- U
Saharat Chaiyakul
นักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 6
822
+86 M 22 K 507
PASSPORT
:
(1475/2250)
:
Saharat Chaiyakul
Mon 17 Feb 2020, 05:17
ชื่อ : สหรัฐ ชัยกูล (ยู)
Saharat Chaiyakul (U)
เพศ : ชาย
อายุ: 18 ปี วันเกิด : 19 มิถุนายน
เชื้อชาติ : ไทย
ส่วนสูง/น้ำหนัก : 172 ซม. 61. กก.
ระดับชั้น : ม.6
ความพิการ : ออทิสติก
(หลักๆ คือ บกพร่องทางการสื่อสาร
การทำความเข้าใจ การแสดงออกทางความรู้สึก
การควบคุมอารมณ์)
นิสัยเด่น :
เงียบ พูดน้อย ภายนอกดูนิ่งๆ
แต่จริงๆ แล้วเป็นคนร่าเริงมาก ชอบเรื่องสนุก
ค่อนข้างสุภาพ พูดไม่เก่ง มักพูดจาตรงไปตรงมาเหมือนกวน
ไม่ชอบคนแปลกหน้า หัวใจยังเป็นเด็กอยู่เสมอ
ทำทุกอย่างตามตาราง ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง ปรับตัวไม่เก่ง
สิ่งที่ชอบ :
น้ำหวาน เมฆและท้องฟ้า การเดินเล่น
ต้นไม้ใบหญ้า พัดลม(เวลาหมุน) สุนัข
สิ่งที่ไม่ชอบ :
สีส้ม/สีแดง หลุมท่อระบายน้ำ(แบบกลม)
เสียงดัง สัตว์ลำตัวยาว(eg.งู ปลาไหล หนอน ตะขาบ) อาหารเผ็ด
- เกร็ดเล็กน้อย:
เรื่องราวชีวิตก่อนเข้าโรงเรียน : Who are U
เรื่องราวชีวิตขณะรู้จักและตัดสินใจเข้าโรงเรียน :
- ก่อนรู้จัก:
- ย้อนรอยอดีต ยู สหรัฐ ชัยกูล
—————————————————————————————
ถึงคุณย่า
สวัสดีครับคุณย่า นี้ก็ผ่านมายี่สิบสามอาทิตย์แล้วนะครับ
ที่เราไม่ได้เจอกัน ยูส่งจดหมายไปที่บ้านสวนของเราหลายฉบับแล้ว
แต่คุณย่าก็ยังไม่ตอบกลับยูเลย
ไม่รู้ทำไม เดียวนี้คุณพ่อคุณแม่ไม่ค่อยคุยกับยูเลยครับ
ยูก็เป็นเด็กดี ไม่ดื้อ เชื่อฟัง ยูจำได้ว่าทำอะไรแล้วคุณย่าจะชม
ยูก็ทำเหมือนเดิมครับ ยูตื่นแต่เช้าและออกกำลังกายทุกวันเลย
เสร็จแล้วก็ไปกวาดลานหน้าบ้านให้สะอาด เก็บดอกไม้มาไหว้พระ
แต่ทำไมคุณพ่อคุณแม่ถึงโกรธและไม่ชอบล่ะครับ ตอนนี้
ทุกครั้งที่ยูออกกำลังคุณแม่จะชอบดุยูเสมอเลย ความแข็งแรง
ไม่ดีหรอครับ? ยูไม่เข้าใจว่าทำอะไรผิด
คุณย่าครับ วันนี้ยูช่วยคุณแม่ล้างจานมาด้วย คราวนี้คุณแม่
ต้องชมว่ายูเป็นเด็กดีแน่นอนครับ
คุณย่า ยูคิดถึงคุณย่า คิดถึงบ้านสวนของเรา เมื่อวันก่อน
คุณพ่อบอกยูว่า ยูเจอคุณย่าไม่ได้อีกแล้ว ยูไม่เชื่อคุณพ่อได้ไหมครับ
ตอนเราเจอกับครั้งสุดท้าย คุณย่าหลับอยู่เราเลยไม่ได้คุยกัน
แต่ว่ายูพยายามจะปลุกคุณย่าแล้วนะครับ คุณพ่อกลับมาตียูแทน
ตอนนี้คุณย่าสบายดีไหมครับ การตายเป็นยังไงบ้าง?
