- Nearmoki-2b
Narin
อดีตผู้อำนวยการโรงเรียน
0
+65 M 413 K 676
Lesson 24 : เที่ยวกระหน่ำ รับปิดเทอม
Sun 16 Aug 2015, 18:08
สวัสดีครับ ขออภัยในความล่าช้านะครับผม ตามเนื้อเรื่องแล้วช่วงนี้
เป็นช่วงเวลาปิดเทอมของโรงเรียนควิ้นท์ ซึ่งจะเปิดเทอมในต้นเดือน
สิงหาคมที่จะมาถึงนี้ ในระหว่างปิดเทอมนี้เด็กๆทุกคนก็คงได้พักผ่อน
ท่องเที่ยว และอยู่กับครอบครัวกันอย่างเต็มที่แล้ว วันนี้ผมจึงจะมาให้
'การบ้านปิดเทอม' ที่อาจจะกลายเป็นความทรงจำที่แสนพิเศษของเด็กๆ
ทุกคนครับผม ในระยะเวลาที่ผ่านมา เราทุกคนต่างได้ใช้ชีวิตส่วนใหญ่
ร่วมกันภายในรั้วโรงเรียนแห่งนี้เป็นส่วนใหญ่ เพราะฉะนั้นวันนี้ผมจึง
ให้การบ้านปิดเทอมด้วยการที่ให้ 'ชวนเพื่อนออกไปเที่ยวข้างนอก'
ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมชั้น รุ่นพี่ รุ่นน้อง จำนวนกี่คนก็ได้ตามสะดวก
และนำประสบการณ์เหล่านั้นมาแชร์ให้ทุกคนได้ร่วมสนุกไปด้วยกัน!!
ระยะเวลาภารกิจ พิมพ์ว่า:SUN 16/08/15 ; 18.08 TH - MON 31/08/15 ; 23.59 TH
รายละเอียดภารกิจ พิมพ์ว่า:1.ค้นหาสมาชิกกลุ่มผู้ที่จะไปเที่ยวร่วมกัน (สามารถจับกลุ่มกันได้เอง ไม่จำกัดสมาชิก)
2.โพสสมาชิกในกลุ่มลงภายในกระทู้นี้ก่อนทำภารกิจ เพื่อความสะดวกในการหาสมาชิกของคนที่เหลือ
3.แต่งเรื่องราวการไปเที่ยวร่วมกัน
4.เขียนบรรยายบรรยากาศในการเที่ยว และวาดรูปประกอบ (ส่งภารกิจรายคน)
สรุปอีกครั้ง ภารกิจนี้มีรูปแบบคล้ายภารกิจเข้าค่าย แต่ต่างกันที่ว่าภารกิจเข้าค่ายนั้น
จะให้ทำภารกิจร่วมกันทั้งหมดแต่ส่งเพียงผู้เดียว โดยทุกคนมีส่วนร่วมในการทำภารกิจ
แต่ภารกิจในครั้งนี้มุ่งเน้นให้ทำงานร่วมกันเพียงในส่วนของการ 'แต่งเนื้อหาร่วมกัน'
ตัดสินใจว่าจะไปที่ไหนกันบ้าง จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง โดยคร่าว หลังจากตัดสินใจร่วมกัน
เสร็จเรียบร้อยแล้ว ต่างคนต่างจึงเริ่มเขียนบรรยายและวาดรูปในมุมมองของตนเอง
ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและไม่สามารถช่วยกันเพิ่มเติมได้ เพราะสแตมป์ให้เป็นรายบุคคล
กฏการให้สแตมป์ พิมพ์ว่า:คุณภาพงานเขียน+งานวาด 80% / ความเข้ากันของเนื้อหาภายในกลุ่ม 20%
ความเข้ากันของเนื้อหาภายในกลุ่ม หมายถึง ความสามัคคีในด้านของเนื้อหา
เช่นถ้าตกลงกันว่าจะไปสวนสนุก เนื้อหาของทุกคนในกลุ่มจะต้องเป็นเรื่องเกี่ยวกับสวนสนุก
หากมีใครสักคนภายในกลุ่มพลัดหลงไปที่อื่น คนๆนั้นก็จะถูกหักคะแนนในส่วนนี้
สถานะ NPC ที่สามารถนำไปใช้ได้ พิมพ์ว่า:
สำหรับนักเรียนที่อาจจะมีปัญหาเรื่องต่างๆ เช่นเรื่องการเดินทาง หรือทางบ้านไม่ให้ออกไป
ไหนมาไหนคนเดียวด้วยเหตุทางสุขภาพ หรืออื่นๆ เราก็มีตัวละคร NPC ให้ใช้กันดังต่อไปนี้
ผู้นำนวยการ นรินทร์
status : พึ่งกลับมาจากพักร้อนที่สวิตเซอร์แลนด์
location : โรงเรียน
เลขานุการ รัตติกาล
status : พึ่งกลับมาจากการทำงานที่สวิตเซอร์แลนด์
location : บ้าน
ผู้รักษาการณ์ฝ่ายปกครองชั่วคราว เอลีท
status : พึ่งกลับมายังโรงเรียนเพื่อเตรียมการสำหรับการเปิดเทอม
location : โรงเรียน
นักเรียนชั้นม.5 หัวหน้าชมรมโสตฯ แม็กเวล
status : นอนตีพุง
location : บ้าน
location = สถานที่อยู่ณ.ปัจจุบัน
คุณสามารถเลือกใช้ตัวละครเหล่านี้เป็นตัวเลือกเสริมได้เท่าที่ต้องการ
ช่วยเสริมกรณีความขัดข้องต่างๆรวมทั้งเพิ่มสีสันสำหรับกลุ่มที่เลือกจะ
ทำงานกันเป็นจำนวนน้อย
*หมายเหตุ* ภารกิจนี้ไม่ได้ถูกออกแบบให้ออกมาในรูปแบบของภารกิจรูมเมท ไม่จำเป็นต้อง
ร่วมมือกันมากกว่าที่ภารกิจกำหนดเอาไว้ เนื่องจากจะสร้างปัญหาในการตรวจภารกิจตามมา
และเดือนหน้าทั้งเดือนจะเป็นภารกิจที่มุ่งเน้นไปในฝั่งภารกิจหมู่ กิจกรรมหมู่เสียส่วนใหญ่
ทางเราขอให้ทุกคนออมแรงออมใจไว้สามัคคีเต็มกำลัง จัดเต็มที่กันภายในเดือนหน้า
*Tips* กำหนดสถานที่ร่วมกันไม่ได้แปลว่าจะต้องจัดไทม์ไลน์โดยละเอียดว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ในตอนไหนบ้าง แต่อาจจะจัดไทม์ไลน์คร่าวๆและแบ่งเป็น คนนึงแต่งช่วงเช้าคนนึงแต่งช่วงบ่าย
เพื่อลูกเล่นและความแปลกใหม่ที่มากขึ้น และยังหลีกเลี่ยงความผิดพลาดเรื่องเนื้อหาไม่ตรงกัน
ได้อีกด้วย
.
.
.
ภารกิจนี้เป็นภารกิจแรกตั้งแต่เปิดคอมมูมา ที่ผมเปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถจับกลุ่มกันเองได้
ผมขอความกรุณาเด็กๆช่วยกันตรวจตรา อย่าปล่อยให้ใครเป็นเศษหรือเหลืออยู่คนเดียว
เพื่อบ้านที่อบอุ่นของ 'พวกเราทุกคน' นะครับผม!!
✎ ของรางวัลสำหรับนักเรียน (Student Class)
A. รางวัลสำหรับนักเรียนที่ทำภารกิจได้อยู่ในระดับเพอร์เฟ็ค 100%
- S - CLASS STAMP
[ STUDENT CLASS ONLY ]
ตราประทับระดับสูงสุดในหมวดภารกิจทั่วไปสำหรับนักเรียนเท่านั้น มีลักษณะเป็นดาวสีนิล
สุดแสนจะคลาสสิก มีมูลค่า +100 Grade Exp.จะได้รับเมื่อปฎิบัติภารกิจได้เพอร์เฟ็ค
เป็นที่น่าประทับใจแก่ผู้อำนวยการโรงเรียน- Spirit Point +1,500,000
ไอเทมเพิ่มแต้มสะสม Spirit Point ตามปริมาณที่กำหนด ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการ
แลกเปลี่ยนเป็น CHIPS ได้ในภายหลัง
B. รางวัลสำหรับนักเรียนที่ทำภารกิจได้อยู่ในระดับยอดเยี่ยม 80% ขึ้นไป
- A - CLASS STAMP
[ STUDENT CLASS ONLY ]
ตราประทับระดับสูงในหมวดภารกิจทั่วไปสำหรับนักเรียนเท่านั้น มีลักษณะเป็นดาวสีทับทิม
สื่อถึงความหรูหรา มีมูลค่า +80 Grade Exp. จะได้รับเมื่อปฎิบัติภารกิจได้ยอดเยี่ยมเป็น
ที่น่าประทับใจแก่ผู้อำนวยการโรงเรียน- Spirit Point +1.250,000
ไอเทมเพิ่มแต้มสะสม Spirit Point ตามปริมาณที่กำหนด ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการ
แลกเปลี่ยนเป็น CHIPS ได้ในภายหลัง
C. รางวัลสำหรับนักเรียนที่ทำภารกิจได้อยู่ในระดับโดดเด่น 75% ขึ้นไป
- B - CLASS STAMP
[ STUDENT CLASS ONLY ]
ตราประทับระดับสูงในหมวดภารกิจทั่วไปสำหรับนักเรียนเท่านั้น มีลักษณะเป็นดาวสีไพลิน
สื่อถึงความลึกล้ำ มีมูลค่า +75 Grade Exp. จะได้รับเมื่อปฎิบัติภารกิจได้อย่างดีเป็นที่
น่าพึงพอใจแก่ผู้อำนวยการโรงเรียน- Spirit Point +1,000,000
ไอเทมเพิ่มแต้มสะสม Spirit Point ตามปริมาณที่กำหนด ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการ
แลกเปลี่ยนเป็น CHIPS ได้ในภายหลัง
D. รางวัลสำหรับนักเรียนที่ทำภารกิจได้อยู่ในระดับปานกลาง 50% ขึ้นไป
- C - CLASS STAMP
[ STUDENT CLASS ONLY ]
ตราประทับระดับปานกลางในหมวดภารกิจทั่วไปสำหรับนักเรียนเท่านั้น มีลักษณะเป็นดาวสี
มรกตสื่อถึงความมั่นคง มีมูลค่า +50 Grade Exp. จะได้รับเมื่อปฎิบัติภารกิจได้เป็นที่น่า
พอใจแก่ผู้อำนวยการโรงเรียน- Spirit Point +900,000
ไอเทมเพิ่มแต้มสะสม Spirit Point ตามปริมาณที่กำหนด ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการ
แลกเปลี่ยนเป็น CHIPS ได้ในภายหลัง
E. รางวัลสำหรับนักเรียนที่ทำภารกิจได้อยู่ในระดับต่ำกว่าเกณฑ์ควรพัฒนา 35% ขึ้นไป
- D - CLASS STAMP
[ STUDENT CLASS ONLY ]
ตราประทับระดับต่ำในหมวดภารกิจทั่วไปสำหรับนักเรียนเท่านั้น มีลักษณะเป็นดาวสีแอเมทิสต์
สื่อถึงความเรียบง่าย มีมูลค่า +35 Grade Exp. จะได้รับเมื่อปฎิบัติภารกิจผ่านเกณฑ์ตามที่
ได้รับมอบหมายไว้- Spirit Point +800,000
ไอเทมเพิ่มแต้มสะสม Spirit Point ตามปริมาณที่กำหนด ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการ
แลกเปลี่ยนเป็น CHIPS ได้ในภายหลัง
✎ ของรางวัลสำหรับอาจารย์ (Teacher Class)
A. รางวัลสำหรับอาจารย์ที่ทำภารกิจได้อยู่ในระดับเพอร์เฟ็ค 100%
- 3 STAR DIAMOND STAMP
[ TEACHER CLASS ONLY ]
ตราประทับระดับสูงสุดในหมวดภารกิจทั่วไปสำหรับอาจารย์เท่านั้น มีลักษณะเป็นเพชรสีดำ
ผสมทองคำแท้ มีมูลค่า +100 Grade Exp. จะได้รับเมื่อปฎิบัติภารกิจได้เพอร์เฟ็คเป็นที่
น่าประทับใจแก่ผู้อำนวยการโรงเรียน- Spirit Point +1,500,000
ไอเทมเพิ่มแต้มสะสม Spirit Point ตามปริมาณที่กำหนด ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการ
แลกเปลี่ยนเป็น CHIPS ได้ในภายหลัง
B. รางวัลสำหรับอาจารย์ที่ทำภารกิจได้อยู่ในระดับโดดเด่น 75% ขึ้นไป
- 2 STAR SAPPHIRE STAMP
[ TEACHER CLASS ONLY ]
ตราประทับระดับกลางในหมวดภารกิจทั่วไปสำหรับอาจารย์เท่านั้น มีลักษณะเป็นแซฟไฟร์
สีฟ้าผสมทองคำแท้ มีมูลค่า +75 Grade Exp. จะได้รับเมื่อปฎิบัติภารกิจได้ดีเยี่ยมเป็นที่
น่าพึงพอใจแก่ผู้อำนวยการโรงเรียน- Spirit Point +1,000,000
ไอเทมเพิ่มแต้มสะสม Spirit Point ตามปริมาณที่กำหนด ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการ
แลกเปลี่ยนเป็น CHIPS ได้ในภายหลัง
C. รางวัลสำหรับอาจารย์ที่ทำภารกิจได้อยู่ในระดับปานกลาง 50% ขึ้นไป
- 1 STAR EMERALD STAMP
[ TEACHER CLASS ONLY ]
ตราประทับระดับปกติในหมวดภารกิจทั่วไปสำหรับอาจารย์เท่านั้น มีลักษณะเป็นผลึกมรกต
สีเขียวอร่าม มีมูลค่า +50 Grade Exp. จะได้รับเมื่อปฎิบัติภารกิจที่มอบหมายผ่านเกณฑ์- Spirit Point +750,000
ไอเทมเพิ่มแต้มสะสม Spirit Point ตามปริมาณที่กำหนด ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการ
แลกเปลี่ยนเป็น CHIPS ได้ในภายหลัง
❤ ของรางวัลพิเศษจากผู้อำนวยการ
.....ถ้วยรางวัลแต่ละชนิดจะถูกมอบให้กับ นักเรียน-อาจารย์ ที่มีผลงานสร้างสรรค์
เกินขอบเขตของจินตนาการ โดยระดับถ้วยเกียรติยศและจำนวนที่จะมอบให้นั้นขึ้น
อยู่กับผู้อำนวยการโรงเรียนเท่านั้น แม้ผลงานที่เพอร์เฟ็คแต่ถ้าขาดความสร้างสรรค์
ก็จะไม่ได้รับถ้วยรางวัลเกียรติยศก็เป็นได้ ในทางกลับกันหากผลงานไม่ได้สวยจน
น่าตะลึง แต่ถ้าหากมีความสร้างสรรค์ผู้อำนวยการก็สามารถมอบถ้วยเกียรติยศให้ได้...
