คาบเรียนวิชาสุขศึกษา

[EURChairman's Club]

เนื่องจากทางโรงเรียนได้มีการเปิดคาบเรียนผ่านทาง "Facebook" กลุ่มคอมมูนะครับ
และได้หมดเวลาไปเรียบร้อยแล้ว จึงนำข้อมูลที่นักเรียนส่งการบ้านมารวบรวมลงกระทู้นี้
เพื่อเป็นความรู้และการอ้างอิงในอนาคตสำหรับคนอื่นๆได้

นอกจากนี้นักเรียนที่พลาดคาบเรียนนี้ สามารถมาลงข้อมูลเพิ่มเติมได้นะครับ เพื่อเป็น
วิทยาทานและการอ้างอิงกับคนอื่นๆในภายภาคหน้า (แต่ไม่มีรางวัลให้นะครับ)

✎ รายละเอียดคาบเรียน
และแล้วกิจกรรมเล็กๆเกี่ยวกับการเรียนก็มาถึง... ซึ่งปกติโรงเรียนเราหาเวลาเรียนได้ยากมาก

วันนี้เราจะมาเรียนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดกันนะครับ ด้วยการที่โรงเรียนของเราคับคั่งไปด้วย
นักเรียนที่มีความเสี่ยงต่อสุขภาพและความปลอดภัย ดังนั้นศาสตร์มืดที่ผมพูดถึงคือ...

"สิ่งที่มีความเสี่ยงต่อสุขภาพและความปลอดภัยทุกชนิด"

ยกตัวอย่างเช่น...

สำหรับ "เอลีท" แล้วก็คือ ยารักษาโรคหลายๆชนิด เพราะด้วยความผิดปกติทาง DNA ของเอลีท
ทำให้ร่างกายเอลีทไม่สามารถรับ "โอปิออยด์" เกินขนาด ซึ่งยาที่อยู่ในกลุ่มโอปิออยด์ที่เป็นส่วน
ประกอบหลักของยารักษามากมายหลายชนิดคือ "มอร์ฟีน" เป็นต้น ยาหลักๆที่มีมอร์ฟีนที่ทุกคน
น่าจะรู้จักกันดีก็คงไม่ใช่อะไรนอกจาก "พาราเซตามอล" ยาสามัญประจำบ้าน ด้วยเหตุนี้ยารักษา
หลายๆชนิดจึงเป็นศาสตร์มืดสำหรับเอลีท


บทเรียนวิชาสุขศึกษาเบื้องต้นวันนี้คือ นักเรียนทุกคน จะต้องรู้จักถึงสิ่งที่มีความเสี่ยงต่อสุขภาพและ
ความปลอดภัยทุกชนิดของตนเอง ว่าอะไรคือสิ่งที่กระตุ้นอาการผิดปกติหรือความพิการของตนเอง
ทำให้เกิดภาวะเสี่ยงต่อสุขภาพ ส่วนนักเรียนที่อารมณ์บกพร่องก็ต้องทราบว่าอะไรเป็นสิ่งช่วยกระตุ้น
อารมณ์บกพร่องนั้น

โดยตอบพร้อมอธิบายสั้นๆ มีความเสี่ยงเพราะอะไร? ไม่ต้องละเอียดเหมือนตัวอย่างที่ยกมาก็ได้ครับ


การบ้านชิ้นนี้ไม่บังคับส่ง นักเรียนที่ส่งการบ้านในช่วงเวลาบนกลุ่ม Facebook จะได้รับรางวัลจาก
อาจารย์วิชาสุขศึกษา ดังนี้...

+1 BLACK ROSE กุหลาบสีดำที่หายากมากที่สุดในโลก ใช้มอบให้กับคนที่เราต้องการเชียร์ โดยจะเพิ่มคะแนนโหวตจำนวน 5 คะแนนให้กับผู้ที่ได้รับดอกกุหลาบนี้

+1,000,000 Spirit Point ไอเทมเพิ่มแต้มสะสม Spirit Point ตามปริมาณที่กำหนด สามารถนำไปใช้ในการแลกเปลี่ยนเป็น CHIPS ได้ในภายหลัง

หมดเวลาส่งการบ้านวันที่ 10 MAR 2016 ; 23.59 TH นะครับ และสำหรับผู้ที่ส่งการบ้านย้อนหลัง
บนเว็บบอร์ดกระทู้นี้ จะไม่ได้รับรางวัลข้างต้นนะครับ

[EURChairman's Club]

