- bluebearz
Bonita Blanchett
นักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 5
1284
+123 M 935 K 310
PASSPORT
:
(450/2125)
:
Bonita Blanchett
Thu 20 Feb 2020, 18:33
"คุณหมีหิวไหม อื้อ ลูกหมีก็หิว ง..งั้นไปหาของกินกันนะ"
"ฮึก...น...น่ากลัว"
"ฮึก...น...น่ากลัว"
- ʕ´•ᴥ•`ʔ ABOUT LOOKMEE I:
ชื่อภาษาไทย : โบนิตา บลันเชตต์
ชื่อภาษาอังกฤษ : Bonita Blanchett
ชื่อเล่น : ลูกหมี
เพศ : หญิง
วันเกิด : 25 ธันวาคม 2549
อายุ : 15 ปี
เชื้อชาติ : ไทย - อังกฤษ - เยอรมัน
ส่วนสูง : 147 เซนติเมตร
น้ำหนัก : 38 กิโลกรัม
งานอดิเรก :
➽ คุยกับตุ๊กตาหมี (คิดว่ามันพูดตอบโต้ด้วย)
➽ เล่นไวโอลิน (เคยเลิกเล่นตอนเด็ก และกลับมาเล่นอีกครั้งตอนมอหนึ่ง)
นิสัยเด่น :
➽ ชอบทำหน้ากังวลหรืออมทุกข์ตลอดเวลา
➽ ชอบพูดจาตะกุกตะกัก
➽ ขี้อาย ไม่ชอบการเป็นจุดเด่น
➽ ขี้กลัวและตกใจง่าย
➽ ขี้แง ร้องไห้เก่ง
(พอขึ้นมอปลายก็พยายามที่จะทำตัวเข้มแข็งให้มากขึ้น)
➽ เวลากลัวหรือไม่สบายใจจะชอบดึงตุ๊กตามากอดหรือเกาะแขนคนที่อยู่ใกล้ตัว
ความพิการ :
✿ ตาขวาบอด
✿ โรคจิตเภทแบบหวาดระแวง
(Paranoid Schizophrenia)- อาการ:
➽ มีความหวาดกลัวว่าจะถูกผู้อื่นรังแกหรือลอบทำร้าย จึงมีท่าทางระแวดระวังผู้อื่นตลอดเวลา โดยเฉพาะกับคนที่ไม่รู้จักหรือเพิ่งรู้จักและคนที่ไม่สนิทด้วย
➽ มีอาการประสาทหลอนและหลงเชื่อในสิ่งที่ผิด เช่น
- เห็นใบหน้าคนอื่นผิดเพี้ยนไปจากปกติ
- คิดว่าตุ๊กตาหมีมีชีวิตและพูดโต้ตอบกับเธอได้
- เห็นว่าตัวเธอในกระจกกำลังพูดคุยกับเธอ
➽ มีอาการหูแว่วในบางครั้ง เช่น
- ได้ยินเสียงคนกำลังพูดคุยกันตอนกลางคืน
- ได้ยินเสียงลมพัดเป็นเสียงคนเรียกชื่อเธอ
- ได้ยินเสียงจากนักข่าวในโทรทัศน์ว่ากำลังต่อว่าเธอ
➽ อาการหูแว่วมักทำให้เกิดปัญหานอนไม่หลับตามมา
ระดับชั้น/ตำแหน่งงาน : นักเรียนชั้นมัธยมปีที่ 4
สิ่งที่ชอบ :
➽ พี่ชาย
➽ ตุ๊กตาหมี
➽ น้ำสตรอว์เบอร์รี่ปั่น
➽ แพนเค้กราดน้ำผึ้ง
สิ่งที่ไม่ชอบ :
➽ เรื่องน่ากลัว
➽ ความมืด
➽ เสียงฟ้าร้องฟ้าผ่า
➽ แมลงสาบ
➽ มะเขือเทศ
ช่องทางการติดต่อคุณ :
➽ FB > ข้อสิบเจ็ด ตอบขอไข่
➽ ID Line > bluebear662
เพิ่มเติม :
➽ พกตุ๊กตาหมีไปไหนมาไหนด้วยเสมอ
➽ ไม่ถนัดงานฝีมือและศิลปะ
➽ ที่บ้านเลี้ยงแมวเปอร์เซียสีขาวเพศผู้ชื่อ [ ลาเต้ ]
➽ พูดได้สามภาษา : ไทย, อังกฤษ, เยอรมัน
ภาษาที่พูดบ่อยที่สุด > ภาษาไทย
➽ เขียนได้สองภาษา : ไทยและอังกฤษ
