม่มานั่งยึดติดกับอดีตหรอกนะครับ"
"ผอ..."

เด็กสาวหันมองชายหนุ่มด้วยสีหน้าเจ็บปวด แต่ดวงหน้าแสนอารีของ
ชายผู้เป็นผู้อำนวยการก็อดทำให้ยิ้มตามไม่ได้

"เข้าไปคุยต่อข้างในเถอะนะ เรามีเรื่องสำคัญต้องคุยกันไม่ใช่หรือ?"

นรินทร์จับคันจับรถเข็นและขยับเปลี่ยนทิศทางก่อนจะเข็นไปยัง
ทางห้องทำงานส่วนตัวของเขา เจ้าของห้องกรอกรหัสเข้าห้อง
อย่างคล่องแคล่ว

'แกร๊ก'

เสียงกลอนประตูอัตโนมัติดังขึ้น เด็กสาวเข็นรถเข็นเข้าห้องโดยที่
มีเจ้าของห้องเป็นคนเปิดประตูค้างไว้ให้ แม้จะไม่ได้มาที่นี่บ่อยนัก
แต่ริแอร์ก็มีความคุ้นชินกับห้องทำงานกว้างแห่งนี้ระดับหนึ่ง หลังจาก
ที่ร่างเล็กเข้ามาแล้วนรินทร์จึงปล่อยมือจากประตูหนักเพื่อปล่อยให้
มันปิดตัวลงด้วยตัวเอง

"นี่มันเรื่องอะไรกันเหรอคะ?"

แม้คำถามจะดูจริงจังแต่น้ำเสียงที่เอ่ยก็ทำให้เข้าใจว่ามันคือคำถามใคร่รู้

"เรื่องไหนครับ?"
"ก็พี่สาว.. พี่สาวมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ?"

แม้จะไม่เคยบอกใครเรื่องนี้ แต่ริแอร์หรือที่มีชื่อเต็มว่า ริแอร์ กิลเล็ต
นั้นคือน้องสาวซึ่งเป็นญาติของเจ้าของโรงเรียนเพื่อผู้พิการในนาม
ของควิ้นท์เรเน่ กิลเล็ต เด็กสาวไม่เคยคิดบอกเรื่องนี้กับเพื่อนหรือ
ครูคนไหนเพราะไม่อยากถูกปฏิบัติอย่างพิเศษหรือแปลกแยกจาก
คนอื่นๆ เธอปรารถนาที่จะใช้ชีวิตนักเรียนเฉกเช่นเพื่อนๆ
ซึ่งผู้นำนวยการเองก็ยินดีที่จะไม่เปิดปากบอกความจริงนี้กับใคร

"เธอไม่สบายเลยต้องมารักษาตัวที่นี่น่ะครับ"
"แต่.. พี่ก็ดูสบายดีนี่คะ? ถึงจะดีจนไม่คุ้นตาก็เถอะ"

ถึงจะตั้งใจบอกความจริงแต่พอถึงเวลาขึ้นมาผู้อำนวยการกลับรู้สึก
ลำบากใจที่จะพูด เพราะตัวเขาเองไม่ได้อยากนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้น
กับเรเน่ในช่วงเวลาที่ผ่านมาเสียเท่าไหร่ ชายหนุ่มหายใจเข้าเพื่อ
รวบรวมความกล้า เขาย่อตัวลงนั่งคุกเข่าเพื่อให้อยู่ในระดับสายตา
เดียวกับคู่สนทนาหวังให้ริแอร์เห็นสีหน้าของตนชัดเจนขึ้น

"ฟังนะครับ ถึงจะกะทันหันไปหน่อย แต่มีเรื่องร้ายแรงบางอย่าง
เกิดขึ้นกับพี่สาวของเธอจนขนาดทำให้เธอความทรงจำย้อนกลับ
เรเน่คนที่เธอพบเมื่อสักครู่เป็นเรเน่ที่มีอายุจิตใจเท่าๆกับเธอ หรือ
เผลอๆอาจจะน้อยกว่า"

ผู้อำนวยเว้นระยะการพูดเพื่อรอฟังปฏิกริยาที่ได้รับ เสียงใสเงียบ
ไปพักใหญ่ ซึ่งเขาเข้าใจดีและไม่ได้คาดหวังให้ริแอร์เชื่อในสิ่งที่พูด

"ถ้าอย่างนั้นพี่ก็คงจะลำบากอยู่สินะคะ..."