GOLDEN HONOR DEGREE TROPHY
ถ้วยเกียรติยศทองคำแท้ มอบให้แด่ผู้ที่สามารถปฎิบัติภารกิจหรือร่วมกิจกรรมต่างๆที่ทาง
โรงเรียนจัดขึ้นได้น่าประทับใจผู้อำนวยการเป็นอย่างมาก
SILVER HONOR DEGREE TROPHY
ถ้วยเกียรติยศเงินแท้ มอบให้แด่ผู้ที่สามารถปฎิบัติภารกิจหรือร่วมกิจกรรมต่างๆที่ทางโรงเรียน
จัดขึ้นได้น่าประทับใจผู้อำนวยการ
BRONZE HONOR DEGREE TROPHY
ถ้วยเกียรติยศทองแดง มอบให้แด่ผู้ที่สามารถปฎิบัติภารกิจหรือร่วมกิจกรรมต่างๆที่ทางโรงเรียน
จัดขึ้นได้น่าดึงดูดใจผู้อำนวยการ
★ Spectacular Award
.....รางวัล Spectacular จะถูกมอบให้สำหรับผู้ที่สร้างสรรค์ผลงานได้ประทับใจ
สปอนเซอร์จากบริษัท NOBLEMAN (EST.1990) เป็นอย่างมาก โดยผลงานนั้น
จะต้องมีเสน่ห์ในรูปแบบต่างๆที่ดึงดูดสายตาและจิตใจของสปอนเซอร์ ซึ่งไม่ได้ขึ้น
อยู่กับคุณภาพผลงานแต่อย่างใด แต่จะขึ้นอยู่กับความคิดสร้างสรรค์, จินตนาการ,
เสน่ห์ของผลงาน, ความกลมกล่อมของภาพรวม เป็นต้น ซึ่งผู้ที่ได้รับรางวัลนี้จะได้
รับการประกาศเกียรติคุณ ณ ความคิดเห็นที่ลงผลงาน และใต้ชื่อกระทู้ภารกิจในหน้า
กระดานภารกิจ พร้อมทั้งของรางวัลดังนี้...
** อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับรางวัลนี้ได้โดย "คลิ๊กที่นี่" **
+1,000,000 CHIPS
[ GREAT ITEM ]
เหรียญตราที่ใช้ในการชำระค่าใช้จ่ายทั้งหมดภายในโรงเรียน, การร่วมกิจกรรมพิเศษที่
ทางบริษัท NOBLEMAN จัดขึ้น และการแลกของรางวัลต่างๆมากมาย โดยสามารถใช้
แต้มสะสมจาก Spirit Point ในการแลกได้
+20 QUAINT ORE
[ RARE ITEM ]
แร่ธาตุพิเศษที่พบได้ในบริเวณรอบโรงเรียน สามารถนำไปแลกเป็นไอเทมต่างๆที่โรงเรียน
กำหนดเอาไว้ได้ แร่ธาตุชนิดนี้หาได้ยากเป็นพิเศษ ถ้าไม่ได้เดินรอบโรงเรียนบ่อยๆก็จะไม่
มีทางที่จะเจอแร่ธาตุชนิดนี้ได้เลย
Signature ------------------------------------------------>
- peemung
Phee
อาจารย์เกษตรกรรม
3537
+675 M 108 K 756
PASSPORT
:
(3060/20000)
:
Re: Lesson 24 : เที่ยวกระหน่ำ รับปิดเทอม
Fri 28 Aug 2015, 22:39
จิ๋ณณณ์ ปักษ์ พี ไปทริปกันสามหน่อนะฮะ~
- ผู้มาเยือนผู้มาเยือน
Re: Lesson 24 : เที่ยวกระหน่ำ รับปิดเทอม
Sat 29 Aug 2015, 11:52
กลุ่มผมมีผมเองเป็นตัวโจก(ห๊ะ) น้องรันเดล น้องกางเขน น้องสุภะและน้องใหม่มาร์แชล ครับผม
- ผู้มาเยือนผู้มาเยือน
Re: Lesson 24 : เที่ยวกระหน่ำ รับปิดเทอม
Sat 29 Aug 2015, 21:41
เที่ยงๆอากาศกำลังร้อนๆจู่ๆก็มีเพลงดังขึ้น -ไปเที่ยวกันไหม จะไปก็รีบไป ไปกับพี่แล้วสบาย เดี๋ยวพี่พาไปกิน- ผมรับสายที่โทรมาจากพี่อิสรา ตอนผมรับสายมีเสียงของคนอื่นๆอยู่ในสายเยอะแยะเหมือนกำลังดีใจอะไรอยู่
-ไปเที่ยวทะเลกันไหมมาร์แชล-
-ไปที่ไหนเหรอครับพี่-
-ไปประจวบ พี่ว่าจะนั่งรถไฟไป มีรันเดล,สุภะ,กางเขน,แล้วก็พี่ ไปด้วยกันไหม-
-ไปครับๆๆๆ ขอบคุณที่ชวนนะครับ-
-ดีๆๆ เพราะพี่ก็อยากพามาร์แชลไปเปิดหูเปิดตาด้วย-
-ครับๆ-
-งั้นพรุ่งนี้เจอกันที่สถานีรถไฟนะ ไป2วัน3คืนแล้วก็อย่าลืมเอาชุดเล่นทะเลไปด้วยนะ-
-ครับพี่-
วางหูแล้วผมก็ดีใจมากเพราะว่าผมไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหนกับเพื่อนๆนานแล้วตั้งแต่ผมมีแผลที่หน้า ผมรีบเก็บของใส่เป้เอาไว้สะพายแล้วก็ไปขออนุญาติกับขอเงินแม่ไปเที่ยวประจวบกับเพื่อนๆ ตอนกินข้าวเย็นผมโม้ให้แม่ฟังว่าผมจะไปเที่ยวกับเพื่อนๆ ผมตื่นเต้นมากๆๆ แม่ก็ดีใจกับผมแล้วบอกให้ผมนอนไวๆ ผมก็รีบอาบน้ำนอนให้เช้าเร็วๆ
-จิ้บๆๆ- นกข้างนอกร้องเข้าหูผมทำให้ผมตื่น ผมรีบตื่นมาแต่งตัวเพราะตื่นเต้นมากๆที่จะได้ไปเที่ยวกับเพื่อนๆอีกครั้ง ผมไปเจอกับพี่อิสรา,รันเดล,สุภะ,กางเขนที่สถานีรถไฟ ผมไม่ได้ตื่นเต้นคนเดียวแต่ทุกๆคนก็ตื่นเต้นเหมือนกัน ผมแอบถ่ายรูปรันเดลตอนที่นั่งอยู่บนรถไฟมาใบนึงด้วย พอมาถึงประจวบเราก็เที่ยว,กิน,เล่นด้วยกัน มันสนุกมากๆๆสำหรับผม พอถึงวันที่จะกลับทุกคนก็ตื่นแต่เช้าและเดินไปที่ทะเลพร้อมกัน สูดกลิ่นทะเลกับลมเต็มปอดให้สดชื่นและเก็บเป็นความทรงจำที่ได้มาเที่ยวด้วยกัน ผมหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายรูปเพื่อนๆพี่ๆที่มาด้วยกันเป็นที่ระลึกก่อนกลับ ผมแอบเซ้วฟี่ตอนที่ทุกคนนอนอาบแดดตอนเช้ามาด้วย
ตอนที่ผมกำลังถ่ายรูปพี่อิสรากับสุภะ ผมเห็นปูตัวนึงเดินผ่านกล้องผมเลยรีบชี้ให้ทุกๆคนดู แล้วก็บอกพี่อิสราว่า -ผมอยากถ่ายรูปคู่กับปู ถ่ายให้ผมหน่อยๆๆนะครับ- พอพี่อิสรากำลังถ่ายให้ เจ้าปูมันก็กลับลงหลุมในทรายไปก่อน ผมเลยอดถ่ายรูปกับปูเลยคิดว่าจะเดินลงไปหยิบเปลือกหอยในทะเลมาถ่ายคู่ แต่ทุกๆคนรีบมาห้ามผมเพราะคิดว่าผมเสียใจที่ไม่ได้ถ่ายรูปกับปูจนอยากจะฆ่าตัวตาย สงสัยว่าผมคงทำหน้าเสียใจเกินไปอิอิ
พอเราเดินบนชายหาดจนสดชื่นแล้วพี่อิสราชวนไปกินข้าวเช้าที่ร้านอร่อย แย่จังทำไมผมจำชื่อร้านไม่ได้นะว่าที่ไหน แต่อร่อยมากๆๆเลย ตอนกลับเรานั่งรถไฟกลับกันเหมือนเดิมก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับบ้าน ผมถึงบ้านก็รีบมากอดแม่กับโม้ให้แม่ฟังว่าผมไปที่ไหนทำอะไรมาบ้าง แล้วก็โชว์รูปที่ถ่ายมาให้แม่ดูแล้วก็ชี้ๆว่าเพื่อนผมชื่ออะไรบ้างจนแม่รู้ว่าผมตื่นเต้นและสนุกมากๆๆและรู้สึกโล่งใจที่พาผมมาเรียนที่นี่ เพราะทำให้ผมเริ่มกลับมาร่าเริงได้อีกครั้ง การไปเที่ยวกับเพื่อนครั้งนี้มันสนุกมากๆแล้วก็เหนื่อยมากๆๆๆ ผมอาบน้ำเสร็จก็เผลอๆกลับไปเลยทั้งๆที่พึ่งจะเกือบ2ทุ่มเอง คืนนั้นผมฝันว่าโรงเรียนเปิดเทอมแล้ว ผมได้กลับไปเจอเพื่อนๆอีกครั้ง ผมดีใจมากๆๆ ตั้งแต่หลังกลับมาจากไปเที่ยวผมตื่นขึ้นมาก็คิดทุกวันว่าเมื่อไรผมจะเปิดเทอมสักที ผมอยากเจอเพื่อนๆแล้ว
B. รางวัลสำหรับนักเรียนที่ทำภารกิจได้อยู่ในระดับยอดเยี่ยม 80% ขึ้นไป
-ไปเที่ยวทะเลกันไหมมาร์แชล-
-ไปที่ไหนเหรอครับพี่-
-ไปประจวบ พี่ว่าจะนั่งรถไฟไป มีรันเดล,สุภะ,กางเขน,แล้วก็พี่ ไปด้วยกันไหม-
-ไปครับๆๆๆ ขอบคุณที่ชวนนะครับ-
-ดีๆๆ เพราะพี่ก็อยากพามาร์แชลไปเปิดหูเปิดตาด้วย-
-ครับๆ-
-งั้นพรุ่งนี้เจอกันที่สถานีรถไฟนะ ไป2วัน3คืนแล้วก็อย่าลืมเอาชุดเล่นทะเลไปด้วยนะ-
-ครับพี่-
วางหูแล้วผมก็ดีใจมากเพราะว่าผมไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหนกับเพื่อนๆนานแล้วตั้งแต่ผมมีแผลที่หน้า ผมรีบเก็บของใส่เป้เอาไว้สะพายแล้วก็ไปขออนุญาติกับขอเงินแม่ไปเที่ยวประจวบกับเพื่อนๆ ตอนกินข้าวเย็นผมโม้ให้แม่ฟังว่าผมจะไปเที่ยวกับเพื่อนๆ ผมตื่นเต้นมากๆๆ แม่ก็ดีใจกับผมแล้วบอกให้ผมนอนไวๆ ผมก็รีบอาบน้ำนอนให้เช้าเร็วๆ