ภาษาที่เขียนไม่คล่อง > ภาษาไทย
➽ มีรูมเมทซึ่งเป็นเพื่อนห้องเดียวกันชื่อ [ น้ำขิง ]
➽ ต้องทานยาต้านโรคจิตทุกเช้า เพื่อบรรเทาอาการหวาดระแวงผู้อื่น ช่วยให้ตอนที่พบปะกับผู้อื่นจะไม่เกิดความเครียดหรือหวาดกลัวเกินจนเสียสติ
- ʕ´•ᴥ•`ʔ ABOUT LOOKMEE Il:
- บทนำ : ฝันร้าย:
โบนิตา บลันเชตต์หรือลูกหมี เป็นลูกคนสุดท้องและเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวในบรรดาพี่น้องทั้งหมด เธอมีเรือนผมสั้นระต้นคอสีบัตเตอร์มิลค์ที่หยักศกเล็กน้อยและมีดวงตากลมโตสีน้ำทะเลสวย
เธอเป็นเด็กที่ร่าเริง ซุกซนและอยากรู้อยากเห็นตามประสาเด็กทั่วไป มีพี่ชายคนโตชื่อลูกไม้ พี่ชายคนรองชื่อลูกหม่อนและพี่ชายคนที่สามชื่อลูกพลับ
พ่อของเธอคือเทรเวอร์ บลันเชตต์ เป็นนักเล่นไวโอลินชาวอังกฤษ-เยอรมันในวงออร์เคสตร้าที่มีชื่อเสียง ส่วนแม่ของเธอคือพรรณนิภา อรุณนิวัฒน์หรือลูกหว้า ปัจจุบันเป็นนักแสดงภายใต้สังกัดบริษัทสื่อบันเทิงแห่งหนึ่ง
พวกเขาทั้งหมดอาศัยอยู่ด้วยกันในชนบทเล็กๆ ที่ไม่ซับซ้อนในเมืองยอร์ค ประเทศอังกฤษอย่างไม่ค่อยราบรื่นสักเท่าไร
เนื่องจากสองปีก่อนเทรเวอร์เกิดอุบัติเหตุจนแขนซ้ายเป็นอัมพาต (Monoplegia) เขาไม่สามารถเล่นไวโอลินได้อีกและต้องอำลาวงการดนตรีอย่างเลี่ยงไม่ได้ ลูกหว้าจึงเป็นเสาหลักที่ต้องหาเงินมาค้ำจุนครอบครัว
เพราะต้องประหยัดค่าใช้จ่ายภายในบ้าน ลูกหมีจึงไม่ได้รับอนุญาตให้ไปโรงเรียนทั้งที่อายุหกขวบแล้ว แต่เธอก็มีความสุขกับการอยู่บ้าน เพราะเทรเวอร์มักหากิจกรรมมาเล่นกับเธอทุกวัน
ส่วนลูกหว้าจะไม่ค่อยสนใจลูกเท่าที่ควร เพราะมักใช้เวลาอยู่ที่คลับบาร์ บริษัทหรือบางครั้งก็จะเดินทางกลับไทยไปหาแฟนคนที่เธอรักจริงๆ นานเกือบเดือนก็มี
"ปะป๊าคะ คืนนี้หม่าม๊าจะกลับมาบ้านไหม"
เด็กหญิงตัวน้อยในชุดนอนตัวโคร่งเอ่ยถามผู้เป็นพ่อ ในขณะที่สายตายังคงจับจ้องที่บานหน้าต่างภายในห้องนั่งเล่นด้วยความหวังบางอย่าง
อุณหภูมิห้องที่เย็นลงอย่างฉับพลันบวกกับหิมะตกด้านนอก ทำให้เทรเวอร์ต้องเอาเสื้อไหมพรมมาคลุมร่างของเด็กน้อย ด้วยห่วงว่าจะไม่สบาย ก่อนจะย่อตัวลงใกล้เด็กหญิงแล้วลูบหัวเธอเบาๆ
"หม่าม๊าจะถึงบ้านพรุ่งนี้ เพราะงั้นวันนี้ลูกหมีต้องนอนพักผ่อนก่อนนะ"
"ทำไมหม่าม๊าไม่รีบกลับมาคะ หม่าม้าไม่ชอบลูกหมีเหรอ"
"ไม่ใช่แบบนั้นหรอก หม่าม้าคงกำลังนั่งเครื่องบินมา"
"เครื่องบิน? หม่าม้านั่งนกมาเหรอคะ สุดยอดไปเลย!"