✎ Napassawan Budwat
โรคหอบหืดของเดียร์จะเป็นร่วมๆไปกับการเป็นภูมิแพ้ สิ่งที่จะกระตุ้นให้เกิดภาวะเสี่ยงในกรณีของเดียร์
ก็อย่างเช่น
- การหายใจเอาสารที่แพ้เข้าไปในหลอดลม
- ภาวะติดเชื้อ
- โพรงจมูกอักเสบ
- กลิ่นน้ำหอม
- ยาฆ่าแมลง
- กลิ่นท่อไอเสีย
- กลิ่นบุหรี่
- ภาวะอากาศเปลี่ยน
- การออกกำลังกาย (ถ้าเหนื่อยมากๆ)
- ภาวะแพ้ยา สารสี สารเคมีต่าง ๆ และภาวะเครียด(แต่จะเป็นคนที่เครียดยากมาก)
เพราะบางครั้งโรคนี้จะมีกำเริบขึ้นมาเฉยๆ เพราะฉะนั้นการที่สูดดมสารพิษ หรือ ออกกำลังกายมากเกินไป
จะทำให้ร่างกายของเดียร์อ่อนแอ ส่วนวิธีที่ทำให้ดีขึ้นก็ทานผักผลไม้สดบ่อยก็จะทำให้อาการดีขึ้น แต่ไม่
หายขาดค่ะ

✎ Isara Pattanasak
ผมมีอาการภูมิแพ้อากาศ ปัจจัยกระตุ้นคือ อยู่ที่เย็นมากๆ แอร์เย็นจัดหรือปล่อยให้ศีรษะเย็นเกินไป
รวมไปถึงฝุ่นหรือที่ที่สกปรก ถ้าผมเริ่มจามหรือคัดจมุกเมื่อไหร่แสดงว่าผมอยู่ที่ๆ เย็นเกินไปหรือเจอ
ฝุ่นเยอะๆ เข้าให้แล้ว (เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ติดนิสัยรักสะอาด) เรื่องความพิการนั้นไม่มีอะไรมากครับ
การออกกำลังอย่างสม่ำเสมอไม่มากไม่น้อยไปช่วยให้ผมอาการดีขึ้นได้ครับ

✎ Taira Payakaroon
สำหรับ "ไทระ" ที่พิการทางการได้ยินแล้ว เรื่องยาไม่ใช่ปัญหาเพราะไม่เคยมีประวัติแพ้ยามาก่อน
สิ่งที่เสี่ยงต่อสุขภาพจึงเป็นเรื่องของคนรอบข้างที่จะส่งผลต่อจิตใจ ถ้าเมื่อไหร่ที่ไทระรู้สึกว่าตัวเอง
เป็นที่รังเกียจหรือเป็นต้นเหตุทำให้คนอื่นทุกข์ใจ เขาก็มักจะซึมเศร้า ดังนั้นคนรอบข้างเลยพยายาม
ไม่ทำให้ไทระรู้สึกไม่ดี และตัวไทระเองก็พยายามคิดแต่ในแง่ดีครับผม

✎ Dasakorn Anekkarn
สำหรับ สิ่งที่จะกลายเป็นความเสี่ยงของกรคือ ความประมาท และ นิสัยที่ชอบเข้าไปในสถานการณ์
ที่เสี่ยงอันตรายอ่ะครับ เพราะกรนั้น ชอบช่วยเหลือคนอื่น ดังนั้น สถานการณ์ต่างๆ ที่อันตรายก็อาจจะ
เกิดขึ้นกับกรได้เสมอ กรเองยังไม่สามารถแก้ไขนิสัยแบบนี้ได้เลย

✎ Phee
พีฮะ ความพิการของพีคือเป็นใบ้สนิท 100% เพราะงั้นอาการใบ้คงไม่สามารถแย่ไปกว่านี้ได้ แต่ก็ยัง
คงมีความแสลงใจกับลูกอมโดยเฉพาะลูกอมรสมินต์ที่เป็นต้นเหตุของการเป็นใบ้นี้ การกินลูกอมหรือ
ของกินรสมินต์นั้นส่งผลต่อจิตใจของพี ทำให้ความทรมานในวันวานย้อนกลับมาหลอกหลอน เพราะงั้น
พีจึงเลี่ยงที่จะกินลูกอมและของกินรสมินต์มาโดยตลอดเลยล่ะฮะ

✎ Caroline Losgun
แคลมีปัญหาทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ทางด้านร่างกายคือความผิดปกติทางด้านสายตา และอาการแขนขาด
ควรดูแลรักษาสุขภาพของดวงตา ตรวจสุขภาพดวงตาเป็นประจำอย่างน้อยทุกๆปี เพื่อให้ดวงตานั้นมีอายุการ
ใช้งานที่ยาวนาน ในด้านแขนขาด ควรมีการฝึกกายภาพบำบัดและดูแลอุปกรณ์เทียมอยู่เสมอ สุดท้ายคือ
ทางด้านจิตใจ แคลซึ่งเคยมีอาการโรคซึมเศร้าในวัยเด็ก (Delusion of guilt) ซึ่งปัจจุบันอาการได้ลดลงแล้ว
ปัจจัยของโรคคือ สภาพจิตใจและสิ่งแวดล้อมรอบตัว จึงควรดูแลแคลไม่ให้อยู่ในสภาพวิตกกังวลมากจนเกินไป
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยคือ แคลไม่ชอบเตาไฟเพราะจะทำให้คิดถึงพ่อ ดังนั้นควรหลีกเลียงด้วยค่าาาาา