-จิ้บๆๆ- นกข้างนอกร้องเข้าหูผมทำให้ผมตื่น ผมรีบตื่นมาแต่งตัวเพราะตื่นเต้นมากๆที่จะได้ไปเที่ยวกับเพื่อนๆอีกครั้ง ผมไปเจอกับพี่อิสรา,รันเดล,สุภะ,กางเขนที่สถานีรถไฟ ผมไม่ได้ตื่นเต้นคนเดียวแต่ทุกๆคนก็ตื่นเต้นเหมือนกัน ผมแอบถ่ายรูปรันเดลตอนที่นั่งอยู่บนรถไฟมาใบนึงด้วย พอมาถึงประจวบเราก็เที่ยว,กิน,เล่นด้วยกัน มันสนุกมากๆๆสำหรับผม พอถึงวันที่จะกลับทุกคนก็ตื่นแต่เช้าและเดินไปที่ทะเลพร้อมกัน สูดกลิ่นทะเลกับลมเต็มปอดให้สดชื่นและเก็บเป็นความทรงจำที่ได้มาเที่ยวด้วยกัน ผมหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายรูปเพื่อนๆพี่ๆที่มาด้วยกันเป็นที่ระลึกก่อนกลับ ผมแอบเซ้วฟี่ตอนที่ทุกคนนอนอาบแดดตอนเช้ามาด้วย
ตอนที่ผมกำลังถ่ายรูปพี่อิสรากับสุภะ ผมเห็นปูตัวนึงเดินผ่านกล้องผมเลยรีบชี้ให้ทุกๆคนดู แล้วก็บอกพี่อิสราว่า -ผมอยากถ่ายรูปคู่กับปู ถ่ายให้ผมหน่อยๆๆนะครับ- พอพี่อิสรากำลังถ่ายให้ เจ้าปูมันก็กลับลงหลุมในทรายไปก่อน ผมเลยอดถ่ายรูปกับปูเลยคิดว่าจะเดินลงไปหยิบเปลือกหอยในทะเลมาถ่ายคู่ แต่ทุกๆคนรีบมาห้ามผมเพราะคิดว่าผมเสียใจที่ไม่ได้ถ่ายรูปกับปูจนอยากจะฆ่าตัวตาย สงสัยว่าผมคงทำหน้าเสียใจเกินไปอิอิ
พอเราเดินบนชายหาดจนสดชื่นแล้วพี่อิสราชวนไปกินข้าวเช้าที่ร้านอร่อย แย่จังทำไมผมจำชื่อร้านไม่ได้นะว่าที่ไหน แต่อร่อยมากๆๆเลย ตอนกลับเรานั่งรถไฟกลับกันเหมือนเดิมก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับบ้าน ผมถึงบ้านก็รีบมากอดแม่กับโม้ให้แม่ฟังว่าผมไปที่ไหนทำอะไรมาบ้าง แล้วก็โชว์รูปที่ถ่ายมาให้แม่ดูแล้วก็ชี้ๆว่าเพื่อนผมชื่ออะไรบ้างจนแม่รู้ว่าผมตื่นเต้นและสนุกมากๆๆและรู้สึกโล่งใจที่พาผมมาเรียนที่นี่ เพราะทำให้ผมเริ่มกลับมาร่าเริงได้อีกครั้ง การไปเที่ยวกับเพื่อนครั้งนี้มันสนุกมากๆแล้วก็เหนื่อยมากๆๆๆ ผมอาบน้ำเสร็จก็เผลอๆกลับไปเลยทั้งๆที่พึ่งจะเกือบ2ทุ่มเอง คืนนั้นผมฝันว่าโรงเรียนเปิดเทอมแล้ว ผมได้กลับไปเจอเพื่อนๆอีกครั้ง ผมดีใจมากๆๆ ตั้งแต่หลังกลับมาจากไปเที่ยวผมตื่นขึ้นมาก็คิดทุกวันว่าเมื่อไรผมจะเปิดเทอมสักที ผมอยากเจอเพื่อนๆแล้ว
B. รางวัลสำหรับนักเรียนที่ทำภารกิจได้อยู่ในระดับยอดเยี่ยม 80% ขึ้นไป
- A - CLASS STAMP
[ STUDENT CLASS ONLY ]
ตราประทับระดับสูงในหมวดภารกิจทั่วไปสำหรับนักเรียนเท่านั้น มีลักษณะเป็นดาวสีทับทิม
สื่อถึงความหรูหรา มีมูลค่า +80 Grade Exp. จะได้รับเมื่อปฎิบัติภารกิจได้ยอดเยี่ยมเป็น
ที่น่าประทับใจแก่ผู้อำนวยการโรงเรียน- Spirit Point +1.250,000
ไอเทมเพิ่มแต้มสะสม Spirit Point ตามปริมาณที่กำหนด ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการ
แลกเปลี่ยนเป็น CHIPS ได้ในภายหลัง
- Narin's Comment:
- ผมนับถือและภูมิใจในความตั้งใจและความพยายามที่จะฝึกฝน
ของคุณมากเลยครับ ในบ้านหลังนี้มีคนที่วาดรูปไม่เป็นแวะเวียน
เข้ามาบ้าง แต่คุณเป็นคนแรกที่เริ่มตั้งแต่ 0 จริงๆและมีความตั้งใจ
ที่จะพยายามที่จะพัฒนา ผมภูมิใจที่จะมีคนแบบคุณในบ้านมาก
และลุ้นที่จะได้เห็นความพัฒนาของคุณต่อไป อยากอยู่ด้วยกัน
นานๆเพื่อที่จะเห็นวันที่คุณได้เติบโตขึ้น ผมต้องพูดจากใจเลยครับ
ว่านี่เป็นสิ่งที่ผมปรารถนา เพราะจากรูปที่ส่งมาตั้งแต่รูปแรกจนรูป
สุดท้ายก็เห็นแล้วว่าคุณเริ่มพัฒนาขึ้นอย่างไรบ้าง เริ่มหาวิธี
หาสไตล์การวาดและลงสีของตัวเอง ขอบคุณในความพยายาม
อย่างมากจริงๆครับ ต่อจากนี้ก็มาค่อยๆพัฒนาต่อไป ไม่ต้องรีบ
ร้อนหรือคิดว่าต้องตามคนอื่นให้ทันนะครับ ผมเคารพและชื่นชอบ
คุณอย่างที่คุณเป็น ขอขอบคุณสำหรับภารกิจวาดครั้งแรกครับผม
- ผู้มาเยือนผู้มาเยือน
Re: Lesson 24 : เที่ยวกระหน่ำ รับปิดเทอม
Sun 30 Aug 2015, 16:43
"อิ่มแล้วก็ง่วง"
"นั่นสิ"
รันเดลและสุภะสองรูมเมทที่กำลังนั่งเอนหลังพิงเก้าอี้ชายหาดมองทะเลสีครามเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่
เกียจคร้าน อาจจะเพราะหลังจากข้าวเที่ยงแล้ว สองเด็กชายคงกำลังเข้าสุภาษิตที่ว่า หนังท้องตึงหนัง
ตาก็เริ่มหย่อน
แต่ขณะที่กำลังง่วงหงาวหาวนอนใต้ร่มต้นสนที่เรียงไปตามความยาวชายหาด เสียงๆ หนึ่งก็ดังขึ้น
"มาทะเลแต่ไม่เล่นทะเล เสียดายแย่นะครับ"
อิสราที่สวมกางเกงขาสั้นพร้อมเสื้อกล้าม เดินถือไม้เท้ามาหยุดที่รุ่นน้องทั้งสองคน รันเดลเด้งตัวขึ้น
มาจากเก้าอี้ชายหาดพลางเหลือบมองบุคคลที่มาเยือน เด็กชายส่งเสียงร้องอู้หูว ส่งผลให้อีกคนที่นอน
ตาปรืออยู่ข้างๆ ลุกขึ้นมาดูด้วย สุภะมองรุ่นพี่ประธานนักเรียนก่อนจะเอ่ย
"เตรียมลงน้ำเต็มที่เลยนะครับ"
"ก็แหง... พี่ไม่เคยมาทะเล ลมเย็นจัง"
อิสรากล่าวอย่างอารมณ์ดีพลางเบนหน้าไปรับลมแล้วหลับตาพริ้ม สองหนุ่มหัวเราะครืน
สวนสนประดิพัทธ์เป็นหาดที่สงบร่มรื่น และอยู่ไม่ห่างจากหัวหินมาก อาจจะเพราะอยู่ในความดูแลของ
กองทัพบก ทำให้หาดสะอาด มีระเบียบและน้ำใสแจ๋ว ตั้งแต่ที่ทุกคนเสิร์จหาข้อมูลผ่านอินเตอร์เน็ต
และได้เห็นภาพก็ร้องอูหูวกันแล้ว มีเพียงอิสราเท่านั้นที่ไม่สามารถชมความสวยงามผ่านภาพถ่ายได้
เว้นเสีนแต่จะได้สัมผัสด้วยผิวกาย และวันนี้เขาก็ได้สูดลิ่นอายของทะเลเต็มที่ เพื่อนร่วมทริปคนอื่น
ก็เช่นกัน การได้มาเที่ยวกับเพื่อนนั้น ช่างสนุกเสียนี่
"โธ่พี่ฮะ แต่ยังไงแดดแรงขนาดนี้ตัวไหม้พอดี" รันเดลเอ่ยก่อนจะก้มลงมองแขนที่เริ่มแดงน้อยๆ ดู
เหมือนว่าครีมกันแดด SPF 50 ก็แทบจะเอาไว้ไม่อยู่
"เมืองไทยไม่ร้อนไม่ใช่เมืองไทย" อิสราตอบกลับด้วยรอยยิ้ม ผิวของอิสราเองก็ไม่ค่อยได้ต้องแสง
แดดมากเพราะเดินทางไม่สะดวก แต่การมาเที่ยวกับน้องๆ ทุกคนต่างดูแลกันเป็นอย่างดี จึงไม่มีอะไร
ให้ต้องกังวล
ทั้งหมดเงียบไปชั่วครู่ อิสราถอนหายใจสั้นๆ ก่อนจะกล่าวอีกครั้ง
"เอาเถอะ รอแดดร่มกว่านี้ละกัน"
จากนั้นเด็กหนุ่มก็สอบถามสองคนที่นอนอยู่ว่ามีเก้าอี้ชายหาดเหลือให้ตนได้นอนเล่นบ้างไหม รันเดล
ใจดีลุกให้อิสรานั่งเก้าอี้ที่ตนนั่งอยู่ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเดินไปไกล ส่วนตัวเองก็ลุกไปขนเอาเก้าอี้ผ้าใบ
มานั่งขนาบข้าง เสียงถอนหายใจอย่างคนกำลังนอนสบายดังขึ้นพร้อมๆ กัน
"อยากเล่น~ น้ำทะเล~~~~"
ผ่านไปราวสิบนาที เสียงใสๆ ของกางเขนก็ลอยผ่านสามหนุ่มที่นอนเรียงอยู่ อิสราซึ่งไวต่อเสียงกว่าใคร
รีบยกตัวขึ้นจากเก้าอี้ และอีกสองคนก็ลุกขึ้นตาม
"เขน เสียงเขนใช่มั้ยตะกี้?" อิสราเอ่ยถามสองหนุ่ม
"ผมว่าใช่นะครับ" สุภะตอบกลับ
แล้วสักพักก็มีเสียงวู้ๆ ดังขึ้นที่ตรงหน้าไม่ไกล พร้อมกับเสียงน้ำสาดกระเซ็น จากนั้นก็มีเสียงคนวิ่งตาม
และคงไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากมาร์แชล
"ก-กางเขน มันแดดแรงอยู่นะ!!"