เทรเวอร์ได้ฟังก็หัวเราะแห้ง "ได้เวลานอนแล้วล่ะ"
.
.
.
"เทรเวอร์ ฉันมีเรื่องที่ต้องบอกคุณ"
"อืม ว่ามาสิ"
"ฉันลองไปคุยกับแม่ฉันอีกครั้งเรื่องของเรา ในที่สุดแกก็…"
จากการแอบฟังพ่อแม่พูดคุยกันแม้จะเป็นเรื่องไม่ได้ตั้งใจ แต่สิ่งที่พี่ชายทั้งสามได้ยินจากบทสนทนานั้นทำให้พวกเขาเศร้าโศก มีเพียงลูกหมีเท่านั้นที่ยังเด็กเกินกว่าที่จะเข้าใจสถานการณ์ตรงหน้าว่าเป็นอย่างไร
.
.
.
ภาพแรกที่ลูกหมีเห็นหลังจากตื่นนอนคือภาพของลูกหว้าที่ลากกระเป๋าเดินทางออกไปจากบ้าน โดยมีเทรเวอร์ที่ยืนปลอบพี่ชายทั้งสามที่พากันร้องไห้อยู่ด้านหลัง
"หม่าม้า หม่าม้าจะไปไหนเหรอคะ ลูกหมีขอไปด้วย"
ความไร้เดียงสาทำให้เด็กหญิงตัวน้อยรีบวิ่งออกจากบ้านหมายจะตามผู้เป็นแม่ไป แต่ทว่าด้วยขาทั้งสองที่เล็กนิดเดียวไม่อาจเทียบเท่าความเร็วของขาผู้ใหญ่ที่สูงยาวกว่าได้
ปึก
ตุบ
"โอ๊ย..."
เด็กหญิงสะดุดเท้าตัวเองจนล้มลงหน้าจุ่มพื้น พอเงยหน้าขึ้นก็เห็นว่าแม่ของเธอค่อยๆ เดินไกลออกไปจากรั้วบ้าน ลูกหว้าไม่แม้แต่จะเหลียวมามองลูกตัวน้อยทั้งสี่คนเลยด้วยซ้ำ
"ลูกหมี!"
เทรเวอร์วิ่งเข้ามากอดเด็กหญิงที่ตอนนี้ตัวเลอะมอมแมมจากดินแนบไว้ที่อก ลูกหมีเงยหน้าขึ้นมองผู้เป็นพ่อบังเกิดเกล้าก็พบว่าเขากำลังมีสีหน้าที่เจ็บปวด
"ปะป๊าคะ หม่าม้าไปเที่ยวที่ไหน ทำไมหม่าม้าไม่ให้ลูกหมีไปด้วยล่ะคะ"
"วันนี้หม่าม้าของหนูไม่ได้ไปเที่ยวหรอก"
"แล้วหม่าม้าไปไหนเหรอคะ หม่าม้าจะกลับมาตอนไหน"
"หม่าม้าจะไม่กลับมาอีกแล้ว"
"ปะป๊าอย่าโกหกสิคะ โกหกมันไม่ดี..."