ถ้าหากว่าคุณย่าเลิกตายแล้ว ช่วยโทรมาหายู หรือไม่ก็เขียน
จดหมายตอบกลับมาบ้างนะครับ ยูอยากเจอคุณย่ามาก ๆ เลยครับ
คิดถึงคุณย่ามาก ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ครับ
น้องยู
—————————————————————————————
ผมเอาจดหมายใส่ซอง จ่าหน้าเป็นชื่อที่อยู่ของคุณย่าและ
ติดแสตมป์ นี้เป็นฉบับที่สามสิบสองแล้วที่ผมเขียน พรุ่งนี้ผมคิดว่า
จะเอาไปหยอดตู้สีแดง
“ยู!!!”
เสียงคุณแม่ตะโกนเรียกผม สงสัยคุณแม่คงเห็นจานที่ผม
ตั้งใจล้างให้แล้ว ผมรีบเดินไปหาคุณแม่ ด้วยหัวใจพองโต
อยากถูกคุณแม่ชมเร็ว ๆ
“คุณแม่”
“ยู ทำไมลูกเอากับข้าวไปทิ้งหมดเลยล่ะ พวกเรายังไม่ได้กินเลยนะ”
คุณแม่เดินเข้ามาหาผมพร้อมถังขยะ ถือมาทำไมล่ะเนี้ย เหม็นจัง
“เหม็น...” ผมพึมพำ เอามือปิดจมูก และพยายามผลักถังขยะออก
แต่ดูเหมือนว่าจะผลักแรงเกินไปถึงขยะเลยหลุดมือคุณแม่
หกกระจัดกระจายไปทั่วเลย
อา..แย่แล้วผมต้องเก็บกวาด
ผมนั่งลงกวาดขยะพยายามรวมทั้งหมดมาไว้หน้าตัวเอง
ขยะไม่ควรกระจัดกระจายผมจะรวมมันไว้แล้วจะเอาถังขยะมาใส่
ท่าทางของผมเก่ ๆ กัง ๆ เล็กน้อย
“ว๊าย ยู ทำอะไรของลูกเนี้ย” คุณแม่ดูเหมือนจะตกใจมาก ๆ อะไรกัน
ทำไม่คุณแม่โกรธผมอีกแล้วล่ะ? ผมพยายามคิดคำพูดเพื่ออธิบาย
ไม่ให้คุณแม่โกรธ แต่ในหัวของผมมันยุ่งเหยิงไปหมด
“หยุดเล่นขยะนะ ลุกขึ้นนะมันสกปรกหมดแล้ว” คุณแม่คว้าแขนผม
แล้วดึงขึ้น โอ๊ย...ความรู้สึกแบบนี้ผมไม่ชอบเลย คุณแม่ดึงแรงไป
นะครับ ผมพยายามสะบัดแขนจากคุณแม่แต่ยิ่งสะบัด คุณแม่ก็ยิ่ง
จับแขนผมแน่ขึ้น ปล่อยนะคุณแม่ ห้องสกปรกนะ ห้องต้องสะอาด
ผมจะช่วย...