นรินทร์เลิกคิ้วประหลาดใจ นี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาคิดว่าจะได้ยิน

"เชื่อด้วยเหรอครับ?"
"ค่ะ"
"ทำไมถึงเชื่อล่ะ?"

ถึงริแอร์จะเป็นเด็กสาวที่อ่อนต่อโลกและมองโลกในแง่ดีอยู่เสมอ
แต่ชายหนุ่มรู้ตัวดีว่าเรื่องที่พูดนั้นมันฟังดูเกินจริงอย่างเหลือเชื่อ
เด็กสาวกลั้วหัวเราะน้อยๆให้กับสีหน้าสงสัยที่ถูกแสดงออกชัดเจน

"ตอนที่พี่สาวมองหนู มันเหมือนว่าพี่ไม่เคยรู้จักหนูมาก่อน
หนูมีพี่ชายท่านหนึ่งที่มีปัญหาเรื่องความทรงจำ แววตาของ
พี่สาวในตอนนั้นมันเหมือนกับแววตาของพี่ชายไม่มีผิด
หนูพบพี่ชายบ่อยจนสามารถมองออกว่าเวลาไหนท่านจำ
หนูได้หรือเวลาไหนจำไม่ได้"

นรินทร์พยักหน้ารับรู้ เขาคลี่ยิ้มบางๆเป็นการขอบคุณที่เข้าใจ
มือเล็กประสานกันไว้แน่น ดวงหน้าที่มักสดใสหม่นหมองลงเล็กน้อย

"อีกอย่าง.. พี่สาวที่หนูรู้จักน่ะ.. เธอไม่เคยยิ้มแบบนั้นหรอก
ครั้งสุดท้ายที่พี่สาวยิ้มออกมาจากใจมันผ่านมานานมากแล้ว
นานจนหนูไม่สามารถจำได้"

ผู้อำนวยการที่สัมผัสได้ถึงความโศกเศร้าได้ยื่นมือเข้าไปควานหา
มือเล็กและกุมมันไว้หลวมๆ

"ผมต้องการให้เรเน่ความทรงจำกลับมาโดยไวที่สุด เรามีหลายๆเรื่อง
จะต้องคุยกับเธอ จิตแพทย์บอกว่าที่เธอเป็นแบบนี้เพราะความจริง
มันโหดร้ายเกินกว่าที่เธอจะรับไหว ผมจึงคิดว่าถ้าทำให้เธอมีความสุข
ได้แล้วละก็ เธอคงอยากจะกลับมาอยู่กับความจริงอีกครั้งหนึ่ง"

มือน้อยกระชับมือตอบ เด็กสาวเงยหน้ามองอีกฝ่ายอย่างเชื่องช้า
เสียงใสเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นไหว

"พี่สาวอยากมีโอกาสได้ใช้ชีวิตนักเรียนภายในโรงเรียนเช่นคนอื่นๆ
แต่ไม่เหมือนกับหนู พี่ไม่เคยได้รับโอกาสให้เข้าโรงเรียน ถ้าพี่ได้รับ
โอกาสนั้นจากคุณสักครั้งในชีวิต นั่นคงจะทำให้เธอมีความสุขมาก"

.
.
.