"ลูกหมีฟังปะป๊านะ หม่าม้าทิ้งพวกเราไปแล้ว"
"เอ๊ะ..."
น้ำตามากมายเอ่อล้นออกมาจากดวงตากลมใสพร้อมกับความเศร้าเริ่มเกาะกุมจิตใจอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน เป็นครั้งแรกที่เด็กหญิงร้องไห้
เธอกำเสื้อเชิ้ตด้านหลังของเทรเวอร์ไว้แน่นจนยับยู่ยี่แล้วปล่อยโฮออกมา ชายหนุ่มทำได้เพียงแค่ลูบเรือนผมนุ่มของร่างเล็กเพื่อปลอบประโลมเท่านั้น
"ไม่เป็นไรนะลูกหมียังมีปะป๊ากับพี่ชายอยู่ ปะป๊าจะไม่ทิ้งหนูไปไหน"
"ฮึก...ปะป๊าสัญญากับลูกหมีได้ไหมคะ"
"อืม ปะป๊าสัญญา"
.
.
.
เมื่อลูกหมีอายุได้แปดขวบก็เริ่มสนใจในการเล่นไวโอลิน เธอชื่นชมและอยากเล่นไวโอลินได้แบบเทรเวอร์จึงฝึกเล่นไวโอลินมาตลอด ซึ่งพี่ชายทั้งสามก็สนับสนุนและเอาใจช่วยอยู่เสมอ
"ลูกหมีคงเล่นไวโอลินเก่งแบบปะป๊าไม่ได้แน่เลย"
ณ สวนหลังบ้าน เด็กหญิงที่นั่งแกว่งขาเล่นไปมาอยู่ในอ้อมแขนของชายหนุ่มจู่ๆ ก็เอ่ยโพล่งขึ้น จนคนฟังชักสีหน้าสงสัย
"ทำไมคิดแบบนั้นล่ะ"
"ก็ปะป๊าเคยบอกนี่คะว่านักไวโอลินทุกคนจะมีไวโอลินเป็นของตัวเอง ไวโอลินตัวเดียวเท่านั้นที่เราใช้มันแล้วจะรู้สึกถูกชะตาและทำให้เราเล่นได้ดี" เด็กหญิงตอบ "แต่ลูกหมีไม่มีโวโอลินเป็นของตัวเองก็เลยเล่นได้ไม่ดี…"
เทรเวอร์ได้ฟังก็หลุดหัวเราะ ก่อนจะโยกหัวเด็กหญิงที่แสนไร้เดียงสาไปมาแล้วชูไวโอลินตัวหนึ่งในมือ
"ลูกหมีก็มีไวโอลินตัวนี้อยู่นี่ไง"
"แต่มันเป็นของปะป๊านี่คะ"
"ตอนนี้มันเป็นของลูกหมีแล้ว" เทรเวอร์กล่าว "หนูต้องดูแลมันแทนปะป๊านะ เพราะปะป๊าไม่รู้ว่าจะอยู่ดูแลมันได้อีกนานแค่ไหน"
"ปะป๊าอย่าพูดแบบนั้นสิคะ ปะป๊าก็อยู่ตรงนี้กับลูกหมีไง"
เด็กสาวสวนกลับก่อนจะฉีกยิ้มกว้าง ซึ่งเทรเวอร์ก็ไม่ได้เอ่ยอะไรต่อหากทำเพียงแค่ยิ้มบางให้เป็นการรับคำ
.
.
.
"ลูกหมี!"
"เอ๊ะ?"
