ROOMMATE 4 : การเริ่มต้น
5 posters
- Nearmoki-2b
Narin
อดีตผู้อำนวยการโรงเรียน
0
+65 M 413 K 676
ROOMMATE 4 : การเริ่มต้น
Fri 15 Jan 2016, 16:42
สวัสดีครับ หลังจากที่จับฉลากรูมเมทกันเรียบร้อยแล้ว
คงจะได้ทักทายกับรูมเมทคนใหม่กันไปบ้างแล้วสินะครับ
ครั้งนี้ผมมากับภารกิจที่จะทำให้ทุกคนได้สนิทสนมกับ
รูมเมทของตนมากขึ้น ด้วยภารกิจรูมเมทที่จะได้ร่วม
แรงร่วมใจกันนั่นเอง!! สำหรับสมาชิกใหม่ที่ไม่เคย
ร่วมภารกิจรูมเมทมาก่อน ผมขออธิบายกฏกติกา
โดยรวมให้ฟังดังต่อไปนี้
ภารกิจรูมเมทคือภารกิจที่จะให้คุณร่วมมือกับรูมเมท
ของคุณทำภารกิจให้สำเร็จ ร่วมมือในที่นี้หมายถึง
การร่วมมือกันในความเป็นจริง ร่วมแรงใจกันสร้าง
สรรผลงานภารกิจ ตัวอย่างเช่น ภารกิจที่ให้รูมเมท
คนหนึ่งเป็นคนแต่งเรื่อง ส่วนอีกคนเป็นคนวาดรูป
ประกอบ เป็นต้น โดยสแตมป์ที่ให้จะได้เท่ากัน
ทั้งสองคน ประเมินจากผลงานของทั้งสองฝ่าย
เพราะถือว่าเป็นงานกลุ่มครับ
ในครั้งนี้เป็นภารกิจรูมเมทครั้งแรกของปี
ไม่จำเป็นต้องกังวลว่าจะทำอะไรผิดพลาดหรือ
ผิดกฏแต่อย่างใด หากมีอะไรสงสัยถามผมได้
ตลอดเวลาเช่นปกติ ขอให้ภารกิจนี้เป็นภารกิจ
ที่ได้ให้อะไรบางอย่างแก่ทุกๆคนครับ
✎ ของรางวัลสำหรับนักเรียน (Student Class)
A. รางวัลสำหรับคู่ที่ทำภารกิจได้เพอร์เฟ็คเกิน 100% สร้างความน่าตื่นตาตื่นใจให้กับผู้อำนวยการโรงเรียน
B. รางวัลสำหรับคู่ที่ทำภารกิจได้เกือบเพอร์เฟ็ค สร้างความน่าปลาบปลื้มแก่ผู้อำนวยการโรงเรียน
C. รางวัลสำหรับคู่ที่ทำภารกิจได้ยอดเยี่ยมมาก 80% ประทับใจมากแก่ผู้อำนวยการโรงเรียน
D. รางวัลสำหรับคู่ที่ทำภารกิจได้ปานกลาง 65% สร้างความประทับใจแก่ผู้อำนวยการโรงเรียน
E. รางวัลสำหรับคู่ที่ทำภารกิจได้ผ่านเกณฑ์ 50% ที่ผู้อำนวยพึงพอใจ
❤ ของรางวัลพิเศษจากผู้อำนวยการ
.....ถ้วยรางวัลแต่ละชนิดจะถูกมอบให้กับ นักเรียน-อาจารย์ ที่มีผลงานสร้างสรรค์
เกินขอบเขตของจินตนาการ โดยระดับถ้วยเกียรติยศและจำนวนที่จะมอบให้นั้นขึ้น
อยู่กับผู้อำนวยการโรงเรียนเท่านั้น แม้ผลงานที่เพอร์เฟ็คแต่ถ้าขาดความสร้างสรรค์
ก็จะไม่ได้รับถ้วยรางวัลเกียรติยศก็เป็นได้ ในทางกลับกันหากผลงานไม่ได้สวยจน
น่าตะลึง แต่ถ้าหากมีความสร้างสรรค์ผู้อำนวยการก็สามารถมอบถ้วยเกียรติยศให้ได้...
★ Spectacular Award
.....รางวัล Spectacular จะถูกมอบให้สำหรับผู้ที่สร้างสรรค์ผลงานได้ประทับใจ
สปอนเซอร์จากบริษัท NOBLEMAN (EST.1990) เป็นอย่างมาก โดยผลงานนั้น
จะต้องมีเสน่ห์ในรูปแบบต่างๆที่ดึงดูดสายตาและจิตใจของสปอนเซอร์ ซึ่งไม่ได้ขึ้น
อยู่กับคุณภาพผลงานแต่อย่างใด แต่จะขึ้นอยู่กับความคิดสร้างสรรค์, จินตนาการ,
เสน่ห์ของผลงาน, ความกลมกล่อมของภาพรวม เป็นต้น ซึ่งผู้ที่ได้รับรางวัลนี้จะได้
รับการประกาศเกียรติคุณ ณ ความคิดเห็นที่ลงผลงาน และใต้ชื่อกระทู้ภารกิจในหน้า
กระดานภารกิจ พร้อมทั้งของรางวัลดังนี้...
** อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับรางวัลนี้ได้โดย "คลิ๊กที่นี่" **
คงจะได้ทักทายกับรูมเมทคนใหม่กันไปบ้างแล้วสินะครับ
ครั้งนี้ผมมากับภารกิจที่จะทำให้ทุกคนได้สนิทสนมกับ
รูมเมทของตนมากขึ้น ด้วยภารกิจรูมเมทที่จะได้ร่วม
แรงร่วมใจกันนั่นเอง!! สำหรับสมาชิกใหม่ที่ไม่เคย
ร่วมภารกิจรูมเมทมาก่อน ผมขออธิบายกฏกติกา
โดยรวมให้ฟังดังต่อไปนี้
ภารกิจรูมเมทคือภารกิจที่จะให้คุณร่วมมือกับรูมเมท
ของคุณทำภารกิจให้สำเร็จ ร่วมมือในที่นี้หมายถึง
การร่วมมือกันในความเป็นจริง ร่วมแรงใจกันสร้าง
สรรผลงานภารกิจ ตัวอย่างเช่น ภารกิจที่ให้รูมเมท
คนหนึ่งเป็นคนแต่งเรื่อง ส่วนอีกคนเป็นคนวาดรูป
ประกอบ เป็นต้น โดยสแตมป์ที่ให้จะได้เท่ากัน
ทั้งสองคน ประเมินจากผลงานของทั้งสองฝ่าย
เพราะถือว่าเป็นงานกลุ่มครับ
ในครั้งนี้เป็นภารกิจรูมเมทครั้งแรกของปี
ไม่จำเป็นต้องกังวลว่าจะทำอะไรผิดพลาดหรือ
ผิดกฏแต่อย่างใด หากมีอะไรสงสัยถามผมได้
ตลอดเวลาเช่นปกติ ขอให้ภารกิจนี้เป็นภารกิจ
ที่ได้ให้อะไรบางอย่างแก่ทุกๆคนครับ
ระยะเวลาภารกิจ พิมพ์ว่า:SAT 16/01/16 ; 15.30 TH - SUN 31/01/16 ; 23.59 TH
รายละเอียดภารกิจ พิมพ์ว่า:
แต่งเนื้อเรื่องร่วมกันกับรูมเมท และเขียนบรรยายในหัวข้อเรื่องราวและ
ความรู้สึกที่มีต่อการย้ายโรงเรียน ความรู้สึกแรกที่ได้เข้ามาโรงเรียนหลังใหม่
จนไปถึงเรื่องราวที่ได้พบกับรูมเมทใหม่ของตน โดยทั้งสองคนจะต้องเขียน
ภารกิจส่งในมุมมองของตนเอง(ส่งภารกิจของใครของมัน) ทว่าเรื่องราวทั้งหมด
จะต้องเชื่อมต่อหากัน เช่นหากตกลงกันว่าจะพบกันครั้งแรกที่หน้าประตูหอพัก
เนื้อเรื่องของทั้งสองจะต้องพบกันในสถานที่นั้นๆทั้งคู่ หากพบจุดที่เนื้อเรื่อง
ไปคนละทางจะถูกหักคะแนนหนึ่งครั้ง และถ้าถูกหักคะแนนสองครั้งขึ้นไป
จะโดนลดสแตมป์ลงหนึ่งขั้นทันที เพราะฉะนั้นภารกิจนี้จึงเน้นความสามัคคี
เป็นหลัก สามารถปรึกษาหรือส่งภารกิจให้รูมเมทตรวจเช็คได้ และสามารถ
แก้ไขภารกิจได้จนกว่าจะถึงเวลาหมดภารกิจ
Checklist สิ่งสำคัญที่ต้องมีในเนื้อเรื่อง
- เรื่องราวขณะย้ายเข้าโรงเรียนหลังใหม่
- ความรู้สึกที่มีต่อโรงเรียนหลังใหม่
- เรื่องราวการพบปะกับรูมเมทคนใหม่
- ความรู้สึกที่มีต่อรูมเมทคนใหม่
Time line เนื้อเรื่อง
- ทางโรงเรียนได้ประกาศเรื่องย้ายโรงเรียนให้ทุกคนรับรู้
ก่อนปิดภาคเทอม โดยเปิดโรงเรียนใหม่ให้ย้ายเข้าก่อน
เวลาเปิดภาคเรียนใหม่หนึ่งอาทิตย์ เพื่อให้นักเรียนย้าย
ข้าวของเข้าหอพักนักเรียนให้เรียบร้อย
*บทความไม่จำกัดความยาว ตราบใดที่มีมีเนื้อหาครบถ้วนตามChecklist*
กฏการให้สแตมป์ พิมพ์ว่า:เนื้อหา 50% /คุณภาพงานเขียน 50%
คุณภาพงานเขียนตรวจจากการที่เขียนอ่านแล้วเข้าใจความหมายมากน้อยเพียงใด
อ่านไหลลื่นหรือไม่ รวมทั้งความถูกต้องทางภาษา และการจัดบรรทัดที่สวยงาม
✎ ของรางวัลสำหรับนักเรียน (Student Class)
A. รางวัลสำหรับคู่ที่ทำภารกิจได้เพอร์เฟ็คเกิน 100% สร้างความน่าตื่นตาตื่นใจให้กับผู้อำนวยการโรงเรียน
- MASTER TRIANGLE STAMP
[ ROOMMATE & SPECIAL QUEST ONLY ]
ตราประทับระดับสูงสุดในหมวดภารกิจรูมเมทและภารกิจพิเศษ มีลักษณะเป็นสามเหลี่ยม
ทองคำแท้ มีมูลค่า +200 Grade Exp. จะได้รับเมื่อปฎิบัติภารกิจได้เพอร์เฟ็คเป็นที่
น่าประทับใจแก่ผู้อำนวยการโรงเรียน- +3,000,000 Spirit Point
ไอเทมเพิ่มแต้มสะสม Spirit Point ตามปริมาณที่กำหนด ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการ
แลกเปลี่ยนเป็น CHIPS ได้ในภายหลัง
ได้รับสิทธิ์แลกซื้อเฟอร์นิเจอร์
➥ -10,000 /ชิ้น สำหรับไอเทม เคสวางหนังสือและเอกสาร
➥ -35,000 /ชิ้น สำหรับไอเทม เก้าอี้ทำงาน
➥ -55,000 /ชิ้น สำหรับไอเทม MacBook Air
➥ -120,000 /ชิ้น สำหรับไอเทม โต๊ะทำงาน
** ไม่จำกัดจำนวนการซื้อต่อคน และสามารถวางขายต่อใน THE DEAL CLUB ได้ โดยใช้ราคา
แลกซื้อที่กำหนดเป็นราคาขั้นต่ำ ผู้วางขายสามารถบวกกำไรเพิ่มตามความเหมาะสมกับผู้ซื้อได้ ซึ่ง
ไอเทมเฟอร์นิเจอร์ดังกล่าวสามารถตกแต่งได้ทั้ง ห้องพักส่วนตัว, โต๊ะทำงาน และห้องชมรม โดย
สามารถซื้อได้ตั้งแต่วันประกาศผลภารกิจจนถึงวันที่ 08 FEB 2016 ; 23.59 TH**
B. รางวัลสำหรับคู่ที่ทำภารกิจได้เกือบเพอร์เฟ็ค สร้างความน่าปลาบปลื้มแก่ผู้อำนวยการโรงเรียน
- GRAND PENTAGON STAMP
[ ROOMMATE & SPECIAL QUEST ONLY ]
ตราประทับระดับสูงมากในหมวดภารกิจรูมเมทและภารกิจพิเศษ มีลักษณะเป็นห้าเหลี่ยม
เทอร์ควอยซ์ผสมทองคำแท้ มีมูลค่า +150 Grade Exp. จะได้รับเมื่อปฎิบัติภารกิจได้
สุดยอดเป็นที่น่าปลาบปลื้มแก่ผู้อำนวยการโรงเรียน- +2,000,000 Spirit Point
ไอเทมเพิ่มแต้มสะสม Spirit Point ตามปริมาณที่กำหนด ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการ
แลกเปลี่ยนเป็น CHIPS ได้ในภายหลัง
ได้รับสิทธิ์แลกซื้อเฟอร์นิเจอร์
➥ -80,000 /ชิ้น สำหรับไอเทม ชั้นวางพร้อมโทรทัศน์และเครื่องเสียง
➥ -150,000 /ชิ้น สำหรับไอเทม เตียงนอนลายคุณปลา
** ไม่จำกัดจำนวนการซื้อต่อคน และสามารถวางขายต่อใน THE DEAL CLUB ได้ โดยใช้ราคา
แลกซื้อที่กำหนดเป็นราคาขั้นต่ำ ผู้วางขายสามารถบวกกำไรเพิ่มตามความเหมาะสมกับผู้ซื้อได้ ซึ่ง
ไอเทมเฟอร์นิเจอร์ดังกล่าวสามารถตกแต่งได้ทั้ง ห้องพักส่วนตัว และ ห้องชมรม โดยสามารถซื้อ
ได้ตั้งแต่วันประกาศผลภารกิจจนถึงวันที่ 08 FEB 2016 ; 23.59 TH
C. รางวัลสำหรับคู่ที่ทำภารกิจได้ยอดเยี่ยมมาก 80% ประทับใจมากแก่ผู้อำนวยการโรงเรียน
- ULTRA SQUARE STAMP
[ ROOMMATE & SPECIAL QUEST ONLY ]
ตราประทับระดับสูงในหมวดภารกิจรูมเมทและภารกิจพิเศษ มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยม
เพชรสีชมพูผสมทองคำแท้ มีมูลค่า +100 Grade Exp. จะได้รับเมื่อปฎิบัติภารกิจ
อย่างยอดเยี่ยมเป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจแก่ผู้อำนวยการโรงเรียน- +1,500,000 Spirit Point
ไอเทมเพิ่มแต้มสะสม Spirit Point ตามปริมาณที่กำหนด ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการ
แลกเปลี่ยนเป็น CHIPS ได้ในภายหลัง
ได้รับสิทธิ์แลกซื้อเฟอร์นิเจอร์
➥ -30,000 /ชิ้น สำหรับไอเทม โคมไฟเพดานเหล็กสีดำ
➥ -150,000 /ชิ้น สำหรับไอเทม เตียงนอนลายคุณปลา
** ไม่จำกัดจำนวนการซื้อต่อคน และสามารถวางขายต่อใน THE DEAL CLUB ได้ โดยใช้ราคา
แลกซื้อที่กำหนดเป็นราคาขั้นต่ำ ผู้วางขายสามารถบวกกำไรเพิ่มตามความเหมาะสมกับผู้ซื้อได้ ซึ่ง
ไอเทมเฟอร์นิเจอร์ดังกล่าวสามารถตกแต่งได้ทั้ง ห้องพักส่วนตัว และ ห้องชมรม โดยสามารถซื้อ
ได้ตั้งแต่วันประกาศผลภารกิจจนถึงวันที่ 08 FEB 2016 ; 23.59 TH
D. รางวัลสำหรับคู่ที่ทำภารกิจได้ปานกลาง 65% สร้างความประทับใจแก่ผู้อำนวยการโรงเรียน
- GREAT SQUARE STAMP
[ ROOMMATE & SPECIAL QUEST ONLY ]
ตราประทับระดับกลางในหมวดภารกิจรูมเมทและภารกิจพิเศษ มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยม
แซฟไฟร์ มีมูลค่า +75 Grade Exp. จะได้รับเมื่อปฎิบัติภารกิจได้อย่างดีเป็นที่น่าชื่นชม
แก่ผู้อำนวยการโรงเรียน- +1,000,000 Spirit Point
ไอเทมเพิ่มแต้มสะสม Spirit Point ตามปริมาณที่กำหนด ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการ
แลกเปลี่ยนเป็น CHIPS ได้ในภายหลัง
ได้รับสิทธิ์แลกซื้อเฟอร์นิเจอร์
➥ -20,000 /ด้าน สำหรับไอเทม วอลเปเปอร์โควตคำพูด Friendship
➥ -50,000 /ด้าน สำหรับไอเทม ก่อผนังอิฐติดกำแพง
** ไม่จำกัดจำนวนการซื้อต่อคน และสามารถวางขายต่อใน THE DEAL CLUB ได้ โดยใช้ราคา
แลกซื้อที่กำหนดเป็นราคาขั้นต่ำ ผู้วางขายสามารถบวกกำไรเพิ่มตามความเหมาะสมกับผู้ซื้อได้ ซึ่ง
ไอเทมเฟอร์นิเจอร์ดังกล่าวสามารถตกแต่งได้ทั้ง ห้องพักส่วนตัว และ ห้องชมรม โดยสามารถซื้อ
ได้ตั้งแต่วันประกาศผลภารกิจจนถึงวันที่ 08 FEB 2016 ; 23.59 TH
E. รางวัลสำหรับคู่ที่ทำภารกิจได้ผ่านเกณฑ์ 50% ที่ผู้อำนวยพึงพอใจ
- JEWEL SQUARE STAMP
[ ROOMMATE & SPECIAL QUEST ONLY ]
ตราประทับระดับทั่วไปในหมวดภารกิจรูมเมทและภารกิจพิเศษ มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยม
อัญมณีล้ำค่า มีมูลค่า +50 Grade Exp. จะได้รับเมื่อปฎิบัติภารกิจได้อย่างสำเร็จเป็น
ที่พึงพอใจแก่ผู้อำนวยการโรงเรียน- +500,000 Spirit Point
ไอเทมเพิ่มแต้มสะสม Spirit Point ตามปริมาณที่กำหนด ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการ
แลกเปลี่ยนเป็น CHIPS ได้ในภายหลัง
❤ ของรางวัลพิเศษจากผู้อำนวยการ
.....ถ้วยรางวัลแต่ละชนิดจะถูกมอบให้กับ นักเรียน-อาจารย์ ที่มีผลงานสร้างสรรค์
เกินขอบเขตของจินตนาการ โดยระดับถ้วยเกียรติยศและจำนวนที่จะมอบให้นั้นขึ้น
อยู่กับผู้อำนวยการโรงเรียนเท่านั้น แม้ผลงานที่เพอร์เฟ็คแต่ถ้าขาดความสร้างสรรค์
ก็จะไม่ได้รับถ้วยรางวัลเกียรติยศก็เป็นได้ ในทางกลับกันหากผลงานไม่ได้สวยจน
น่าตะลึง แต่ถ้าหากมีความสร้างสรรค์ผู้อำนวยการก็สามารถมอบถ้วยเกียรติยศให้ได้...
GOLDEN HONOR DEGREE TROPHY
ถ้วยเกียรติยศทองคำแท้ มอบให้แด่ผู้ที่สามารถปฎิบัติภารกิจหรือร่วมกิจกรรมต่างๆ
ที่ทางโรงเรียนจัดขึ้นได้น่าประทับใจผู้อำนวยการเป็นอย่างมาก
SILVER HONOR DEGREE TROPHY
ถ้วยเกียรติยศเงินแท้ มอบให้แด่ผู้ที่สามารถปฎิบัติภารกิจหรือร่วมกิจกรรมต่างๆ
ที่ทางโรงเรียนจัดขึ้นได้น่าประทับใจผู้อำนวยการ
BRONZE HONOR DEGREE TROPHY
ถ้วยเกียรติยศทองแดง มอบให้แด่ผู้ที่สามารถปฎิบัติภารกิจหรือร่วมกิจกรรมต่างๆ
ที่ทางโรงเรียนจัดขึ้นได้น่าดึงดูดใจผู้อำนวยการ
★ Spectacular Award
.....รางวัล Spectacular จะถูกมอบให้สำหรับผู้ที่สร้างสรรค์ผลงานได้ประทับใจ
สปอนเซอร์จากบริษัท NOBLEMAN (EST.1990) เป็นอย่างมาก โดยผลงานนั้น
จะต้องมีเสน่ห์ในรูปแบบต่างๆที่ดึงดูดสายตาและจิตใจของสปอนเซอร์ ซึ่งไม่ได้ขึ้น
อยู่กับคุณภาพผลงานแต่อย่างใด แต่จะขึ้นอยู่กับความคิดสร้างสรรค์, จินตนาการ,
เสน่ห์ของผลงาน, ความกลมกล่อมของภาพรวม เป็นต้น ซึ่งผู้ที่ได้รับรางวัลนี้จะได้
รับการประกาศเกียรติคุณ ณ ความคิดเห็นที่ลงผลงาน และใต้ชื่อกระทู้ภารกิจในหน้า
กระดานภารกิจ พร้อมทั้งของรางวัลดังนี้...
** อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับรางวัลนี้ได้โดย "คลิ๊กที่นี่" **
+1,000,000 CHIPS
[ GREAT ITEM ]
เหรียญตราที่ใช้ในการชำระค่าใช้จ่ายทั้งหมดภายในโรงเรียน, การร่วมกิจกรรมพิเศษที่
ทางบริษัท NOBLEMAN จัดขึ้น และการแลกของรางวัลต่างๆมากมาย โดยสามารถใช้
แต้มสะสมจาก Spirit Point ในการแลกได้
+30 QUAINT ORE
[ RARE ITEM ]
แร่ธาตุพิเศษที่พบได้ในบริเวณรอบโรงเรียน สามารถนำไปแลกเป็นไอเทมต่างๆที่โรงเรียน
กำหนดเอาไว้ได้ แร่ธาตุชนิดนี้หาได้ยากเป็นพิเศษ ถ้าไม่ได้เดินรอบโรงเรียนบ่อยๆก็จะไม่
มีทางที่จะเจอแร่ธาตุชนิดนี้ได้เลย
Signature ------------------------------------------------>
- ผู้มาเยือนผู้มาเยือน
Re: ROOMMATE 4 : การเริ่มต้น
Wed 27 Jan 2016, 21:28
มาส่งภารกิจรูมเมทครับ
B. รางวัลสำหรับคู่ที่ทำภารกิจได้เกือบเพอร์เฟ็ค สร้างความน่าปลาบปลื้มแก่ผู้อำนวยการโรงเรียน
- Spoiler:
Room 313's Story 'Isara's side'
:Beginning:
'...จึงขอให้นักเรียนทุกคนย้ายเข้าหอพัก ณ ที่ทำการแห่งใหม่...'
"ก่อนโรงเรียนเปิดเทอม 1 สัปดาห์"
เสียงที่ดังขึ้นอย่างประจวบเหมาะขณะที่ผมกำลังนั่งไล่ปลายนิ้วไปกับกระดาษนั้นคือเสียงของจินตุง เพื่อนผมถอนหายใจสั้นๆ ก่อนจะวางกระดาษลงบนโต๊ะ ผมที่ไม่จำเป็นต้องอ่านจนจบเพราะมีคนจบให้แล้วก็วางลงเช่นเดียวกัน
"ก็ยังดีที่มีเวลา"
"อืม ไม่คิดเลยแหะว่าโรงเรียนจะถูกย้ายที่"
"นั่นสินะ..."
เรื่องภายในของโรงเรียนเป็นอย่างไรผมไม่อาจทราบได้เพราะอยู่นอกเหนือขอบเขตที่นักเรียนควรรู้ ถึงผมจะเป็นประธานนักเรียนก็ไม่ได้หมายความว่าจะรู้เรื่องพวกนี้ก่อนใครๆ หรือรู้ลึกรู้จริง
ผมแยกย้ายกับเพื่อนกลับไปที่ห้องพักของตัวเอง ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายสาม ความร้อนของแดดเริ่มจางลง พอคิดว่าจะไม่ได้อยู่ที่ที่เคยอยู่มาเกือบ 5 ปีก็รู้สึกใจหายเหมือนกัน ผมเปิดประตูห้องเข้าไป น้องที่เป็นรูมเมทของผมเก็บข้าวของและย้ายออกไปก่อนหน้านั้นสองสามวันแล้วเพราะสอบเสร็จก่อนพี่มอปลายอย่างผม ของใช้ส่วนตัวของผมมีไม่มาก ตากับยายจะมารับผมกลับต่างจังหวัดเย็นวันนี้ ผมจึงต้องรีบเก็บให้เรียบร้อยก่อนจะออกจากหอ
ตรูดด--
โทรศัพท์มือถือที่อยู่ในกางเกงของผมสั่นไหว ผมกดตอบรับด้วยเสียง
"ใครโทรมาครับ?"
"ฮัลโหล ไอน์ ยายมาถึงแล้วลูก รออยู่ข้างล่าง"
"ครับ ผมเก็บของเสร็จพอดี"
"ให้ยายกับตาขึ้นไปช่วยมั้ย?"
"อ่อ ไม่ต้องครับๆ"
"แน่ใจนะลูก ของถือไหวมั้ย ถ้ายังไง..."
"ของผมไม่เยอะครับยาย นี่เสร็จแล้ว เดี๋ยวผมลงไปนะ"
"จ้ะ"
ยายหนอยาย... จะผ่านไปกี่ปีก็ยังเป็นคุณยายขี้กังวลเหมือนเดิม แกไม่สังเกตบ้างรึไงนะว่าทุกครั้งที่มาเยี่ยมผม ผมก็ตัวโตขึ้นและแข็งแรงขึ้นอยู่นา ถึงตาจะยังมองไม่เห็นเหมือนเดิมก็เถอะ...