"เฮ้ยยย นั่นใครอ่ะ"

เด็กชายชุดนักเรียนเหลียวหลังกลับมองอย่างรวดเร็ว เพื่อนชาย
ที่ยืนอยู่เคียงข้างรีบหันตามเสียงโวยวาย

"ไม่รู้สิ ไม่เห็นคุ้นหน้าเลย เจ้าหล่อนไม่ผูกโบว์ที่เสื้อซะด้วยสิ"

พวกเขามองผู้หญิงในชุดนักเรียนอย่างพินิจพิจารนา นักเรียน
ทุกคนภายในโรงเรียนแห่งนี้จะใส่เนกไทหรือโบว์ต่างสีสัน
เพื่อแบ่งแยกชั้นเรียนกันชัดเจน แต่สาวน้อยที่พึ่งเดินผ่าน
ไปนั้นกลับไม่ได้ใส่โบว์ประจำชั้นแต่อย่างใด

"รุ่นพี่มั้ง ดูจากรูปร่างแล้ว"

ร่างบางในชุดนักเรียนมีรูปร่างสมส่วนน่าเชยชม ผมสีครีมตัดสั้น
เผยให้เห็นต้นคอเนียนขาว สองหนุ่มยังคงจ้องมองแม้ร่างนั้นจะ
เดินผ่านไปได้สักระยะแล้ว ขาเรียวยาวก้าวเดินอยู่บนระเบียงยาว
อันเงียบสงบ เพราะช่วงเวลาพักเที่ยงเช่นนี้คือเวลาทานข้าวของ
เหล่านักเรียนจึงทำให้ประชากรส่วนใหญ่ของโรงเรียนรวมตัวกัน
อยู่ในโรงอาหาร

สาวน้อยแปลกหน้าเลี้ยวเข้าไปยังห้องที่อยู่สุดทางเดินระเบียง
มันคือห้องที่เต็มไปด้วยหนังสือมากมายที่หลากหลายไปด้วย
ภาษาและความรู้ในแขนงต่างๆ ภายในห้องแห่งนี้มีคนอยู่เพียง
ไม่กี่คน ส่วนใหญ่เป็นบรรณารักษ์ที่กำลังจัดเรียงหนังสือเข้าที่
ส่วนที่เหลือนั่งอ่านหนังสือกันอยู่เงียบเชียบ นอกจากเสียงแอร์
แล้วก็ไม่มีเสียงอื่นใดอีก เรเน่เดินวนตามชั้นหนังสือไปเรื่อยๆ
ในมือถือขนมปังที่พึ่งซื้อมาจากโรงอาหาร

'ตึก ตึก ตึก'

เสียงเดินดังขึ้นเชื่องช้า และบ้างก็เงียบหายไปสักระยะ นิ้วเรียว
ลากสัมผัสตามสันหนังสือระหว่างก้าวเดิน ดวงตาสีมะนาว
ไล่สายตามองหนังสือตามชั้นหนังสือไม้อย่างตั้งอกตั้งใจ

'ปึก'

เพราะมัวแต่มองหนังสือจึงทำให้เดินชนอะไรบ่างอย่างโดย
ไม่ตั้งใจ ร่างบางรีบเด้งตัวถอยหลังตามสัญชาตญาณ เธอหัน
มองวัตถุปริศนาเร็วไว

"ข ขอโทษนะคะ!!"

เสียงใสลนลานรีบเอ่ยปากทันทีที่เห็นว่าวัตถุปริศนานั้นคือ
ชายในชุดนักเรียนคนหนึ่ง

"ไม่เป็นไรครับ"

คำตอบที่ได้เป็นน้ำเสียงเรียบง่าย คนพูดไม่แม้แต่จะหัน
หน้ามอง เรเน่ผงกหัวหงึกๆเป็นการขอโทษอีกหลายหน
ก่อนจะรีบหันหลังและสาวท้าวเร็วไวด้วยความที่ไม่อยาก
รบกวน

"เดี๋ยวก่อน..."