เสี้ยววินาทีแห่งความเป็นความตายบนท้องถนน มีเสียงอันคุ้นเคยของใครบางคนฉุดรั้งให้เด็กหญิงหันไปมองข้างหลัง
โดยไม่ทันตั้งตัวเจ้าลูกเหมียวสีขาวที่เธอกำลังวิ่งไล่ตามก็ผลุบหายเข้าไปในพุ่มไม้เสียแล้ว
พลั่ก
โครม
ร่างเล็กของลูกหมีถูกมือเจ้าของเสียงนั้นผลักไปข้างหน้าจนล้มลงและกลิ้งไปกระแทกกับเสาไฟฟ้า วินาทีต่อมาเสียงเรียกชื่อเธอก็ถูกแทนที่ด้วยเสียงแตรรถและเสียงล้อนับสิบเบียดถนนลั่น
ก่อนจะตามมาด้วยเสียงปะทะกันของอะไรบางอย่าง แม้แต่เด็กวัยสิบขวบอย่างเธอก็ยังรู้ว่าสิ่งที่ปะทะกับรถขนส่งคันนั้นคืออะไร
ลูกหมีวิ่งไปหาร่างของเทรเวอร์ที่นอนหายใจรวยรินบนพื้นถนน น้ำตาที่ไหลออกมาจากดวงตากลับกลายเป็นหยดเลือด จากการที่หน้าเธอถูกกระแทกกับเสาไฟฟ้าอย่างรุนแรง แต่มันเทียบไม่ได้เลยกับสภาพของคนตรงหน้าเธอ
"ปะป๊าขอโทษนะ...ที่ผลักหนูแรงไป"
"ฮึก...ลูกหมีไม่เป็นไรค่ะ แต่ปะป๊าสัญญากับลูกหมีแล้ว เพราะงั้นปะป๊าห้ามทิ้งลูกหมีนะ"
เธอสะอื้นไห้ ในใจเอาแต่โทษตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถ้าหากเธอไม่ซุกซนและวิ่งออกมากลางถนนเรื่องทั้งหมดก็คงไม่เกิด
เทรเวอร์หัวเราะแผ่วเบา ดวงตาเรียวคมสีน้ำทะเลสวยเช่นเดียวกับเด็กหญิงเบนมองท้องฟ้า ทัศนียภาพที่เริ่มพร่ามัวทำให้เขารู้ว่าลมหายใจกำลังถูกลิดรอนจนเหลือน้อยเต็มทีแล้ว
"ปะป๊าจะอยู่กับหนูเสมอ"
ฝ่ามือหนาข้างขวาเอื้อมไปเช็ดเลือดบนดวงตาของเด็กหญิงเพื่อปลอบโยน นี่คงเป็นการดูแลครั้งสุดท้ายที่เขาจะสามารถมอบให้กับเด็กหญิงตัวเล็กผู้นี้ได้
ก่อนที่ฝ่ามือนั้นจะร่วงลงบนพื้นคอนกรีตที่เย็นเฉียบก่อน เป็นสัญญาณว่าร่างกายนี้ไม่เหลือซึ่งวิญญาณและลมหายใจของเจ้าของร่างอีกต่อไป
.
.
.