“ยูหยุดดิ้นได้แล้ว นี้มันเลอะเทอะไปหมดแล้วนะลูก”
ดูเหมือนว่าคุณแม่ไม่มีท่าทีจะปล่อยผม ผมทนความรู้สึกแย่
ที่แขนไม่ไหวแล้ว ไม่ชอบเลยแถมดันเท่าไรคุณแม่ก็ไม่ยอมปล่อย
ผมก็เลยเอาปากกัดที่แขนคุณแม่ ผมไม่รู้ว่าทำไมถึงกัด แต่ระยะหลัง
มานี้ ผมมักกัดคนอื่นบ่อยขึ้น เพราะผมรู้ว่าทุกครั้งที่กัดใครก็ตาม
ที่มาจับผมคน ๆ นั้นจะปล่อยมือ
“โอ๊ย!!!!” คุณแม่ร้องเสียงดังแล้วปล่อยผม ผมตั้งตัวไม่ทันเลยลงไป
กองกับพื้น
“เกิดอะไรขึ้น! สภาพห้องนี้มันอะไรกัน” คุณพ่อที่พึ่งกลับถึงบ้าน
วิ่งเข้ามาตามเสียงร้องของคุณแม่ คุณพ่อดูจะตกใจกับอะไรบางอย่าง
ผมเดาว่าคงเป็นห้อง ห้องสกปรกใช่ไหมครับคุณพ่อ ผมจะช่วยเก็บนะ
ผมขยับตัวไปกวาดขยะบนพื้นต่อ ผมอยากจะอธิบายนะแต่ไม่มีเวลา
พื้นต้องสะอาด ห้องต้องสะอาด คุณย่าสอนไว้ พอผมเก็บเสร็จ
คราวนี้ผมต้องได้รับคำชมแหง ๆ
“พอแล้ว หยุดเล่นนะยู อย่าทำให้มันแย่ไปมากกว่านี้”
คุณพ่ออุ้มผมขึ้นมาและพาผมไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดอย่าง
ทุลักทุเล ผมดิ้นไปมาอยากให้คุณพ่อปล่อย แต่คุณพ่อมีแรงเยอะ
กว่าคุณแม่ ดังนั้นไม่ว่าผมจะพยายามดิ้นเท่าไร ผมก็ไม่หลุด ผมถูก
พาเข้าห้องนอน
“นั่งเล่น สงบสติอารมณ์อยู่ในห้องก่อนนะยู เดียวพ่อมา"
คุณพ่อปิดประตูลง แต่คุณพ่อครับ ขยะยังไม่ได้เก็บเลยนะครับ
เราต้องทำความสะอาดก่อนนะครับ ผมเอามือทุบประตู
ปัง..ปัง..ปัง.....
.
.
.
“คุณคะ ฉันทำไม่ได้ แกไม่ยอมฟังอะไรฉันเลย”
“ที่รัก คุณต้องอดทนหน่อยสิ นั้นลูกเราทั้งคนนะ”
“ทน ทน ทน คุณเอาแต่บอกให้ฉันทน ตั้งแต่แม่คุณเสีย ฉันก็ทน
มาตลอดนั้นแหละค่ะ ต้น..ฉันพยายามดูแลแกแล้วค่ะ แต่นี้มันไม่ไหว
แล้วจริง ๆ ยูไม่ดีขึ้นเลย คุณรู้ไหมวันนี้แกทำอะไร แกเอากับข้าว
ที่ฉันพึ่งเตรียมไว้ไปเทลงถังขยะทั้งหมด แล้วพอฉันถามแกก็ล้ม
ถังขยะแล้วลงไปนอนเล่น..และนี้ไม่ใช้ครั้งแรกที่แกกัดฉันนะคะ
เดียวนี้แกเริ่มทำทุกครั้งที่แกไม่พอใจ คุณดูรอยพวกนี้สิ”
เธอดึงแขนเสื้อถลกขึ้นให้สามีดู มีรอยกัดทั้งเก่าและใหม่หลายรอย
“ต้น คุณก็เห็นใช่ไหม ตั้งแต่ยูมาอยู่บ้านเรา อาการแกก็ไม่ดีขึ้นเลย
ฉุนเฉียวง่ายขึ้น ใครพูดอะไรก็ไม่ฟัง ไม่เข้าใจ คราวก่อนแกลุกขึ้นมา
ตั้งแต่เช้ามืดเปิดเพลงวิทยุเสียงดังลั่น แล้วกระโดดไปมาร้อง
โหวกเหวก เพื่อนข้างห้องของเราเดินมาเคาะประตูแล้วต่อว่าฉัน
ยกใหญ่
บางทีแกก็เดินไปเด็ดดอกไม้ในกระถางของศาลพระภูมิ หรืออยู่ ๆ
ก็เอาไม้กวาดออกไปเล่นตรงถนนหน้าคอนโด เพื่อนบ้านทุกคน
ในคอนโดนี้เอาแต่พูดกันว่าลูกเราสติไม่ดี"
“ผมรู้ว่าคุณเองก็พยายามที่จะดูแลยูให้ดี คุณก็รู้ว่าลูกเราแกพิเศษ
กว่าเด็กคนอื่น...”