"จะเล่นน้ำ!!! เย้ๆๆๆ"
"โธ่.."
มาร์แชลห่อไหล่ เขาเองก็เป็นห่วงเพื่อนร่วมทริปเกรงจะโดนแดดเผาผิว จนผิวของกางเขนเสีย แต่ดูเหมือน
สาวเจ้าจะไม่ได้สนใจ เพราะตั้งแต่เริ่มทริปก็กระตือรือล้นจะเล่นน้ำทะเลมาก ในเมื่อทะเลอยู่ตรงหน้าแล้ว
กางเขนจะรออยู่ใย อุตส่าห์อดทนไม่เล่นตอนเช้าแล้วนะ อย่าให้โมโห
"ทะเลเย็นมากเลย!! มาเร็วๆ ทุกคน!"
กางเขนเอ่ยชวนทุกคนลงน้ำทะเล เด็กสาวที่คุ้มดีคุ้มร้ายตอนนี้กำลังคุ้มดีอย่างสุดขีดและเริงร่า อิสรา
ยิ้มเล็กน้อยฟังเสียงรุ่นน้องที่กำลังส่งเสียงโวยวาย พลางลุกขึ้นแล้วเดินย้ำไปที่ชายหาด
"พี่ไอน์ไปไหนครับ" มาร์แชลถาม
"ไปเล่นกะเขนไง เขนชวน"
"แต่แดด..."
"บ่ายสามแล้ว ถ้ารอเย็นกว่านี้ไม่สนุกแล้วนะ"
"เอ่อ..."
สุภะ มาร์แชลและรันเดลมองหน้ากันเลิกลั่ก ก่อนจะตัดสินใจพยักหน้าตกลงกัน
"ก็ได้ครับ"
"ดีครับ มาเถอะ!"
อิสราที่มองไม่เห็นเล่นได้ถึงแค่เพียงเข่า หากจะลงลึกกว่านี้คงต้องมีคนช่วย แน่นอนว่าน้องๆ ย่อม
เต็มใจ 'ช่วย' เสมอ ส่วนสุภะแม้จะเป็นโรคแขนขาอ่อนแรง แต่การที่มีน้ำช่วยพยุงและห่วงยางก็
ไม่ได้ทำให้ลำบากมากแต่อย่างใด เขากลับหัวเราะออกมากับการที่ได้กลั่งแกล้ง 'คนแก่' ประจำทริป
เสียงหัวเราะดังขึ้นตั้งแต่แดดแรงจนแดดอ่อน จนเด็กๆ ทั้ง 5 คนเริ่มหมดแรง รันเดลสโลเสลนอนแผ่
ลงบนชายหาด การได้มาเที่ยวกับเพื่อนๆ มันสนุกแบบนี้สินะ เด็กนุ่มนอนลงบนผืนทรายนุ่มๆ พลางอม
ยิ้มถึงความสนุกจากเพื่อนๆ ที่ได้รับ ซักพักอิสราก็มานั่งลงข้างๆ
"สนุกดี"
"...ใช่ครับ"
สำหรับคนตาบอดแล้ว ทะเลคือสถานที่ท่องเที่ยวที่เขาสามารถสัมผัสได้มากที่สุด ทั้งน้ำเย็นๆ ลมแรงๆ
และทรายที่นุ่มเท้า แล้วมาร์แชล สุภะและกางเขนก็ทยอยๆ ขึ้นมาจากน้ำทะเล ดูเหมือนจะสมใจ
กางเขนมาก เพราะเด็กสาวยิ้มไม่หุบ
"เขนชอบมั้ยครับ?" อิสราถามอย่างสุภาพ
"ค่ะ!"
"คนอื่นล่ะ" อิสราถามเสียงดังขึ้นอีกหน่อย
ไม่ว่าจะสุภะ มาร์แชลหรือรันเดล ทุกคนต่างมีรอยยิ้มกันถ้วนหน้าและส่งเสียงตอบอิสราอย่างร่าเริง
ดูเหมือนว่าทริปทะเลครั้งนี้ก็ไม่เลวเท่าไหร่
D. รางวัลสำหรับนักเรียนที่ทำภารกิจได้อยู่ในระดับปานกลาง 50% ขึ้นไป
"นั่นสิ"
รันเดลและสุภะสองรูมเมทที่กำลังนั่งเอนหลังพิงเก้าอี้ชายหาดมองทะเลสีครามเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่
เกียจคร้าน อาจจะเพราะหลังจากข้าวเที่ยงแล้ว สองเด็กชายคงกำลังเข้าสุภาษิตที่ว่า หนังท้องตึงหนัง
ตาก็เริ่มหย่อน
แต่ขณะที่กำลังง่วงหงาวหาวนอนใต้ร่มต้นสนที่เรียงไปตามความยาวชายหาด เสียงๆ หนึ่งก็ดังขึ้น
"มาทะเลแต่ไม่เล่นทะเล เสียดายแย่นะครับ"
อิสราที่สวมกางเกงขาสั้นพร้อมเสื้อกล้าม เดินถือไม้เท้ามาหยุดที่รุ่นน้องทั้งสองคน รันเดลเด้งตัวขึ้น
มาจากเก้าอี้ชายหาดพลางเหลือบมองบุคคลที่มาเยือน เด็กชายส่งเสียงร้องอู้หูว ส่งผลให้อีกคนที่นอน
ตาปรืออยู่ข้างๆ ลุกขึ้นมาดูด้วย สุภะมองรุ่นพี่ประธานนักเรียนก่อนจะเอ่ย
"เตรียมลงน้ำเต็มที่เลยนะครับ"
"ก็แหง... พี่ไม่เคยมาทะเล ลมเย็นจัง"
อิสรากล่าวอย่างอารมณ์ดีพลางเบนหน้าไปรับลมแล้วหลับตาพริ้ม สองหนุ่มหัวเราะครืน
สวนสนประดิพัทธ์เป็นหาดที่สงบร่มรื่น และอยู่ไม่ห่างจากหัวหินมาก อาจจะเพราะอยู่ในความดูแลของ
กองทัพบก ทำให้หาดสะอาด มีระเบียบและน้ำใสแจ๋ว ตั้งแต่ที่ทุกคนเสิร์จหาข้อมูลผ่านอินเตอร์เน็ต
และได้เห็นภาพก็ร้องอูหูวกันแล้ว มีเพียงอิสราเท่านั้นที่ไม่สามารถชมความสวยงามผ่านภาพถ่ายได้
เว้นเสีนแต่จะได้สัมผัสด้วยผิวกาย และวันนี้เขาก็ได้สูดลิ่นอายของทะเลเต็มที่ เพื่อนร่วมทริปคนอื่น
ก็เช่นกัน การได้มาเที่ยวกับเพื่อนนั้น ช่างสนุกเสียนี่
"โธ่พี่ฮะ แต่ยังไงแดดแรงขนาดนี้ตัวไหม้พอดี" รันเดลเอ่ยก่อนจะก้มลงมองแขนที่เริ่มแดงน้อยๆ ดู
เหมือนว่าครีมกันแดด SPF 50 ก็แทบจะเอาไว้ไม่อยู่
"เมืองไทยไม่ร้อนไม่ใช่เมืองไทย" อิสราตอบกลับด้วยรอยยิ้ม ผิวของอิสราเองก็ไม่ค่อยได้ต้องแสง
แดดมากเพราะเดินทางไม่สะดวก แต่การมาเที่ยวกับน้องๆ ทุกคนต่างดูแลกันเป็นอย่างดี จึงไม่มีอะไร
ให้ต้องกังวล
ทั้งหมดเงียบไปชั่วครู่ อิสราถอนหายใจสั้นๆ ก่อนจะกล่าวอีกครั้ง
"เอาเถอะ รอแดดร่มกว่านี้ละกัน"
จากนั้นเด็กหนุ่มก็สอบถามสองคนที่นอนอยู่ว่ามีเก้าอี้ชายหาดเหลือให้ตนได้นอนเล่นบ้างไหม รันเดล
ใจดีลุกให้อิสรานั่งเก้าอี้ที่ตนนั่งอยู่ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเดินไปไกล ส่วนตัวเองก็ลุกไปขนเอาเก้าอี้ผ้าใบ
มานั่งขนาบข้าง เสียงถอนหายใจอย่างคนกำลังนอนสบายดังขึ้นพร้อมๆ กัน
"อยากเล่น~ น้ำทะเล~~~~"
ผ่านไปราวสิบนาที เสียงใสๆ ของกางเขนก็ลอยผ่านสามหนุ่มที่นอนเรียงอยู่ อิสราซึ่งไวต่อเสียงกว่าใคร
รีบยกตัวขึ้นจากเก้าอี้ และอีกสองคนก็ลุกขึ้นตาม
"เขน เสียงเขนใช่มั้ยตะกี้?" อิสราเอ่ยถามสองหนุ่ม
"ผมว่าใช่นะครับ" สุภะตอบกลับ
แล้วสักพักก็มีเสียงวู้ๆ ดังขึ้นที่ตรงหน้าไม่ไกล พร้อมกับเสียงน้ำสาดกระเซ็น จากนั้นก็มีเสียงคนวิ่งตาม
และคงไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากมาร์แชล
"ก-กางเขน มันแดดแรงอยู่นะ!!"
"จะเล่นน้ำ!!! เย้ๆๆๆ"
"โธ่.."
มาร์แชลห่อไหล่ เขาเองก็เป็นห่วงเพื่อนร่วมทริปเกรงจะโดนแดดเผาผิว จนผิวของกางเขนเสีย แต่ดูเหมือน
สาวเจ้าจะไม่ได้สนใจ เพราะตั้งแต่เริ่มทริปก็กระตือรือล้นจะเล่นน้ำทะเลมาก ในเมื่อทะเลอยู่ตรงหน้าแล้ว
กางเขนจะรออยู่ใย อุตส่าห์อดทนไม่เล่นตอนเช้าแล้วนะ อย่าให้โมโห
"ทะเลเย็นมากเลย!! มาเร็วๆ ทุกคน!"
กางเขนเอ่ยชวนทุกคนลงน้ำทะเล เด็กสาวที่คุ้มดีคุ้มร้ายตอนนี้กำลังคุ้มดีอย่างสุดขีดและเริงร่า อิสรา
ยิ้มเล็กน้อยฟังเสียงรุ่นน้องที่กำลังส่งเสียงโวยวาย พลางลุกขึ้นแล้วเดินย้ำไปที่ชายหาด
"พี่ไอน์ไปไหนครับ" มาร์แชลถาม
"ไปเล่นกะเขนไง เขนชวน"
"แต่แดด..."
"บ่ายสามแล้ว ถ้ารอเย็นกว่านี้ไม่สนุกแล้วนะ"
"เอ่อ..."
สุภะ มาร์แชลและรันเดลมองหน้ากันเลิกลั่ก ก่อนจะตัดสินใจพยักหน้าตกลงกัน
"ก็ได้ครับ"
"ดีครับ มาเถอะ!"