เวลาผ่านไปหนึ่งปีลูกหมีกลายเป็นเด็กที่มีใบหน้าเศร้าตลอดเวลา ไม่พูดไม่จา เอาแต่นั่งเหม่อลอยและไม่ได้เล่นไวโอลินอีก
เธออาศัยอยู่กับพี่ชายทั้งสามคนตามลำพัง ลูกไม้พี่ชายคนโตและลูกหม่อนพี่ชายคนรองโตพอที่จะเรียนไปด้วยและทำงานพาร์ทไทม์ไปด้วย
นอกจากมรดกของเทรเวอร์ที่ทิ้งไว้ ก็มีแค่รายได้จากงานพาร์ทไทม์ของลูกไม้กับลูกหม่อนที่พอประทังท้องคนในครอบครัวให้ผ่านไปในแต่ละวันได้
พวกเขามักได้รับความช่วยเหลือจากแอนเดอร์สัน ชายจากบ้านข้างเคียงที่จะเอาขนมปังกับน้ำมาฝากและมาเยี่ยมที่บ้านถามไถ่สารทุกข์สุกดิบอยู่บ่อยครั้ง
กริ๊ง~
เสียงกริ่งประตูทำให้เด็กหญิงหลุดจากห้วงความคิด เธอเบนสายตาจากจอโทรทัศน์ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปแง้มประตู ในเวลานี้พี่ชายของเธอไปโรงเรียน เธอจึงต้องอยู่บ้านคนเดียว
"คุณแอนเดอร์สัน…"
แอนเดอร์สันซึ่งมีอาการเมามายจากสุราบุกเข้ามาในบ้านหมายจะขโมยทรัพย์สิน เด็กหญิงพยายามห้ามจึงถูกทุบตีและทำร้ายร่างกาย กว่าตำรวจจะมาถึงและจับตัวแอนเดอร์สันได้ก็ผ่านไปหลายชั่วโมง
หลังจากนั้นมาสภาพจิตใจของลูกหมีก็แย่ลงเรื่อยๆ เริ่มมีอาการประหลาดอย่างการฝันร้ายติดต่อกันหลายวันหรือมองเห็นภาพหลอน
เธอถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคจิตเภทแบบหวาดระแวง อาการรุนแรงจะมากขึ้นเมื่อผ่านไปสองสัปดาห์หากไม่เข้ารับการบำบัดรักษา แต่เพราะมีค่าใช้จ่ายที่สูงมากลูกหมีจึงไม่ได้เข้ารับการรักษา
ลูกพลับตัดสินใจลาออกจากโรงเรียนมาเรียนแบบโฮมสคูล เพื่อช่วยพี่ชายลดการจ่ายค่าเทอมและอยู่ดูแลลูกหมีที่บ้านในระหว่างที่ลูกไม้กับลูกหม่อนไปเรียน
.
.
.
- บทที่ 1 : การเริ่มต้นใหม่:
- บทที่ 1.1 : รูมเมท:
- bluebearz
Bonita Blanchett
นักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 5
1284
+123 M 935 K 310
PASSPORT
:
(450/2125)
:
Re: Bonita Blanchett
Thu 30 Sep 2021, 23:32
- ʕ´•ᴥ•`ʔ ABOUT PIM:
➽ คุณชื่ออะไร
สวัสดีค่า ชื่อพิมค่ะ (ෆ˙ᵕ˙ෆ)
➽ นามปากกาของคุณคืออะไร
ข้อสิบเจ็ดตอบขอไข่ค่ะ
➽ คุณเข้าวงการวาดรูปมานานแค่ไหนแล้ว
เกือบๆ 10 ปีแล้วค่ะ
แต่หลังจากผันตัวมาวาดงานโปรแกรมแทนงานกระดาษก็รู้สึกเหมือนต้องเริ่มต้นใหม่เกือบทั้งหมดเลยค่ะ
➽ คุณเกิดวันที่เท่าไร
11 มกราคม 2544
➽ แนวงานที่วาดของคุณเป็นอย่างไร
แนวตัวละครเด็กกับ BG หวานๆ โทนสีชมพูค่ะ
➽ เอกลักษณ์ของผลงานคุณคือ
ในความคิดของเพื่อน : คิดว่าเอกลักษณ์น่าจะอยู่ที่ [ ดวงตา ] ของตัวละครค่ะ
สงสัยเป็นเพราะติดวาดตัวละครตาโตหรือเปล่านะ?