“แต่แกพิเศษมากเกินไป เมื่อก่อนตอนอยู่กับแม่คุณ ยูยังเงียบ ๆ
เรียบร้อยบ้าง แต่ตอนนี้คุณก็เห็นว่าแกเป็นยังไงอาการแย่ลงกว่าเก่า
แล้วกี่โรงเรียนที่คุณพยายามพาแกเข้า โรงเรียนม.ต้นที่ไหน ๆ
ก็ปฎิเสธ ไม่มีใครอยากรับเด็กออทิสติกที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ
ตอนนี้ยัยเอส ยัยเอ็มก็โตขึ้นทุกวัน ทุกวันนี้ฉันเอาแต่ดูแลยู จนไม่มี
เวลาได้ดูแลลูกคนอื่น ๆ แค่จะไปสอนการบ้านให้ยัยเอสยังทำไม่ได้
ไม่ใช่ว่าฉันไม่รักยู แต่เราดูแลแกไม่ไหวหรอกนะคะ พวกเราไม่มี
ความสามารถมากพอ ได้โปรดหาทางทำอะไรสักอย่าง”
เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่มั่นคงนัก มือน้อย ๆ กุมมือสามีไว้แล้วก้ม
ตัวลง ราวกับจะร้องขอความเห็นใจ
“ที่รักคุณไม่ต้องห่วง ที่วันนี้ผมกลับมาเร็วเพราะว่าในที่สุด ผมก็หา
โรงเรียนที่ยอมรับยูเข้าเรียนได้แล้ว คุณหมอที่โรงพยาบาลเป็นคน
แนะนำมาเอง เป็นโรงเรียนประจำชื่อ ‘ควิ้นท์’ ”
“โรงเรียนประจำ? คุณแน่ใจหรอว่าลูกเราจะไม่เป็นไร แกจะดูแลตัวเอง
ได้หรอคะ แกเรียนที่บ้านมาตลอด ไม่ค่อยได้เข้าหาเด็กคนอื่น นี่จู่ ๆ
เข้าโรงเรียนครั้งแรกก็จะให้ไปโรงเรียนประจำจะไม่เป็นปัญหาหรอคะ”
“ผมลองหาข้อมูลมาแล้ว มันเป็นโรงเรียนสำหรับเด็กพิเศษโดยเฉพาะ
เขาต้องมีความเชี่ยวชาญในการรับมือกับเด็กพิเศษ และสามารถอบรม
สั่งยูได้ดีแน่นอน ที่นี้ลูกเราจะต้องมีความสุข...”