ผมเดินแบกกระเป๋าออกมา วันนี้ดูหอพักครึกครื้นกว่าทุกวันเพราะเด็กๆ มอปลายและมอต้นบางส่วนเตรียมขนของออกเพื่อย้ายหอ ผมอมยิ้มกับเสียงที่บ่งบอกถึงความปั่นป่วนภายในหอพักแห่งนี้...คงจะไม่ได้อยู่ที่นี่อีกแล้ว พอคิดให้มันเศร้าผมก็รู้สึกใจหายขึ้นมาจริงๆ แต่โรงเรียนก็ไม่ได้หายไปไหน แค่เพียงย้ายสถานที่เท่านั้น
วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการสอบปลายภาคและเป็นวันสุดท้ายที่จะเปิดภาคเรียน การหยุดระหว่างภาคนั้นช่างแสนสั้น หนึ่งสัปดาห์ก่อนเปิดเรียนนั้นอาจจะเร็วกว่าที่คิดไว้ก็ได้
**3 สัปดาห์ผ่านไป**
ผมขนข้าวของโดยมีคุณตาคุณย้ายมาส่งที่หน้าอาคาร ใจจริงยายก็อยากจะให้ตาขนช่วยขึ้นไปบนห้องที่ผมจองเอาไว้ แต่ผมก็ยืนยันเสียงหนักแน่นว่าผมจะขนขึ้นไปเอง อีกทั้งโรงเรียนก็มีพนักงานที่คอยอำนวยความสะดวกอยู่ ยายจึงยอมใจอ่อนและกอดลาผมกลับต่างจังหวัด จะว่าไปที่นี่ก็เป็นต่างจังหวัดเหมือนกัน เพราะการย้ายโรงเรียนครั้งนี้ได้ย้ายออกมานอกกรุงเทพฯ ตอนนี้ผมจึงยืนอยู่หน้าหอพักอาคารใหม่เลียบชายหาดจังหวัดเพชรบุรี
ของส่วนตัวของผมไม่ได้มีมากมาย แค่ขนรอบเดียวก็น่าจะพอแล้ว แน่นอนว่าห้องๆ นั้นไม่ได้มีผมคนเดียว แต่ผมก็ยังไม่ทราบอีกอยู่ดีว่าใครคือรูมเมทของผม รอบกายผมสัมผัสได้ถึงบรรยากาศของเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่ไม่ได้พบกันเพราะปิดเทอมกำลังส่งเสียงทักทายกัน หยอกล้อกันอย่างสนุกสนาน แต่ผมยังไม่เจอเพื่อนผมซักคนเลยแหะ หรือว่าจะยังไม่มากัน?
ผมปัดความสงสัยก่อนจะสะพายเป้ใบใหญ่บนหลังที่เคยใช้ตอนเข้าค่าย กับกระเป๋าลากใบโตอีกใบ ห้องของผมอยู่ชั้นที่ 3 เพราะเป็นครั้งแรกที่มาเลยไม่คุ้นที่ทางนัก แต่ผมสัมผัสได้ถึงกลิ่นสะอาดๆ แบบ 'ของใหม่' เข้าเต็มๆ แน่นอนว่าเป็นถึงโรงเรียนควิ้นท์ อีกหนึ่งกลิ่นที่ขาดไปไม่ได้เลยคือกลิ่นของ 'ความหรูหรา' ...นั่นไงล่ะ เข้ามาเต็มๆ จมูกผมเลย
โรงเรียนใหม่ค่อนข้างกว้างขวาง สังเกตได้จากการที่เดินไกลมากกว่าจะถึงหอ และเนื่องจากอยู่เลียบชายทะเลจึงทำให้มีลมพัดอยู่ตลอด ผมที่ชอบทะเลเป็นทุนเดิมอยู่แล้วถึงกับหยุดยืนที่ล็อบบี้เพื่อรับเอาลมเย็นๆ ซึ่งพัดเข้ามาปะทะใบหน้า โรงเรียนแห่งเดิมถึงจะกว้างขวางยังไงก็ยังอยู่ในเมือง ไม่มีธรรมชาติมากมายอย่างที่นี่ ถ้าให้พูดถึงลมเย็นๆ และเสียงคลื่นเช่นนี้แล้วก็ยิ่งไม่มี ผมจึงยืนอย่างนั้นอยู่นานก่อนจะเคลื่อนย้ายตัวเองไปตามทางเดินชั้น 3 ของอาคารหอพัก
ข้างล่างอาคารยังคงพอมีเสียงดังให้รู้ว่าเด็กหอทุกคนทยอยมากันมากแล้ว แต่ชั้น 3 ที่ผมกำลังเดินหาห้องนี้ช่างเงียบสงัดยิ่งนัก แทบไม่มีคนเดินผ่านเลยเสียด้วยซ้ำ ผมยิ้มกริ่มในใจเบาๆ ว่าตนช่างเลือกจองห้องได้เงียบสงบจริงๆ เพราะโดยปกติผมก็ไม่ได้ชอบห้องที่มีคนเดินผ่านไปมามากนัก
"อ๊ะ..."
ผมได้ยินเสียงเด็กผู้ชายคนหนึ่งลอยออกมาจากตำแหน่งที่ผมจะต้องหยุด
"พี่อิสราสินะครับ"
"ครับผม"
"ผมมาร์แชลนะครับ"
"พี่จำได้"
เสียงเด็กผู้ชายคนนั้นคือมาร์ชนี่เอง ผมพอจะจำได้เพราะเคยไปเที่ยวด้วยกันตั้งสามวันสองคืน แต่หลังๆ มานี้ก็ไม่ค่อยได้เจอหน้าน้องเท่าไหร่ แต่วันนี้ที่ได้เจอก็ยินดีมาก หรือว่ามาร์ชก็จองห้องชั้น 3 ที่เงียบสงบเหมือนกันนะ?
"มาขนของเข้าห้องเหมือนกันเหรอ?" ผมถามพลางส่งยิ้ม
"ครับๆ พี่อิสราอยู่ห้องไหนครับ"
"พี่จองห้อง 313"
"โอ้ ห้องเดียวกับผมเลย!"
เสียงแสดงความยินดีแบบเด็กๆ ของมาร์แชลดังขึ้น ส่วนผมก็ตกใจเล็กน้อย และค่อนข้างจะตื่นเต้น เพราะที่ผ่านมาผมอยู่กับรูมเมทที่เป็นผู้หญิงมาโดยตลอด ถึงจะสนิทแค่ไหนก็ต้องมีความเกรงใจต่อกันบ้างด้วยฐานะที่มีเพศต่างกัน แต่นี่ได้น้องผู้ชาย... บวกกับความยียวนของมาร์แชลที่ผมรับรู้ได้จากตอนไปเที่ยวด้วยกัน ก็คิดว่าปีกว่าๆ จากนี้ไปคงจะสนุกไม่น้อย
"ฮ่าๆ นี่เราเป็นเมทกันเหรอเนี่ย"
"โอ้โห ฝากตัวด้วยนะครับพี่อิสรา"
"ได้เลยครับ"
ดูเหมือนมาร์แชลจะเป็นคนอารมณ์ดีมากๆ เคยฟังจากผอ.มานิดหน่อยว่าน้องมีปัญหากับอาหารและเรื่องของรอยแผลบนใบหน้า แต่ดูเด็กคนนี้จะเป็นมองอะไรในแง่บวกและมีอารมณ์ขันอยู่ไม่น้อย ถ้านั้นคือตัวตนของเขาจริงๆ ไม่ใช่เพราะต้องแสร้งทำเพื่อให้เขากับคนอื่นๆ ได้ ผมก็คิดว่าเขาเป็นคนที่น่าคบหาคนนึงเลยล่ะ
"ว้าว ห้องกว้างมากเลยครับพี่อิสรา"
"นั่นสิ พี่ขอเดินจำที่ทางหน่อยนะ"
ผมรู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในที่เวิ้งว้างจนต้องหยุดยืนหน้าประตูซักพัก ก่อนจะวางกระเป๋าไว้ชิดผนังใกล้กับประตูเข้าห้อง น้องมาร์ชก็ใส่ใจผมเป็นอย่างดีด้วยการถามผมว่าควรจะเอาของไปวางไว้ตรงไหนถึงจะไม่รบกวนการเดินรอบๆ ห้องของผม ซึ่งผมก็บอกว่าไม่เป็นไร ไม้เท้าที่ผมมีช่วยได้เยอะอยู่
ห้องที่พวกเราอยู่ได้ยินเสียงทะเลชัดเจนและได้รับลมเต็มๆ ผมเปิดประตูระเบียงออกไปเพื่อรับเอาอากาศอันบริสุทธิ์ในยามเย็น ซักพักเสียงตุบตับของฝีเท้ารูมเมทคนใหม่ของผมก็ดังขึ้นที่ด้านข้างและหยุดลง
"วิวสวยมากเลยครับ"
"คงจะสวยจริงๆ เสียทีพี่มองไม่เห็น"
"นั่นสิครับๆ น่าเสียดาย"
ผมอมยิ้มเล็กน้อย ดีจริงๆ ที่รูมเมทคนใหม่ไม่ได้แสดงท่าทีสงสารหรือเวทนาผม น้องยังคงทำตัวสบายๆ ติดออกจะขี้แกล้งหน่อยๆ เสียด้วยซ้ำ ผมกับน้องมาร์ชคุยกันเรื่อยเปื่อยไม่ยอมจัดของในห้องจนตะวันลับทะเลไป เพราะทั้งผมและมาร์ชก็ของไม่ได้เยอะทั้งคู่
“พี่อิสราครับ มีเตียง 2 เตียง พี่จะนอนเตียงไหนครับ เตียงข้างในหรือข้างนอก”
“อืม พี่เอา...”
กำลังจะตัดสินใจบอกหลังจากคิดอยู่ 2 วินาที เสียงของน้องมาร์ชก็ดังแทรกขึ้นเสียก่อน
“เดี๋ยวครับพี่ มาร์ชมีเกมมาให้พี่เล่น เรามาเป่ายิ้งฉุบเลือกเตียงดีกว่า ใครชนะได้เลือกเตียงก่อน ดีไหมครับ"
ผมฟังแล้วผงะเล็กน้อยแต่ก็ยังใจดีสู้เสือ ยิ้มแบบแห้งๆ พร้อมกับถามไป
"แต่พี่มองไม่เห็นนะ พี่จะรู้ได้ไงใครชนะหรือแพ้"
"มาร์ชไม่โกงหรอกพี่ มาๆๆ เป่ายิ้งฉุบกัน"
เสียงของน้องรูมเมทคนใหม่ของผมกระตือรือล้นจนผมต้องพยักหน้าหงึกหงักพลางยิ้มแบบงงๆ เล็กน้อยที่มุมปาก จะโดนเล่นงานอะไรมั้ยเนี่ย ผมยกมือที่กำไว้ขึ้นเตรียมและเป็นสัญญาณให้รู้ว่าพร้อมแล้ว ไม่นานน้องมาร์ชก็เป็นคนเริ่มนับ
"เป่า..."
"ยิ้ง..."
"ฉุบ..."
"ใครชนะเหรอมาร์ช?"
ทันทีที่ผมแบมือ เป็นจังหวะเดียวกับที่เสียงของน้องมาร์ชหายไป น้องเดินไปไวมากและเงียบมากจนผมคิดจะเดินตามเข้าไป ผมเริ่มใจไม่ดีเพราะจู่ๆ คนที่พูดจนตะวันตกดินกลับเดินหายไปแล้วไม่พูดไม่ส่งเสียงอะไร รอยยิ้มที่มุมปากผมจางหายไปก่อนจะเกิดความกังวล ผมทำอะไรไม่ถูกไปรึเปล่า...? มือผมรวบเอาไม้เท้าแล้วรีบจำอ้าวกลับเข้าไปในห้องพร้อมส่งเสียงเรียกน้อง
"มาร์ช?"
"..."
ยังไม่มีเสียงตอบกลับ และเสียงฝีเท้าก็เงียบไปแล้ว แต่สักพักกลิ่นหอมๆ เหมือนกลิ่นของขนมซักอย่างก็ลอยเข้ามาใกล้จมูกจนผมต้องอุทาน
"กลิ่นอะไรน่ะ?"
"เค้กกล้วยหอมครับพี่ ผมให้พี่เป็นขนมต้อนรับรูมเมท ฝากตัวด้วยนะครับ!"
ถ้าผมไม่ได้คิดไปเอง ผมรับรู้ได้ถึงความยินดีที่ออกมาจากเด็กผู้ชายคนนี้ จนผมถึงยิ้มออกมากว้างๆ ลึกๆ ก็รู้สึกเขินเพราะไม่ค่อยมีคนให้ของต้อนรับแบบนี้มานานแล้ว ส่วนผมเองก็ลืมนึกถึงของที่จะให้รูมเมทในวันนี้ไปเสียสนิท น่าอายจริงๆ เลย งั้นเลี้ยงข้าวมื้อเย็นแทนละกัน
"ว้าว...ขอบคุณครับ พี่ไม่มีของมาต้อนรับเลย งั้นเดี๋ยวพี่เลี้ยงข้าวมาร์ชแทนนะ"
"เอาจริงดิ... ได้เลยครับพี่!"
"ว่าแต่เรื่องเตียง..."
"อ๋อใช่ พี่อิสราอยากได้เตียงไหนครับ"
นึกว่าจะลืมเรื่องนี้ซะแล้ว...
"พี่ขอเตียงนอกแล้วกัน เข้าออกง่ายไม่ลาบาก"
"ได้ครับพี่ งั้นมาร์ชนอนเตียงด้านในนะ"
หลังจากตกลงกันเรียบร้อยแล้ว ผมกับน้องก็ลงไปหาข้าวทานกันเพราะค่ำมากแล้ว กว่าครึ่งนึงของการพูดคุยระหว่างมื้ออาหารคือมาร์ชอยากเลี้ยงจิ้งจกนี่แหละ ถึงผมจะใจดียังไงก็เหอะ แต่ผมไม่ชอบอึมันสุดๆ เลยล่ะ อยากให้น้องลองดมมันดูซักครั้งจริงๆ จนจะขึ้นห้อง มาร์ชก็ยังไม่เลิกพูด
“ขอเลี้ยงจิ้งจกได้มั้ยครับ”
“ไม่”
ผมปฏิเสธทันที คาดว่าชีวิตในหอใหม่ของผมต้องมีเรื่องไม่ตั้งใจจะวุ่นวายเยอะขึ้นแน่ๆ กับรูมเมทคนนี้ แต่ผมก็ยิ้มกับตัวเองว่าอาจจะสนุกกว่าที่คิดไว้กับเวลาปีกว่าๆ ที่เหลือในฐานะนักเรียนของที่นี่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเรื่องจิ้งจกผมปฏิเสธเด็ดขาด
ขอเรื่องนี้เรื่องเดียวนะครับน้องมาร์ช
B. รางวัลสำหรับคู่ที่ทำภารกิจได้เกือบเพอร์เฟ็ค สร้างความน่าปลาบปลื้มแก่ผู้อำนวยการโรงเรียน
- GRAND PENTAGON STAMP
[ ROOMMATE & SPECIAL QUEST ONLY ]
ตราประทับระดับสูงมากในหมวดภารกิจรูมเมทและภารกิจพิเศษ มีลักษณะเป็นห้าเหลี่ยม
เทอร์ควอยซ์ผสมทองคำแท้ มีมูลค่า +150 Grade Exp. จะได้รับเมื่อปฎิบัติภารกิจได้
สุดยอดเป็นที่น่าปลาบปลื้มแก่ผู้อำนวยการโรงเรียน- +2,000,000 Spirit Point
ไอเทมเพิ่มแต้มสะสม Spirit Point ตามปริมาณที่กำหนด ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการ
แลกเปลี่ยนเป็น CHIPS ได้ในภายหลัง
- Narin's Comment:
- ชอบการร่วมมือกันระหว่างคุณอิสราและมาร์ช ที่ทำให้ได้
ผลงานชิ้นนี้ออกมา ชอบในหลายๆจุดที่ใช้การอธิบายแทน
การเขียนบอกด้วยคำพูดสนทนา แล้วก็ตรงจุดพัฒนาการ
ของอิสราก็ใส่ใจรายละเอียดได้ดีครับ เช่นเรื่องที่เขาโตแล้ว
จึงไม่ให้คุณตาคุณยายช่วยแบกของ หรือต้องการความเป็น
ส่วนตัวมากขึ้น
- ผู้มาเยือนผู้มาเยือน
Re: ROOMMATE 4 : การเริ่มต้น
Wed 27 Jan 2016, 21:30
มาส่งภารกิจรูมเมทครับ
B. รางวัลสำหรับคู่ที่ทำภารกิจได้เกือบเพอร์เฟ็ค สร้างความน่าปลาบปลื้มแก่ผู้อำนวยการโรงเรียน
- Spoiler:
ผมเดินเข้าห้องเรียนและนั่งลงที่โต๊ะเรียนของผมเหมือนทุกวัน แต่ต่างกันที่วันนี้บรรยากาศในห้องดูตื่นเต้นมากกว่าเดิม
ผมรีบวิ่งเข้าไปหาเพื่อนในห้องที่กำลังคุยกันถึงเรื่องสำคัญอย่างหนึ่งเกี่ยวกับกระดาษที่แปะอยู่บนบอร์ดข้างหลังห้อง
ผมถามปักษ์ที่กำลังถือกระดาษแผ่นนั้นอยู่
"มีอะไรกันเหรอปักษ์"
"มาร์ชรู้รึยัง โรงเรียนนี้กำลังจะปิดแล้วนะ"
"พูดจริงๆสิ ล้อเล่นแบบนี้ใครจะเชื่อ"
"จริงๆ"
"เฮ้ยจริงเหรอ ทำไมถึงปิดล่ะ"
"ไม่รู้เหมือนกัน ห้องปกครองเอาใบนี้มาให้นักเรียนกับครูทุกคนเลย"
"แล้วจะทำยังไงดี มาร์ชไม่อยากไปไหนเลย มาร์ชชอบโรงเรียนนี้"
"ไม่ๆๆ มาร์ช โรงเรียนที่นี่จะปิด แต่จะให้ย้ายไปโรงเรียนที่สร้างใหม่เป็นโรงเรียนเดิม แค่ย้ายที่ใหม่เฉยๆ"
"โรงเรียนสร้างใหม่เหรอ? ตกใจหมดเลย ปักษ์ก็ไม่บอกแต่แรก"
หลังจากผมรู้เรื่องจากปักษ์ วันนั้นครูประจำชั้นก็บอกกับนักเรียนทุกคนในห้องเรื่องนี้อีกครั้ง แปลว่าหลังสอบปลายภาค
วันนี้เสร็จ ผมจะต้องไปเก็บของที่ห้องตัวเองเตรียมย้ายไปที่ใหม่ หลังจากวันนี้ไปโรงเรียนจะปิดเทอมชั่วคราวให้นักเรียน
ไปเจอกันที่โรงเรียนใหม่ก่อนเปิดเทอม 1 อาทิตย์
ผมกลับไปที่ห้องเพื่อเก็บของใช้ส่วนตัวที่มีไม่เยอะมาก แล้วก็โทรศัพท์หาพ่อกับแม่เล่าเรื่องย้ายโรงเรียนให้ฟัง
แล้วก็ให้พ่อกับแม่มารับผมเย็นนี้ หลังจากผมโทรศัพท์เสร็จ ผมก็มองดูห้องรอบๆอีกครั้งแล้วก็พูดคนเดียวว่า
"บ๊ายบายนะจิ้งจกทุกตัว ขอบคุณที่อยู่เป็นเพื่อนมาร์ชแทนรูมเมท แต่วันนี้มาร์ชต้องไปแล้ว....."
จริงๆแล้วทุกคนจะมีรูมเมทอาศัยอยู่ในห้องด้วยกัน แต่ผมไม่เคยมีรูมเมทเลยสักคนตลอด 2 ปีที่ผ่านมาเพราะอะไร
ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ทำให้ผมรู้สึกเหงาทุกครั้งเวลากลับมาที่ห้อง จนมีจิ้งจกตัวหนึ่งเข้ามาส่งเสียงให้ผมหายเหงา
เหมือนกับอยู่เป็นเพื่อนผม ทำให้หลังจากนั้นผมชอบเลี้ยงจิ้งจกเลยหล่ะ
"ย้ายโรงเรียนคราวนี้ ขอให้ลูกมีรูมเมทด้วยนะครับ เพี้ยงๆๆๆ......."
ผมยกมือไหว้ขอพรกับจิ้งจกในห้องตัวหนึ่ง แล้วก็เดินออกจากห้องไปรอพ่อกับแม่ข้างล่าง
ระหว่างที่ผมกำลังขนของมานั่งรอพ่อกับแม่มารับ ผมเห็นทุกๆคนก็กำลังทำแบบเดียวกับผม บางคนกำลังตื่นเต้น
ที่จะได้ไปโรงเรียนใหม่ บางคนก็เศร้าที่จะต้องย้ายโรงเรียน คนที่เศร้าส่วนมากจะเป็นพี่ ม.ปลาย ทั้งนั้น
เพราะพี่เขาอยู่กับโรงเรียนนี้มานานมากๆเลยผูกพันกว่าใคร
** 3 สัปดาห์ผ่านไป **
พ่อกับแม่ผมมาส่งถึงที่โรงเรียนใหม่ ตลอดทางพ่อกับแม่บ่นพร้อมกันว่าทำไมโรงเรียนใหม่อยู่ไกลจังเลย
ผมก็เห็นด้วยกับพ่อแม่นะ ทำไมถึงย้ายมาไกลจังเลยนะ
แต่พอมาถึงที่โรงเรียนจริงๆ พ่อแม่กับผมก็รู้แล้วว่าทำไมถึงต้องย้ายมาที่นี่ เพราะมันกว้างมากๆและเงียบสงบ
แถมยังมีลมเย็นๆเหมือนได้อยู่ใกล้ธรรมชาติ ไม่เหมือนโรงเรียนเก่าที่อยู่ในเมืองที่เสียงดัง
พ่อแม่กับผมชอบโรงเรียนใหม่มากๆครับ ผมตื่นเต้นมากๆรีบให้พ่อกับแม่พาไปที่ชายหาดก่อนเป็นที่แรกเลย
ระหว่างทางไปชายหาดก็ผ่านตึกหลายตึกมากๆ พ่อแม่ผมตื่นเต้นแล้วพยายามแวะไปดูตึกทุกตึกก่อน
แล้วบอกกับผมว่า
"ขอพ่อกับแม่ดูรอบๆโรงเรียนก่อนนะลูก จะได้ไม่ต้องไปๆมาๆ"
"ก็ได้ครับ......"
ระหว่างเดินดูรอบโรงเรียน พ่อแม่พาผมไปซื้อเครื่องดื่มที่ร้าน La Pastel คาเฟ่ของโรงเรียน
ผมเลยซื้อเค้กกล้วยหอมมา 1 ชิ้น เพื่อจะให้รูมเมทของผมเป็นของขวัญต้อนรับสักหน่อย
เพราะผมไม่รู้ว่ารูมเมทผมจะเป็นใคร อาจเป็นคนที่ไม่เคยเจอกันมาก่อนก็ได้
เค้กกล้วยหอมชิ้นนี้จะช่วยให้ความสัมพันธ์ของเราสองคนคืบหน้าขึ้น
พอพ่อกับแม่ผมเดินดูรอบโรงเรียนครบทุกตึก ก็พาผมมาที่ตึกหอพักที่อยู่ใกล้ชายหาด
ผมทิ้งพ่อกับแม่แล้วรีบวิ่งไปที่ชายหาดก่อนเลย เพราะผมรู้สึกคิดถึงวันที่เคยไปเที่ยวกับพี่ๆช่วงปิดเทอมปีที่แล้ว
เพราะเราก็มาทะเลกันแล้วก็ไม่ไกลจากที่นี่ด้วย
หลังจากผมสูดอากาศตากลมที่ชายหาดเสร็จ พ่อแม่ก็พามาจองห้องพักที่ประชาสัมพันธ์ข้างล่างหอพัก
พนักงานประชาสัมพันธ์ถามผมว่า
"ห้องพักของนักเรียนจะมีแบบเดียวนะคะคือห้องนิทรา ไม่ทราบว่าจะเลือกวิวสวนหรือวิวทะเลดีคะ?"
"วิวทะเลครับพี่"
"ชั้นไหนดีคะ? มีชั้น 2 ถึงชั้น 7"
"เอาชั้น 3 ดีกว่าครับ"
"เลือกห้องพักได้เลยค่ะ"
"อืม.....ขอห้อง 313 ครับพี่"
พอจองห้องพักเสร็จ พ่อกับแม่ก็พาผมไปเดินซื้อของที่ Walking Street ใต้หอพักเพื่อซื้อของใช้ส่วนตัวใหม่
อย่างเช่น แปรงสีฟัน , ยาสีฟัน , เสื้อผ้าและอื่นๆ หลังจากซื้อของเสร็จ พ่อกับแม่ผมจะไปส่งผมถึงบนห้อง
"ไปกันยัง พ่อแม่จะไปส่งที่ห้อง จะไปดูห้องลูกด้วยว่าเป็นยังไง"
"ไม่เอาๆๆ พ่อกับแม่กลับเถอะครับ มาร์ชไม่อยากรบกวนรูมเมทมาร์ช"
"แต่พ่อกับแม่อยากเห็นห้องลูกนะว่าเป็นยังไง อยู่ได้รึเปล่า"
"เดี๋ยวมาร์ชถ่ายรูปส่งไปให้ในเฟสบุคนะครับ นะๆๆ"
"ก็ได้ ไปถูกแน่นะลูก"
"แน่ครับๆ มาร์ชมีแผนที่ที่ได้จากพี่ประชาสัมพันธ์แล้วครับ"
"งั้นพ่อกับแม่กลับก่อนนะ ดูแลตัวเองดีๆนะลูก"
"ครับๆ ขอบคุณครับ บ๊ายบายครับพ่อ บ๊ายบายครับแม่"
หลังจากผมลาพ่อกับแม่เสร็จ ผมก็ขึ้นลิฟท์ไปชั้น 3 ห้องพักของผม
พอผมออกจากลิฟท์แล้วกำลังเดินมาที่ห้อง ผมเห็นผู้ชายคนหนึ่งที่ผมคุ้นหน้าคุ้นตามากๆ
"อ๊ะ"
ผมส่งเสียงให้ผู้ชายข้างหน้าผมรู้สึกตัว
"พี่อิสราสินะครับ"
"ครับผม"
"ผมมาร์แชลนะครับ...."