อิสราที่มองไม่เห็นเล่นได้ถึงแค่เพียงเข่า หากจะลงลึกกว่านี้คงต้องมีคนช่วย แน่นอนว่าน้องๆ ย่อม
เต็มใจ 'ช่วย' เสมอ ส่วนสุภะแม้จะเป็นโรคแขนขาอ่อนแรง แต่การที่มีน้ำช่วยพยุงและห่วงยางก็
ไม่ได้ทำให้ลำบากมากแต่อย่างใด เขากลับหัวเราะออกมากับการที่ได้กลั่งแกล้ง 'คนแก่' ประจำทริป
เสียงหัวเราะดังขึ้นตั้งแต่แดดแรงจนแดดอ่อน จนเด็กๆ ทั้ง 5 คนเริ่มหมดแรง รันเดลสโลเสลนอนแผ่
ลงบนชายหาด การได้มาเที่ยวกับเพื่อนๆ มันสนุกแบบนี้สินะ เด็กนุ่มนอนลงบนผืนทรายนุ่มๆ พลางอม
ยิ้มถึงความสนุกจากเพื่อนๆ ที่ได้รับ ซักพักอิสราก็มานั่งลงข้างๆ
"สนุกดี"
"...ใช่ครับ"
สำหรับคนตาบอดแล้ว ทะเลคือสถานที่ท่องเที่ยวที่เขาสามารถสัมผัสได้มากที่สุด ทั้งน้ำเย็นๆ ลมแรงๆ
และทรายที่นุ่มเท้า แล้วมาร์แชล สุภะและกางเขนก็ทยอยๆ ขึ้นมาจากน้ำทะเล ดูเหมือนจะสมใจ
กางเขนมาก เพราะเด็กสาวยิ้มไม่หุบ
"เขนชอบมั้ยครับ?" อิสราถามอย่างสุภาพ
"ค่ะ!"
"คนอื่นล่ะ" อิสราถามเสียงดังขึ้นอีกหน่อย
ไม่ว่าจะสุภะ มาร์แชลหรือรันเดล ทุกคนต่างมีรอยยิ้มกันถ้วนหน้าและส่งเสียงตอบอิสราอย่างร่าเริง
ดูเหมือนว่าทริปทะเลครั้งนี้ก็ไม่เลวเท่าไหร่
D. รางวัลสำหรับนักเรียนที่ทำภารกิจได้อยู่ในระดับปานกลาง 50% ขึ้นไป
- C - CLASS STAMP
[ STUDENT CLASS ONLY ]
ตราประทับระดับปานกลางในหมวดภารกิจทั่วไปสำหรับนักเรียนเท่านั้น มีลักษณะเป็นดาวสี
มรกตสื่อถึงความมั่นคง มีมูลค่า +50 Grade Exp. จะได้รับเมื่อปฎิบัติภารกิจได้เป็นที่น่า
พอใจแก่ผู้อำนวยการโรงเรียน- Spirit Point +900,000
ไอเทมเพิ่มแต้มสะสม Spirit Point ตามปริมาณที่กำหนด ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการ
แลกเปลี่ยนเป็น CHIPS ได้ในภายหลัง
- Narin's Comment:
- ในที่สุดวันที่ประธานนักเรียนแสนขยันเผางานก็มาถึงจนได้(หัวเราะ)
คุณขยันและแอคทีพมากมาทุกๆงานแล้วครับ พักบ้างก็ได้ผมไม่ว่า
ถึงแม้จะไม่มีแรงใจทำแต่ก็ไม่อยากเช็คชื่อและพยายามทำจนได้
ผมคิดว่านี่ก็ดีแล้วนะครับ เพราะผมมักพูดกับเด็กๆเสมอว่าลองทำ
ดูสักตั้งดีกว่ายอมแพ้ตั้งแต่เริ่ม ขอบคุณสำหรับภารกิจในครั้งนี้ครับ!!
- ผู้มาเยือนผู้มาเยือน
Re: Lesson 24 : เที่ยวกระหน่ำ รับปิดเทอม
Sun 30 Aug 2015, 20:20
เฮฮากะเที่ยววันหยุด – ทะเลประจวบแกล้งรุ่นพี่หนักมาก อุอิ #บ้านพักริมทะเล คุณไชเท้า และชุดนอนของทุกคน(?)
เสียงเพลงสนุกๆคอลไปกับบรรยากาศเบาๆเวลา1ทุ่มตรง ร่างเล็ก เอ่อ เตี้ยก็ได้(...) กำลังเตะน้ำทะเลให้กระจายอย่างสนุกสนานกับมาร์ชที่กำลังเตะคืนเช่นกัน อาศัยเสียงไฟจากบ้านพักริมทางแล้วลงเล่นน้ำ สำหรับฉันน่ะโครตเต็มใจ ส่วนคนโดนบังคับน่ะมันมาร์ช อาราย...เขนแค่ผลักแรงไปนิส!
“ขึ้นกันมาเถอะครับทั้งสองคน เดี๋ยวจะเป็นหวัดซะก่อน”เสียงสุภะเรียกเบาๆจากบนบ้านพัก ก่อนจะตามมาด้วยร่างของพี่รันเดลที่กำลังยกอาหารทะเลสดๆมาทางนี้ เราเลยขึ้นจากน้ำแล้วไปช่วยพี่เขายกอาหารกัน
“ทั้งสองคนยังไม่เลิกเล่นอีกหรือเนี่ย”พี่ไอน์เดินออกมาจากบ้านพักสงสัยจะได้ยินเสียงหัวเราะของพวกเราที่ชายหาดแน่เลย
“กำลังจะเลิกฮะ มาร์ชอาบก่อนเลย ขอเขนเก็บเศษซากของเล่นก่อน”ดันหลังมาร์ชให้เข้าไปอาบน้ำเบาๆก่อนตัวเองจะถลามาเก็บกวาดของเล่นทรายที่ถูกวางทิ้งไว้ริมหาดให้เรียบร้อย
“เขนมาช่วยหน่อยครับ”เสียงพี่รัน(ขออนุญาติย่อนะฮะ)เรียก ฉันกึ่งวิ่งกึ่งเดินด้วยชุดเปียกๆไปหา ”ช่วยพี่ยกที”แล้วไม่นานเตาสำหรับย่างอาหารก็พร้อม สุภะกับพี่รันไปช่วยกันจุดไฟส่วนเขนไปช่วยพี่ไอน์ล้างอาหารทะเล
ไม่นานอาหารก็พร้อมย่างแล้ว พอดีกับที่มาร์ชอาบน้ำเสร็จพอดี เสื้อยืดสีดำตัดกับกางเกงสบายจนบางทีก็รู้สึกอิจฉา...รู้สึกอยากเกิดเป็นผู้ชายขึ้นมากะทันหัน(...)
“เขนเป็นไรเปล่า?”มาร์ชขมวดคิ้วมองฉันที่กำลังจ้องเขางงๆ ฉันส่ายหน้าว่าไม่มีอะไรแล้วไปอาบน้ำบ้าง...สิ่งแรกที่รู้สึกตอนอาบน้ำคือ เข่าเป็นแผล...อื้อหือนึกว่าจะรอดจากความซุ่มซ่าม...
ฉันใช้เวลาอาบน้ำไปเกือบยี่สิบนาที มองเสื้อกล้ามสีดำอย่างเสียดายแล้วเปลี่ยนไปหยิบเสื้อยืดลายแมวมาสวมแทน เอากิ๊ฟสีดำหนีบผมไว้ลวกๆแล้วถลาออกไปข้างนอก
“มาแล้วววว”บางทีก็รู้สึกรำคาญตัวเองนะ... พี่รันเงยหน้าขึ้นมามองยิ้มๆก่อนจะกวักมือให้ฉันไปร่วมวงทานอาหารด้วยกัน
“ทำไมเขนหนีบผมล่ะ ไม่ปล่อยให้แห้งหรอ”เป็นประโยคที่ยาวที่สุดเท่าที่คุยกับสุภะมา ติดแท็กดีใจหนักมาก...
“ตอนกินข้าวมันเกะกะอะ”ฉันตอบยิ้มๆก่อนจะหยิบจานของตัวเองแล้วเริ่มตักเนื้อปูเป็นอันดับแรก แล้วบทสนทนาก็เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง เปิดด้วยประโยคคำตอบก่อกวนอย่าง
“อันนี้เรียกว่าอะไรฮะ”ชูช้อนขึ้นมาถามยิ้มๆ
“ก็ต้องช้อนสิครับ”พี่รันตอบ
“ไม่ช่ายยย”ฉันส่ายหน้า
“ที่ตัก?”สุภะตอบบ้าง
“ไม่ถูก”ยิ้มมมมม
“อะไรอะ”มาร์ชถาม พี่รันส่งสายตามาถามด้วยแหละ(...)
“เราก็จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆเหมือนกัน”ทำไมต้องทำท่าทางอยากต่อยเก๊าด้วยอะ--- (ยังไม่รู้ตัวใช่ม้าย)
“...จ้า เอาที่สบายใจ”มาร์ชทำหน้าเอือมใส่ พี่ไอน์กับพี่รันเดลแอบหัวเราะเบาๆกับท่าทางกวนๆ แล้ววงสนทนาเรื่องสัพเพเหระอย่างเช่น วันนี้สนุกไหม น้ำทะเลเย็นไหมพอเล่นดึกๆแบบนี้
“เออ เขนมีอะไรจะบอกแหละ”แหนะ สายตาเหมือนจะกินหัวมาอีกละ #เริ่มหมันไส้ตัวเองผิดไหมเนี่ย
“อะไรหรอครับ”คราวนี้พี่ไอน์ถามบ้างน้ำเสียงกลั้นหัวเราะดูน่ารักดีแหะ(เดี๋ยว...อย่าเพิ่งม่อสิ555)
“เขนเป็นลูกแม่”เหยย ปูบินได้...ไว้อาลัยให้ตัวเองสามวิ ฉันหัวเราะให้กับความกวนอวัยวะเบื้องล่างของตัวเอง ในขณะที่คนอื่นหัวเราะด้วยความปลง
“เขนเป็นคนมีอารมณ์ขันกว่าที่คิดนะครับ”พี่รันพูดยิ้มๆ
“เขนไม่ใช่ไก่ซะหน่อย...จะขันได้ไงกันเล่า”แอบพองแก้มเบาๆใส่ ที่จริงคือเนียนกลั้นหัวเราะ พี่รันส่ายหน้าปลงยิ้มๆให้กับฉันก่อนจะบอกให้กินต่อ ฉันเอื้อมมือไปเปิดเพลงเบาๆให้มันคลอไปกับบรรยากาศสบายๆริมทะเลแบบนี้
กว่ามื้อเย็นที่แอบวุ่นวายจะจบลงก็เกือบๆจะสามทุ่มครึ่งแล้ว ปัญหาระดับชาติอย่างเก็บกวาดสำเร็จไปแล้ว และภารกิจสุดท้ายก็คือ...ห้องนอน ด้วยความที่เป็นผู้หญิงคนเดียวฉันเลยเสียสละ เอ่อ ก็ได้ๆแค่ไม่ชอบนอนเตียง เอาเป็นว่าฉันนอนตรงห้องนั่งเล่น ส่วนพวกผู้ชายนอนในห้องนอน
“เขนนอนได้แน่นะ”เอ่ยถามย้ำอีก ฉันพยักหน้าแรงๆดันพวกผู้ชายเข้าห้องนอนไป อุวะฮ่าฮ่าเท่านี้ห้องนั่งเล่นก็เป็นของข้าQAQ แต่แอบกลัวอะ...แง้
“คุณไชท้าว...เรามาหาเรื่องแกล้งพวกเขากันดีกว่า คึคึ”หัวเราะเบาๆกับตุ๊กตาในอ้อมกอด ก่อนจะลุกขึ้นไปคุ้ยกระเป๋าที่มีลิปสติกสีชมพูอ่อนกับสีแดงส้ม เฮ้ เขนไม่ได้ใช้ซะหน่อยนะ มันติดมา รอเวลาจนแน่ใจว่าทุกคนเข้านอนแล้ว เริ่มแผนได้>W<
แอ๊ด... ประตูบ้าทำไมตอนต้องมาลั่นตอนนี้ รู้สึกถึงคำว่า...นี่สินะประตู เอาล่ะๆเลิกปลงกับตัวเองแล้วมาสนใจทางนี้ต่อ ฉันเดินเข้าไปในห้องแล้วปิดประตูให้เงียบที่สุด ทุกคนหลับหมดแล้ว อุอิ
“คึคึ พี่รันก่อนละกัน...”งึมงำกับคุณไชท้าว เอาฝาลิปเก็บใส่กระเป๋ากางเกง ก่อนจะย่องเบาๆไปหาพี่รันผู้ซึ่งนอนริมสุด ค่อยๆบรรจงเดิมหนวดเติมเคราให้พี่รัน อุ๊ย ต้องแก้มแดงๆแหละ เติมปากด้วยย
“คึคึ อุ๊บ...”เอาคุณไชท้าวงับไว้ก่อนเดี๋ยวจะเสียแผนหมด ฉันปีน ก็มันอ้อมไม่ได้ ข้ามพี่รันอย่างระมัดระวังไปหาสุภะที่นอนหลับสนิทอยู่ข้างๆกัน สงสารอะ...ไม่แกล้งได้ป่ะ เอาเหอะเดี๋ยวมันไม่ครบคน...ขอโทษนะคะQAQ ฉันค่อยๆใช้ลิปแต้มสีเป็นวงกลมเป็นปากสุภะเบาๆ ก่อนจะเดิมหนวดแมวเหมียวให้อีกหนวด
“คึคึ...เปลี่ยนสีบ้างดีกว่า”ว่าแล้วก็ค่อยๆย่องออกไปด้านนอกเพื่อหยิบลิปสติกสีแดง ความจริงมันเป็นอุทัยทิพ...เอาเหอะใช้ได้
ต้องแก้มแดงๆ...คึคึ ว่าแล้วก็กลับเข้าไปในห้องอีกครั้ง เอ๋...ทำไมรอบนี้ทุกคนเปลี่ยนท่านอนล่ะ ช่างเหอะคงปกติอะเนอะ ว่าแล้วก็อ้อมไปทางพี่ไอน์ แก้มแดงๆปากนิด จมูกหน่อย อะแถมหนวด ระหว่างที่ฉันกำลังหัวเราะกับผลงานอันแสนสร้างสรรค์(?)ของตนเองอยู่นั้น...เคยเห็นนกถูกตะคลุบไหม?