อันที่จริงตัวเขาเองก็ไม่มั่นใจนักว่าโรงเรียนแห่งใหม่นี้ ลูกชายจะ
สามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขหรือไม่ แต่ในเมื่อนี้เป็นทางเลือกที่ดี
ที่สุดเพื่อลูกชาย และครอบครัวของเขา เขาก็คิดว่าพวกเขาควรลองดู
ทำความรู้จัก และตัดสินใจ >> ท้องฟ้า กับ โรงเรียน
ช่องทางการติดต่อคุณ :
๏ Facebook : Judd Namthorn
- U
Saharat Chaiyakul
นักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 6
822
+86 M 22 K 507
PASSPORT
:
(1475/2250)
:
[NPC] เกี๊ยว
Mon 29 Jun 2020, 17:36
- ประวัติ:
ชื่อ-นามสกุล : กิติพัต หลี่เจริญทรัพย์
ชื่อเล่น : เกี๊ยว
วันเกิด : 3 เมษายน
อายุ : 18
เพศ : ชาย
เชื้อชาติ : ไทยจีน
ส่วนสูง : 176
น้ำหนัก : 55
ความพิการ : แขนด้วนแต่กำเนิด
ความสามารถพิเศษ : ฉีกขา 180 องศา
นิสัยเด่น : ร่าเริงสดใส เป็นมิตร รักพวกพ้องมีน้ำใจ ขี้เกียจ ไม่เป็นระเบียบ ไม่ค่อยรับผิดชอบ พูดมากส่วนใหญ่มีแต่น้ำ
สิ่งที่ชอบ : วิดีโอเกม มังงะ อนิเมชั่น กีฬา(ชอบดู) สตอเบอรี่ แมว สีเหลือง
สิ่งที่เกลียด : กิจกรรมกลางแจ้ง การออกกำลังกาย การเรียน คนโกหก สับปะรด
สถานะหรือหน้าที่ : นักเรียนชั้นมัธยมปีที่ 6
อธิบายสั้นๆ เกี่ยวกับตัวละครของคุณ : เกี๊ยวคือความธรรมดา ไม่พิเศษ ไม่โดดเด่น ในเรื่องการใช้ชีวิตส่วนตัวอาจทำได้ไม่ดีมากนักเพราะเขาไม่ค่อยใส่ใจตัวเอง แต่กับคนรอบข้าง เพื่อนๆ ครอบครัว เขามักให้ความสำคัญและใส่ใจในรายละเอียดเสมอ
- ชีวิตก่อนเข้าโรงเรียน:
- เรื่องราวชีวิต เกี๊ยวเป็นลูกชายคนที่ 2 ในจำนวนพี่น้อง 5 คน จากครอบครัวเชื้อสายจีน พ่อเป็นเจ้าของโรงงานขวดแก้ว เกี๊ยวเกิดมาก็ไม่มีแขนแล้วจึงฝึกการใช้ขา เท้า และไหล่ในใช้ชีวิตมาตั้งแต่แรก วัยเด็กเข้ารับการผ่าตัดที่ไหล่มาสองครั้งเพื่อให้สามารถใช้ไหล่ในการช่วยเหลือตัวเองได้มากขึ้น
ที่บ้านเกี๊ยวเป็นครอบครัวใหญ่อยู่รวมกันหลายรุ่น เกี๊ยวจึงโตมาโดยรายล้อมไปด้วยผู้คนมากมายเสมอ เลยเข้าหาคนอื่นเก่ง
เมื่อจบชั้นประถม เกี๊ยวเข้ามาเรียนควิ้นท์ผ่านการแนะนำของญาติสนิท ทุกคนเห็นดีเห็นงามกันหมดเพราะเป็นโรงเรียนเฉพาะทางที่มีชื่อ ตอนแรกเกี๊ยวทำใจไม่ได้มากนักเพราะไม่เคยห่างบ้าน และโรงเรียนเองก็อยู่คนละจังหวัดกับบ้านด้วย การกลับบ้านทุกอาทิตย์จึงเป็นไปไม่ได้ ก็มีร้องไห้งอแงบ้าง แต่สุดท้ายก็ปรับตัวได้
- ความเกี่ยวข้องกับยู:
- บทบาท เกี๊ยวคือรูมเมทคนปัจจุบันของยู และเป็นเพื่อนร่วมห้องกันด้วย พึ่งจะเริ่มสนิทกันตอนม.5 หลังจากได้มาเป็นรูมเมทกัน ก่อนหน้านี้ทั้งสองคนไม่ค่อยคุยกันเท่าไร เพราะไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตต่างกัน
สำหรับยูแล้วปัจจุบันเกี๊ยวเป็นเพื่อนที่ค่อนข้างสนิท คุยได้เกือบทุกเรื่อง
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|