"พี่จำได้"
ผมยังพูดไม่ทันจบ พี่อิสราก็ตอบผมกลับมาทันทีว่าจำเสียงผมได้ ทั้งๆที่ผมกำลังจะถามอยู่พอดีเลย
ว่าจำเสียงได้ไหมว่าผมเป็นใคร เพราะหลังจากไปเที่ยวด้วยกันช่วงปิดเทอมปีที่แล้ว
ผมกับพี่อิสราก็ไม่ค่อยได้เจอหน้ากันเท่าไรเลย
พี่อิสราก็ถามผมต่อทันทีว่า.....
"มาขนของเข้าห้องเหมือนกันเหรอ?"
"ครับๆ พี่อิสราอยู่ห้องไหนครับ"
"พี่จองห้อง 313"
"โอ้ ห้องเดียวกับผมเลย!"
เมื่อผมรู้ว่าผมมีรูมเมทกับเขาแล้ว แถมได้อยู่ห้องเดียวกับพี่อิสรา ผมก็เก็บความดีใจไม่อยู่
เพราะที่ผ่านมาผมต้องอยู่คนเดียว มีแค่จิ้งจกที่เป็นเพื่อนแก้เหงา แต่ดูท่าทางแล้วผมคิดว่า
พี่อิสราก็น่าจะดีใจเหมือนกันที่ได้อยู่ห้องเดียวกับผม พี่อิสราพูดกับผมด้วยเสียงหัวเราะว่า
"ฮ่าๆ นี่เราเป็นเมทกันเหรอเนี่ย"
"โอ้โห ฝากตัวด้วยนะครับพี่อิสรา"
"ได้เลยครับ"
ผมรู้สึกดีใจที่มีรูมเมท แต่จริงๆผมก็เกร็งนิดหน่อย เพราะว่ารูมเมทผมเป็นประธานนักเรียนที่ค่อนข้างมีระเบียบ
และเอาจริงเอาจัง ต่างกับผมที่ชอบขี้เล่นและกวนๆ ผมกังวลนิดหน่อยว่าเราสองคนจะเข้ากันได้รึเปล่านะ
แต่พอผมเปิดประตูห้องไปผมก็เลิกกังวลแล้วตกใจกับห้องพักของพวกเราแทน
"ว้าว ห้องกว้างมากเลยครับพี่อิสรา"
"นั่นสิ พี่ขอเดินจำที่ทางหน่อยนะ"
ผมสงสัยทันทีว่าพี่อิสรารู้ได้ยังไงว่าห้องกว้าง พี่เขาตาบอดจริงรึเปล่านะ เป็นสิ่งที่ผมคิดแล้วก็ตลกในใจ
ทั้งที่ผมก็รู้ว่าพี่อิสราเขาตาบอดจริงๆ ทำให้ผมถามพี่อิสราทันทีที่พี่อิสราเดินรอบๆห้องว่า
"พี่อิสราครับ มาร์ชจะวางของไว้ตรงไหนดีครับ มาร์ชกลัวพี่สะดุดหรือชนตอนพี่เดินรอบๆห้อง"
"ไม่เป็นไร พี่มีไม้เท้า"
"งั้นมาร์ชวางไว้ตรงมุมนี้นะครับจะได้ไม่เกะกะพี่ เราค่อยมาจัดกันอีกที"
"ได้ครับ"
พี่อิสราเดินสำรวจรอบๆห้องสักพักเพื่อให้คุ้นสถานที่ จนพี่อิสราเปิดประตูจะออกไปนอกระเบียง
ผมก็รีบวิ่งมาดูพี่อิสราทันที เพราะกลัวว่าพี่เขาจะเผื่อเดินสะดุดตกตึกไป แต่พอพี่เขาหยุดเพื่อสูดลมจากระเบียง
ผมเลยบอกพี่อิสราว่า
"วิวสวยมากเลยครับ"
"คงจะสวยจริงๆ เสียที่พี่มองไม่เห็น"
"นั่นสิครับ ๆ น่าเสียดาย"
ผมเผลอพูดสิ่งที่ผมเห็นไป จนลืมคิดถึงรุ่นพี่ที่ยืนข้างๆผมที่เขาไม่สามารถมองเห็นได้
ผมกลัวว่ามันอาจจะดูเหมือนเยาะเย้ยการมองเห็นพี่เขา ผมเลยเปลี่ยนเรื่องทันที
"พี่อิสราครับ มีเตียง 2 เตียง พี่จะนอนเตียงไหนครับ เตียงข้างในหรือข้างนอก"
"อืม พี่เอา....."
พี่อิสราพูดยังไม่ทันจบ ผมขัดพี่เขาก่อนว่า
"เดี๋ยวครับพี่ มาร์ชมีเกมมาให้พี่เล่น เรามาเป่ายิ้งฉุบเลือกเตียงดีกว่า ใครชนะได้เลือกเตียงก่อน ดีไหมครับ"
"แต่พี่มองไม่เห็นนะ พี่จะรู้ได้ไงใครชนะหรือแพ้"
"มาร์ชไม่โกงหรอกพี่ มาๆๆเป่ายิ้งฉุบกัน"
"เป่า..."
"ยิ้ง..."
"ฉุบ..."
"ใครชนะเหรอมาร์ช?"
"..."
"มาร์ช?"
"..."
"กลิ่นอะไรน่ะ?"
ผมยื่นเค้กกล้วยหอมไปใกล้ๆจมูกของพี่อิสรา พร้อมพูดว่า
"เค้กกล้วยหอมครับพี่ ผมให้พี่เป็นขนมต้อนรับรูมเมท ฝากตัวด้วยนะครับ!"
"จริงเหรอ พี่ไม่มีของมาต้อนรับเลย งั้นเดี๋ยวพี่เลี้ยงข้าวมาร์ชแทนนะ"
"เอาจริงดิ... ได้เลยครับพี่!"
"ว่าแต่เรื่องเตียง..."
"อ๋อใช่ พี่อิสราอยากได้เตียงไหนครับ"
"พี่ขอเตียงนอกแล้วกัน เข้าออกง่ายไม่ลำบาก"
"ได้ครับพี่ งั้นมาร์ชนอนเตียงด้านในนะ"
หลังจากเลือกเตียงกันเสร็จเรียบร้อย ผมกับพี่อิสราก็จะลงไปทานข้าวกัน ระหว่างนั้นเราสองคนคุยกันเรื่องต่างๆ
ผมเล่าให้พี่อิสราฟังเรื่องที่ผมเลี้ยงจิ้งจกที่ห้องเก่า พี่อิสราทำท่าทางเหมือนตกใจและระแวงว่าผมจะเอามาเลี้ยงที่ห้องนี้ไหม
ผมเห็นหน้าพี่อิสรากำลังผวา ผมเลยแกล้งพี่เขาเล่นด้วยการพูดว่า
"ขอเลี้ยงจิ้งจกได้มั้ยครับ..."
"ไม่"
พี่อิสราตอบมาด้วยเสียงเด็ดขาด ผมหัวเราะแล้วก็ตลกในท่าทางของพี่เขามากๆ ที่จริงผมไม่ได้คิดจะเอามาเลี้ยงหรอก
เพียงแต่อยากแกล้งพี่อิสรามากกว่า เพราะเวลาพี่เขาทำหน้าตกใจแล้วน่ารักดี
หลังจากนั้นเราสองคนก็ลงไปกินข้าวด้วยกัน และแลกเปลี่ยนกันเล่าเรื่องราวของตัวเองเพื่อให้รู้จักกันมากขึ้น
ทำให้ผมคิดว่าหลังจากนี้ผมคงได้พี่อิสราเป็นทั้งรุ่นพี่ที่คอยให้คำปรึกษา เป็นทั้งเพื่อนที่คอยดูแลกันและกัน
หลายๆคนอาจรู้สึกเศร้าที่โรงเรียนเก่าปิดไปแล้วย้ายมาที่ใหม่ แต่ผมกลับรู้สึกดีใจและโชคดีมากๆ
เพราะทำให้ผมได้มีรูมเมทและรู้จักกับรุ่นพี่คนนี้ครับ
B. รางวัลสำหรับคู่ที่ทำภารกิจได้เกือบเพอร์เฟ็ค สร้างความน่าปลาบปลื้มแก่ผู้อำนวยการโรงเรียน
- GRAND PENTAGON STAMP
[ ROOMMATE & SPECIAL QUEST ONLY ]
ตราประทับระดับสูงมากในหมวดภารกิจรูมเมทและภารกิจพิเศษ มีลักษณะเป็นห้าเหลี่ยม
เทอร์ควอยซ์ผสมทองคำแท้ มีมูลค่า +150 Grade Exp. จะได้รับเมื่อปฎิบัติภารกิจได้
สุดยอดเป็นที่น่าปลาบปลื้มแก่ผู้อำนวยการโรงเรียน- +2,000,000 Spirit Point
ไอเทมเพิ่มแต้มสะสม Spirit Point ตามปริมาณที่กำหนด ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการ
แลกเปลี่ยนเป็น CHIPS ได้ในภายหลัง
- Narin's Comment:
- รู้สึกว่าภารกิจนี้น่าจะเป็นภารกิจแรกที่ได้อ่านบทความยาวๆ
จากมาร์ช ซึ่งก็เริ่มต้นได้ดีเลยครับ ชอบหลายๆส่วนที่ประสาน
งานกับคุณอิสรา ให้คนนึงเป็นคนพูด แต่อีกคนเป็นคนบรรยาย
บรรยากาศ เก็บรายละเอียดเล็กๆน้อยๆพวกนี้ได้ดีมาก
สิ่งที่อยากให้พัฒนาครั้งหน้าคือการหาวิธีการเขียนของตัวเอง
เพราะครั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นภาษาหรือวิธีการจัดวางบรรทัดล้วน
คล้ายคลึงกับวิธีการเขียนของคุณอิสรา ครั้งหน้าลองจัดบรรทัด
ตามที่ใจชอบดูนะครับ (แต่ถ้าชอบแบบนี้แล้วก็โอเคนะ
มันอ่านง่าย ไม่ได้มีปัญหาอะไร)
- ผู้มาเยือนผู้มาเยือน
Re: ROOMMATE 4 : การเริ่มต้น
Wed 27 Jan 2016, 22:14
ภารกิจเปิดตัวสัตว์เลี้ยงใหม่ของเดียร์!!!
<-----พี่แคลกลัวจนงอนแล้ว
D. รางวัลสำหรับคู่ที่ทำภารกิจได้ปานกลาง 65% สร้างความประทับใจแก่ผู้อำนวยการโรงเรียน
<-----พี่แคลกลัวจนงอนแล้ว
- Spoiler:
ช่วงปิดเทอมของเดียร์ก็เป็นอะไรที่แสนจะน่าเบื่อเพราะเป็นเรื่องธรรมดาที่จะไปไหนไม่ได้ก็เป็นเพราะ เดียร์จะต้องเข้ารักษาอาการโรคหอบขั้นรุนแรงของเดียร์ให้บรรเทาลง ด้วยการออกกำลังกาย แต่ออกได้ไม่เท่าไหร่เธอก็ต้องพักเพราะร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงจึงทำให้ทุกๆปิดเทอมเป็นอะไรที่สุดแสนจะน่าเบื่อสำหรับเดียร์และแน่นอนว่าเดียร์ก็ต้องนับวันรอวันเปิดเทอมอย่างแน่นอน และแล้วอยู่ๆวันหนึ่งก็มีข้อความที่มาจากผอ.นรินทร์ที่ได้ใจความว่า
"ขณะนี้โรงเรียนของเราได้ถูกเวนคืนที่ดิน ดังนั้นจึงต้องทำการย้ายโรงเรียน" เดียร์จึงได้รู้ว่าโรงเรียนในตอนนี้มีอะไรหลากๆอย่างที่เปลี่ยนแปลงไปมากมายแต่ก็ยังมีอีกหลายๆอย่างที่เดียร์ไม่รู้และกำลังจะเกิดขึ้นหลังจากที่เดียร์ขึ้นม.2
7วันก่อนเปิดเทอม
เอี๊ยด!!!เสียงรถคันหนึ่งจอดลงที่หน้าโรงเรียนสำหรับผู้พิการ ควิ้นท์
"พ่อกับแม่ส่งแค่นี้นะลูก เดินเข้าไปเองได้นะ"
"ค่ะ"
และเมื่อเดียร์ลงมาจากรถ เดียร์ก็สัมผัสได้ถึงธรรมชาติที่อยู่รายล้อม โรงเรียนใหม่แห่งนี้ และเธอรักก็ในธรรมชาติเป็นที่สุดซะด้วย
เดียร์เดินเข้าไปในโรงเรียนโดยผ่านป้อมยามเข้าไปพร้อมกับแผนผังโรงเรียนที่อยู่ในมือ แต่เพราะว่าการที่เดียร์นั่งรถมาเกือบ3ชั่วโมงบวกกับอากาศที่ค่อนข้างร้อน และโรงเรียนที่ใหญ่มาก ทำให้เดียร์ที่ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงอยู่แล้ว รู้สึกเหนื่อยล้า แล้วอยู่ๆเธอก็วูบลงไปกับพื้น และเมื่อเธอตื่นขึ้นเธอก็พบว่าเธอมาอยู่ในห้องๆนึงที่คาดว่าน่าจะเป็นห้องพยาบาล และมีพี่ผู้หญิงคล้ายพยาบาลคนนึงยืนอยู่แถวๆนั้น
"ตื่นแล้วหรอจ๊ะ พี่คนนึงเขาเห็นเราเป็นลมอยู่ตรงแถวๆป้อมยามน่ะ เลยพามาส่งที่นี่ ดีขึ้นรึยังจ๊ะ ถ้าดีขึ้นแล้วก็ไปเก็บของที่ห้องเถอะจ๊ะ กระเป๋าเราอยู่ทางนี้นะ
"เอ่อออ หนูยังไม่รู้เลยค่ะว่า อาคารหอพักอยู่ตรงไหน แหะๆ"
"หอพักจะอยู่ตรงสวนสาธารณะจ๊ะ ส่วนห้องกับรูมเมทเรารู้แล้วเนอะว่าห้องอะไรกับเป็นเมทใคร"
"เอ่อออ แล้วพี่ชื่ออะไรหรอคะ"
"พี่ชื่อแคลจ๊ะ อยู่ม.5 พี่อาสามาช่วยดูแลน้องเองแหละจ๊ะ จะว่าไปน้องรู้จักคนที่ชื่อ เดียร์ ไหมจ๊ะ พี่หาเมทพี่ไม่เจอ555"
"หนูนี่แหละค่ะ เดียร์"
"ก็ถึงว่ารอตั้งแต่เช้าทำไมไม่เห็น มีคนติดต่อมา งั้นเราไปที่ห้องพร้อมกันเลยดีกว่าพี่จะได้ช่วยเก็บของให้"
"ค่ะ ขอบคุณค่ะ"
เรื่องราวหลังจากนั้น
"เอาล่ะทีนี้ เรามาเลือกที่นอนกันใครจะนอนเตียงไหนจ๊ะ"
"เดียร์เป็นคนนอนดิ้นอ่ะค่ะ แหะๆ"
"งั้นเดี๋ยวเดียร์นอนเตียงที่ติดผนังล่ะกันนะ จะได้ไม่ตกเตียง"
"ค่ะ ขอบคุณค่าาาาา"
"เอ่ออออ แล้วนั้นกล่องอะไรจ๊ะ"
"อ้อ แลงก้าน่ะค่ะ"
"แลงก้า?"
"น้องจิ้งจกของเดียร์เองค่ะ พี่แคลไม่ชอบหรอคะ?"
"เอ่อออ เดียร์พี่กลัว~~~"
"อ่าวหรอคะ ขอโทษจริงๆค่ะ เดียร์จะเลี้ยงไว้ไกลๆพี่แคลล่ะกันนะคะ"
"จ๊ะๆ แล้วเดียร์ชอบเล่นเปียโนไหมเอย พี่น่ะชอบที่สุดเลย"
"เดียร์ชอบเล่นเปียโนเหมือนกันค่ะ แต่ไม่ได้ชอบขนาดนั้น"
"แล้วชอบไหมล่ะจ๊ะ"
"ก็ชอบค่ะ แต่พี่คิดว่าการที่เดียร์ชอบแต่พ่อแม่เดียร์ไม่ชอบมันจะง่ายหรอคะ?"
"นั้นสินะจ๊ะ ไหนๆก็มาอยู่นี่แล้วมาเล่นกับพี่ด้วยก็ได้นะจ๊ะ"
"จริงหรอคะ ขอบคุณนะคะพี่แคล"
'พี่แคลใจดีสุดยอดเลยจริงๆแฮะ แต่ดูท่าทางพี่แคลจะอยู่กับแลงก้าไม่ได้แน่ๆเลย ไว้ทีหลังลองทำจิ้งจกย่างให้พี่แคลกินดีกว่า เผื่อพี่แคลจะอยากเลี้ยงดูบ้าง ฮิๆๆๆ'
D. รางวัลสำหรับคู่ที่ทำภารกิจได้ปานกลาง 65% สร้างความประทับใจแก่ผู้อำนวยการโรงเรียน
- GREAT SQUARE STAMP
[ ROOMMATE & SPECIAL QUEST ONLY ]
ตราประทับระดับกลางในหมวดภารกิจรูมเมทและภารกิจพิเศษ มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยม
แซฟไฟร์ มีมูลค่า +75 Grade Exp. จะได้รับเมื่อปฎิบัติภารกิจได้อย่างดีเป็นที่น่าชื่นชม
แก่ผู้อำนวยการโรงเรียน- +1,000,000 Spirit Point
ไอเทมเพิ่มแต้มสะสม Spirit Point ตามปริมาณที่กำหนด ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการ
แลกเปลี่ยนเป็น CHIPS ได้ในภายหลัง
- Narin's Comment:
- สิ่งที่ผมอยากให้เก็บไปลองปรับปรุง คือการเว้นวรรค
การเว้นวรรคก็เหมือนกับการปล่อยให้ผู้อ่านได้พักหายใจ
ซึ่งตอนที่ผมอ่านบทความของเดียร์ครั้งนี้ ผมมีความรู้สึก
ว่ามันอัดแน่นกันจนเกินไปเล็กน้อย ทำให้เกิดความรู้สึก
อึดอัดขณะอ่าน แต่ตัวเนื้อหานั้นน่ารักดีครับ ชอบความคิด
แหวกแนวที่คิดตัวละครเพื่อนใหม่ขึ้นมาเป็นจิ้งจกแลงก้า
ผมสังเกตว่าเดียร์มีปัญหากับการเขียนบทความยาวๆ
ซึ่งอาจจะเกิดจากการนึกคำอธิบายไม่เก่ง เรื่องราวจึง
อัดแน่นไปด้วยเนื้อหาเฉพาะช่วงที่จำเป็นต้องมีเท่านั้น
ครั้งหน้าลองค่อยๆใส่บทบรรยายเพิ่ม เช่น ความคิด
ของตัวละครณ.ขณะนั้น หรือสภาพบรรยากาศโดยรอบ
น่าจะทำให้บทความยาวขึ้นได้บ้างครับ
- Skai
Khannika Aksawarakgosol
นักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 5
468
+99 M 426 K 398
PASSPORT
:
(650/1875)
:
Re: ROOMMATE 4 : การเริ่มต้น
Sun 31 Jan 2016, 03:32
มาส่งแล้วครับ~
ปล.ขอบคุณพี่จิณณ์ที่ช่วยเพิ่มเติมบทความด้วยนะครับผม > <
B. รางวัลสำหรับคู่ที่ทำภารกิจได้เกือบเพอร์เฟ็ค สร้างความน่าปลาบปลื้มแก่ผู้อำนวยการโรงเรียน
- OPEN:
- วันหนึ่ง
"คุณสุภะอย่าลืมแปรงสีฟันนะครับ"
"อืม"
"ผ้าเช็ดตัวด้วยนะฮะ"
"อืม"
"...."
สักพักแล้วที่ในห้องสี่เหลี่ยมแห่งนี้มีเพียงบทสนทนาเรียบง่ายจากคนพูดไม่เก่งทั้งคู่
ที่กำลังก้มหน้าก้มตาเก็บสัมภาระของตัวเอง ต่างฝ่ายต่างก็รู้สึกใจหายหลังจากรู้ข่าวเรื่องโรงเรียนโดนเวนคืน
และต้องย้ายไปอยู่ที่อื่นได้แพร่สะพัดไปทั่ว แม้จะไม่อยากให้วันนั้นมาถึงแต่มันก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้
เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลอ่อนยัดเสื้อผ้าอันน้อยนิดของตัวเองลงกระเป๋าและรูดซิปปิด พร้อมๆกับเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลเข้ม
ที่กำลังติดเทปปิดกล่องลังที่เต็มไปด้วยของของเจ้าตัว
หลังจากจัดการทุกอย่างเสร็จทั้งคู่ก็ทำแค่เพียงถอนหายใจออกมาและหันหลังพิงกับเตียงอย่างหมดเรี่ยวแรง
ยิ่งสุภะที่เป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงอยู่แล้วยิ่งดูเหนื่อยกว่าปกติ
"โรงเรียนใหม่จะเป็นยังไงนะ"
จู่ๆ รันเดลที่ตอนนี้เอนหัวลงบนที่นอนและเหม่อมองเพดานห้องเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ
"ไม่รู้สิ” สุภะเอ่ยเสียงเบา “แต่ถ้าดีก็ดีนะ"
รันเดลเอียงคอมองรูมเมทของตนที่พูดอะไรวกวน
เห็นอีกฝ่ายกำลังมองไปรอบๆ ดูอาลัยอาวรณ์กับห้องที่อยู่ร่วมกันมาตั้งนานไม่น้อย จึงตอบกลับไปสั้นๆ
“นั่นสินะครับ”
"เฮ้อ~/เฮ้อ~" บทสนทนาทิ้งช่วงไปสักพักก่อนที่เสียงถอนหายใจจะดังขึ้นพร้อมกัน
ถึงต่างฝ่ายต่างไม่ได้พูดคุยกันซักเท่าไหร่เพราะพูดไม่เก่งด้วยกันทั้งคู่
แต่ถึงยังไงก็อยู่กันมาตั้งนาน อายุก็เท่ากัน เรียนก็เรียนด้วยกัน นอนก็นอนด้วยกัน
กิจกรรมก็ทำด้วยกันออกจะบ่อย ย่อมสนิทกันเป็นธรรมดา
พอสนิทกันก็ไม่แปลกที่จะติดกิริยาท่าทางบางอย่างมาจากอีกฝ่าย อาจไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากิริยานี้ใครติดมาจากใคร
ใครเริ่มก่อน ใครทำทีหลัง สุดท้ายแล้วทั้งสองคนก็มีพฤติกรรมบางอย่างที่เหมือนกันโดยไม่รู้ตัว
เหมือนอย่างตอนนี้ที่ชะงักกันไปชั่วขณะเพราะถอนหายใจพร้อมกัน ก็เลยอดจะหัวเราะเบาๆไม่ได้
“ย้ายโรงเรียนนี่ได้ข่าวว่าเปลี่ยนรูมเมทด้วย” สุภะพูดขึ้นเมื่อหยุดหัวเราะ
รันเดลก็หยุดฟังเพราะนานๆจะได้ยินรูมเมทพูดอะไรยาวๆซักที
ข้อมูลนี้เขาก็เคยอ่านเจอในใบประกาศที่ทางโรงเรียนแจกเช่นกัน แต่อ่านผ่านๆแบบไม่ได้สนใจเท่าไหร่
เพราะเรื่องย้ายสถานที่ตั้งโรงเรียนดูจะใหญ่กว่า พอมาได้ยินจากปากรูมเมทก็อดใจหายไม่ได้
“ผมคงคิดถึงคุณ” รันเดลพูดตามสไตล์อเมริกันโดยไม่รู้ว่าจะทำให้คนข้างๆรู้สึกเขิน ในขณะที่สุภะก็ชะงักเล็กน้อย
“ผมก็เหมือนกัน” เสียงอ้อมแอ้มนั่นตอบในลำคอ
รันเดลสูดหายใจก่อนจะพูดต่อ
“ขอบคุณที่อยู่ร่วมกันมานะครับ”
“ขอบคุณเช่นกันฮะ” สุภะตอบรับเรียบง่าย รอยยิ้มที่เห็นได้ไม่บ่อยนักปรากฏขึ้นบนใบหน้า
“ขอให้ได้อยู่กับรูมเมทที่ดีนะ”
“คุณสุภะก็ด้วยนะครับ!”
.
.
.