“ว้ากกกก!!”ปล่อยของลงพื้นด้วยอารามตกใจ รู้ตัวอีกทีก็ถูกทุกคนจบล็อคไว้แล้ว อิชั้นผิดไปแล้วววว #ไว้อาลัยตัวเองสามวิ
“นึกไว้แล้วว่าเขนต้องเล่นอะไรแผลงๆ”พี่รันพูด...อย่ายิ้มแค่ปากสิ ทำไมตาพี่ไม่ยิ้มอะ;;w;; แง้ นั่นลิปหนูน้า อุแหม่หยิบไปไวเชียวนะคะ
“...”ทำตาน่าสงสาร อย่าทำเค้าเลยนะคะTwT
“...”แง้...มาเป็นรอยสักเชียวว ใช้อุทัยทิพด้วยมาร์ช...ถ้าใช้เยอะมันจะเหมือนว่าเขนหัวแตกเอานะ เหยย พี่รันเขนเขียนแค่หน้าเองหน้าพี่นับแขนเขนด้วยเรอะ
“พี่รันนน เค้าเขียนแค่หน้าพี่เองนะ!”ขอโวยวายหน่อย
“อันนี้ส่วนของพี่ไอน์ครับ”ยิ้มหวาน;;w;; เกลียดร้อยยิ้มตอนนี้ของทุกคนจัง“...”สุภะก็เขียนด้วยอะ กว่าจะโดนทำโทษหรือเอาคืนเสร็จก็ห้าทุ่มแล้ว...สภาพนี่เละมาก ไม่ใช่พวกพี่ๆนะเพราะเขาล้างหน้ากันแล้วเหลือเขนที่โดนกักตัวอยู่เนี่ย!!...TwT โอ้โหอุทัยทิพแทบจะหมด...แน่สิหน้ากับแขนนี่เหมือนโดนดักตีอะ โหยยังไม่นับรอยเขียนที่อื่นอีกนะ มีแป้งด้วยสุภะกะมาร์ชช่วยกันละเลง...
“บางทีเขนก็นึกนะ...ว่าตัวโดนดักตีมารึเปล่า”หันไปทำตาจะร้องไห้ใส่
“ก็เขนทำตัวน่าลักเองนี่นา...น่าลักไปทิ้งลงทะเลอะนะ”แง้;;w;; อย่าเอาเขนไปลอยเลยยย เขนยังไม่ตายนะ
“บางทีท่าเขนไม่ซน...เขนคงไม่เลอะแบบนี้”ว่าแล้วก็เชิดหายเข้าไปนอนกันหมดเลย เหลือเขนกะสภาพเหมือนโดนตีหัวไว้นอกห้อง;w;...
แต่ว่านะ... เป็นคืนที่เขนมีความสุขที่ซู้ดดดดด
B. รางวัลสำหรับนักเรียนที่ทำภารกิจได้อยู่ในระดับยอดเยี่ยม 80% ขึ้นไป
เสียงเพลงสนุกๆคอลไปกับบรรยากาศเบาๆเวลา1ทุ่มตรง ร่างเล็ก เอ่อ เตี้ยก็ได้(...) กำลังเตะน้ำทะเลให้กระจายอย่างสนุกสนานกับมาร์ชที่กำลังเตะคืนเช่นกัน อาศัยเสียงไฟจากบ้านพักริมทางแล้วลงเล่นน้ำ สำหรับฉันน่ะโครตเต็มใจ ส่วนคนโดนบังคับน่ะมันมาร์ช อาราย...เขนแค่ผลักแรงไปนิส!
“ขึ้นกันมาเถอะครับทั้งสองคน เดี๋ยวจะเป็นหวัดซะก่อน”เสียงสุภะเรียกเบาๆจากบนบ้านพัก ก่อนจะตามมาด้วยร่างของพี่รันเดลที่กำลังยกอาหารทะเลสดๆมาทางนี้ เราเลยขึ้นจากน้ำแล้วไปช่วยพี่เขายกอาหารกัน
“ทั้งสองคนยังไม่เลิกเล่นอีกหรือเนี่ย”พี่ไอน์เดินออกมาจากบ้านพักสงสัยจะได้ยินเสียงหัวเราะของพวกเราที่ชายหาดแน่เลย
“กำลังจะเลิกฮะ มาร์ชอาบก่อนเลย ขอเขนเก็บเศษซากของเล่นก่อน”ดันหลังมาร์ชให้เข้าไปอาบน้ำเบาๆก่อนตัวเองจะถลามาเก็บกวาดของเล่นทรายที่ถูกวางทิ้งไว้ริมหาดให้เรียบร้อย
“เขนมาช่วยหน่อยครับ”เสียงพี่รัน(ขออนุญาติย่อนะฮะ)เรียก ฉันกึ่งวิ่งกึ่งเดินด้วยชุดเปียกๆไปหา ”ช่วยพี่ยกที”แล้วไม่นานเตาสำหรับย่างอาหารก็พร้อม สุภะกับพี่รันไปช่วยกันจุดไฟส่วนเขนไปช่วยพี่ไอน์ล้างอาหารทะเล
ไม่นานอาหารก็พร้อมย่างแล้ว พอดีกับที่มาร์ชอาบน้ำเสร็จพอดี เสื้อยืดสีดำตัดกับกางเกงสบายจนบางทีก็รู้สึกอิจฉา...รู้สึกอยากเกิดเป็นผู้ชายขึ้นมากะทันหัน(...)
“เขนเป็นไรเปล่า?”มาร์ชขมวดคิ้วมองฉันที่กำลังจ้องเขางงๆ ฉันส่ายหน้าว่าไม่มีอะไรแล้วไปอาบน้ำบ้าง...สิ่งแรกที่รู้สึกตอนอาบน้ำคือ เข่าเป็นแผล...อื้อหือนึกว่าจะรอดจากความซุ่มซ่าม...
ฉันใช้เวลาอาบน้ำไปเกือบยี่สิบนาที มองเสื้อกล้ามสีดำอย่างเสียดายแล้วเปลี่ยนไปหยิบเสื้อยืดลายแมวมาสวมแทน เอากิ๊ฟสีดำหนีบผมไว้ลวกๆแล้วถลาออกไปข้างนอก
“มาแล้วววว”บางทีก็รู้สึกรำคาญตัวเองนะ... พี่รันเงยหน้าขึ้นมามองยิ้มๆก่อนจะกวักมือให้ฉันไปร่วมวงทานอาหารด้วยกัน
“ทำไมเขนหนีบผมล่ะ ไม่ปล่อยให้แห้งหรอ”เป็นประโยคที่ยาวที่สุดเท่าที่คุยกับสุภะมา ติดแท็กดีใจหนักมาก...
“ตอนกินข้าวมันเกะกะอะ”ฉันตอบยิ้มๆก่อนจะหยิบจานของตัวเองแล้วเริ่มตักเนื้อปูเป็นอันดับแรก แล้วบทสนทนาก็เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง เปิดด้วยประโยคคำตอบก่อกวนอย่าง
“อันนี้เรียกว่าอะไรฮะ”ชูช้อนขึ้นมาถามยิ้มๆ
“ก็ต้องช้อนสิครับ”พี่รันตอบ
“ไม่ช่ายยย”ฉันส่ายหน้า
“ที่ตัก?”สุภะตอบบ้าง
“ไม่ถูก”ยิ้มมมมม
“อะไรอะ”มาร์ชถาม พี่รันส่งสายตามาถามด้วยแหละ(...)
“เราก็จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆเหมือนกัน”ทำไมต้องทำท่าทางอยากต่อยเก๊าด้วยอะ--- (ยังไม่รู้ตัวใช่ม้าย)
“...จ้า เอาที่สบายใจ”มาร์ชทำหน้าเอือมใส่ พี่ไอน์กับพี่รันเดลแอบหัวเราะเบาๆกับท่าทางกวนๆ แล้ววงสนทนาเรื่องสัพเพเหระอย่างเช่น วันนี้สนุกไหม น้ำทะเลเย็นไหมพอเล่นดึกๆแบบนี้
“เออ เขนมีอะไรจะบอกแหละ”แหนะ สายตาเหมือนจะกินหัวมาอีกละ #เริ่มหมันไส้ตัวเองผิดไหมเนี่ย
“อะไรหรอครับ”คราวนี้พี่ไอน์ถามบ้างน้ำเสียงกลั้นหัวเราะดูน่ารักดีแหะ(เดี๋ยว...อย่าเพิ่งม่อสิ555)
“เขนเป็นลูกแม่”เหยย ปูบินได้...ไว้อาลัยให้ตัวเองสามวิ ฉันหัวเราะให้กับความกวนอวัยวะเบื้องล่างของตัวเอง ในขณะที่คนอื่นหัวเราะด้วยความปลง
“เขนเป็นคนมีอารมณ์ขันกว่าที่คิดนะครับ”พี่รันพูดยิ้มๆ
“เขนไม่ใช่ไก่ซะหน่อย...จะขันได้ไงกันเล่า”แอบพองแก้มเบาๆใส่ ที่จริงคือเนียนกลั้นหัวเราะ พี่รันส่ายหน้าปลงยิ้มๆให้กับฉันก่อนจะบอกให้กินต่อ ฉันเอื้อมมือไปเปิดเพลงเบาๆให้มันคลอไปกับบรรยากาศสบายๆริมทะเลแบบนี้
กว่ามื้อเย็นที่แอบวุ่นวายจะจบลงก็เกือบๆจะสามทุ่มครึ่งแล้ว ปัญหาระดับชาติอย่างเก็บกวาดสำเร็จไปแล้ว และภารกิจสุดท้ายก็คือ...ห้องนอน ด้วยความที่เป็นผู้หญิงคนเดียวฉันเลยเสียสละ เอ่อ ก็ได้ๆแค่ไม่ชอบนอนเตียง เอาเป็นว่าฉันนอนตรงห้องนั่งเล่น ส่วนพวกผู้ชายนอนในห้องนอน
“เขนนอนได้แน่นะ”เอ่ยถามย้ำอีก ฉันพยักหน้าแรงๆดันพวกผู้ชายเข้าห้องนอนไป อุวะฮ่าฮ่าเท่านี้ห้องนั่งเล่นก็เป็นของข้าQAQ แต่แอบกลัวอะ...แง้
“คุณไชท้าว...เรามาหาเรื่องแกล้งพวกเขากันดีกว่า คึคึ”หัวเราะเบาๆกับตุ๊กตาในอ้อมกอด ก่อนจะลุกขึ้นไปคุ้ยกระเป๋าที่มีลิปสติกสีชมพูอ่อนกับสีแดงส้ม เฮ้ เขนไม่ได้ใช้ซะหน่อยนะ มันติดมา รอเวลาจนแน่ใจว่าทุกคนเข้านอนแล้ว เริ่มแผนได้>W<
แอ๊ด... ประตูบ้าทำไมตอนต้องมาลั่นตอนนี้ รู้สึกถึงคำว่า...นี่สินะประตู เอาล่ะๆเลิกปลงกับตัวเองแล้วมาสนใจทางนี้ต่อ ฉันเดินเข้าไปในห้องแล้วปิดประตูให้เงียบที่สุด ทุกคนหลับหมดแล้ว อุอิ
“คึคึ พี่รันก่อนละกัน...”งึมงำกับคุณไชท้าว เอาฝาลิปเก็บใส่กระเป๋ากางเกง ก่อนจะย่องเบาๆไปหาพี่รันผู้ซึ่งนอนริมสุด ค่อยๆบรรจงเดิมหนวดเติมเคราให้พี่รัน อุ๊ย ต้องแก้มแดงๆแหละ เติมปากด้วยย
“คึคึ อุ๊บ...”เอาคุณไชท้าวงับไว้ก่อนเดี๋ยวจะเสียแผนหมด ฉันปีน ก็มันอ้อมไม่ได้ ข้ามพี่รันอย่างระมัดระวังไปหาสุภะที่นอนหลับสนิทอยู่ข้างๆกัน สงสารอะ...ไม่แกล้งได้ป่ะ เอาเหอะเดี๋ยวมันไม่ครบคน...ขอโทษนะคะQAQ ฉันค่อยๆใช้ลิปแต้มสีเป็นวงกลมเป็นปากสุภะเบาๆ ก่อนจะเดิมหนวดแมวเหมียวให้อีกหนวด
“คึคึ...เปลี่ยนสีบ้างดีกว่า”ว่าแล้วก็ค่อยๆย่องออกไปด้านนอกเพื่อหยิบลิปสติกสีแดง ความจริงมันเป็นอุทัยทิพ...เอาเหอะใช้ได้
ต้องแก้มแดงๆ...คึคึ ว่าแล้วก็กลับเข้าไปในห้องอีกครั้ง เอ๋...ทำไมรอบนี้ทุกคนเปลี่ยนท่านอนล่ะ ช่างเหอะคงปกติอะเนอะ ว่าแล้วก็อ้อมไปทางพี่ไอน์ แก้มแดงๆปากนิด จมูกหน่อย อะแถมหนวด ระหว่างที่ฉันกำลังหัวเราะกับผลงานอันแสนสร้างสรรค์(?)ของตนเองอยู่นั้น...เคยเห็นนกถูกตะคลุบไหม?