เสียงชายแปลกหน้าทำให้ร่างบางหยุดชะงัก เธอหันกลับ
มองต้นเสียงด้วยแววตาหวาดหวั่น กลัวว่าจะถูกติเตียน

"กำลังหาอะไรอยู่หรือเปล่าครับ?"
"เอ๋?"

สาวน้อยเลิกคิ้วเล็กน้อยเนื่องจากได้ยินสิ่งที่ไม่คาดคิดไว้

"กำลังหาอะไรอยู่หรือเปล่าครับ?.. รึว่าจะมีปัญหาด้าน
การฟังนะ.."

ประโยคหลังเป็นประโยคพึมพำแผ่วเบากับตัวเอง แต่ด้วย
ความทีที่นี่เป็นห้องสมุดอันเงียบงัน จึงทำให้ได้ยินเสียง
กันและกันได้ดีกว่าปกติ

"ป เปล่าค่ะ.. ฉันได้ยิน"

สาวน้อยรีบแก้ตัว แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังยืนอยู่ที่เดิม
อีกฝ่ายเองก็หาได้เดินเข้าหาเช่นกัน เมื่อเทียบกับระยะ
ห่างการยืนสนทนาทั่วไปแล้ว ระยะความห่างที่พวกเขา
ยืนคุยกันอยู่ตอนนี้ก็ถือว่าแปลกพอตัว

"ฉันได้ยินเสียงเดินวนไปวนมาของเธอมาสักพักแล้ว"
"ขอโทษนะคะ.. รบกวนสินะคะ..."
"เปล่า แค่อยากช่วย"
"อ่อ...."

การสนทนาปล่อยช่วงเงียบสงัด คนแปลกหน้าต่างไม่รู้
จะทำตัวอย่างไรต่อกันและกัน

"ฉันกำลังหาหนังสืออยู่น่ะค่ะ หนังสือข้อมูลเกี่ยวกับ
ผู้พิการทางสายตา หรือจะเป็นพวกแนวทางปฏิบัติต่อ
ผู้พิการทางสายตาก็ได้"

คราวนี้เป็นตาของชายหนุ่มที่จะเลิกคิ้วแปลกใจ เขาหันหน้า
หาต้นเสียงเป็นครั้งแรก แต่ช่างน่าแปลกที่สาวน้อยกลับไม่ได้
รู้สึกว่ากำลังถูกมองอยู่ เธอเหลียวหลังมองกระจกหน้าต่างใส
เบื้องหลังเพื่อมองหาว่าชายคนนั้นกำลังมองสิ่งใดอยู่ แต่ภาย
นอกหน้าต่างไม่มีอะไรนอกจากก้อนเมฆสีบริสุทธิ์ เธอจึงได้
แต่หันกลับมองเขาอีกครั้งด้วยแววตาสงสัย เด็กชายตัวสูงกว่า
เกาคางครุ่นคิดก่อนจะหันหลังเดินไปอีกทาง

"อ๊ะ รอเดี๋ยวสิคะ"

ร่างบางที่ยืนอยู่ห่างๆรีบสาวท้าวเดินตาม เมื่อนั้นเองที่เธอสังเกต
ได้ว่าเด็กนักเรียนแปลกหน้าเดินโดยใช้ไม้เท้าอันยาวปัดแกว่ง
ไปด้านหน้า เป็นลักษณะที่เธอคุ้นตาเป็นอย่างดี หากยังไม่ทัน
ได้เอ่ยปากถามก็มีหนังสือเล่มหนึ่งถูกยื่นมาใกล้ มันคือหนังสือ
เล่มหนาที่เขียนประทับหน้าปกไว้ว่า 'แนวทางการปฏิบัติต่อ
ผู้พิการทางสายตาเบื้องต้น' ดวงตาสีมะนาวประกายระยิบระยับ
ทั้งๆที่เธอเดินหาตั้งนานแต่ก็มีแต่จะหลงอยู่ในคลังความรู้แห่งนี้
แต่เขาที่ 'มองไม่เห็น' กลับหาสิ่งที่ต้องการได้อย่างเร็วไว