หลังจากนั้นไม่นาน คุณป้าหญิง ผู้ปกครองของผมในสยามประเทศแห่งนี้ก็มารับผมที่โรงเรียน
พอรู้ข่าวเรื่องการย้ายโรงเรียนท่านก็รีบมาช่วยยกข้าวของ และก่อนเปิดเทอมก็ยังพาไปซื้อของต่างๆที่จำเป็นต้องใช้เพิ่มด้วย
เพราะตอนนี้ผมเริ่มโตขึ้นแล้ว เสื้อผ้าเก่าๆก็เริ่มจะใส่ไม่ได้
ระหว่างที่ซื้อผมก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก อันไหนที่คุณป้าว่าดีผมก็พยักหน้ารับหมดแหละ
ท่านก็ดูเหมือนจะเพลินกับการให้ผมเป็นตุ๊กตาลองเสื้อนะ ฮะๆๆ
"รันเดล~ อันนี้ดีไหมลูก? เราไม่ค่อยมีเสื้อเชิ้ตนี่นา อยากได้สักตัวไหม"
หญิงสาววัยกลางคนรูปร่างสูงเพรียวหันมาถามผมพร้อมกับรอยยิ้มละไม
มือสองข้างถือเสื้อเชิ้ตสองตัว ข้างซ้ายเป็นสีครีมเรียบๆ ส่วนข้างขวาเป็นสีขาวดำลายม้าลาย
"ก็สวยดีนะครับ"
ผมตอบด้วยน้ำเสียงสุภาพและออกความคิดเห็นให้พอเป็นพิธีแม้จะรู้สึกตงิดๆกับเจ้าม้าลายข้างขวานั่นเล็กน้อยก็ตาม
"แหม พูดแบบนี้เหมือนกันหมดทุกตัวเลยนะ แล้วจะให้ป้าเลือกตัวไหนล่ะเนี่ย" คุณป้าขมวดคิ้วเล็กน้อย
ก่อนจะหันไปเลือกเสื้อเชิ้ตในราวต่อ ผมไม่รู้จะตอบอะไรก็เลยแค่ยิ้มเฉยๆ
ตั้งแต่ย้ายมาที่ไทยอาการของผมดีขึ้นเยอะเลยทีเดียว นอกจากการกินยาตรงเวลาคงเป็นเพราะได้อยู่ในที่ที่อยู่แล้วสบายใจ
จริงๆ แล้วตอนนี้ผมยังรู้สึกตกใจไม่น้อยกับการย้ายโรงเรียนครั้งนี้
มันกะทันหันจริงๆ นะ เอาจริงๆ ผมก็กังวลนิดหน่อย ไม่รู้ว่าจะปรับตัวกับที่ใหม่ได้มากแค่ไหน
ทั้งสถานที่ใหม่ ทั้งรูมเมทใหม่ แต่ก็หวังว่าทุกอย่างจะผ่านไปได้ด้วยดี
"เอาหมดนี่เลยละกันเนอะ ฮ่าๆๆ"
เสียงหัวเราะตามสไตล์คุณป้าดังขึ้นมาหลังจากที่เธอตัดสินใจเอาเสื้อในอ้อมแขนทั้งหมดมาวางไว้ในรถเข็น
มองเสื้อผ้ามากมายบนรถเข็นแล้วผมก็ได้แต่ถามไปอย่างอึ้งๆ ว่า
"เอ่อ... จะซื้อเยอะขนาดนี้เลยหรอครับ?"
"ขนาดนี้แหละจ้ะ เดี๋ยวหลานป้าก็โตได้อีกเยอะ~" คุณป้าหยิกแก้มผมเบาๆ พลางยิ้มอารมณ์ดี
ผมได้แต่มองข้าวของมากมายบนรถเข็นอย่างทำอะไรไม่ถูกขณะเข็นรถเดินตามคุณป้าไปจ่ายเงิน แอบเกรงใจเหมือนกันนะครับ
แต่ขืนพูดขัดมีหวังคุณป้าต้องพาลากไปซื้ออย่างอื่นเพิ่มแน่เลย เพราะเดี๋ยวเขาจะหาว่าผมไม่ถูกใจ UvU;
นานแล้วที่ผมไม่ได้มาซื้อของกับใครแบบนี้ รู้สึกดีเหมือนกันนะครับ
.
.
.
"ฮัมมม ฮัมมม ลั้ลลล ลาา~"
หลังจากที่ซื้อของเสร็จเราก็นั่งรถไปที่โรงเรียนใหม่กัน
ฟังจากเสียงแล้วก็น่าจะรู้ว่าป้าหญิงของผมเป็นคนอารมณ์ดีขนาดไหน....
รู้สึกว่าท่านจะครองโสดมานานแล้ว แถมยังบอกว่าการขึ้นคานคือสิ่งสูงสุดของชีวิต
ถึงอายุจะย่างห้าสิบแต่ผมว่าเธอดูไม่แก่เลย ทั้งร่าเริงทั้งประฉับกระเฉง แถมยังแต่งตัวอย่างกับพวกวัยรุ่นแหนะ อีกอย่าง...
"ไสว่าสิบ่ถิ่มก๊านนน ไสว่าสิมีกันและกันนน~"
ท่านชอบร้องเพลงครับ
ร้องเพลงนี้ให้ผมฟังสิบกว่ารอบแล้วตั้งแต่นั่งรถด้วยกันมา ดูเหมือนว่าเพลงนี้กำลังเป็นที่นิยมช่วงนี้นะฮะ
ผมนั่งรถมาเรื่อยๆ ฟังเพลงที่คุณป้าร้องไปเพลินๆ แล้วก็เผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ รู้ตัวอีกทีก็ถึงหน้าโรงเรียนแล้ว
"ถึงแล้วจ้ะรัน ให้ป้าช่วยขนของไหม?" ผมสะลึมสะลือมองไปรอบๆ แล้วหันไปปฎิเสธ
"ไม่ครับๆ ไม่เป็นไรครับ มีแค่เป้กับกล่องกระดาษใบเดียวเอง ขอบคุณนะครับป้าหญิง" ผมยิ้มขอบคุณแล้วยกมือไหว้
ป้าหญิงยิ้มเอ็นดูมาให้ก่อนที่มือเรียวจะเอื้อมมาขยี้หัวเสียจนผมยุ่งเหยิง
"งั้นก็ขอให้โชคดีนะจ๊ะ มีอะไรก็โทรมาหาป้าได้นะ เดี๋ยวจะรีบบินมาเลย!"
ท่านว่าแล้วยกแขนข้างหนึ่งขึ้นเหมือนท่าบินของซุปเปอร์แมน ผมหัวเราะและบอกขอบคุณท่านอีกครั้งหนึ่งก่อนจะขอตัวลงจากรถ
ขนของลงมาแล้วก็ยืนส่งจนกระทั่งรถคันงามแล่นไปไกลเรื่อยๆ และหายลับตาในที่สุด
ผมสูดหายใจลึกแล้วกระชับกล่องลังในอ้อมแขน ก่อนอื่นก็ต้องไปดูก่อนสินะว่าอยู่ห้องไหน
"ว้าว..." นั่นคือคำอุทานแรกหลังจากที่ผมได้เห็นโรงเรียนอย่างเต็มตา
โรงเรียนนี่ก็ยังคงความอลังการเหมือนเดิมเลยครับ มีบ่อน้ำพุด้วย สวยมากเหมือนหลุดเข้ามาในนิยายเลย
ถึงจะแอบเสียดายที่ต้องย้ายจากโรงเรียนเก่าแต่ที่นี่ก็สวยไม่แพ้กันเลยแฮะ
เดินสำรวจความสวยงามมาเรื่อยๆ จนในที่สุดก็เจอเข้ากับตึกประชาสัมพันธ์เสียทีหลังจากที่เดินขาลากมานาน
พอเข้าไปในตึกก็เจอบอร์ดอันเบ้อเร่อตั้งอยู่ ผมเดินเข้าไปอ่านดูก็เห็นพวกรายชื่อกับเลขห้องพัก
อ่า มาถูกทางแล้วสินะ ไหนดูซิ~
ผมใช้นิ้วชี้ลากไปตามรายชื่อนับร้อยที่เรียงกันเป็นระเบียบบนแผ่นกระดาษ
เจอชื่อคุณสุภะผ่านไปแว๊บๆว่าอยู่ห้อง206 กับน้องใหม่ที่ชื่อพิพิน
"อะ เจอแล้ว ห้อง 615/ 615!" เสียงซ้อนที่ดังขึ้นจากคนข้างๆ ทำให้ผมต้องหันไปมอง
"อ้าว รันเดลใช่ไหม"
นี่มัน...พี่ที่เคยเข้าค่ายด้วยกันนี่นา ชื่ออะไรนะ....เอ่อ
"ครับ สวัสดีครับ เอ่อ... พี่ พี่จิณณ์"
รู้สึกดีจริงๆ ที่อย่างน้อยความจำของผมก็ยังไม่แย่ขนาดนั้น
และขุดชื่อคนตรงหน้าออกมาได้ทันก่อนที่เขาจะจับไต๋ได้ว่าจำไม่ได้
"นี่เราอยู่ห้องเดียวกันหรอเนี่ย" พี่จิณณ์พูดเสียงติดตลกแล้วมองแผ่นกระดาษบนบอร์ดอีกรอบ
เอ๋? ห้องเดียวกันหรอ
"งั้นก็แสดงว่า... เราเป็นรูมเมทกันหรอครับ"
"ก็ประมาณนั้นล่ะฮะ" พี่จิณณ์ยักไหล่น้อยๆ อย่างไม่ยี่หระ ก่อนจะเหลือบตามองกล่องกระดาษที่ผมถืออยู่
"ของมีแค่นี้หรอครับ ให้พี่ช่วยไหม?" คนสูงกว่าชะเง้อมองข้างหลังผมเหมือนดูว่าของมีแค่นี้จริงๆ หรอ อะไรประมาณนั้น
"ครับ ผมมีของไม่ค่อยเยอะน่ะ" ผมว่าแล้วยิ้มน้อยๆ
ว้าว นี่เป็นพรมลิขิตหรืออะไร โชคดีจังเลยที่อย่างน้อยก็ได้อยู่กับคนที่รู้จัก
แถมดูท่าทางจะใจดีมากๆ ด้วย
"โตขึ้นเยอะเลยนะครับ เจอกันคราวนั้นยังตัวเท่านี้อยู่เลย"
พี่จิณณ์พูดพลางเอามือวางแถวๆ หน้าอกเป็นภาพประกอบแล้วหัวเราะอารมณ์ดี
"ก็นิดหน่อยครับ"
"ปะ งั้นเราไปดูห้องใหม่กันเถอะ"
"ครับ"
การเริ่มต้นใหม่ที่โรงเรียนนี้ ก็ดูเหมือนจะไม่แย่เท่าไรเนอะ!
ปล.ขอบคุณพี่จิณณ์ที่ช่วยเพิ่มเติมบทความด้วยนะครับผม > <
B. รางวัลสำหรับคู่ที่ทำภารกิจได้เกือบเพอร์เฟ็ค สร้างความน่าปลาบปลื้มแก่ผู้อำนวยการโรงเรียน
- GRAND PENTAGON STAMP
[ ROOMMATE & SPECIAL QUEST ONLY ]
ตราประทับระดับสูงมากในหมวดภารกิจรูมเมทและภารกิจพิเศษ มีลักษณะเป็นห้าเหลี่ยม
เทอร์ควอยซ์ผสมทองคำแท้ มีมูลค่า +150 Grade Exp. จะได้รับเมื่อปฎิบัติภารกิจได้
สุดยอดเป็นที่น่าปลาบปลื้มแก่ผู้อำนวยการโรงเรียน- +2,000,000 Spirit Point
ไอเทมเพิ่มแต้มสะสม Spirit Point ตามปริมาณที่กำหนด ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการ
แลกเปลี่ยนเป็น CHIPS ได้ในภายหลัง
- Narin's Comment:
- ชอบบรรยากาศระหว่างรันเดลและสุภะมากครับ
มันดูพิเศษอย่างบอกไม่ถูก เหมือนไม่ได้สนิทกันมาก
แต่ก็มีความผูกพันธ์ต่อกัน ความรู้สึกที่ต้องจากลากัน
เป็นการใส่ใจรายละเอียดที่น่าประทับใจ รวมทั้งเผย
ข้อมูลเพิ่มในด้านของชีวิตนอกโรงเรียนของรันเดล
เรื่องคุณป้า ในขณะที่อยู่กับป้าก็แสดงให้เห็นว่า
รันเดลมีอุปนิสัยภายในเป็นอย่างไร เป็นภารกิจ
ที่ทำให้เข้าถึงตัวละครมากกว่าครั้งอื่นๆครับ
- dedog
Jinn Watinpol
อาจารย์ศิลปะ
5262
+1,074 M 191 K 627
PASSPORT
:
(9911/28000)
:
Re: ROOMMATE 4 : การเริ่มต้น
Sun 31 Jan 2016, 05:00
- Spoiler:
- บ๊ายบายถิ่นเก่า:
“โรงเรียนจะย้ายที่นะ”
แม็กเวลเรียกให้ผมหันไปมองเพื่อพูดประโยคนี้ขึ้นมาขณะที่เรากำลังเดินขึ้นห้องเรียนในวันสุดท้ายของภาคเรียนนี้ หลังจากการสอบปลายภาคเสร็จสิ้นไปแล้วตั้งแต่เมื่อวาน
ข่าวสารล่าสุดนี้ทำสมองผมเวิ้งว้างไปหลายวินาที ก่อนจะเปล่งเสียงได้เพียงคำสั้นๆ... “ฮะ?”
“เมื่อกี๊ตอนเข้าแถว ผอ.ประกาศ”
เพื่อนเท้าความถึงการเข้าแถวตอนเช้าที่เพิ่งผ่านมา ด้วยรู้ว่าการที่ผมไม่ได้ยินทำให้ผมไม่ค่อยสนใจเวลามีใครมาพูดหน้าแถวเท่าที่ควร ดีไม่ดีแอบหลับอีกต่างหาก เป็นเหตุให้เพื่อนรอบตัวมักจะต้องมาย่อยข่าวสารสำคัญๆให้รับทราบอีกทีเสมอๆ บางทีมีข่าวปลอมมาแกล้งกันอีกต่างหาก T-T
“โรงเรียนโดนเวนคืน ก็เลยย้ายไปแถวเพชรบุรีแทน” แม็กบอกง่ายๆ
ผมกระพริบตาปริบๆ อดถามกลับไปไม่ได้ “จริงดิ?”
“จริง” เจ้าตัวไหวไหล่ ไม่มีท่าทางล้อเล่นแฝงอยู่ เพื่อนอีกสองสามคนที่เดินอยู่ใกล้ๆกันได้ยินบทสนทนาก็พยักหน้ารับว่าข่าวจริงแท้แน่นอน
“ย้ายทำไมอ่ะ” ผมถาม ตอนนี้คือเชื่อไปครึ่งนึงแล้วแต่ก็ยังอดกังขาไม่ได้ การรวมหัวกันทำหน้าจริงจังใส่แล้วเล่าข่าวเท็จนี่ก็ไม่ใช่ว่าผมจะไม่เคยโดน T_T
“ก็โดนเวนคืนไง” เพื่อนอีกคนบอก
“แล้วถ้าเราไม่ยอมย้ายอ่ะ” ผมยังคงถามต่อไป
“เปิดเทอมมานายก็จะได้เรียนบนเสารถไฟฟ้าไง” เพื่อนผู้หญิงอีกคนเข้ามาร่วมวง
“อาจจะเป็นตอม่อสะพานก็ได้นะ ใครจะไปรู้” แม็กแย้งขำๆ
“ฉันว่าเรียนบนทางด่วนก็น่าสนุกดีนะ” หัวหน้าห้องที่เดินอยู่ข้างหน้าหันมาพูด
...เอาจริงดิ!??
“แล้วย้ายไปอยู่ที่ไหนอ้ะ”
“นี่นายไม่ได้ฟังที่ฉันพูดเลยใช่มั้ยเนี่ย” แม็กผลักหัวผมทีหนึ่งก่อนจะบอก “ย้ายไปเพชรบุรี ได้ข่าวว่าอยู่ติดทะเลด้วยนะ”
พูดถึงทะเลแล้วแต่ละคนก็ชักจะตื่นเต้นกับภาพในจินตนาการ หาดทรายกว้างสุดลูกหูลูกตา ต้นมะพร้าวเรียงราย
สายลมที่พัดเอากลิ่นอายของทะเลเข้ามา แสงแดดที่กระทบเกลียวคลื่นระยิบระยับ ท้องฟ้าสีครามกว้างใหญ่ วู้~
...ไปโรงเรียนใหม่จะไปเล่นน้ำทะเลให้หนำใจ จะก่อปราสาททรายให้สูงเทียมฟ้า
จะนอนมองพระอาทิตย์ตกน้ำยามเย็น จะนั่งกินนมชมวิวชมดาวริมหาดยามค่ำคืน จะตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นจากน้ำตอน
...ตื่นเต้น
จนลืมไปว่าวันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้วที่จะได้อยู่ที่นี่ โรงเรียนที่อยู่กันมาตั้งแต่ม.1 จนตอนนี้จะจบกันอยู่แล้ว โรงเรียนที่จะกลายเป็นอย่างอื่นไป สถานที่แห่งความทรงจำนี้จะเหลืออยู่เพียงในความทรงจำเท่านั้น อีกสิบปีให้หลังคิดถึงโรงเรียนจะมารำลึกความหลังกับตอม่อสะพานก็ใช่ที่...
ถึงตอนที่ความตื่นเต้นจางไป อารมณ์หม่นๆที่อธิบายเป็นคำพูดไม่ถูกก็เข้ามาแทนที่
จนถึงตอนเลิกเรียนที่เลิกเร็วเนื่องจากไม่ได้มีการเรียนการสอนอะไร หลังจากได้รับกำหนดการณ์เปิดภาคเรียนใหม่ แผนที่และการย้ายของเข้าหอโรงเรียนใหม่ รวมไปถึงการจับคู่รูมเมทใหม่ ก่อนที่ทุกคนจะแยกย้ายกันไปเก็บข้าวของกลับบ้าน ผมก็พูดขึ้นมา
“ไปถ่ายรูปกัน”
เมื่อผมพูด เพื่อนก็หันมามอง ก่อนจะเฮโลมารวมกันเก็กท่าถ่ายรูปโดยกล้องDSLRของเพื่อนชมรมถ่ายรูปที่มักจะพกกล้องมาเป็นปกตินิสัย ถ่ายในห้องเรียนไปเป็นร้อยรูปก็ชวนเพื่อนไปถ่ายที่อื่นกัน ไล่ถ่ายกันไปเรื่อย ระหว่างทางมีเพื่อนบางคนบ่นว่าจะถ่ายอะไรกันนักหนา ก็จะมีอีกคนพูดขึ้นมา
“ครั้งสุดท้ายของที่นี่แล้วน่า”
ครั้งสุดท้ายที่พวกเราจะได้ถ่ายรูปกันที่นี่ โรงเรียนควิ้นท์ที่ตั้งอยู่ในเขตบางขุนเทียน จังหวัดกรุงเทพมหานครแห่งนี้
พวกเราเดินถ่ายกันไปเรื่อย ใครเหนื่อยง่าย ใครเดินไม่ได้ เดินไม่ถนัด เพื่อนก็ช่วยพยุง ช่วยพากันไป เวียนกันไปแทบจะทั่วทั้งโรงเรียน มีคนช่วยถ่ายวิดีโอให้อีกต่างหาก โดยให้เหตุผลว่าอย่างน้อยเพื่อนที่มองไม่เห็นได้ยินเสียงจากวิดีโอนี้ก็จะจำได้ว่าตรงไหนเป็นตรงไหน และเคยมีความทรงจำใดเกิดขึ้น ณ ตรงที่แห่งนี้บ้าง
ทั้งห้องเรียนที่เคยทำคาเฟ่ต์หมี ห้องคหกรรมที่เคยเปิดตลาดขายแพนเค้กกัน ห้องศิลปะที่เคยสาดสีใส่กัน เรือนกระจกที่หลายๆคนเคยแอบเด็ดดอกไม้ไปให้สาวในวันวาเลนไทน์ สเตเดี้ยมที่เคยเข้าออกกันนับครั้งไม่ถ้วน ห้องสมุดที่เคยเข้าไปแอบหลับ ร้านเค้กที่โคตรอร่อยแต่แพงเรือหาย โรงอาหาร ห้องดนตรี โดมดาดฟ้า วงเวียนน้ำพุ ป้อมยาม คอร์ทเทนนิส สระว่ายน้ำ โรงยิม สนามฟุตบอล หรือกระทั่งสวนหย่อมที่เพิ่งจัดงานลอยกระทงไปเมื่อไม่นานมานี้
ทุกสถานที่ล้วนมีความทรงจำฝังอยู่ไม่มากก็น้อย
พวกเราถ่ายจนไม่รู้จะถ่ายอะไรแล้วจึงแยกย้ายกันไปเก็บของเพื่อเตรียมตัวกลับบ้าน โดยเจ้าของกล้องสัญญาว่าจะเอารูปลงfacebookและจะแท็กเพื่อนๆให้ครบทั้งห้องให้เร็วที่สุดเท่าที่เน็ตจะอำนวย
คืนนั้นผมอดไม่ได้ที่จะลงมาดูดาวที่ริมทะเลสาบในสวนหย่อมที่ประจำเป็นครั้งสุดท้าย
แม็กเวลเก็บของเสร็จแล้วไม่มีอะไรทำเลยตามลงมาด้วย
“นายว่าดาวที่นั่นจะสวยเหมือนที่นี่มั้ย” ผมถาม
แม็กส่ายหน้า “ไม่รู้สิ อาจจะสวยกว่าก็ได้”
“นั่นสินะ” ผมตอบรับสั้นๆ จากนั้นต่างฝ่ายต่างก็นั่งมองดาวเงียบๆ จมอยู่ในห้วงคิดของตัวเอง
ถึงที่นี่จะเป็นชานเมืองของกรุงเทพ แต่ยังไงก็ไม่น่าจะฟ้าโปร่งได้เท่าที่โรงเรียนใหม่ที่ทั้งอยู่ต่างจังหวัดแถมยังอยู่ริมทะเล ไม่มีหมอกควันหรือแสงสีมาบดบังทัศนียภาพท้องฟ้า คิดไปคิดมาฟ้าที่โน่นก็คงจะสวยกว่าที่นี่จริงๆนั่นแหละ
สุดท้ายแล้วคงเป็นผมเองที่ยึดติดกับสถานที่ เมื่อผูกพันกับที่นี่แล้วก็ไม่อยากย้ายไปอยู่ที่อื่น เมื่อเช้าผมยังตื่นเต้นกับทะเลอยู่เลย ทำไมตอนบ่ายดันจิตตกกับการย้ายที่ก็ไม่รู้ ทั้งที่จริงๆแล้วก็เป็นโรงเรียนชื่อเดิม เพื่อนชุดเดิม บุคลากรเซ็ตเดิม ทุกอย่างเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือย้ายไปริมทะเล ดูน่าสนุกดีแท้ๆ
เมื่อคิดได้แล้ว อารมณ์หม่นๆที่ตกค้างอยู่ก็จางหายไป หันไปจะชวนแม็กขึ้นห้องก็พบว่าเจ้าลิงหัวทองหลับไปแล้ว...
ทิ้งไว้ตรงนี้ได้มั้ยเนี่ย -_-?
สุดท้ายผมก็ปลุกเพื่อนกลับไปนอนต่อที่ห้อง วันต่อมาก็แยกย้ายกันกลับบ้าน โดยบ้านผมก็มีป๊าเป็นคนขับรถมารับเพราะเป็นวันธรรมดา คุณแม่ต้องส่งเจ้าแฝดไปโรงเรียน เลยไม่ได้มากันครบทีมเหมือนปกติ
ก่อนขึ้นรถผมอดไม่ได้ที่จะหันไปมองโรงเรียนเป็นครั้งสุดท้าย
บ๊ายบาย โรงเรียนควิ้นท์สาขาบางขุนเทียน พบกันใหม่ในอัลบั้มรูปนะ :)“Photography can only represent the present.
Once photographed, the subject becomes part of the past.”
"การถ่ายรูปเป็นดั่งตัวแทนของปัจจุบัน เมื่อกดชัตเตอร์แล้ว สิ่งที่อยู่ในภาพจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของอดีต"
เบเรนีซ แอบบ็อตต์ (Berenice Abbott) ช่างภาพขาว-ดำชาวสหรัฐฯ
- สวัสดีทะเล โรงเรียน และรูมเมทคนใหม่:
“แน่ใจนะว่าตาลไม่ได้ส่งแผนที่ให้ป๊าผิดอัน?”
“แน่ใจฮะ”
“แน่ใจนะว่าตั้งGPSให้ป๊าถูก?”
“ถูกสิ ตาลตั้งตามพิกัดที่เค้าให้มาเป๊ะเลยนะ”
“แน่ใจนะว่าที่นี่จริงๆ?”
“เอ่อ.. ก็น่าจะจริงนะฮะ”
นี่เป็นบทสนทนาระหว่างป่ะป๊ากับลูกชายวัยสิบแปดปีที่โรงเรียนโดนเวนคืนจนต้องอพยพมาอยู่ริมทะเล
เมื่อมาตามตำแหน่งที่GPSบอก ก็พบว่าปลายทางคืออาคารหน้าตาหรูหลาเว่อวังอลังการราวกับโรงแรมเซนทารา ป่ะป๊าหยุดรถก่อนถึงรั้วอาคารและอดไม่ได้ที่จะหันกลับมาถามลูกชายให้แน่ใจ
“แน่ใจนะว่านี่โรงเรียน ไม่ใช่โรงแรมห้าดาว”
“นี่โรงเรียนจริงๆ.........มั้ง”
ปลายเสียงหวั่นเล็กน้อย หันมองอาคารตรงหน้าอีกครั้งอย่างไม่แน่ใจนัก ก่อนจะทำตาเป็นประกายเมื่อเห็นป้ายชื่อโรงเรียนตัวเท่าช้างปรากฏอยู่ด้านหน้า
“นั่นไงๆ ใช่โรงเรียนจริงๆ” เจ้าลูกชายชี้ป้าย
ป่ะป๊ามองตามแล้วจึงขับรถตามทางเข้าไปจอดภายในโรงเรียน มองเห็นผู้ปกครองมาส่งลูกหลานกันประปราย
ป่ะป๊าเปิดท้ายรถ ช่วยลูกชายขนของ ซึ่งความจริงแล้วก็มีอยู่แค่กระเป๋าสะพายใบใหญ่ใบเดียวที่ป่ะป๊าไม่แน่ใจเท่าไหร่ว่าเจ้าลูกชายเอาทุกอย่างยัดเข้าไปในนั้นได้ยังไง แม้แต่เจ้าชมพู ตุ๊กตาหมีตัวโปรดยังถูกยัดอยู่ในนั้น
เมื่อหยิบของเสร็จ ป่ะป๊าก็กอดเจ้าลูกชายที่ตอนนี้แทบจะสูงกว่าอยู่แล้วทีหนึ่ง อวยพรสั้นๆและบอกให้ตั้งใจเรียน จากนั้นป่ะป๊าก็กลับขึ้นรถ ลูกชายยกมือไหว้ ล่ำลากันอีกสองสามคำ ป่ะป๊าก็ขับรถออกไป
เจ้าลูกชายมองตามจนรถเลี้ยวลับสายตาไป
...........................................................................