“ว้ากกกก!!”ปล่อยของลงพื้นด้วยอารามตกใจ รู้ตัวอีกทีก็ถูกทุกคนจบล็อคไว้แล้ว อิชั้นผิดไปแล้วววว #ไว้อาลัยตัวเองสามวิ
“นึกไว้แล้วว่าเขนต้องเล่นอะไรแผลงๆ”พี่รันพูด...อย่ายิ้มแค่ปากสิ ทำไมตาพี่ไม่ยิ้มอะ;;w;; แง้ นั่นลิปหนูน้า อุแหม่หยิบไปไวเชียวนะคะ
“...”ทำตาน่าสงสาร อย่าทำเค้าเลยนะคะTwT
“...”แง้...มาเป็นรอยสักเชียวว ใช้อุทัยทิพด้วยมาร์ช...ถ้าใช้เยอะมันจะเหมือนว่าเขนหัวแตกเอานะ เหยย พี่รันเขนเขียนแค่หน้าเองหน้าพี่นับแขนเขนด้วยเรอะ
“พี่รันนน เค้าเขียนแค่หน้าพี่เองนะ!”ขอโวยวายหน่อย
“อันนี้ส่วนของพี่ไอน์ครับ”ยิ้มหวาน;;w;; เกลียดร้อยยิ้มตอนนี้ของทุกคนจัง“...”สุภะก็เขียนด้วยอะ กว่าจะโดนทำโทษหรือเอาคืนเสร็จก็ห้าทุ่มแล้ว...สภาพนี่เละมาก ไม่ใช่พวกพี่ๆนะเพราะเขาล้างหน้ากันแล้วเหลือเขนที่โดนกักตัวอยู่เนี่ย!!...TwT โอ้โหอุทัยทิพแทบจะหมด...แน่สิหน้ากับแขนนี่เหมือนโดนดักตีอะ โหยยังไม่นับรอยเขียนที่อื่นอีกนะ มีแป้งด้วยสุภะกะมาร์ชช่วยกันละเลง...
“บางทีเขนก็นึกนะ...ว่าตัวโดนดักตีมารึเปล่า”หันไปทำตาจะร้องไห้ใส่
“ก็เขนทำตัวน่าลักเองนี่นา...น่าลักไปทิ้งลงทะเลอะนะ”แง้;;w;; อย่าเอาเขนไปลอยเลยยย เขนยังไม่ตายนะ
“บางทีท่าเขนไม่ซน...เขนคงไม่เลอะแบบนี้”ว่าแล้วก็เชิดหายเข้าไปนอนกันหมดเลย เหลือเขนกะสภาพเหมือนโดนตีหัวไว้นอกห้อง;w;...
แต่ว่านะ... เป็นคืนที่เขนมีความสุขที่ซู้ดดดดด
- รวมมิตรภาพ(?):
เอามายำละจ้า
B. รางวัลสำหรับนักเรียนที่ทำภารกิจได้อยู่ในระดับยอดเยี่ยม 80% ขึ้นไป
- A - CLASS STAMP
[ STUDENT CLASS ONLY ]
ตราประทับระดับสูงในหมวดภารกิจทั่วไปสำหรับนักเรียนเท่านั้น มีลักษณะเป็นดาวสีทับทิม
สื่อถึงความหรูหรา มีมูลค่า +80 Grade Exp. จะได้รับเมื่อปฎิบัติภารกิจได้ยอดเยี่ยมเป็น
ที่น่าประทับใจแก่ผู้อำนวยการโรงเรียน- Spirit Point +1.250,000
ไอเทมเพิ่มแต้มสะสม Spirit Point ตามปริมาณที่กำหนด ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการ
แลกเปลี่ยนเป็น CHIPS ได้ในภายหลัง
- Narin's Comment:
- ผมชอบรูปทุกคนในกลุ่มในตีมท้องฟ้าที่แตกต่างกันไปจังเลยครับ
ดูเป็นรูปเซ็ตที่เข้ากันดี รอบนี้ต้องบอกว่างานเขียนเป็นงานที่น่ารักมาก
อ่านแล้วรู้สึกสนุกไปด้วย รู้สึกว่ากางเขนเป็นตัวละครที่ทำให้รอบข้าง
ยิ้มและมีความสุขไปด้วยกันได้ ผมหวังว่าคุณจะสนุกไปกับการแต่ง
เรื่องราวดีๆแบบนี้เช่นกัน เรื่องที่ได้นำเสนอให้แก้ไขในรอบที่แล้ว
ก็ถูกแก้ไขและพัฒนาขึ้นมาก รอบนี้เป็นเรื่องราวที่ในมองของกางเขน
ชัดเจนดี อ่านลื่นไหลขึ้นมากเลยครับ ผมดีใจในการก้าวหน้าครั้งนี้จริงๆ
เรื่องที่จะฝากครั้งนี้เป็นเรื่องของการจัดบรรทัด อยากจะให้ลองเว้นวรรค
มากขึ้นกว่านี้อีกสักหน่อยครับ เพราะการที่ตัวหนังสือติดกันยาวๆทำให้
สามารถอ่านตกบรรทัดได้ง่าย แถมถ้าจัดสวยๆก็จะทำให้ดูน่ามองชวน
อ่านขึ้นอีกระดับหนึ่งครับ มาพัฒนาต่อไปด้วยกันนะ!!
- ผู้มาเยือนผู้มาเยือน
Re: Lesson 24 : เที่ยวกระหน่ำ รับปิดเทอม
Sun 30 Aug 2015, 23:22
- Spoiler:
- "ไปเที่ยวบ้านพี่กันมั้ย"
พี่จิณณ์ชวนผมไปเที่ยว
นอกจากพี่จิณณ์แล้วยังมีพี่พีอีกคน
ผมค่อนข้างคุ้นเคยกับพี่สองคนนี้ คนนึงเคยทำกิจกรรมรับน้องให้ผม ส่วนอีกคนคงเป็นเพราะหูไม่ได้ยิน
เหมือนกันเลยรู้สึกเหมือนเจอพรรคพวก
หลังจากลังเลอยู่ชั่วขณะเพราะไม่ค่อยได้ออกไปเที่ยวไหน ผมก็ตอบตกลงไปแบบไม่คิดอะไรมาก
แอบกลัวนิดหน่อย แต่ลึกๆแล้วผมเชื่อว่าพี่สองคนนี้ไว้ใจได้
"ว่าแต่บ้านพี่จิณณ์อยู่ที่ไหนเหรอครับ" ผมถามหลังตอบตกลงไปแล้ว
พี่จิณณ์ยิ้มแล้วถามกลับมาว่า
"รู้จักแม่กลองมั้ย"
เราสามคนตกลงจะไปเที่ยวสถานที่ที่พี่จิณณ์เรียกมันว่าแม่กลอง หรือก็คือจังหวัดสมุทรสงคราม
หรืออีกทีก็คือบ้านเกิดของพี่จิณณ์นั่นเอง เราจะใช้เวลาทั้งสิ้นสี่วันสามคืนโดยประมาณในการเที่ยวแม่กลอง
และจังหวัดข้างเคียงตามแผนการที่วางเอาไว้แบบคร่าวๆ โดยเริ่มในวันศุกร์ที่21สิงหาและกลับในวันจันทร์ที่24สิงหา
ทั้งนี้ทั้งนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงผู้คนมากมายมหาศาลที่ชอบเดินทางกันในวันหยุด
และแล้วการเดินทางของผมก็ได้เริ่มต้นขึ้น....
วันศุกร์ที่ 21 สิงหาคม
ผมกับพี่พีจะไปเจอกันที่อนุเสาวรีย์ฯ เพื่อนั่งรถตู้ไปยังจังหวัดสมุทรสงคราม
เมื่อผมไปถึงก็มองซ้ายแลขวา อ่านในไลน์ก็เห็นว่าพี่พีเองก็มาถึงแล้ว รออยู่ตรงท่ารถตู้ ผมจึงมุ่งหน้าไปหาทันที
"สวัสดีครับพี่พี" ผมโบกมือให้พี่พีที่ยืนรออยู่
พี่พีหันมาโบกมือตอบรับก่อนจะหันไปสะกิดผู้ชายคนนึงที่ยืนอยู่ข้างๆกัน ผู้ชายคนนั้นหันมายิ้มและทักทายอย่างเป็นกันเอง "สวัสดีครับน้องปักษ์"
"นี่พี่ชายพี่เอง ชื่อพี่คิว" พี่พีเขียนใส่กระดาษแนะนำให้ผมที่ยังยืนกระพริบตาปริบๆอย่างงงๆอยู่
"อ๋อ สวัสดีครับพี่คิว" ผมยิ้มแหะๆให้ ดูเหมือนว่าพี่เขาจะแก่กว่าพวกเราไม่มากเท่าไหร่นะ
แล้วพวกเราก็ก้าวขึ้นรถตู้กันไป โดยนั่งทางฝั่งที่นั่งสามคน ผมได้นั่งริมหน้าต่าง พี่พีนั่งตรงกลางแล้วก็เป็นพี่คิว
ไม่นานนักคนก็เต็มคันรถ แล้วรถก็ออกเดินทาง ระหว่างทางพี่คิวก็ชวนคุยเรื่องสัพเพเหระไปเรื่อยๆ(พี่พีหลับไปแล้ว)
ทำให้เพลินจนลืมเวลาไป จน2ชั่วโมงกว่าพวกเราก็ลงที่ตลาดแม่กลองที่เราได้นัดกับพี่จิณณ์ไว้
ลงจากรถตู้ก็เจอพี่จิณณ์กับพ่อพี่จิณณ์ยืนรอต้อนรับอยู่ พวกเราจึงเข้าไปสวัสดีคุณพ่อและทักทายพี่จิณณ์
คุณพ่อบอกว่าให้เรียกท่านว่าป๊าเหมือนที่น้ำตาลเรียกก็ได้ (ใครคือน้ำตาล??? – หลังจากนั้นไม่นานผมถึงได้รู้ว่า
ชื่อเล่นจริงๆของพี่จิณณ์คือน้ำตาล,,, ไม่ทราบว่าทำไมชื่อเล่นถึงยาวกว่าชื่อจริงครับนั่น?)