"ว้าววว ขอบคุณมากนะคะ ฉันหาอยู่ตั้งนานไม่เห็นจะเจอ
นึกว่าจะไม่มีหนังสือแบบนี้อยู่ในห้องสมุดแล้วเสียอีก"
"ห้องสมุดแห่งนี้มีหนังสือหลากหลายรูปแบบมากเลยหายาก
นิดหน่อยน่ะ หนังสือความรู้เฉพาะทางแบบนี้บางส่วนก็มีผู้บริจาก
เข้ามา ทางโรงเรียนได้ขอบคุณด้วยการประทับชื่อผู้บริจาคอยู่
บนหน้าหลังสุดของหนังสือ"

นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ยินประโยคยาวๆจากปากชายหนุ่มแปลกหน้า
เรเน่คลี่ยิ้มให้พลางเอ่ยปากขอบคุณ เธอรับหนังสือมาถือไว้ในมือ
หนุ่มนักเรียนผงกหัวให้เล็กน้อยเป็นการรับคำขอบคุณ จากนั้นจึง
หันหลังหวังเดินจากไป

"อ๊ะ เดี๋ยวก่อนค่ะ"

สาวน้อยเดินตามไปและวางห่อขนมปังให้บนมือผู้ช่วยเหลือ

"ขอบคุณมากนะคะ ช่วยได้มากจริงๆ อย่าลืมทานข้าวกลางวันนะคะ"
"ครับ"

เขาเผยยิ้มบางเบาแต่ก็ส่งความรู้สึกได้อย่างชัดเจน ชายหนุ่ม
ยกมือเกาหลังคอเล็กน้อยก่อนจะเดินจากไปอีกครั้ง ทันใดนั้นเอง
ที่เสียงดังขึ้นจากหน้าประตูห้องสมุด

"ไอ้ประธาน ไปกินข้าวโว้ยย กินกระดาษเป็นอาหารรึไง
เอ็งเป็นเครื่องเครื่องบดกระดาษเรอะะ"
"เป็นแม่รึยังไง.."
"ไปบ่นจิณณ์นู้นน มันสั่งให้ฉันมาตาม ไปเดี๋ยวนี้เลยนะ"
"โอ๊ยๆๆๆ"

ร่างบางสั่นเทาเล็กน้อยด้วยความขบขัน แต่ถึงเช่นนั้นเธอก็
ไม่ได้ใส่ใจออกไปดูเพราะเห็นว่าเป็นเพียงการเล่นกันของเพื่อนฝูง
สาวน้อยชุดนักเรียนถือหนังสือเล่มหนาไปนั่งลงบนเก้าอี้ตัวนุ่ม
เพื่อหวังอ่านหนังสือที่ตามหาเสียนาน แต่คำพูดที่เพื่อนร่วมโรงเรียน
พูดขึ้นทำให้เธอเกิดสนใจในเรื่องผู้บริจาค เพราะหนังสือเล่มนี้เอง
ก็ดูเป็นหนังสือเฉพาะทางที่ไม่สามารถหาได้ในร้านหนังสือทั่วไป
มือเล็กกลับหนังสือไปด้านหลังและเปิดหนังสือขึ้นจากปกด้านหลัง
หากทันใดนั้นเองที่ดวงตาสีมะนาวเบิกกว้าง...

'ขอขอบคุณผู้บริจาค Reine Guillet'




TBC ๐ ๐ ๐

Signature ------------------------------------------------>
Whirl The Series  - Page 3 Ckbaw
avatar
ผู้มาเยือน
ผู้มาเยือน

Whirl The Series  - Page 3 Empty Re: Whirl The Series

Tue 29 Mar 2016, 20:08
Whirl The Series  - Page 3 1877832045
ขึ้นไปข้างบน
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
2012 © Powered by QUAINT