ผมกำลังเดินเอื่อยๆไปทางอาคารที่แปะชื่อว่า Information
ตอนผมบอกที่บ้านว่าโรงเรียนย้ายที่มาอยู่เพชรบุรีนี่ป๊าดีใจมาก บอกใกล้บ้านกว่าเดิมอีก แถมบรรยากาศก็ดีมากด้วย จะได้มาหาได้บ่อยๆ และด้วยความที่มันเป็นทะเล พอมาหาก็เหมือนได้มาเที่ยวด้วย คุ้มสุดๆ เอาให้เบื่อทะเลกันไปข้าง 555
ตอนป๊าขับออกไปแล้วผมหันกลับมามองโรงเรียนเต็มตานี่รู้สึกโดดเดี่ยวเดียวดายในท้องเลมาก...
คือมันอลังการมากจนผมรู้สึกเหมือนตัวเองเหลือตัวนิดเดียวเลยฮะ สาขาบางขุนเทียนว่าอลังแล้ว สาขานี้ผมคูณแปดให้เลย
ตอนนี้ผมเดินมาถึงในอาคารInformationแล้ว รู้สึกตื่นเต้นประดุจพจมานกำลังจะเข้าไปในบ้านทรายทอง ไม่รู้เหมือนกันว่าจะตื่นเต้นอะไรนักหนา แต่เนื้อเพลง “นี่คือสถานนน..แห่งบ้านทรายทองงงง.. ที่ฉันปองมาสู่~” ดังวนเวียนอยู่ในหัวประหนึ่งเปิดเทปกรอซ้ำไปซ้ำมา นี่ถ้าผมผมยาวพอจะถักเปียสองข้างได้นี่จะเป็นพจมานจริงๆแล้วเนี่ย...
ระหว่างทางเจอเพื่อนๆ หรือรุ่นน้องที่รู้จักก็พยักหน้าทักทาย ยกมือไหว้ผู้ปกครองของเพื่อนบ้าง เดินไปคุยกับพี่พนักงานเรื่องเอกสารนิดหน่อยก่อนจะเดินมาดูบอร์ดประกาศรายชื่อรูมเมท เห็นแวบๆว่ามีคนยืนดูอยู่ข้างๆแต่ไม่ได้สนใจเท่าไหร่
ผมไล่ดูตั้งแต่ชั้นล่างๆ จนตอนนี้ถึงชั้นหกแล้ว เห็นชื่อคนรู้จักผ่านตาไปก็หลายคน ไม่เห็นชื่อตัวเองซักที ชักจะหวั่นใจว่าโรงเรียนลืมใส่ชื่อผมรึเปล่า คืนนี้จะไม่มีที่นอนต้องไปนอนริมหาดแทนมั้ย ไล่ไปเรื่อยๆจนกระทั่ง...
“613... 614...” และสายตาก็ไปสะดุดกับชื่อตัวเองที่ห้อง “615!”
และก็เพิ่งสังเกตว่ามีปลายนิ้วจ่ออยู่ที่เลขที่ผมเพิ่งพูดไป หันไปเจอเจ้าของนิ้วก็เป็นเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลอ่อนที่คุ้นหน้าคุ้นตากันอยู่
“อ้าว รันเดล” ผมยิ้มให้อีกฝ่าย แอบไม่แน่ใจเล็กน้อยว่าเรียกชื่ออีกฝ่ายถูกรึเปล่า “...ใช่มั้ย”
“ครับ” อีกฝ่ายตอบรับ ท่าทางอึ้งๆเล็กน้อย “สวัสดีครับ เอ่อ.. พี่...พี่จิณณ์”
ผมยิ้มขำกับท่าทางอึ้งปนงงของอีกฝ่าย หันไปมองชื่อบนบอร์ดอีกทีเพื่อความแน่ใจแล้วจึงพูด “นี่เราอยู่ห้องเดียวกันเหรอเนี่ย”
“งั้นก็แสดงว่าเราเป็นรูมเมทกันเหรอครับ?”
รันกระพริบตาปริบๆ มองผมที มองบอร์ดที แล้วกันมามองผมอีกที เห็นแล้วนึกถึงสมัยที่ไปเข้าค่ายด้วยกันจัง 55555
“ก็ประมาณนั้นละฮะ” ผมไหวไหล่ ชะเง้อมองสัมภาระของอีกฝ่ายกะจะช่วยถือเพราะของผมเองไม่เยอะเท่าไหร่ แต่รันเดลก็เหมือนจะของไม่เยอะเหมือนกัน
เราคุยกันอยู่ซักพักก็นึกได้ว่ากำลังยืนหน้าบอร์ดเกะกะคนอื่นเขาจะดูรายชื่อ ผมเลยชวน “ปะ งั้นเราไปดูห้องใหม่กันเถอะ”
ผมเห็นรันเดลตาเป็นประกายเมื่อตอบตกลง เป็นน้องที่น่ารักจริงๆ :)
.
.
.- คืนนั้น:
หลังจากเก็บของ จัดห้อง แบ่งที่นอนกันเรียบร้อยแล้วก็ค่ำๆพอดี คู่หู615จึงชวนกันไปหาอะไรทานเป็นมื้อเย็น เมื่อทานเสร็จจิณณ์ก็อดไม่ได้ที่จะชวนรูมเมทคนใหม่ไปดูดาว
ริมทะเล
คู่หู615 เอนหลังดูดาวกันอยู่บนเก้าอี้ชายหาด หลังจากไปเดินแตะๆน้ำทะเลกันเล็กน้อยพอเป็นพิธีและตกลงกันว่าวันหลังจะตื่นเช้าๆ มาเล่นน้ำทะเลกันให้ได้
ทั้งสองนอนมองท้องฟ้าและน้ำทะเลที่ถูกย้อมด้วยสีแห่งรัตติกาล เนื่องจากวันนี้ท้องฟ้าโปร่งจึงมองเห็นดวงจันทร์เป็นเสี้ยวเล็กๆ และมองเห็นดวงดาวชัดเจน
“สวยจังเลยนะครับพี่จิณณ์” รันเดลหันบอกคนชวน มองเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าอีกฝ่าย
“นั่นสิ สวยไม่แพ้ที่เก่าเลย”
“โห เสียดายจังไม่รู้ว่าที่โรงเรียนเก่ามีมุมดูดาวด้วย" รันเดลพูดอย่างเสียดาย "ผมไม่ค่อยได้ออกมาดูดาวแบบนี้เลย”
“พี่ชอบดูดาวน่ะ” จิณณ์บอก “ลมเย็นๆตอนกลางคืนทำให้รู้สึกสบายใจ ยิ่งมองขึ้นไปแล้วเห็นดาวสวยๆเต็มฟ้านี่รู้สึกเหมือนได้รับพลังจากดวงดาวเลย”
จิณณ์หัวเราะเขินๆเมื่อพูดจบประโยค เบือนหน้าจากรันเดลมองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวพร่างพราย
รันเดลมองตามแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ ตอบรับกลับไปแม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้ยิน "นั่นสินะครับ"May the sun brings you new energy by day.
May the moon softly restore you by night.
May the rain wash away your worries.
May the breeze blow new strength into your being
May you walk gently through the world
and know its beauty all the days of your life.
ขอให้ดวงอาทิตย์ ทำให้คุณมีพลังในตอนกลางวัน
ขอให้ดวงจันทร์ ทำให้คุณได้ฟื้นฟูร่างกายในตอนกลางคืน
ขอให้สายฝน ชะล้างความกังวลที่มีออกไปหมด
ขอให้สายลม ช่วยพัดพาความเข้มแข็งมาสู่ชีวิต
และขอให้คุณค่อย ๆ ย่างก้าวไปบนโลก
แล้วรับรู้ถึงความสวยงามของชีวิตในทุก ๆ วัน
B. รางวัลสำหรับคู่ที่ทำภารกิจได้เกือบเพอร์เฟ็ค สร้างความน่าปลาบปลื้มแก่ผู้อำนวยการโรงเรียน
- GRAND PENTAGON STAMP
[ ROOMMATE & SPECIAL QUEST ONLY ]
ตราประทับระดับสูงมากในหมวดภารกิจรูมเมทและภารกิจพิเศษ มีลักษณะเป็นห้าเหลี่ยม
เทอร์ควอยซ์ผสมทองคำแท้ มีมูลค่า +150 Grade Exp. จะได้รับเมื่อปฎิบัติภารกิจได้
สุดยอดเป็นที่น่าปลาบปลื้มแก่ผู้อำนวยการโรงเรียน- +2,000,000 Spirit Point
ไอเทมเพิ่มแต้มสะสม Spirit Point ตามปริมาณที่กำหนด ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการ
แลกเปลี่ยนเป็น CHIPS ได้ในภายหลัง
GOLDEN HONOR DEGREE TROPHY
ถ้วยเกียรติยศทองคำแท้ มอบให้แด่ผู้ที่สามารถปฎิบัติภารกิจหรือร่วมกิจกรรมต่างๆ
ที่ทางโรงเรียนจัดขึ้นได้น่าประทับใจผู้อำนวยการเป็นอย่างมาก
- Narin's Comment:
- เป็นงานที่อ่านแล้วรู้สึกฮึกเฮิมมีไฟอยากแต่งเรื่องโต้ตอบ
ซึ่งนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดขึ้น น่าสนใจนะครับว่ามันเป็น
เพราะอะไร เพราะตัวผมก็ไม่ทราบเช่นกันว่าทำไม
ถ้วยในครั้งนี้มาจากการใช้กลอนประกอบภารกิจ
รวมทั้งใส่เครดิตที่มาให้อย่างเรียบร้อย ไอเดียดีครับ
เหมือนการย้ายโรงเรียนครั้งนี้ได้ให้บทเรียนแก่จิณณ์
โดยที่ตัวผู้อ่านเองก็ได้บทเรียนจากกลอนอีกที
ขอบคุณสำหรับบทเรียนดีๆที่ผมได้รับจากภารกิจนี้ครับ
- ผู้มาเยือนผู้มาเยือน
Re: ROOMMATE 4 : การเริ่มต้น
Sun 31 Jan 2016, 16:38
ส่งงานค่ะ
D. รางวัลสำหรับคู่ที่ทำภารกิจได้ปานกลาง 65% สร้างความประทับใจแก่ผู้อำนวยการโรงเรียน
- เนื้อเรื่อง:
- *ก่อนย้ายเข้าหนึ่งวัน*
สิ่งที่ไม่เคยคาดคิดมักเกิดขึ้นมาตอนเราไม่เคยตั้งตัว ไม่เคยนึกถึง วันที่จะห่างใกล้กับคนที่ใกล้ชิด
ห่างไปอยู่ในที่ที่ไม่คุ้นเคย อยู่กับคนใหม่ๆที่ไม่รู้จัก ต่างเชื่อชาติและสัญชาติ
ไม่เคยคิดเลยจริงๆคะว่า...หนูจะได้ย้ายไปโรงเรียนใหม่
“อิน..ลูกเก็บของถึงไหนแล้วจ๊ะ”หนูหันไปมองหน้าของผู้เป็นน้า
“....”
“อย่าทำหน้าเศร้าอย่างนั้นสิ น้าใจไม่ดีรู้มั้ยลูก”
‘หนูไม่อยากไปเลยค่ะ’
คุณน้าลงมานั่งข้างๆหนูแล้วจับมือหนูขึ้นกลุ้มเอาไว้ ที่ดวงตาคู่สวยที่หนูชอบมาตลอดตอนนี้เริ่มคลอไปหน่วยด้วยน้ำตา
“อิน... ถึงก่อนหน้านี้น้าจะเป็นน้าที่ไม่ได้เรื่อง ดูแลอินดีๆตามคำขอของพ่อหนูก่อนตายไม่ได้
แต่ตอนนี้น้าจะพยายามทุกทางเพื่อปกป้องอินให้ได้อย่างแน่นอนจ๊ะ น้าสัญญา”หนูโถมตัวเข้ากอดรัดร่างของคุณน้าแน่น
แล้วปล่อยให้ความเสียใจของหนูทั้งหมดที่ผ่านมาออกมา ซึ่งไม่ต่างอะไรจากคุณน้าตอนนี้ก็ร้องไห้
“อึก..”เสียงสะอื้นที่ออกมาจากในลำคอของหนูดังขึ้นขาดๆหายๆ
“อิน สัญญากับน้านะจ๊ะ..ต้องเข้มแข็ง ต้องเข้มแข็งเอาไว้นะ”หนูพยักหน้าแล้วดันหน้าเข้าซุกกับเสื้อของคุณน้า
ฝามือของคุณน้ายกขึ้นลูบหัวของหนูแผ่วเบา
- อบอุ่นจัง –
ทั้งๆที่เมื่อก่อนไม่เคยรู้สึกอะไรอย่างนี้จากฝามือของคุณน้าเลยแท้ๆ
ทำไมนะตอนนี้ถึงรู้สึกอบอุ่นเหมือนคุณพ่อกำลังลูบหัวปลอบโยนหนูอยู่เลยละ
“เอาละน้าหลาน เราหมดเวลาเศร้ากันแล้วจ๊ะ เราสองคนมาช่วยกันเก็บของเตรียมย้ายไปที่หอพักหนูกันดีกว่าเนอะ”
คุณน้าดันตัวหนูออกเบาๆแล้วของเช็ดน้ำตาของตัวเองรวมทั้งของหนูด้วย รอยยิ้มถูกส่งให้หนู
หนูพยักหน้า คุณน้าเลื่อนกระเป๋าที่หนูใส่ของส่วนตัวไว้ในนั้น คุณน้าหยิบมันขึ้นมาแซว
เล่นเอาหนูรีบตะครุบมันเอาไว้แล้วยัดมันเข้าไปในกระเป๋าทันที พร้อมความรู้สึกร้อนวูบที่ใบหน้า ตลอดการเก็บของใช้ส่วนตัว
หนูก็โดนแซวแทบตลอด ไม่ว่าจะเป็นตุ๊กตาของหนูที่คุณน้าเรียกมันว่าน้องเน่า หรือไม่ก็เป็นไดอารี่ที่หนูแอบเขียนเอาไว้
เป็นการเก็บของที่น้าอายมากเลยคะ T///T
* วันย้ายของเข้า *
“ให้น้าช่วยยกขึ้นไปไม่ลูก ของเยอะแบบนี้”หนูส่ายหัวแล้วยิ้มให้คุณน้าแห้งๆ มันก็หนักนะคะ
เกินกำลังหนูไปนิด แต่มันเป็นของใช้ของหนูนิคะ จะให้คุณน้าช่วยยกได้ยังไงกัน
“.....”
“เดียวก่อนอิน..เอานี่ขนมเค้ก เอาไปฝากรูมเมทหนูนะ”หนูย้ายของไปใช้มืออีกข้างถือ
กลัวขนมเละจัง “แล้วนี่น้าให้ เอาไว้ทำงานและคุยกับน้าตอนหนูเหงานะ”คุณน้ายืนกระเป๋าโน๊ตบุ๊คให้
หนุส่ายหน้าเพราะหนูไม่เห็นจำเป็นต้องใช้มันเลยสักนิดผิดกับคุณน้าที่ต้องใช้มันมากกว่าหนู
“....”หนูวางของทั้งหมดลงกับพื้น ส่วนขนมหนูเอาวางไว้ห่างๆจากของอื่น หนูกลัวมันเละ
แล้วหนูก็หยิบกระดานขึ้นมาเขียน
‘คุณน้าเก็บไว้ใช้เถอะคะ”
“เอาไปใช้เถอะจ๊ะ น้ามีอีกเครื่อง”หนูควรรับมันมาดีมั้ยคะ คุณพ่อ
เมื่อหนูมองสายตาของคุณน้าที่มองมายังหนูจึงทำให้หนูต้องจำใจรับมันเอาไว้
‘งั้นหนูขอตัวขึ้นห้องพักก่อนนะคะ’
“จ๊ะ ว่าแต่หนูจำได้รึเปล่าว่าตัวเองอยู่ห้องไหนชั้นไหน”หนูที่กำลังหยิบของอยู่ก็ชะงักแล้วเงยหน้ามองคุณน้าพร้อมรอยยิ้มแห้งๆให้อีกครั้ง
“ลืมใช่มั้ย หนูอยู่ห้อง 516 ชั้น 5 จำไว้ให้แม่นๆละ”หนูพยักหน้าแล้วหยิบของขึ้นมาถือ
หนูเดินถือของที่เรียกว่าพะรุงพะรัง คนอื่นๆที่ขนของย้ายเข้ามาในหอภายในวันเดียวกับหนูก็เดินถือของกันไปมา
บางคนก็จับกลุ่มพูดคุยกัน และเมื่อหนูขึ้นมายังชั้น 5 หนูเจอประตูห้องพักเรียงรายกันอยู่ ห้องไหนละของหนู
516..
516..
516..
อ๊ะ..นี่ไง...เอาไงดีนะ เปิดเข้าไปเลยหรือเคาะประตูก่อนดี
หนูไม่รู้ว่ารูมเมทหนูมาแล้วหรือยังและอีกอย่างหนูกลัวจะทำในสิ่งที่เขาไม่ชอบ
แล้วเขาพาลจะเกลียดหนูขึ้นมา ถ้าเป็นสากลหน่อยหนูก็ควรเคาะประตูก่อนสินะคะ
ก๊อกๆ
หนูวางของลงกับพื้นแล้วกำเข้าออก เพราะรู้สึกเจ็บที่มือจากของที่ถืออยู่แล้วรอดูว่าจะมีเสียงใครตอบหลับมาหรือจะมีคนเปิดประตูออกมา
พอเห็นว่าเวลาผ่านไปสักพักแล้วยังไม่มีใครออกมา หนูเลยลองเปิดประตูเข้าไปดู แต่ประตูก็ไม่ได้ล๊อคไว้อย่างที่คิด
หนูเลยหยิบของที่อยู่บนพื้นขึ้นมาแล้วเดินเข้าห้อง แล้วใช่แผ่นหลังดันเพื่อปิดประตู
ว้าววว~
ประตูระเบียงถูกเปิดไว้ทำให้ลมที่พัดเข้ามาหอบเอากลิ่นน้ำทะเลเข้ามาด้วย หนูวางของลงกับพื้นแล้วเดินไปที่ระเบียง
พื้นทะเลที่ไกลจนสุดสายตา สวยจังเลย ตั้งแต่คุณพ่อเข้าโรงพยาบาลหนูก็ไม่ได้เห็นทะเลอีกเลย
ดีใจจังที่ได้เห็นทะเลอีกครั้งคุณพ่อมองหนูอยู่รึเปล่าคะ หนูคิดถึงคุณพ่อเหลือเกิน ตอนนี้หนูกำลังเข้ามาใช้ชีวิตใหม่ในโรงเรียนใหม่
คุณพ่อคะ...อวยพรให้หนูด้วยนะคะ
แก๊ก..
“คุณเป็นรูมเมทกับนายน้อยสินะคะ”หนูหันกลับไปมองบุคคลที่เข้ามาใหม่ก็เจอพี่สาวในชุดเมด เธอเป็นผู้หญิงที่มีผมสีชมพู
ตาสีน้ำตาล เธอยืนข้างกลับผู้ชายอีกหนึ่งคนที่แต่งชุดคล้ายๆลูกคุณหนูในต่างประเทศ ดูท่าจะเป็นรุ่นพี่สินะคะ
และที่สำคัญ..รูมเมทหนูเป็นผู้ชายอะT^T
“....”หนูพยักหน้าตอบแล้วยิ้มให้
“ฝากตัวด้วยนะคะ”พี่สาวเมดพูดน้ำเสียงสดใส
“สวัสดีครับ”พี่เขากล่าวทักทายแล้วยิ้มให้ หนูยิ้มให้พี่เขาแห้งๆ
‘สวัสดีคะ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ’หนูเขียนแล้วชูให้พี่เขาอ่าน
“งั้นเรามาเลือกเตียงนอนกันดีกว่านะ ว่าแต่ชื่ออะไรเหรอ”หนูลบที่เขียนก่อนหน้านี้ทิ้งด้วยการรูดตัวลบเพียงครั้งเดียว
‘ เมอิน ’
“งั้นฝากตัวด้วยนะเมอิน ผมชื่อ พีช ส่วนนี่ พี่แมรี่”หนูยิ้มให้พี่แมรี่แล้วยิ้มให้พี่พีช พี่พีชเดินผ่านหนูเข้าไปดูในห้องนอน
หนุถอยกรูทันทีที่พี่พีชเดินเกือบจะเรียกว่าใกล้หนู
“กลัวผู้ชายเหรอคะ”พี่แมรี่ที่เดินตามหลังพี่พีชมาถามขึ้น หนูไม่รู้ว่ากลัวหรือเปล่า แต่ร่างกายหนูถอยออกเองโดยอัตโนมัติ
“กลัวจริงงั้นเหรอ”อยู่ๆพี่พีชก็เดินออกมาจากข้างใน ทำเอาหนูผงะแล้วถอยหลังล้มลงกับพื้นอย่างช่วยไม่ได้
“คงจะกลัวจริงๆคะ”พี่แมรี่ยิ้มแล้วช่วยหนูลุกขึ้นมาจากพื้น หนูก้มหน้าขอบคุณแล้วค่อยๆลุกขึ้นแล้วถอยออกห่างพี่พีช
“งั้นก็แย่สิ”คงจะแย่จริงๆนั้นแหละคะ “แล้วตอนนอนไม่มีปัญหาเหรอ”
“นั้นสิคะ ฉันว่าเอาอะไรมาขึงเป็นฉากกั้นไว้ดีมั้ยคะ”
“ก็คงดีสำหรับเมอินละนะ”หนูทำให้พี่ๆเขาลำบากสินะ หนูขอโทษนะคะที่ทำให้พวกพี่ลำบากกัน
* 20 นาทีผ่านไป *
“เสร็จเรียบร้อยแล้วคะ”ภายในห้องนอนมีฉากกั้นที่พี่แมรี่ทำให้
‘ขอบคุณนะคะ’หนูเขียนขอบคุณแล้วชูให้พี่พีชและพี่แมรี่อ่าน
“คะ”
‘รอแป๊บนะคะ’หนูลืมไปเลยคุณน้าให้ขนมมานี่น้า หนูลืมไปเลยถ้าปล่อยไว้ขนมคงไม่อร่อยแน่เลย
ซึ่งมันตรรกะพิเศษของหนูเองคะ ขนมที่ได้มาถ้าไม่รีบกินจะไม่อร่อย
หนูเดินมาก็เจอขนมเค้กที่วางอยู่บนพื้นข้างสัมพาระ
หนูเดินถือมันเข้าในห้องแล้วยื่นมันไปทางพี่แมรี่ให้ช่วยเอาไปให้พี่พีช
“ขอบคุณสำรับขนมนะ”
“...”หนูผงกหัวให้ แล้วยิ้มให้พี่พีชน้อยๆ
“เรายังไม่ได้เลือกเตียงกันเลยนี่น่า ว่าไงเมอินเอาเตียงฝั่งไหน”
‘พี่พีชเลือกก่อนเลยคะ’
“จะดีเหรอ”หนูพยักหน้าแทนการเขียนลงกระดาน
“งั้น..ฝั่งซ้ายแล้วกัน ไม่เป็นไรใช่มั้ย”
‘คะ’
“งั้นเราแยกย้ายกันไปจัดของดีกว่า”หนูพยักหน้าเห็นด้วย
หนุจะพยายามอยู่ร่วมกับพวกพี่ๆเขาแล้วกันนะคะ คุณพ่อคะเป็นกำลังใจให้หนูด้วยนะคะ
หนูจะเป็นเด็กดีไม่สร้างปัญหาอะไรเลยคะ แต่ขอให้ชีวิตหนูราบรื่นกับการเข้าโรงเรียนใหม่นี้ด้วยนะคะ
D. รางวัลสำหรับคู่ที่ทำภารกิจได้ปานกลาง 65% สร้างความประทับใจแก่ผู้อำนวยการโรงเรียน
- GREAT SQUARE STAMP
[ ROOMMATE & SPECIAL QUEST ONLY ]
ตราประทับระดับกลางในหมวดภารกิจรูมเมทและภารกิจพิเศษ มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยม
แซฟไฟร์ มีมูลค่า +75 Grade Exp. จะได้รับเมื่อปฎิบัติภารกิจได้อย่างดีเป็นที่น่าชื่นชม
แก่ผู้อำนวยการโรงเรียน- +1,000,000 Spirit Point
ไอเทมเพิ่มแต้มสะสม Spirit Point ตามปริมาณที่กำหนด ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการ
แลกเปลี่ยนเป็น CHIPS ได้ในภายหลัง
- Narin's Comment:
- สิ่งแรกที่อยากให้ปรับปรุงในครั้งหน้าคือเรื่องคำผิดนะครับ
ทั้งผิดด้วยการพิมพ์วืดโดนตัวอักษรข้างๆ และผิดโดยพิมพ์ผิดจริงๆ
แต่นอกจากนั้นแล้วเรื่องน่ารักครับ ผมไม่ทันสังเกตด้วยซ้ำว่าเมอิน
ได้รูมเมทเป็นผู้ชายโดยที่ตัวเธอกลัวผู้ชาย ใส่ใจในจุดนี้ได้ดี
แถมยังหาทางแก้ไขเฉพาะหน้าภายในภารกิจอีกด้วย ดีเลยครับ
- ผู้มาเยือนผู้มาเยือน
Re: ROOMMATE 4 : การเริ่มต้น
Sun 31 Jan 2016, 20:17
- PART I สู่ที่ใหม่ :
- วันเสาร์ -
ก๊อกๆๆ
เสียงประตูห้องพักของผมถูกเคาะ ซึ่งตัวผมกำลังหลับอยู่ได้ตื่นขึ้นมาเปิดประตูรับผู้มาเยือนอย่างงัวเงีย
"พี่ภูมิ นี่เจ็ดโมงเช้าแล้วพี่ยังไม่มาซ้อมอีกเหรอ?"
"อา.. โทดทีๆ เมื่อคืนนอนดึกน่ะ"
"จัดหนักเหรออออ ฮั่นแหน่ๆๆ กิ้วๆๆ"
"จัดบ้าจัดบออะไรของนาย ก็รู้ว่าพี่ไม่มีรูมเมทแล้วนะ'ก้อง'"
"ครับๆ พี่รีบมาซ้อมเหอะ คนอื่นเค้าซ้อมรอพี่อยู่นะ"
"ไปก่อนเลย เดี๋ยวตามไป"
ผมรีบอาบน้ำแต่งตัวเพื่อไปซ้อมบอลกับทีมตามปกติ เมื่อคืนนอนดึกไปหน่อย
มัวแต่แชทกับเซย์ซะลืมดูเวลา ปกติจะนอนสี่ทุ่มแต่ดันนอนเที่ยงคืนซะได้ ให้ตาย..