ในความคิดของพิม : คิดว่าเอกลักษณ์คือ [ สีชมพู ] ค่ะ
เพราะมักเผลอใส่สีชมพูลงไปในภาพหลายภาพเลย
พอได้วาดภาพที่ไม่ใช้สีชมพูแล้วก็รู้สึกว่าเหมือนไม่ใช่งานที่ตัวเองวาดยังไงยังงั้น
➽ ไอดอลของคุณคือ- ไอดอลการวาดรูป:
- ไอดอลการร้องเพลง:
➽ คุณเป็นคนแบบไหน
ไม่ถนัดการพูดเลยเป็นคนพูดน้อยค่ะ ชอบการฟังคนอื่นพูดหรือการอ่านมากกว่า
ขี้เกรงใจ เครียดง่าย ไม่ตามเทรนด์แฟชั่นแถมขี้งกกับเรื่องเงินสุดๆ ไปเลยค่ะ ( ´ཀ` )
➽ คุณชอบอะไร และ กลัวอะไรบ้าง
ชอบ : แมว / ช็อกโกแลต / สีเหลือง / ไข่ / หนังสือ
กลัว : แมลงสาบ / Jumpscare
➽ ความฝันของคุณคืออะไร
- อยากทำงานในสำนักพิมพ์
- อยากเปิด / ทำงานร้านคาเฟ่แมว
- อยากวาดรูปเมพๆ
➽ ปกติคุณฟังเพลงตอนวาดไหม เพลงอะไรที่คุณชอบ
ปกติฟังตอนที่วาดรูปหรือทำการบ้านไปด้วยค่ะ
ชอบเพลงที่เป็นแนวช้าๆ หรือมีทำนอง / เนื้อหาเพลงเศร้าค่ะ- ตัวอย่างเพลงที่ชอบ:
➽ คุณชอบวาดอะไรเป็นหลัก
ตัวละครโชตะและตัวละครแทรปค่ะ!
➽ ปกติคุณชอบลงผลงานที่ไหน
ลงผลงานที่ Facebook เป็นหลักค่ะ >> จิ้มปุ <<
➽ แนวงานที่คุณไม่ถนัดมีอะไรบ้าง
- หุ่นยนต์ / ไซบอร์ก / ตีมอนาคต
- คนมีกล้ามโตเป็นมัดๆ / คนมีอายุ
- เคโมะโนะ / เฟอร์รี่ / มอนสเตอร์
- เลือด / ตีมหดหู่
➽ ชอบวาดแฟนอาร์ตบ้างไหม
ชอบนิดหน่อยค่ะ
➽ Original Character ที่ชอบของคุณคือใคร
ชอบน้องนุนมุลค่ะ ₍ᐢ.ˬ.⑅ᐢ₎
รู้สึกว่าวาดน้องบ่อยมากจนน้องกลายเป็นซิกเนเจอร์ของพิมไปแล้ว ฮา- ตัวอย่างน้องนุนมุล:
➽ Mascot ของคุณชื่ออะไร
Fallenz ค่ะ- ตัวอย่าง Fallenz:
➽ ปกติคุณใช้โปรแกรมอะไรสร้างสรรค์ผลงาน
Clip Studio Paint
➽ คุณชอบใช้โทนสีแบบไหน
โทนสีหวานๆ อย่างสีชมพูหรือสีพาสเทลค่ะ
➽ คุณออกกำลังกายบ้างไหม
ออกกำลังกายคืออะไรเหรอคะ ไม่รู้จัก...
➽ คุณวาดรูปในสเกลแบบไหนเก่งที่สุด
half-body
➽ คุณเปิด Commission อยู่หรือเปล่า
ตอนนี้ยังไม่เปิดค่ะ แต่มีแพลนจะเปิดอีกทีในปีหน้าถ้าเคลียร์คิวเก่าเสร็จหมดแล้วค่ะ
➽ ราคา Commission ของคุณประมาณเท่าไร
Chibi(กระดาษ) = 150฿
Chibi(โปรแกรม) = 180฿
Half-body(หัว-เอว) = 210฿
Half-body(หัว-ขาอ่อน) = 250฿
Full-body = 320฿
** ทั้งหมดเป็นเพียงราคาเริ่มต้น อาจมีเพิ่มราคาตามรายละเอียดของงาน / ใช้เชิงพาณิชย์ **
➽ ผลงานเก่าๆ ที่พอเป็นตัวอย่างที่คุณภูมิใจมีอะไรบ้าง- จิิ้มปุ:
➽ อยากฝากอะไรถึงคนอื่นๆ ในคอมมูนี้บ้าง
ติดตามผลงานของทุกคนอยู่เสมอนะคะ (ෆ˙ᵕ˙ෆ)
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|