#สนามบอล
ขณะที่ผมซ้อมเลี้ยงลูกอยู่นั้น..
"...ใครมารับเหรอ ว่าจะติดรถไปด้วยน่ะ"
"พ่อจะขับกระบะมารับน่ะ"
"ขอไปด้วยได้ม้าา นั่งกระบะหลังก็ได้"
"ฉัน! ฉันก็อยากไปด้วย! พ่อแม่ไม่ว่างมารับน่ะ อยู่ต่างประเทศกันหมด"
"ได้สิ"
หืม..? อะไรล่ะนั่น ใครจะไปไหนอะไรยังไง?
"พวกนายคุยอะไรกันอยู่ล่ะนั่นน่ะ หืม?"
"อ่อภูมิ ก็เรื่องย้ายโรงเรียนที่ผอ.ประกาศหน้าเสาธงไง"
"ห๊ะ? ย้าย?"
"เอิ่ม..พี่เติ้ลก็รู้ว่าพี่ภูมิไม่ค่อยได้เข้าแถว..."
"อ้อ! เออ เห็นว่าโรงเรียนโดนอะไรสักอย่าง เอาเป็นว่าเราต้องย้ายไปเรียนอีกที่นึง"
"ที่สำคัญติดทะเลด้วย"
"ไม่เห็นจะเคยรู้มาก่อน ทำไมไม่บอกวะ.."
"ก็นึกว่าแกจะรู้"
"เพิ่งรู้เนี่ย!!"
หลังจากที่ซ้อมฟุตบอลเสร็จผมเลยกลับห้องมาเก็บข้าวเก็บของเตรียมตัวย้ายโรงเรียนในวันพรุ่งนี้
นอกจากรูมเมททิ้งแล้วยังโดนโรงเรียนทิ้งอีกเหรอเนี่ย..
ผมโทรหาพี่พัฒน์ให้มารับในวันพรุ่งนี้ ซึ่งพี่แกก็ตกลงเพราะอยากเล่นน้ำทะเล -*-
เก็บของเสร็จไปเดินเล่นในโรงเรียนเป็นครั้งสุดท้ายดีกว่า
วันรุ่งขึ้น..
ผมยืนหิ้วถุงที่ใส่ของที่จะย้ายไปสู่โรงเรียนใหม่ เพราะผมไม่ได้หยิบกระเป๋าติดจากบ้านมาสักกะใบ
ไอ้คุณพี่พัฒน์ขับรถเบนซ์คันงาม(ซึ่งคาดว่าแกคงออกรถใหม่)มารับผม
"ไง พ่อมารับแล้วครับน้องภูมิ"
"ตลกละ"
"ฮ่าๆๆ"
ระหว่างทางก็มีเรื่องให้ครุ่นคิดมากมาย.. ที่ใหม่จะเป็นยังไงนะ..
จะมีสนามบอลให้เล่นมั้ย.. แล้ว.. เซย์จะกลับมาหรือเปล่านะ?
- PART II ความรู้สึกต่อที่ใหม่:
ใช้เวลาแค่ไม่กี่ชั่วโมงผมก็มาถึงสถานที่แห่งใหม่ โฉมหน้าโรงเรียนดูหรูหรากว่าเดิมล้านเท่า
อยากจะรู้จังว่าพ่อพี่พัฒน์จ่ายค่าเทอมให้ผมมากขนาดไหนกันนะ ผมถึงได้เรียนที่นี่
สิ่งแรกที่ผมทำเมื่อถึงโรงเรียนคือถ่ายรูปโรงเรียนส่งไปให้เซย์ดู เผื่ออาจจะอยากกลับมาเรียน
สาเหตุที่พักการเรียนผมก็ไม่รู้แฮะ เจ้าตัวไม่ได้บอกอะไร ทิ้งให้ผมอยู่ตามลำพัง(ดราม่าทำไม)
ผมเริ่มเดินสำรวจโรงเรียนเพื่อหาสนามบอล และก็พบว่า โอ้โหหห ใหญ่กว่าเดิมมาก!! ขอบคุณครับ!!
แถมยังมีโรงยิมด้วยแฮะ คือดี.. ดีมาก.. ซาบซึ้งจนน้ำตาไหล
หือ.. ผมมองรถกระบะคันหนึ่งที่มาจอดเทียบเคียงกับรถเบนซ์ที่ผมนั่งอยู่
สักพักก็เห็นเพื่อนๆของผมกระโดดลงจากกระบะ ดูวุ่นวาย ผมควรไปหาพวกมันไหม =_=...
ส่วนพี่พัฒน์น่ะเหรอ อยู่ที่ทะเลเรียบร้อยละ...
ในที่สุดผมก็ตัดสินใจเดินไปหาพวกมัน แต่..
สะดุดก้อนหินหัวทิ่มครับ!!!
ลูกบอลที่ผมหิ้วมาด้วยกลิ้งไปตามแรงกระแทก สักพักก็มีคนเก็บมาให้และเดินมาหาผมที่กำลังปัดๆฝุ่นอยู่
เธอยืนมองหน้าผมนิ่งๆและยื่นลูกบอลมาให้ โดยที่ไม่มีเสียงใดเล็ดลอดออกมาจากปากเธอแม้แต่น้อย
ผมก็รับคืนมาแบบงงๆ และเธอก็จากไปอย่างงงๆ ...
...
- PART III พบรูมเมท1ea:
ผมเดินอยู่บนทางเดินชั้นสองของหอพัก มองหาห้องของตัวเอง
พลันสายตาก็ไปสะดุดห้องๆหนึ่งที่มีกระเป๋ากองอยู่หน้าห้องสองสามใบ
และประตูที่เปิดอ้าอยู่ และดูจากเลขห้องแล้ว นั่นคือห้องพักของผม
เมื่อผมเข้าไปใกล้ก็มีคนเดินออกมายกของเข้าห้อง
เอ๊ะ.. คนที่เก็บลูกบอลให้ผมนี่นา..?
"ส..สวัสดีครับ? เอ่อ..คุณ?"
อีกฝ่ายชะงักเล็กน้อยก่อนหันมามองทางผม และจ้องมองผมเงียบๆ
"คือ... ผมพักห้องนี้ คุณพักห้องนี้เหรอ?"
เมื่อได้ยินดังนั้นเธอเลยพยักหน้าน้อยๆ
"งั้นเราก็เป็นรูมเมทกันนะครับ เดี๋ยวผมช่วยยกละกัน"
เธอพยักหน้าน้อยๆอีกครั้งก่อนจะยกกระเป๋าใบหนึ่งเข้าไป
...
เมื่อยกกระเป๋าเข้ามาด้านในห้องเสร็จแล้ว ผมจึงพยายามเริ่มบทสนทนา
"นี่.. ขอบคุณนะครับที่เก็บลูกบอลมาให้"
อีกฝ่ายเพียงแต่พยักหน้ารับเท่านั้น
"ผมชื่อภูมินทร์ เรียกภูมิก็ได้ อยู่ม.4แล้ว คุณชื่ออะไรครับ?"
คราวนี้อีกฝ่ายพูดแล้ว โอ้โหหห น้ำตาจิไหลลลล
"...ฮิโซกะ ชื่อฮิโซกะ อยู่ม.1"
"งั้นเหรอๆ ฮ่าๆ ไงๆเราก็เป็นรูมเมทกันแล้ว มีอะไรให้ช่วยก็บอกล่ะ!"
อีกฝ่ายก็พยักหน้าตามเดิม
...
- PART IV :
หลังจากที่จัดข้าวจัดของจนเกือบหมด แต่ขอพักก่อนละกัน เหนื่อยชิพลอสต์
ผมเห็นเธอนั่งอ่านหนังสือของเธอเงียบๆ เลยใช้โอกาสนี้มาอาบน้ำสักหน่อย
ผมยังไม่อยากให้เตียงเหม็นเหงื่อของผมตั้งแต่วันแรก
ผมยังคงไม่ชินกับการเปลี่ยนแปลงสักเท่าไหร่ ด้วยความที่มันกระทันหัน
ผมเลยงงๆอยู่ อีกเดี๋ยวคงชินไปเอง
แต่ผมก็รู้สึกทำตัวไม่ถูกอยู่นะ.. ก็รูมเมทคนนี้ของผมน่ะสิ ทำเอาผมไปไม่เป็นเลยทีเดียว
ทำไมน่ะเหรอ .. ก็ดูเหมือนว่าเค้าจะไม่อยากจะคุยกับผมสักเท่าไหร่
ผมเองก็ไม่ค่อยชอบคุยกับคนแปลกหน้าเสียด้วยสิ
แต่ก็ อยู่ด้วยกันไปนานๆก็คงจะคุยกันได้ล่ะมั้ง? พรุ่งนี้หลังเลิกเรียนไปซ้อมบอลดีกว่า !
C. รางวัลสำหรับคู่ที่ทำภารกิจได้ยอดเยี่ยมมาก 80% ประทับใจมากแก่ผู้อำนวยการโรงเรียน
- ULTRA SQUARE STAMP
[ ROOMMATE & SPECIAL QUEST ONLY ]
ตราประทับระดับสูงในหมวดภารกิจรูมเมทและภารกิจพิเศษ มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยม
เพชรสีชมพูผสมทองคำแท้ มีมูลค่า +100 Grade Exp. จะได้รับเมื่อปฎิบัติภารกิจ
อย่างยอดเยี่ยมเป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจแก่ผู้อำนวยการโรงเรียน- +1,500,000 Spirit Point
ไอเทมเพิ่มแต้มสะสม Spirit Point ตามปริมาณที่กำหนด ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการ
แลกเปลี่ยนเป็น CHIPS ได้ในภายหลัง
- Narin's Comment:
- สิ่งที่อยากให้ปรับปรุงในรอบหน้าคือ อยากให้อธิบายตัวละคร
มากกว่านี้สักนิดนึงครับ ภูมิไม่ค่อยได้ส่งภารกิจเขียนบ่อยนัก
ผมเลยจำความสัมพันธ์ตัวละครรวมทั้งชือตัวละครเสริมไม่ได้
อ่านแล้วเลยงงๆว่าใครเป็นใคร (ความผิดผมเองที่จำไม่ได้)
ถ้ารู้ความสัมพันธ์ตัวละครทุกตัวแล้วคาดว่าน่าจะอ่านสนุกกว่านี้
- ผู้มาเยือนผู้มาเยือน
Re: ROOMMATE 4 : การเริ่มต้น
Sun 31 Jan 2016, 20:42
- Spoiler:
- โรงเรียนมีประกาศย้ายไปที่แห่งใหม่
ผมที่เพิ่งเข้ามาใหม่ไม่เท่าไหร่ ยังสำรวจไม่ทั่วทุกซอกมุมของโรงเรียนเก่าเลย ก็ต้องย้ายไปยังที่แห่งใหม่แล้ว ทำให้ผมรู้สึกแปลกๆยังไงไม่รู้ อาจจะเป็นเพราะเป็นพวกไม่ชอบการเปลี่ยนแปลงก็เป็นได้ แต่เรื่องราวมันก็ต้องเป็นไป ผมต้องปรับตัวให้ได้กับที่แห่งใหม่ คิดอีกแง่ให้ดีก็คือ บางทีอาจจะมีอะไรแปลกแหวกแนวให้ผมได้พบเจอก็ได้ น่าสนุกดีเหมือนกัน แต่ไม่เอาเรื่องผีนะครับ…
ตอนนี้ตัวผมกำลังเก็บสัมภาระตัวเอง แล้วยืนมองห้องพักที่ว่างเปล่า ใจหายเหมือนกันที่มันเร็วแบบนี้ เพราะมันดูว่างเปล่าจนรู้สึกเศร้าขึ้นมา ถ้าหากโรงเรียนแห่งนี้มีความรู้สึกนึกคิด เขาจะไม่ได้เห็นเด็กๆวิ่งเล่นไปมา นั่งเรียนหนังสือ หรือแอบหลับในห้องเรียนอีกแล้ว มันคงเป็นความรู้สึกที่แสนเศร้าเกินกว่าที่ผมจะรู้สึกในตอนนี้ก็เป็นได้
ผมหันหลังออกนอกประตู เดินไปตามทางว่างเปล่า ดูท่าผมจะเก็บของเสร็จเป็นคนสุดท้าย แบบนี้ยิ่งทวีความรู้สึกวังเวงในจิตใจผมเข้าไปใหญ่ เลยทำให้ต้องรีบจ้ำออกจากหอพักเร็วๆ
เมื่อผมได้มาถึงโรงเรียนแห่งใหม่
ภาพตรงหน้าทำให้ผมอึ้งไปพักใหญ่ เหล่าอาคารที่ถูกสร้างนั้นดูดีมากจริงๆ ทางเดินเข้าไปยังมีต้นไม้ปลูกไว้สองข้างทาง ต้อนรับพวกเรา แถมป้อมยามนี่อย่างโดนเลยครับ ผมหมายมั่นไว้ว่าถ้าเรียนจบก็ขอมาทำงานอยู่ตรงนี้แล้วกัน
อีกสิ่งที่ดึงสายตาผมในครั้งแรกที่เห็นก็คือตึกใหญ่หลังสุดของพื้นที่โรงเรียนแห่งนี้ ผมสงสัยมากๆ ตอนแรกเดาไปว่าเป็นห้องเรียนหรือเปล่านะ ดูอากาศถ่ายเท เหมาะแก่การนอนหลับจริงๆ
ไม่ทันไรคิดไปโน่นไปนี่ ขาก็พามาถึงอาคารแห่งนี้แล้ว จริงๆมันก็คือหอพักนั่นเอง ผมนี่ดีใจหนักเข้าไปอีก งี้คงอยู่ในหอจนไม่ไปเรียนแล้วแน่ๆ เพราะมองไปข้างหลังดันมีทะเลอีก โอ้วพระเจ้าจอร์จ อะไรมันจะสุดยอดขนาดนี้ กราบขอโทษโรงเรียนเก่ากันสักหน่อยนะครับ….
รู้สึกผมจะอยู่ห้อง 611 ….
ห้องใหม่ รูมเมทคนใหม่
ผมหวังแต่เพียงว่าผมจะสามารถเข้ากับรูมเมทคนใหม่ที่จะต้องอยู่ด้วยในครั้งนี้ได้ เพราะผมเองก็กังวลพอสมควร เนื่องจากผมไม่ถนัดการเข้าสังคมเท่าไหร่
หลังจากมาถึงห้อง 611 ดูเหมือนรูมเมทของผมยังมาไม่ถึง ผมจึงโล่งอกอย่างบอกไม่ถูก อาจจะเพราะผมยังเตรียมใจไม่ได้กระมัง ระหว่างนี้ขอผมเตรียมใจก่อนนะครับ แล้วเราค่อยเจอกันรูมเมทคนใหม่!
ผมที่กำลังคิดอะไรไปเรื่อย กลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียงนุ่ม นอนมองเพดานบ้าง มองออกข้างนอกบ้าน กระวนกระวายใจอยู่ไม่สุข จนเวลาผ่านไปสักพัก
แกร๊ก
เสียงประตูห้องของผมก็เปิดออก
“อ่า สวัสดีครั…..อั๊กกก”
ไม่ทันที่ผมจะได้ทักทาย ก็รู้สึกว่าท้องโดนกระแทกเข้าให้อย่างจัง กระเด็นล้มกลิ้งตกเตียงไปเป็นที่เรียบร้อย เหมือนภาพทุกอย่างจะดับวูบไปประมาณ2-3วินาที และกลับมาเป็นภาพของ “พี่พี” ยืนมองผมอยู่
“ไหงถีบกันแบบนี้ละครับ ทักทายแบบใหม่เรอะ” ผมคลำพุงตัวเอง กดๆว่าเครื่องในผมเละไปแล้วหรือยัง
สรุปก็คือ พี่พีนึกว่าผมเป็นผู้บุกรุก เพราะเข้าใจว่ารูมเมทตัวเองยังเป็นพี่พีชอยู่ ไม่รู้ว่าโดนเปลี่ยนรูมเมท พอเจอคนที่ไม่ใช่พี่พีช ก็เลยจัดการทันที แบบว่าอัตโนเท้าเลยทีเดียว
พวกเราก็เลยมานั่งทำความเข้าใจกันใหม่อีกรอบ ในระหว่างที่คุยกัน ผมลอบสังเกตผู้ร่วมอาศัยคนใหม่ของผม แว้บแรกที่รู้สึกคือพี่พีเป็นคนนิ่งมาก เมื่อกี้ที่ถีบผมก็ยังหน้านิ่งได้อีก แบบว่าไม่รู้สึกผิดเลยรึเปล่าครับเนี่ย! แต่ดูแล้วคงไม่ได้เป็นคนโหดร้ายจิตใจอำมหิต แค่พี่เขาตกใจกระมังว่าใครที่ไหนมานอนรอเขาบนเตียง…เลยถีบเข้าให้เพื่อป้องกันตัวเอง (ถึงผมจะยังไม่ทันได้ทำอะไรพี่เขาก็เถอะนะ) เอาเป็นว่า สำหรับผมแล้ว พี่เป็นถีบแรกของผมเลยครับ….
“ยังไงก็ ต่อจากนี้ไป ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับพี่พี อ่า..แล้วก็ได้โปรด อย่าถีบผมอีกเลยนะครับ…”
ก่อนจะจากกัน ผมอยากให้ดูรูปถีบแรกของผมครับ มันช่างน่าจดจำจริงๆ จนอยากวาดออกมาเป็นภาพ 5555
- Spoiler:
B. รางวัลสำหรับคู่ที่ทำภารกิจได้เกือบเพอร์เฟ็ค สร้างความน่าปลาบปลื้มแก่ผู้อำนวยการโรงเรียน
- GRAND PENTAGON STAMP
[ ROOMMATE & SPECIAL QUEST ONLY ]
ตราประทับระดับสูงมากในหมวดภารกิจรูมเมทและภารกิจพิเศษ มีลักษณะเป็นห้าเหลี่ยม
เทอร์ควอยซ์ผสมทองคำแท้ มีมูลค่า +150 Grade Exp. จะได้รับเมื่อปฎิบัติภารกิจได้
สุดยอดเป็นที่น่าปลาบปลื้มแก่ผู้อำนวยการโรงเรียน- +2,000,000 Spirit Point
ไอเทมเพิ่มแต้มสะสม Spirit Point ตามปริมาณที่กำหนด ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการ
แลกเปลี่ยนเป็น CHIPS ได้ในภายหลัง
BRONZE HONOR DEGREE TROPHY
ถ้วยเกียรติยศทองแดง มอบให้แด่ผู้ที่สามารถปฎิบัติภารกิจที่มีผู้ชื่นชอบมากที่สุด
ในโรงเรียน เป็นลำดับ 3 (กรณีมีคะแนนโหวตเกิน 2 คะแนนเท่านั้น)
- Narin's Comment:
- ครั้งแรกที่ปักษ์มากับมุขตลกขบขัน ถึงแม้ตัวภารกิจจะสั้น
แต่ก็เลือกสถานการณ์ที่จะเขียนได้อย่างฉลาดมากครับ
ถึงรูปจะไม่เกี่ยวกับภารกิจ แต่ผมก็ฮารูปมาก ไม่คาดฝัน
มาก่อนว่าปักษ์จะมาสายคอมมาดี้รุ่งขนาดนี้
- ผู้มาเยือนผู้มาเยือน
Re: ROOMMATE 4 : การเริ่มต้น
Sun 31 Jan 2016, 20:48
ส่งฮะะะ
D. รางวัลสำหรับคู่ที่ทำภารกิจได้ปานกลาง 65% สร้างความประทับใจแก่ผู้อำนวยการโรงเรียน
- Spoiler:
- หลังจากโดนที่โรงเรียนล้อเกี่ยวกับเรื่องที่พิพินเบี่ยงเบนทางเพศ.. พิพินเสียใจจนคิดว่าตัวเองน่าจะทนไม่ไหวแน่ๆ เลยปรึกษาที่บ้านทำเรื่องย้ายโรงเรียน จนไปเจอโรงเรียนแห่งหนึ่งแบบบังเอิญ...
----------------------
หลังจากย้ายมาที่โรงเรียนควิ้นแห่งใหม่.. รู้สึกแปลกๆกับโรงเรียนนี้อย่างบอกไม่ถูกให้กลิ่นอายของความเงียบสงบและลึกลับแบบแปลกๆ จนมาเจอรุ่นพี่ที่เป็นรูมเมทกับพิพิน พี่เขาชื่อ "สุภะ" (。’▽’。)♡ เราปรึกษาและเลือกที่จะอยู่ห้องหมายเลข 206 กัน หลังจากที่เก็บข้าวของกันเรียบร้อยแล้ว
พิพินก็นั่งเหม่อมองออกนอกหน้าต่างที่มองเห็นสระว่ายน้ำและน้องเป็ดยางน้อยที่วางอยู่ข้างชายหาด..
“เล่นเกม ‘คำใบ้’ กันมั้ยครับ (* ̄︶ ̄*)” พิพินสะดุ้งแล้วหันไปหาพี่สุภะก่อนที่จะตั้งสติและถามว่า..
“เล่นยังไงหรอ”
พี่สุภะหันมายิ้มและตอบว่า..
“ก็ให้เราเขียนคำใบ้ แล้วแลกกับของอีกฝ่าย คำใบ้ที่เราเขียนจะต้องสืบไปถึงสถานที่ที่หนึ่ง ที่ไหนก็ได้ภายในอาคารเรียนและที่ที่เราเลือกจะต้องมีของขวัญซ่อนเอาไว้เพื่อเซอร์ไพส์อีกฝ่ายด้วย ≧ω≦”
พี่สุภะพูดพร้อมทำท่าทางให่เข้าใจก่อนจะตอบว่า...
“น่าสนุกดีค่ะ เล่นก็ได้ ≧∇≦”
พี่สุภะพยักหัว..
“งั้นให้เวลาเตรียมตัวครึ่งชั่วโมงนะครับ”
พินเข้าห้องไปหาของขวัญที่จะเซอไพร้.. ทันใดนั้นก็เหลือบตามองไปเจอตุ๊กตาหมีสีฟ้าในกระเป๋า มันทำให้พิพินนึกถึงหน้าพี่สุภะทันทีที่เห็น
⁄(⁄ ⁄•⁄ω⁄•⁄ ⁄)⁄
หลังจากนั้น.. พิพินได้คลี่กระดาษอ่านคำใบ้ 'โดเรมีฟาซอลลาทีโด๊~'
♪ ♬ ヾ(´︶`♡)ノ ♬ ♪ พินก็ลองนึกหลายๆอย่างเกี่ยวกับตัวโน๊ตพวกนี้ เดินนึกไปทั่วโรงเรียน สักพักก็อ๋อ... เป็นอะไรที่แปลกใจมากที่พี่เขาเลือกห้องเดียวกับพิพิน พิพินจึงรีบวิ่งเพื่อที่จะได้ถึงห้องดนตรีก่อนพี่สุภะ 55555555
“เอ๊ะ...!!Σ( ° △ °)”
“อะ...!!Σ (゚Д゚;)”
พิพินเจอพี่สุภะยืนถือกระดาษคำใบ้พร้อมหันควับมาที่พิพิน ก่อนที่จะเข้าไปข้างในพี่สุภะได้ยืนดอกทานตะวันกลีบดอกทำจากโพสอิทสีเหลืองพิพินชอบมากก่อนที่จะถามพี่เขาว่า..
“ทำไมถึงให้ดอกทานตะวันพินล่ะ”
พี่สภะอมยิ้มพรางกลั้นขำก่อนที่จะตอบว่า
“ก็เหมือนพินดีนี่ครับ >_<”
พิพินนึกถึงภาพดอกไม้สีทองอร่ามอยู่ในหัวก่อนจะตะคอกใส่พี่สุภะว่า...
“โธ่! จะหลอกด่าพินล่ะสิ”
แต่พี่สุภะก็พูดว่าล้อเล่นพร้อมอธิบายต่อว่าพิพินสดใสร่าเริงเหมือนดอกทานตะวัน
ก่อนที่พินจะยืนของขวัญให้บ้าง
พี่สุภะทำตาโตดีใจหยิบตุ๊กตามากอดแล้วถามว่าทำไมถึงให้ตุ๊กตาตัวนี้กับเขา..
" แหมมมม... พี่สุภะ มันกระทันหันเกินคิดไรไม่ออกนอกจากตุ๊กตาหมี (・´з`・)"
พินตอบพรางกวนๆ
พี่สุภะขมวดคิ้วเอียงคอข้างหนึ่งพร้อมอุทานออกมาว่า
" หืม... ( ̄. ̄)"
พินอมยิ้มทำหน้าแบ๊วก่อนจะพูดความในใจออกไปว่า...
" โอ๋ๆๆๆๆ หลอกเล่น ก็พี่สุภะน่ารักเหมือนน้องหมีแล้วก็ดูสดใสให้ความรู้สึกปลอดภัยอบอุ่นเหมือนท้องฟ้าไง๊ >\\\\< "
ซึ่งความรู้สึกทั้งหมดนี้ก็เป็นความรู้สึกที่พิพินมีต่อพี่สุภะจริงๆ เรื่องราวหลังจากนี้คงเป็นอะไรที่สนุกสุดเหวี่ยงไม่เหมือนโรงเรียนก่อนแน่ๆ โอ้ยยยย... เผลอหลงรักรูมเมท เอ้ย!!? เผลอตกหลุมรักควิ้นแห่งนี้เข้าแล้วหล่ะสิ จะทำยังไงดีเนี๊ยยยยยย~ ไอบ้าเอ๊ยยยยยยยยยยยย~ >\\\\< 5555555 (づ ̄ ³ ̄)づ♡
♪\(*^▽^*)/\(*^▽^*)/
D. รางวัลสำหรับคู่ที่ทำภารกิจได้ปานกลาง 65% สร้างความประทับใจแก่ผู้อำนวยการโรงเรียน
- GREAT SQUARE STAMP
[ ROOMMATE & SPECIAL QUEST ONLY ]
ตราประทับระดับกลางในหมวดภารกิจรูมเมทและภารกิจพิเศษ มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยม
แซฟไฟร์ มีมูลค่า +75 Grade Exp. จะได้รับเมื่อปฎิบัติภารกิจได้อย่างดีเป็นที่น่าชื่นชม
แก่ผู้อำนวยการโรงเรียน- +1,000,000 Spirit Point
ไอเทมเพิ่มแต้มสะสม Spirit Point ตามปริมาณที่กำหนด ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการ
แลกเปลี่ยนเป็น CHIPS ได้ในภายหลัง
- Narin's Comment:
- ผมไม่แน่ใจว่าได้ตกลงเนื้อเรื่องร่วมกันมาแล้วหรือเปล่า
แต่จำเป็นต้องหักสแตมป์ลงหนึ่งขั้นจากกลุ่มนี้
เนื่องจากคาแรคเตอร์นิสัยของสุภะไม่ตรงตาม
กับในแฟ้มประวัติ ผมมีความเข้าใจคาแรคเตอร์สุภะ
ในแบบที่เป็นประมาณในภารกิจของรันเดล หากตัวละคร
ได้เติบโตขึ้นและมีอุปนิสัยที่เปลี่ยนไปแต่ลืมเปลี่ยน
ในแฟ้มประวัติ สามารถแย้งกับผมได้ทางหลังไมค์นะครับ
นอกจากนี้แล้วงานเขียนที่เป็นงานส่วนบุคคลน่ารักดีครับ
การใช้อีโมค่อนต่างๆเข้าช่วยก็ทำให้รู้สึกว่าเป็นเอกลักษณ์
ของพิพินดี งานรอบนี้ยาวกว่ารอบที่แล้ว และมีการพัฒนา
ขึ้นในหลายๆด้าน ขอให้ตั้งใจเช่นนี้ต่อไปนะครับผม
- bluebearz
Bonita Blanchett
นักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 5
1313
+128 M 935 K 310
PASSPORT
:
(550/2125)
:
Re: ROOMMATE 4 : การเริ่มต้น
Sun 31 Jan 2016, 20:54
- ดอกทานตะวันและตุ๊กตาหมีฟ้า:
- ทุกคนไปไหนกันน่ะ?
ผมแหงนมองอาคารหอพัก จากที่เคยเงียบสงบกลายเป็นความวุ่นวาย ได้ยินเสียงคนลากของ เสียงคนโวยวาย เสียงคนโห่ร้องปะปนกันไป ผมสงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้น...
“อ่าว ขนของเสร็จแล้วหรอ”
เพื่อนผู้ชายคนหนึ่งเอ่ยทักผม กระเป๋าสัมภาระที่เขาแบกมานั้นทำให้อดคิดไม่ได้เลยว่าเจ้าตัวกำลังจะย้ายไปที่ไหนสักแห่งเป็นแน่ แล้วมันก็เป็นอย่างนั้นจริง “ขนของ?”
“ใช่ นี่อย่าบอกนะว่าไม่รู้เรื่องที่เปลี่ยนรูมเมทกับโรงเรียนจะย้ายที่ตั้งไปอยู่เพชรบุรีด้วยอ่ะ”
ผมพยักหน้า นั่นทำให้อีกฝ่ายแอบสบถเล็กน้อย
“โห! ไปมุดอยู่รูไหนของพื้นดินมาเนี่ย...”
“เอาเป็นว่าขอบคุณที่บอก” ผมตัดบทพร้อมโค้งหัวเล็กน้อย ก่อนจะแยกตัวไปเก็บข้าวของเตรียมย้ายบ้าง ในตอนนั้นผมได้เจอรูมเมทคนเก่า...รันเดล ถึงจะแอบใจหายเล็กน้อยที่ต้องแยกกันก็จริง แต่พอคิดว่าได้ลองเจอคนใหม่ๆ ถือเป็นประสบการณ์ใหม่บ้างก็ดี
ผมกังวลแทบตายว่าตัวเองจะเดินทางไปเพชรบุรียังไง แต่พอลงมาจะเรียกว่าโชคดีหรือเปล่าไม่รู้ที่เพื่อนคนนั้นกวักมือเรียกผม ให้ผมนั่งรถไปด้วยกัน ก็ว่าจะปฏิเสธแต่ก็ไม่อยากยืนหัวโด่คนเดียวในโรงเรียน
โรงเรียนควิ้นท์แห่งใหม่...เพียงแค่ก้าวเดียวก็สัมผัสได้ถึงความกลัวบางอย่าง ทั้งที่บรรยากาศรอบข้างนั้นต่างอบอวลด้วยกลิ่นของธรรมชาติ อาจจะเป็นเพราะความใหญ่โตที่ทวีคูณมากกว่าเดิมหรือความยังคุ้นเคยโรงเรียนเก่า ผมกลืนน้ำลายก่อนจะเดินตามนักเรียนคนอื่นเข้าอาคารแห่งหนึ่งที่คาดว่าน่าจะเป็นหอพัก
ผมได้รูมเมทเป็นรุ่นน้องม.1และเลือกห้องพัก 206 ซึ่งติดฝั่งสระว่ายน้ำและชายหาด เพราะคิดว่าน่าจะเป็นห้องที่ให้ความผ่อนคลายได้ดี หลังจากเก็บของเสร็จ ผมกับพินก็มานั่งจับเข่าคุยกันว่าจะทำอะไรเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองรูมเมทคนใหม่ดี
จู่ๆ ผมก็นึกถึงเกมตอนอยู่ม.1ขึ้นมา
เป็นเกมที่รุ่นพี่ม.6เคยให้ผมเล่นตอนรับน้องใหม่
"เล่นเกม ‘คำใบ้’ กันมั้ยครับ”
“เล่นยังไงหรอ”
“ก็ให้เราเขียนคำใบ้ แล้วแลกกับของอีกฝ่าย คำใบ้ที่เราเขียนจะต้องสืบไปถึงสถานที่ที่หนึ่ง ที่ไหนก็ได้ภายในอาคารเรียนและที่ที่เราเลือกจะต้องมีของขวัญซ่อนเอาไว้เพื่อเซอร์ไพส์อีกฝ่ายด้วย”
“น่าสนุกดีค่ะ เล่นก็ได้”
“งั้นให้เวลาเตรียมตัวครึ่งชั่วโมงนะครับ”
หลังจากให้สัญญาณพวกเราก็แยกย้ายกันไปคนละทาง ผมเลือกที่จะเขียนคำใบ้ก่อนแล้วค่อยหาของขวัญที่คิดว่าน่าจะเข้ากับรูมเมทคนนี้ได้ พอเอาเข้าจริงผมก็ไม่รู้จะหาอะไรมาเป็นของขวัญให้เธอ รู้แค่ว่าอยากได้ของขวัญที่ดูแล้วสดใส ราคาถูกและมีประโยชน์ในการใช้สอยได้
เอ..เดี๋ยวนะ...ผมว่าผมนึกออกแล้ว!
ผมเดินกลับไปที่ห้องพักอีกครั้ง เพื่อค้นหาอะไรบางอย่างในกระเป๋าสะพาย...
‘มีคนเฝ้าอยู่หลังประตู คอยจ้องมองผืนผ้าสีดำ’
นั่นคือคำใบ้ที่ผมได้รับมาจากรุ่นน้อง ผมถึงกับเลิกคิ้วเมื่อมันไม่ใช่คำถามที่ง่ายๆ แปปเดียวก็รู้เลย แต่มันเป็นคำใบ้ที่ไม่เจาะจงสถานที่ หรือจะเรียกว่าไม่สามารถเจาะจงอะไรได้ เวลานี้จะมีใครมานั่งเฝ้าประตูกันล่ะ แล้วผืนผ้าสีดำคืออะไรนั่นล่ะคือประเด็นที่ผมยังแก้ไม่ได้
ผมคิดแล้วคิดอีก ต่อให้ควักสมองออกมาล้างเป็นล้านรอบก็คงจะคิดไม่ออก ผมชอบตรงที่พินรู้จักการใช้คำให้เป็นการเบี่ยงเบนความคิด ดูยากขึ้นเป็นกอง แต่นี่ก็ยากไปทำให้ผมสาวไปไม่ถึงห้องใดห้องหนึ่งเลย ผ่านมายี่สิบนาทีแล้วแต่ผมก็ยังวนอยู่ชั้นหนึ่งเช่นเคย
คนเฝ้าหลังประตู...ผืนผ้าสีดำ...
ทันใดนั้นผมก็นึกออก เมื่อลองตีความสองประโยคนั้นเป็นสิ่งของออกมาจะได้รูปภาพกับคีย์บอร์ด ผมนึกถึงห้องๆ หนึ่งทันที ถึงแม้จะไม่แน่ใจเท่าไร แต่ก็ทำให้ผมรีบขึ้นมายังชั้นสอง ตรงไปยังห้องที่อยู่เกือบท้ายสุดทันที
ไม่ใช่เพียงแค่ตื่นเต้น แต่ก็แปลกใจด้วย
“เอ๊ะ...”
“อะ...”
ผมชะงักขาที่กำลังจะก้าวต่อทันทีเมื่อเห็นอีกฝ่ายตรงมาทางนี้ คิดไม่ผิดจริงๆ ว่าพินจะเลือกห้องดนตรีเหมือนกันกับผม อะไรจะใจตรงกันขนาดนี้ ผมเริ่มรู้สึกเอะใจก็ตอนที่ตีความได้รูปภาพคนนั่นแหละ เรื่องที่เซอร์ไพส์ตอนนี้สำหรับพวกเราคงไม่ใช่ของขวัญ แต่เป็นการที่ได้มาเจอกันอีกครั้งในสถานที่ที่เลือกเหมือนกันเสียงั้น
เราแก้คำใบ้สุดท้ายจนเจอของขวัญในที่สุด ผมยื่นของขวัญให้กับพิน เป็นดอกทานตะวันนุ่มๆ กลีบของมันเป็นกระดาษโพสอิทฉีกได้ ดูเธอจะมีความสุขมากเมื่อได้เห็นมัน แต่แล้วเจ้าตัวก็ต้องทำหน้าสงสัย
“ทำไมถึงให้ดอกทานตะวันพินล่ะ”
ผมได้ยินก็ถึงกับอมยิ้ม ““ก็เหมือนพินดีนี่ครับ”
“โธ่! จะหลอกด่าพินล่ะสิ” พินทำหน้ามุ่ย ก่อนจะเปลี่ยนมายื่นของขวัญให้ผมบ้าง มันคือตุ๊กตาหมีสีฟ้า
“พินครับ ทำไมถึงต้องเป็นหมีฟ้าล่ะ” ว่าแล้วก็กอดทีหนึ่ง
“แหมมมม... พี่สุภะ มันกะทันหันเกินคิดไรไม่ออกนอกจากตุ๊กตาหมี”
“หืม.....” ผมทำหน้างุนงงกว่าเดิม
“โอ๋ๆๆๆๆ หลอกเล่น ก็พี่สุภะน่ารักเหมือนน้องหมีแล้วก็ดูสดใสให้ความรู้สึกปลอดภัยอบอุ่นเหมือนท้องฟ้าไง๊ >\\\\<” พินตอบพลางทำหน้าแบ๊ว
ผมกลั้วหัวเราะทันที ความจริงจะบอกว่าที่เลือกดอกทานตะวันให้เพราะสีเหลืองของมันคือสีบ่งบอกถึงบุคลิกที่ร่าเริง สดใส หรือจะเป็นการที่ดอกทานตะวันหันหน้าเข้าหาพระอาทิตย์ก็บ่งบอกถึงบุคลิกที่ชอบเข้าหาผู้คนของเจ้าตัว และมันยังเป็นตัวแทนของความเชื่อมั่นอีกด้วย...
เชื่อมั่นว่าเธอจะเป็นทั้งรูมเมทและเพื่อนของผมที่ร่าเริง สดใสแบบนี้ตลอดไป
D. รางวัลสำหรับคู่ที่ทำภารกิจได้ปานกลาง 65% สร้างความประทับใจแก่ผู้อำนวยการโรงเรียน
- GREAT SQUARE STAMP
[ ROOMMATE & SPECIAL QUEST ONLY ]
ตราประทับระดับกลางในหมวดภารกิจรูมเมทและภารกิจพิเศษ มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยม
แซฟไฟร์ มีมูลค่า +75 Grade Exp. จะได้รับเมื่อปฎิบัติภารกิจได้อย่างดีเป็นที่น่าชื่นชม
แก่ผู้อำนวยการโรงเรียน- +1,000,000 Spirit Point
ไอเทมเพิ่มแต้มสะสม Spirit Point ตามปริมาณที่กำหนด ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการ
แลกเปลี่ยนเป็น CHIPS ได้ในภายหลัง
- Narin's Comment:
- ผมไม่แน่ใจว่าได้ตกลงเนื้อเรื่องร่วมกันมาแล้วหรือเปล่า
แต่จำเป็นต้องหักสแตมป์ลงหนึ่งขั้นจากกลุ่มนี้
เนื่องจากคาแรคเตอร์นิสัยของสุภะไม่ตรงตาม
กับในแฟ้มประวัติ ผมมีความเข้าใจคาแรคเตอร์สุภะ
ในแบบที่เป็นประมาณในภารกิจของรันเดล หากตัวละคร
ได้เติบโตขึ้นและมีอุปนิสัยที่เปลี่ยนไปแต่ลืมเปลี่ยน
ในแฟ้มประวัติ สามารถแย้งกับผมได้ทางหลังไมค์นะครับ
งานเขียนส่วนตัวของฝั่งสุภะรอบนี้เปลี่ยนไปจากเดิมเล็กน้อย
อาจจะเพราะมาสั้นกว่าปกติ แต่เอกลักษณ์และคอนเซป
การแต่งเนื้อเรื่องที่คุณมักจะใช้ (ไม่ว่าจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม)
ก็หายไปเช่นกัน ไม่แน่ใจว่าเป็นงานรีบหรือไม่? ครั้งหน้า
ลองให้เวลากับงานมากกว่านี้สักนิด น่าจะกลับมาเหมือนเดิม
ได้ครับ
- ผู้มาเยือนผู้มาเยือน
Re: ROOMMATE 4 : การเริ่มต้น
Sun 31 Jan 2016, 22:36
หลังจากที่ฮันนาออกจากโรงพยาบาลได้ไม่นาน เธอก็เริ่มชีวิตใหม่ในบ้านหลังเล็กๆแห่งหนึ่งในชนบท กับครอบครัวของเพื่อนเธอ
“Pete, Shall you go to the garden?”
“Ok ,Let’s go!!”
ในสวนของฮันนานั้น เธอเป็นคนปลูกมันทั้งหมดด้วยตัวของเองเอง ทั้งเพื่อแก้เหงาและพยายามลบบาดแผลทางจิตใจที่ได้รับ
พีทและฮันนาเข้าไปในสวนด้วยกัน พีทนำต้นกล้าของดอกดาเลีย มาส่งให้ฮันนาปลูก จู่ๆฮันนาก็พูดขึ้นว่า
“pete,If I didn’t come to here, Will you feel lonely?”
“Of crouse, because you’re my friend.”
“That’s it….”
หลังจากนั้นอีก2วัน ฮันนาก็เตรียมตัวจัดกระเป๋าเพื่อไปเรียน โรงเรียนที่คุณหมอได้ส่งตนไป เธอคิดว่าไม่ว่าที่โรงเรียนใดๆ ก็คงจะเหมือนกัน และคำพูดที่คุณหมอพูดเอง ก็อาจจะไม่เป็นความจริงไปเสียก็ได้ ความคิดได้หยุดลงเมื่อเธอจัดของเสร็จ หญิงสาวเดินออกมาจากบ้านโดยไม่ได้ส้งลาใครทั้งสิ้นแม้แต่พีท เพื่อนของเธอ
ฮันนานั่งเครื่องบินจากลอนดอนไปกรุงเทพ เมื่อลงจากสนามบินแล้ว ก็หาเครื่องไปต่อที่เพชรบุรี ไม่นานนักจึงถึงจังหวัดที่เป็นที่ตั้งของโรงเรียนที่ฮันนาต้องเข้าเรียน เธฮโบกรถจากสนามบินไปส่งที่โรงเรียนด้วยความรีบร้อนแต่หลังออกมาจากสนามบิน เธอก็พบปัญหาใหญ่ เนื่องจากเธอไม่สามารถพูดภาษาไทยได้เลยแม้แต่คำเดียว เลยไม่รู้จะทำอย่างไรดี
ระหว่างที่คิดก็เหลือบไปเห็นผู้ชายคนหนึ่ง กำลังเดินอย่างสบายอารมณ์ มือทั้งสองถือสัมภาระอยู่ เขาเดินมาตรงข้างๆที่ฮันนาเดินอยู่และโบกรถอยู่สองสามที ฮันนาคิดว่าท่าทางน่าจะพูดภาษาอังกฤษได้ เธอจึงลองพูดว่า
“Excuse me, Do you help me ? ”
เมื่อเขาได้ยินดังนั้นก็หันมา พร้อมกับนิ่งซักพัก
“Ah.. yes,I do but not very well, so please speak slowly.”
เมื่อได้ยินดังนั้นแล้ว เธอเองก็ค่อนข้างใจชื้นขึ้นมาบ้าง
"Could you send me to the Qunint school?" ฮันนาพยายามพูดให้ช้าลงเพื่อให้เขาจับประเด็นได้มากขึ้น
"Ah...yes,I need to go to the school too"เขาตอบ
"Omg, May I join you for getting in the taxi"
"Yes, you may"
เมื่อเขาอนุญาตเธอก็รีบขึ้นรถทันที ชายคนนั้นก็ช่วยถือกระเป๋าใส่รถให้ฮันนา หลังจากที่นั่งได้ไม่นาน ฮันนาสังเกตได้ว่าเขาแขนขาดด้านซ้ายซึ่งเหมือนกับตนเองแต่ด้วยความเกรงใจและอุปสรรคทางภาษาและเชื้อชาติ ทำให้เธอเองก็ไมได้ถามอะไรมากนักได้แต่งนั่งเฉยๆ เร่งให้ถึงที่หมายเร็วๆก็เท่านั้นไป
ตึกห้าถึงสิบชั้นต้ังสลับกันไปมา ภายใต้ที่ดินสิบไร่ ภายในโรงเรียนมีผู้คนเดินขวักไขว่ไปมาทั้งนักเรียนและคุณครู ฮันนามองถึงทัศนียภาพของโรงเรียนนานพอจนชายหนุ่มขนของเสร็จ
เธอจึงชวนเขาคุยและได้ความว่าเขาเรียนชั้นเดียวกับเธอ เธอจึงชวนเขาไปที่ห้องปกครองเพื่อรับกุญแจห้องและดูว่าใครเป็นรูเมทของตน
แต่ด้วยโชคชะตาหรืออย่างไรไม่อาจทราบได้ รูเมทของฮันนาก็คือกร ยิ่งทำให้ฮันนารู้สึกเบาใจขึ้นไปอีกเพราะด้วยสัญชาตญาณของตนเอง มันบอกว่านี่เป็นคนที่ฮันนาสามารถพึ่งพาได้ในตามที่ตนห่างไกลบ้านถึงอีกทวีปหนึ่งเธอก็ยังรู้สึกว่าเขาเป็นคนที่เธอพึ่งได้อยู่นั่นเอง
ฮันนารับกุญแจมาจากห้องปกครองแล้วก็เริ่มการเดินหาหอพักของพวกเขา ซึ่งใช้เวลาร่วมชั่วโมงในการเดินหา เธอรู้สึกว่าโรงเรียนมีอะไรต่อมิอะไรให้เธอได้สำรวจ และ ทำความคุ้นเคยกับมันอีกมาก ซึ่งไม่นานเธอก็มาถึงจนได้
เมื่อเข้าไปฮันนาก็เจอกับห้องนอน1กับ1ห้องน้ำ และ 1ห้องนั่งเล่น เธอก็ขนของเข้ามาในห้อง ขายหนุ่มจึงรีบออกตัวว่าตนจะเป็นคนนอนที่โซฟาเอง เมื่อเห็นว่าเป็นความต้องการของเขาเธอจึงไม่ขัดข้อง
ฮันนาเริ่มหยิบของจากกระเป๋าโดยชวนกรคุยด้วยแต่เมื่อคุยไปนานๆ ก็นึกขึ้นได้ว่าลืมถามชื่อเขา เมื่อถามเขาก็รู้ว่าเขาชื่อดัษกร และชื่อเล่นก็คือกร
กระเพาะเริ่มจะส่งสัญญาณเตือนเธอแล้วว่าหลังจากลงเครื่องเธอก็ยังไม่ได้ทานอะไรอีกนับ8ชม กรเห็นจึงชวนเธอไปทานข้าว แต่ด้วยความที่เธอหิวมากจนทานอาหารหมดภายในเวลาไม่กี่นาที ก็ทำให้เธอจุกและเดินไม่ไหว ทำให้ดัษกรตัดสินใจอุ้มเธอกลับห้อง ครั้งนี้เธอรู้สึกว่าเป็นหนี้บุญคุณ คนๆนี้อย่างมาก
เมื่อเธออาบน้ำเสร็จก็ทบทวนเรื่องราวต่างๆทั้งมิตรภาพ ความอบอุ่น และความประทับใจที่ได้รับในวันนี้ จนผล็อยหลับไป
"Good dreams ,Hannah"
D. รางวัลสำหรับคู่ที่ทำภารกิจได้ปานกลาง 65% สร้างความประทับใจแก่ผู้อำนวยการโรงเรียน
“Pete, Shall you go to the garden?”
“Ok ,Let’s go!!”
ในสวนของฮันนานั้น เธอเป็นคนปลูกมันทั้งหมดด้วยตัวของเองเอง ทั้งเพื่อแก้เหงาและพยายามลบบาดแผลทางจิตใจที่ได้รับ
พีทและฮันนาเข้าไปในสวนด้วยกัน พีทนำต้นกล้าของดอกดาเลีย มาส่งให้ฮันนาปลูก จู่ๆฮันนาก็พูดขึ้นว่า
“pete,If I didn’t come to here, Will you feel lonely?”
“Of crouse, because you’re my friend.”
“That’s it….”
หลังจากนั้นอีก2วัน ฮันนาก็เตรียมตัวจัดกระเป๋าเพื่อไปเรียน โรงเรียนที่คุณหมอได้ส่งตนไป เธอคิดว่าไม่ว่าที่โรงเรียนใดๆ ก็คงจะเหมือนกัน และคำพูดที่คุณหมอพูดเอง ก็อาจจะไม่เป็นความจริงไปเสียก็ได้ ความคิดได้หยุดลงเมื่อเธอจัดของเสร็จ หญิงสาวเดินออกมาจากบ้านโดยไม่ได้ส้งลาใครทั้งสิ้นแม้แต่พีท เพื่อนของเธอ
ฮันนานั่งเครื่องบินจากลอนดอนไปกรุงเทพ เมื่อลงจากสนามบินแล้ว ก็หาเครื่องไปต่อที่เพชรบุรี ไม่นานนักจึงถึงจังหวัดที่เป็นที่ตั้งของโรงเรียนที่ฮันนาต้องเข้าเรียน เธฮโบกรถจากสนามบินไปส่งที่โรงเรียนด้วยความรีบร้อนแต่หลังออกมาจากสนามบิน เธอก็พบปัญหาใหญ่ เนื่องจากเธอไม่สามารถพูดภาษาไทยได้เลยแม้แต่คำเดียว เลยไม่รู้จะทำอย่างไรดี
ระหว่างที่คิดก็เหลือบไปเห็นผู้ชายคนหนึ่ง กำลังเดินอย่างสบายอารมณ์ มือทั้งสองถือสัมภาระอยู่ เขาเดินมาตรงข้างๆที่ฮันนาเดินอยู่และโบกรถอยู่สองสามที ฮันนาคิดว่าท่าทางน่าจะพูดภาษาอังกฤษได้ เธอจึงลองพูดว่า
“Excuse me, Do you help me ? ”
เมื่อเขาได้ยินดังนั้นก็หันมา พร้อมกับนิ่งซักพัก
“Ah.. yes,I do but not very well, so please speak slowly.”
เมื่อได้ยินดังนั้นแล้ว เธอเองก็ค่อนข้างใจชื้นขึ้นมาบ้าง
"Could you send me to the Qunint school?" ฮันนาพยายามพูดให้ช้าลงเพื่อให้เขาจับประเด็นได้มากขึ้น
"Ah...yes,I need to go to the school too"เขาตอบ
"Omg, May I join you for getting in the taxi"
"Yes, you may"
เมื่อเขาอนุญาตเธอก็รีบขึ้นรถทันที ชายคนนั้นก็ช่วยถือกระเป๋าใส่รถให้ฮันนา หลังจากที่นั่งได้ไม่นาน ฮันนาสังเกตได้ว่าเขาแขนขาดด้านซ้ายซึ่งเหมือนกับตนเองแต่ด้วยความเกรงใจและอุปสรรคทางภาษาและเชื้อชาติ ทำให้เธอเองก็ไมได้ถามอะไรมากนักได้แต่งนั่งเฉยๆ เร่งให้ถึงที่หมายเร็วๆก็เท่านั้นไป
ตึกห้าถึงสิบชั้นต้ังสลับกันไปมา ภายใต้ที่ดินสิบไร่ ภายในโรงเรียนมีผู้คนเดินขวักไขว่ไปมาทั้งนักเรียนและคุณครู ฮันนามองถึงทัศนียภาพของโรงเรียนนานพอจนชายหนุ่มขนของเสร็จ
เธอจึงชวนเขาคุยและได้ความว่าเขาเรียนชั้นเดียวกับเธอ เธอจึงชวนเขาไปที่ห้องปกครองเพื่อรับกุญแจห้องและดูว่าใครเป็นรูเมทของตน
แต่ด้วยโชคชะตาหรืออย่างไรไม่อาจทราบได้ รูเมทของฮันนาก็คือกร ยิ่งทำให้ฮันนารู้สึกเบาใจขึ้นไปอีกเพราะด้วยสัญชาตญาณของตนเอง มันบอกว่านี่เป็นคนที่ฮันนาสามารถพึ่งพาได้ในตามที่ตนห่างไกลบ้านถึงอีกทวีปหนึ่งเธอก็ยังรู้สึกว่าเขาเป็นคนที่เธอพึ่งได้อยู่นั่นเอง
ฮันนารับกุญแจมาจากห้องปกครองแล้วก็เริ่มการเดินหาหอพักของพวกเขา ซึ่งใช้เวลาร่วมชั่วโมงในการเดินหา เธอรู้สึกว่าโรงเรียนมีอะไรต่อมิอะไรให้เธอได้สำรวจ และ ทำความคุ้นเคยกับมันอีกมาก ซึ่งไม่นานเธอก็มาถึงจนได้
เมื่อเข้าไปฮันนาก็เจอกับห้องนอน1กับ1ห้องน้ำ และ 1ห้องนั่งเล่น เธอก็ขนของเข้ามาในห้อง ขายหนุ่มจึงรีบออกตัวว่าตนจะเป็นคนนอนที่โซฟาเอง เมื่อเห็นว่าเป็นความต้องการของเขาเธอจึงไม่ขัดข้อง
ฮันนาเริ่มหยิบของจากกระเป๋าโดยชวนกรคุยด้วยแต่เมื่อคุยไปนานๆ ก็นึกขึ้นได้ว่าลืมถามชื่อเขา เมื่อถามเขาก็รู้ว่าเขาชื่อดัษกร และชื่อเล่นก็คือกร
กระเพาะเริ่มจะส่งสัญญาณเตือนเธอแล้วว่าหลังจากลงเครื่องเธอก็ยังไม่ได้ทานอะไรอีกนับ8ชม กรเห็นจึงชวนเธอไปทานข้าว แต่ด้วยความที่เธอหิวมากจนทานอาหารหมดภายในเวลาไม่กี่นาที ก็ทำให้เธอจุกและเดินไม่ไหว ทำให้ดัษกรตัดสินใจอุ้มเธอกลับห้อง ครั้งนี้เธอรู้สึกว่าเป็นหนี้บุญคุณ คนๆนี้อย่างมาก
เมื่อเธออาบน้ำเสร็จก็ทบทวนเรื่องราวต่างๆทั้งมิตรภาพ ความอบอุ่น และความประทับใจที่ได้รับในวันนี้ จนผล็อยหลับไป
"Good dreams ,Hannah"
D. รางวัลสำหรับคู่ที่ทำภารกิจได้ปานกลาง 65% สร้างความประทับใจแก่ผู้อำนวยการโรงเรียน
- GREAT SQUARE STAMP
[ ROOMMATE & SPECIAL QUEST ONLY ]
ตราประทับระดับกลางในหมวดภารกิจรูมเมทและภารกิจพิเศษ มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยม
แซฟไฟร์ มีมูลค่า +75 Grade Exp. จะได้รับเมื่อปฎิบัติภารกิจได้อย่างดีเป็นที่น่าชื่นชม
แก่ผู้อำนวยการโรงเรียน- +1,000,000 Spirit Point
ไอเทมเพิ่มแต้มสะสม Spirit Point ตามปริมาณที่กำหนด ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการ
แลกเปลี่ยนเป็น CHIPS ได้ในภายหลัง
- Narin's Comment:
- สั้นๆแต่ได้ใจความครบถ้วนดีครับ แต่ขาดไปเล็กน้อย
ตรงช่วงความรู้สึกที่ฮันนามีต่อโรงเรียน ภายในเนื้อหา
มีเขียนเพียงว่าโรงเรียนมีรูปลักษณ์ภายนอกเป็นเช่นไร
แต่ไม่มีความรู้สึกที่ฮันนามีต่อมัน แล้วก็เรื่องภาษา
การใช้ภาษาอังกฤษทำให้เข้าถึงตัวละครที่พูดไทย
ได้มากกว่าก็จริง แต่อยากให้ใช้ภาษาที่ถนัดและ
สบายใจในการเขียนมากที่สุด เพื่อความไหลลื่น
ของเนื้อหาโดยรวม ภารกิจแรกนี้ผมยังให้สแตมป์
ได้ไม่แม่นยำเนื่องจากนี่เป็นงานเขียนชิ้นแรกที่เคยเห็น
จึงให้สแตมป์กลางๆไปก่อนนะครับ ถ้าหากฮันนาส่ง
ภารกิจบ่อยขึ้นและผมได้เรียนรู้ฝีมือของคุณบ่อยๆ
โดยปกติได้ให้สแตมป์จะคงที่ที่ประมาณสองสาม
เดือนครับผม
- peemung
Phee
อาจารย์เกษตรกรรม
3537
+675 M 108 K 756
PASSPORT
:
(3060/20000)
:
Re: ROOMMATE 4 : การเริ่มต้น
Sun 31 Jan 2016, 23:26
- อิ_อิ:
“คุณพีลืมของไว้แหนะ”
พีชโผล่หัวมาจากห้องน้ำแล้วเอาไม้เขี่ยบ็อกเซอร์ลายแพะแสนน่ารักมาให้ผม..
วันนี้พวกเรามาเก็บกวาดห้องกันฮะ เก็บนี่หมายถึงเก็บให้เกลี้ยงเลย เพราะโรงเรียนของพวกเรากำลังโดนไล่ที่ฮะ ความซวยจึงตกมาถึงนักเรียนอย่างพวกเราที่ต้องย้ายถิ่นฐานกันด้วย
“น่าใจหายเหมือนกันนะครับ อยู่ๆต้องมารีบย้ายกันแบบนี้ ไม่ทันตั้งตัวเลยจริงๆ”
นั่นสิ.. พอพีชพูดผมก็เพิ่งนึกขึ้นได้ ว่าพวกเราอยู่ที่นี่มานานเหมือนกันนะ ตอนนี้ผมกับพีชอยู่ม.4..งั้นก็สิงอยู่นี้มา3ปีกว่าแล้วสินะ
‘เหมือนย้ายโรงเรียนจากม.ต้นไปม.ปลายเลยนะฮะ’ คิดๆไปถ้าเป็นโรงเรียนปกติก็คงประมาณนี้แหละ แต่พีชก็มองหน้าผมงงๆ ..อ้อ เขาคงไม่คุ้นเคยกับระบบการศึกษาทั่วไปเท่าไหร่ ผมเลยใช้เวลาหลังจากเก็บกวาดห้องเล่าเรื่องต่างๆที่พีชอยากรู้ให้ฟัง
แล้วเวลาก็ล่วงเลยมาจนโพล้เพล้ พวกเราก็ขนของกลับบ้านกัน พีชที่มีคุณพี่เลี้ยงช่วยขนของขึ้นรถก็หันมาบอกลาผมท่ามกลางแสงสีส้มของพระอาทิตย์ที่กำลังจะลับขอบฟ้า เป็นบรรยากาศที่ชวนเหงาแปลกๆยังไงชอบกล...เอาหน่า เดี๋ยวย้ายโรงเรียนไปก็ได้เจอกันอีกเหมือนเดิมนั่นแหละ
พอพีชกลับไปแล้วผมก็เดินเล่นระหว่างคอยทางบ้านมารับกลับ โรงเรียนใหม่จะเป็นยังไงนะ จะหน้าตาเหมือนที่นี่มั้ย แล้วต่อไปที่นี่จะเป็นยังไงต่อไป ด้วยความอลังการเกินไปของที่นี่ บางทีถ้าเอาไปทำเป็นโรงแรมหรือคอมมูนิตี้มอลล์ก็คงไม่เลวเลย..
คิดอะไรเพลินๆได้สักพักคุณพ่อคุณแม่ก็มาถึง ผมจึงได้มองโรงเรียนอีกครั้งเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะจากไป
...............................
ผมว่าโรงเรียนที่เก่าก็หรูเกินแล้วนะ แต่ไอ้ที่ตั้งเด่นหราอยู่ตรงหน้านี่เรียกได้ว่าทำให้ที่เดิมหมองไปเลย ความอลังการนี่มันอะไรกัน หรือว่าเพราะโดนไล่ที่กะทันหันเกินไปเลยไปเอาโรงแรมมาทำโรงเรียนหรอ นี่ถ้าย้ายโรงเรียนอีกรอบคงได้เป็นสวนสนุกแน่เลย (ฮา)
ผมไปเช็คบอร์ดดูห้องใหม่ 611...611... เป็นห้องฝั่งติดทะเลด้วยล่ะ~ ทีแรกว่าจะไปเดินเล่นสำรวจโรงเรียนก่อน แต่ตอนนี้ผมนี่รีบไปส่องห้องก่อนเลย
ห้องใหม่ใหญ่กว่าเดิม เพิ่มเติมอีกด้วยความอลังและระเบียงกว้างๆ ว่าแล้วผมก็เริ่มสำรวจห้อง แน่นอนว่าต้องเริ่มจากเตียงก่อนอยู่แล้ว
พอเข้าไปในห้องนอนซึ่งเป็นห้องแยก ผมก็เจอมนุษย์ปริศนาหนึ่งหน่วยนอนนิ่งอยู่บนเตียง ถึงจะไม่เห็นหน้าแต่ดูจากสีผมแล้วไม่น่าใช่พีชแน่นอน
นอนอืดไม่ขยับเลยแฮะ... ผมเลย “เขี่ย”เช็คว่าตายยัง..
“อั๊กก..”
ตุบ!
เจ้าศพนั่นร้องด้วยความเจ็บปวดก่อนจะกลิ้งตกเตียงไป ..สงสัยจะ “เขี่ย” แรงไปนิดส์
“ไหงถีบกันแบบนี้ล่ะครับ” ปักษ์โผล่ออกมาจากข้างเตียง ดูถ้าว่าจะเจ็บไม่ใช่นอนเลยนะนั่น
‘ขอโทษฮะ พอดีผมตกใจ..’ ผมรีบขอโทษไป ‘ดันเจอใครก็ไม่รู้อยู่ในห้องเลยเผลอถีบน่ะ’
ปักษ์ทำหน้าแบบ “เผลอ”ถีบเนี่ยนะ แต่ก็ดูจะไม่โกรธอะไร
“นี่ผมรูมเมทพี่พีไงฮะ ไม่ใช่ใครก็ไม่รู้สักหน่อย”
แหนะ มีแบบงอนนิดๆด้วยแฮะ...เอ๋ เดี๋ยวนะ!.. รูมเมทผมหรอ...!?
พอเห็นผมทำหน้าโง่ๆใส่ ปักษ์เลยอธิบายให้คร่าวๆว่าพอย้ายโรงเรียนก็ให้เปลี่ยนรูมเมทไปด้วยเลย ผมเลยได้มาร่วมห้องกับน้องผักส์ไงจะใครล่ะคนนี้
‘เรามาเจอกันอีกแล้วนะ คิดถึงผมมั้ยนิ’ ครั้งนี้ก็ครั้งที่สามแล้วมั้งที่ได้เจอกัน ครั้งแรกก็ตอนรับน้อง ปักษ์นี่เด็กผมเลยนะฮะ แล้วไหนจะได้ไปเที่ยวทริปบ้านพี่จิ๋ณณณ์ด้วยกันอีก มาคราวนี้เราคงได้เจอกันอีกไปยาวๆเลยล่ะฮะ
ปักษ์เห็นคำถามผมก็ชะงั้นเล็กน้อย ก่อนจะกล้ำกลืนตอบกลับมาว่า “ค..คิดถึง (ก็ได้ครับ)..”
เรานั่งคุยกัยอยู่สักพักผมก็ชวนปักษ์ไปสำรวจโรงเรียนกันต่อ น้องเขาก็กุมท้องที่เพิ่งจะถูกถีบไปแล้วบอกว่าเดี๋ยวขอพักฟื้นพุงอีกสักห้านาทีจะตามมา ผมเลยลงไปคอยที่ชั้นล่าง
“สวัสดีครับคุณพี”
คุณพีชคนเดิมทักทายด้วยสีหน้าแช่มชื่น
‘หวัดดีฮะคุณพีช ผมเพิ่งรู้ว่าเปลี่ยนรูมเมทเมื่อกี๊เลยนะฮะเนี่ย’
“นั่นสิครับ น่าเสียดายนะครับ” ปากว่างั้นแต่สีหน้านี่แฮปปี้สุดๆไปเลยนะฮะ..
เราเลยหยุดคุยกันสักพัก จับใจความได้ว่าพีชได้ไปอยู่ห้อง516 กับน้องเมอิน แถมอยู่ห้องติดกับพี่แคลด้วย ..มิน่าถึงได้ลั้ลลาขนาดนี้ LOL
“แล้วรูมเมทใหม่ของคุณพีเป็นยังไงบ้างครับ”
รูมเมทใหม่ของผมงั้นหรอ... ผมเหลือบมองปักษ์ที่กำลังเดินมาทางนี้
‘เป็นคนน่ารักดีนะฮะ ชิลๆ ลั้ลลาเรื่อยๆ....แม้จะถูกถีบก็ไม่บ่นไม่ว่าสักคำ เห็นบอกว่าตัวเองเป็นมาโซให้ถีบได้เรื่อยๆอีกต่างหาก’ พอพีชอ่านที่ผมเขียนไปจบก็มองปักษ์ที่เพิ่งเดินมาถึงด้วยสายตางงๆแปลกๆ ส่วนผมก็ขยำกระดาษทิ้งทำลายหลักฐาน
“พี่พีฮะ ทำไมพี่พีชมองผมแปลกๆยังไงไม่รู้นะครับ” ปักษ์แอบถามผมขณะเดินแยกออกมา พอเหลียวหลังไปก็ยังเห็นพีชมองมาอยู่ ผมก็ได้แต่ตีหน้านิ่งไปตามปกติ
‘ไม่มีอะไรหรอกฮะ ไปสำรวจโรงเรียนกันเถอะ’
//ไว้อาลัยปักษ์แปบ
B. รางวัลสำหรับคู่ที่ทำภารกิจได้เกือบเพอร์เฟ็ค สร้างความน่าปลาบปลื้มแก่ผู้อำนวยการโรงเรียน
- GRAND PENTAGON STAMP
[ ROOMMATE & SPECIAL QUEST ONLY ]
ตราประทับระดับสูงมากในหมวดภารกิจรูมเมทและภารกิจพิเศษ มีลักษณะเป็นห้าเหลี่ยม
เทอร์ควอยซ์ผสมทองคำแท้ มีมูลค่า +150 Grade Exp. จะได้รับเมื่อปฎิบัติภารกิจได้
สุดยอดเป็นที่น่าปลาบปลื้มแก่ผู้อำนวยการโรงเรียน- +2,000,000 Spirit Point
ไอเทมเพิ่มแต้มสะสม Spirit Point ตามปริมาณที่กำหนด ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการ
แลกเปลี่ยนเป็น CHIPS ได้ในภายหลัง
- Narin's Comment:
- พอเปลี่ยนรูมเมทแล้วบรรยากาศรอบข้างของพีนี่เปลี่ยนไปเลย
จากคู่มุ้งมิ้งนุ่มนวลกลายเป็นตลกเถื่อน (ตลกแบบเจ็บตัว)
หวังว่าพีจะรู้สึกดีกับการเปลี่ยนบรรยากาศครั้งนี้นะครับ (หัวเราะ)
งานพีดีเหมือนปกติไม่มีอะไรเพิ่มเติมครับ ถ้าตอนไหนเดือดน้อยๆ
ก็อยากอ่านภารกิจยาวๆสักตัวในอนาคตนะครับ ผมคิดถึงงานคุณ
- Nearmoki-2b
Narin
อดีตผู้อำนวยการโรงเรียน
0
+65 M 413 K 676
Re: ROOMMATE 4 : การเริ่มต้น
Mon 01 Feb 2016, 00:02
- Maxwell's Side Part 1:
- "โรงเรียนจะย้ายที่นะ"
ผมสะกิดเพื่อนผู้มีปัญหาด้านการได้ยินให้หันมอง วันนี้เป็นวันสุดท้าย
ของภาคเรียนที่เราจะได้เรียนกันในอาคารแห่งนี้ และเป็นวันที่ผอ.
ตัดสินใจประกาศเรื่องการเวรคีนให้นักเรียนทุกคนรับรู้อย่างเป็น
ทางการ เรื่องนี้เป็นเรื่องกะทันหันเกินกว่าที่หลายๆคนจะรับได้ในทันที
หนึ่งในนั้นก็คือเพื่อนสนิทชาวไทยของผมคนนี้ จิณณ์ถามซ้ำราวกับ
สิ่งที่เอ่ยออกไปส่งไปไม่ถึง ทว่าถึงแม้จะไม่เอ่ยคำใดๆ สีหน้าของเขา
ก็เป็นตัวบ่งบอกทุกสิ่ง เพื่อนของผมเป็นคนตรงไปตรงมา และนั่นคือ
สิ่งที่ทำให้ผมสบายใจเวลาที่อยู่กับเขา
ผมอธิบายเรื่องการเวรคืนรวมถึงเรื่องโรงเรียนหลังใหม่ที่จังหวัด
เพรชบุรี เสียงที่เอ่ยออกไปนั้นคือน้ำเสียงเรียบง่ายที่สุดเท่าที่จะทำได้
ผมไม่ต้องการให้เพื่อนกังวลใจ จากนั้นจึงยกเรื่องทะเลขึ้นมาหลอกล่อ
ตาสีดำเป็นประกายนั้นกำลังสื่อถึงความตื่นเต้นที่เจ้าตัวมีต่อทะเล
หากตื่นเต้นได้ไม่นาน แววตาสดใสก็เริ่มแปรผลันมัวหมอง ผมมอง
โดยที่ไม่ได้พูดอะไร ตัวผมไม่ใช่คนเก็บความลับเก่ง ถ้าหากพูดเยอะ
ไปละก็ เพื่อนจอมสังเกตของผมจะต้องรับรู้ได้แน่ๆ
รับรู้ถึงเรื่องที่ว่า... ผมรู้เรื่องการย้ายโรงเรียนทั้งหมดอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว
ในเย็นวันนั้นเอง หลังจากที่จัดรายการเสียงตามสายครั้งสุดท้ายเสร็จแล้ว
ผมถอดหูฟังออก ดวงตาจ้องอยู่ที่แป้นควบคุมเสียง กริยาค้างอยู่เช่นนั้น
"รุ่นพี่..."
ผมหันตามเสียงเรียกของรุ่นน้องที่กำลังแสดงสีหน้าเป็นห่วง ผมเลือกที่จะ
ยิ้มตอบ ช่างน่าแปลกที่รอยยิ้มที่ส่งกลับไปมันไม่เหมือนกับทุกที
ผมไม่สามารถฝืนยิ้มตามที่ต้องการได้
"มีอะไรเหรอ?"
"เปล่าครับ.. ผมแค่คิดว่าแผ่นหลังของรุ่นพี่.. มันดูน่าเศร้ายังไงชอบกล"
ผมกลั้วหัวเราะในลำคอ จากนั้นจึงลุกขึ้นเดินเข้าใกล้ชายร่วมชมรม
ผมตบบ่าที่เล็กกว่าก่อนจะบีบมันไว้ แรงที่ใช้นั้นมากกว่าปกตินิดหน่อย
"คงไม่มีใครดีใจกับเรื่องในวันนี้หรอก.. และฉันก็เป็นหนึ่งในนั้น"
รุ่นน้องมองผมด้วยสายตาเป็นห่วงเสียจนผมต้องเอ่ยปากบอกว่าไม่เป็นไร
หลังจากนั้นจึงรีบสาวเท้าออกมาจากห้องโสต เพราะกลัวจะทำรุ่นน้อง
ดราม่าเกินความจำเป็น ผมค่อยๆก้าวเดินช้าๆ ทีละก้าว เพื่อซึมซับ
บรรยากาศโรงเรียนแห่งนี้ไว้เป็นครั้งสุดท้าย ระหว่างที่เดินนั้นก็เงี่ยหูฟัง
เสียงของลมที่ตีพัดหน้าต่าง เสียงของนักเรียนที่เดินอยู่ไกลๆ ผมหลับตา
และก้าวเดินเชื่องช้า หวังที่จะกอบโกยทุกอย่างที่สัมผัสได้เอาไว้ในใจ
โรงเรียนแห่งนี้มีค่ากับผมมาก สำหรับผมแล้วมันคือบ้าน มันคือสถานที่
ที่ทำให้ได้มีชีวิตและมีความสุขกับเรื่องราวแสนเรียบง่าย ผมรักที่นี่เสียจน
ไม่อยากก้าวขาออกจากตัวอาคาร... แต่มันคงเป็นไปไม่ได้ เวลาทำให้
ทุกอย่างผลันเปลี่ยนไป ผมก็เป็นเพียงส่วนเล็กๆในกระแสเวลา ที่จะต้อง
ก้าวเดินต่อไป ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
.
.
.
เหมือนกับเด็กผู้ชายคนอื่นๆ ผมมีข้าวของติดตัวเพียงเล็กน้อยหยิบจับมือ
นั่งๆนอนๆอยู่พักหนึ่งจิณณ์ก็ชวนลงมานั่งเล่นดูดาวที่ริมทะเลสาปด้วยกัน
ผมโยนยาทานก่อนนอนเข้าปาก กลืนอย่างเคยชินโดยไม่ต้องดื่มน้ำ
จากนั้นจึงเดินตามเพื่อนลงไป ท้องฟ้าตอนนี้ผลันเปลี่ยนเป็นสีดำสนิท
และสิ่งที่เพื่อนผมเฝ้าคอยก็กำลังฉายแสงเด่นสง่าอยู่บนท้องฟ้า
ไม่ว่าตอนไหนดาวก็อยู่บนท้องฟ้าเสมอ เพียงแต่มนุษย์เราไม่
สามารถเห็นมันได้ตลอดเวลาก็เท่านั้น
"นายว่าดาวที่นั่นจะสวยเหมือนที่นี่มั้ย"
คำถามดังมาจากคนที่ดูเหมือนกำลังจมอยู่ในห้วงความคิดของตัวเอง
จิณณ์ที่ผมรู้จักมักจะเอ่ยวาจาเถรตรง หากเมื่อไหร่ที่มาถึงเรื่องความรู้สึก
ละก็ หลายครั้งที่ยอมปริปากพูดอะไรเลย ไม่ว่าความเสียใจ ความสับสน
ผมส่ายหน้าก่อนจะเอ่ยถ้อยคำโดยที่ดวงตายังสนใจอยู่กับหมู่ดาว
"ไม่รู้สิ อาจจะสวยกว่าก็ได้"
ไม่ใช่เพียงผมที่กลัวและกังวลกับความเปลี่ยนแปลง แต่ที่นี่ เคียงข้างผม
ยังมีอีกคนที่รู้สึกหวั่นไหวกับเรื่องราวไม่แม้กัน เพราะเหตุนั้นผมจึงตอบ
ด้วยถ้อยเสียงปลอบประโลม แม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้ยินก็ตามแต่
"นั่นสินะ.."
จิณณ์ตอบเสียงแผ่ว จากนั้นจึงหันกลับมองดวงดาว เราปล่อยบรรยากาศ
ให้เงียบงัน ต่างคนต่างจมอยู่ในความคิดของตัวเอง เวลาผ่านไปสักพัก
อันที่จริงอาจจะผ่านไปนาน แต่ผมมัวแต่ปล่อยตัวเองให้ล่องลอยอยู่
ในห้วงความคิดจนไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ เมื่อรู้สึกตัวจึงขยับ
ไหล่คนข้างๆ ชายผมดำหันหาผมด้วยท่าทางสบายๆ
"นาย..รักโรงเรียนนี้มั้ย?"
"อยู่ๆถามอะไรนั่น"
ผมไม่ตอบ ปล่อยให้ความเงียบเป็นตัวบอกว่ากำลังจริงใจกับสถานการณ์
จิณณ์กระพริบตาปริบๆ เขาไม่คุ้นชินกับผมที่จริงจัง ผมจึงฉีกยิ้มยียวนให้
"ก็ต้องรักสิ"
"แล้วถ้าวันนึงไม่มีโรงเรียนควิ้นท์อยู่แล้ว นายจะเสียใจมั้ย?"
"ก็ต้องเสียใจสิ ว่าแต่นายจะเวอร์เกินไปแล้วนะแม็ก โรงเรียนเราแค่
จะย้ายสถานที่ ไม่ได้หมายความว่าโรงเรียนจะหายไปเลยซะหน่อย"
คิ้วที่แทบจะขมวดกันของจิณณ์ทำเอาผมหลุดหัวเราะออกมา
"อุ๊บ.. ฮ่าๆๆๆๆ"
"เอ้า!! อะไรเนี่ย!! มาถามแล้วก็มาหัวเราะเยาะ"
ผมหัวเราะอย่างหยุดไม่ได้ หัวเราะจนเหนื่อยเสียเองถึงได้หยุด
เมื่อตั้งสติได้แล้วจึงสูดหายใจเข้าลึกๆทีนึงก่อนจะเอ่ยพูด
"ฉันก็รัก"
"ห๊ะ!?!"
จิณณ์ดีดตัวขึ้นนั่ง เขามองมาอย่างไม่เชื่อสายตา อาการช็อค
ปนสีหน้าบอกไม่ถูกเหมือนกินของไม่ถูกปากเข้าไปนั่นคืออะไรกัน?
"ฉันก็รักโรงเรียนแห่งนี้เหมือนกัน"
ผมพูดให้จบประโยคด้วยน้ำเสียงเรียบง่าย เพื่อนรักโลกเงียบ
ขยับปากเหมือนจะพูดอะไร หากไม่มีคำใดๆหลุดออกมา
เขาเลิกสนใจผมและกลับไปตั้งใจเพ่งดูดาวราวกับว่ามันจะ
ออกข้อสอบดาราศาสตร์ เมื่อเห็นว่าคนข้างกายไม่มีท่าที
จะให้ความสนใจในเร็วๆนี้ ผมจึงกลับไปนอนเอามือนาบ
หลังศีรษะตามเคย ดวงตาจ้องไปที่ฟากฟ้าแสนไกล
"ดูเหมือนเราจะไม่ได้เหนื่อยฟรีสินะ... เท่านี้นายก็ไม่ต้อง
สูญเสียสถานที่อันเป็นที่รัก แล้วก็ไม่ต้องเสียใจแล้วนะ.."
TBC ๐ ๐ ๐ (แวะไปตรวจภารกิจแป็ปเดี๋ยวมาเขียนต่อคับ)
Signature ------------------------------------------------>
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|