ป๊าบอกให้เอาของโยนไว้ที่รถก่อนก็ได้ เดี๋ยวจะพาไปดูอันซีนไทยแลนด์ ผมกับพี่พีและพี่คิวได้แต่มองหน้ากันแบบไม่มั่นใจนัก
แต่เอาเถอะ เจ้าบ้านภูมิใจนำเสนอขนาดนี้แล้วก็ต้องตามไปดูซักหน่อยแหละเนอะ
พวกเราเดินดูตลาด ดูวิถีชีวิตผู้คน แล้วก็ดูสินค้าชาวบ้านที่เอามาวางขาย เดินดูกันมาเรื่อยๆ จนถึงรางรถไฟ
ที่พาดยาวแทบจะตัดกลางตลาด แปลกใจนิดหน่อยที่เห็นข้าวของที่วางขายกับร่มและกันสาดที่ยื่นขวางเต็มรางรถไฟไปหมด
กำลังจะถามพี่จิณณ์ว่าทางรถไฟนี้ไม่ได้ใช้แล้วหรือก็เห็นพ่อค้าแม่ขายเก็บของกันพึบพั่บ ร่มถูกหุบ กันสาดก็ถูกชักเก็บอย่างรวดเร็ว
พร้อมๆกับรถไฟที่แล่นผ่านไปชนิดที่มะนาวที่วางขายอยู่เมื่อกี๊แทบจะติดปลายโบกี้ไปด้วย
เมื่อรถไฟผ่านไป ของก็ถูกยกกลับมาวาง กันสาดถูกกาง ร้านรวงเปิดขาย ผู้คนกลับมาเดินเลือกซื้อของตามปกติ
ทั้งหมดนี้กินเวลาไม่ถึงห้านาทีด้วยซ้ำ
“นี่แหละ ตลาดร่มหุบ” ป๊าบอกด้วยรอยยิ้ม ดูภูมิใจไม่น้อยที่เห็นสีหน้าตื่นตาตื่นใจจากเด็กๆต่างถิ่นอย่างพวกเราที่
ไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน
จากนั้นก็ได้เวลากลับบ้านไปทานอาหารเที่ยงที่บ้านของพี่จิณณ์ที่ด้านหน้าเปิดเป็นร้านอาหาร
ตอนมาถึงบ้านนี่เองที่พวกเราได้เจอกับญาติๆของพี่จิณณ์ที่มีมากจนประมาณที่ว่าไหว้จนลืมไปแล้วว่าไหว้ใครไปบ้าง
พี่จิณณ์บอกว่าทั้งหมดนี่เป็นญาติทางฝ่ายแม่ของเขา แล้วก็ยังมีน้องสาวฝาแฝดน้องน้ำผึ้งกับน้ำหวานหน้าตาน่ารัก แถมร่าเริงมากๆ
ก่อนกินข้าวพวกเราก็เข้าไปเก็บของที่บ้านของพี่จิณณ์ที่เดินลึกเข้ามาจากส่วนของร้านอาหารอีกหน่อย
ที่นี่แทบจะเรียกได้ว่าเป็นหมู่บ้านของคนตระกูลนี้เลยครับ เห็นพวกเรามองซ้ายมองขวาพี่จิณณ์เลยชี้บอก
...นั่นๆ หลังนั้นบ้านพี่ ส่วนหลังนั้นบ้านคุณยาย หลังโน้นบ้านคุณป้าคนที่สาม ส่วนหลังนั้นบ้านคุณลุงคนที่หนึ่ง
หลังที่อยู่ด้านหลังโน่นของลูกชายคุณป้าคนที่สอง ตรงโน้นบ้านคุณตาน้อยที่เป็นน้องชายของคุณยาย
ส่วนหลังนั้นบ้านคุณน้าที่เป็นลูกของคุณตาน้อย เอ้อ แล้วนั่นก็บ้านของคุณน้าคนที่เจ็ดที่เป็นน้องของคุณแม่พี่เอง...
....พี่จิณณ์ครับ เห็นดาวทองที่วนรอบหัวผม พี่พี แล้วก็พี่คิวตอนนี้มั้ยครับ?
หลังเก็บของกันเสร็จพวกเราก็ออกมาทานอาหารเที่ยงกันที่ร้านอาหารของครอบครัวพี่จิณณ์นี่แหละ ป๊าบอกว่าตอนบ่ายจะพา
ไปเที่ยวค่ายบางกุ้งกับดอนหอยหลอดโดยมีน้องน้ำผึ้งกับน้องน้ำหวานไปด้วย ท่าทางจะเป็นทริปที่เฮฮาแน่ๆเลยล่ะครับ
หลังจากทานข้าวกันเสร็จสรรพ เตรียมตัวก่อนเดินทางนิดหน่อย พวกเราก็พร้อมไปเที่ยวต่อ โดยคุณพ่อพี่จิณณ์เป็นคนพาเที่ยว
พี่จิณณ์อธิบายเกี่ยวกับค่ายบางกุ้งให้พวกเราฟังคร่าวๆว่าเดิมเคยเป็นค่ายทหารเรือ แล้วก็มีโบสถ์ปรกโพธิ์หรือโบสถ์ในต้นไม้ที่มีชื่อเสียง
แล้วก็จะดูสวนสัตว์ที่อยู่ในนั้นด้วย
นั่งรถไปไม่นานนัก รถก็มาจอดอยู่หน้าค่ายแล้ว พอพวกเราลงจากรถ ทยอยเดินเข้าไปก็พบรูปปั้นแม่ไม้มวยไทยหลากหลายท่าทางให้ชม
ผมมองดูอย่างสนใจ นานๆจะออกมาเจอโลกกว้างสักที เห็นพี่คิวเอากล้องมาด้วยก็แอ็กท่าถ่ายรูปกันอยู่ซักพัก จากนั้นคุณพ่อก็พาไปไหว้พระ
แล้วรอเข้าแถวเพื่อดูหลวงพ่อนิลมณีที่อยู่ในโบสถ์ต้นไม้ ที่ถูกคลุมด้วยรากไม้จนเหมือนกับต้นไม้ใหญ่ๆ
จากนั้นพวกเราก็ข้ามถนนเพื่อมุ่งหน้าไปยังโซนที่เป็นสวนสัตว์ ถึงจะเป็นสวนสัตว์เล็กๆแต่ก็มีสัตว์หลากหลายชนิดให้ชมได้อย่างเพลิดเพลิน
ดูท่าว่าน้องน้ำผึ้งกับน้องน้ำหวานจะชอบมากๆโดยเฉพาะโซนน้องกระต่ายที่วิ่งไปวิ่งมา แถมยังสามารถให้อาหารมันได้อีกด้วย
ถูกใจคุณหนูกันไปเลย ส่วนพวกพี่พีกับพี่จิณณ์ก็ไปยืนให้แพะกัน ผมจึงเดินไปดูบ้างด้วยความที่ไม่ค่อยได้พบเจอแพะสักเท่าไหร่
ส่วนพี่คิวดูจะถูกใจคุณอูฐตัวใหญ่ที่อยู่ทางด้านหน้า
เพราะเป็นเด็กๆเวลาส่วนมากจึงเสียไปกับส่วนของสวนสัตว์ จนได้เวลาเย็นๆ ป๊าถึงได้เรียกให้ขึ้นรถ เพื่อไปเที่ยวดอนหอยหลอดกันต่อ- Spoiler:
พวกเราไม่เข้าใจว่าดอนหอยหลอดเป็นยังไงพี่จิณณ์จึงช่วยอธิบายว่าเป็นทะเลที่ว่ายน้ำไม่ได้ ก็ยิ่งงงกันใหญ่
แต่พอมาถึงก็เข้าใจว่าจะมีช่วงที่น้ำลง แล้วจะเห็นดอนขึ้นมาตรงนั้นจะมีคนพายเรือเข้าไปแล้วก็จับหอยหลอดเอามาทำอาหารนั่นเอง
ทั้งผมและพี่พีพี่คิวก็ตื่นเต้นตอนที่ป๊าเล่าวิธีการจับหอยให้ฟังฟังแล้วก็อยากจะลองทำบ้าง จึงพากันนั่งเรือเข้าไปในดอน
แต่ละคนจะมีไม้จิ้มลูกชิ้น ตามด้วยถุงปูนขาว และถังเอาไว้ใส่หอยหลอด วิธีการก็คือ เอาไม้แตะน้ำก่อน
แล้วแตะปูนขาวจิ้มเข้าไปในรู แล้วจากนั้นหอยก็จะเมาปูนเขาและออกมาจากรู เราก็เก็บหอยใส่ถังเป็นอันจบพิธีกรรม- Spoiler:
พอฟ้าเริ่มมืดพวกเราก็กลับเข้าฝั่ง มายืนมองบรรยากาศพระอาทิตย์ตกลงดอน เป็นภาพที่สวยงามไม่น้อยเลย
ดื่มด่ำกับบรรยากาศจนพระอาทิตย์ลับฟ้าไปแล้ว ลมพัดแรงก็จริงแต่ที่นี่ยุงชุมสุดๆไปเลยครับ ป๊าจึงชวนพวกเรา
กลับบ้านกันก่อนที่จะโดนสูบเลือดหมดตัวกันซะก่อน- Spoiler:
กลับบ้านไปก็ทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากับญาติๆของพี่จิณณ์ มื้อนี้คุณยายของพี่จิณณ์โชว์ฝีมือเองเลยนะครับ เป็นมื้อที่อร่อยสุดๆไปเลย
วันนี้เป็นวันที่สนุกมากๆเลยล่ะครับ ในส่วนของวันพรุ่งนี้พ่อพี่จิณณ์จะพาไปเที่ยวเพชรบุรี และไม่บอกก่อนด้วยว่าจะพาไปที่ไหนมา
ให้ลุ้นกันในวันพรุ่งนี้ ทำเอาเด็กๆนี่ตื่นเต้นนอนไม่หลับกันเลยทีเดียว
B. รางวัลสำหรับนักเรียนที่ทำภารกิจได้อยู่ในระดับยอดเยี่ยม 80% ขึ้นไป
- A - CLASS STAMP
[ STUDENT CLASS ONLY ]
ตราประทับระดับสูงในหมวดภารกิจทั่วไปสำหรับนักเรียนเท่านั้น มีลักษณะเป็นดาวสีทับทิม
สื่อถึงความหรูหรา มีมูลค่า +80 Grade Exp. จะได้รับเมื่อปฎิบัติภารกิจได้ยอดเยี่ยมเป็น
ที่น่าประทับใจแก่ผู้อำนวยการโรงเรียน- Spirit Point +1.250,000
ไอเทมเพิ่มแต้มสะสม Spirit Point ตามปริมาณที่กำหนด ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการ
แลกเปลี่ยนเป็น CHIPS ได้ในภายหลัง
- Narin's Comment:
- รอบนี้ต้องบอกว่าถูกใจเนื้อหาและวิธีการเขียนเป็นพิเศษ
ดูเหมือนจะเริ่มจับทางถูกแล้วนะครับ ตัวภาพเองก็น่ารักใน
แบบเรียบง่ายตามสไตล์ของปักษ์ดี ทั้งงานวาดและเขียน
ตั้งแต่ที่ผ่านมานี้เป็นงานที่กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนา
และผมเชื่อว่ามันจะสามารถขึ้นไปในระดับที่สูงกว่านี้อีก
ได้แน่นอน ผมจะรอชมผลงานต่อจากนี้เรื่อยๆไปนะครับ
- peemung
Phee
อาจารย์เกษตรกรรม
3537
+675 M 108 K 756
PASSPORT
:
(3060/20000)
:
Re: Lesson 24 : เที่ยวกระหน่ำ รับปิดเทอม
Mon 31 Aug 2015, 00:55
- ทริปจิ๋ณณ์พาทัวร์ day 2:
22 สิงหาคม
วันนี้เป็นวันที่สองของทริปพี่จิ๋ณณ์พาทัวร์ฮะ หลังจากที่เมื่อวานได้พาตะลอนเที่ยวในสมุทรสงครามบ้านเกิดพี่จิณณ์ไปแล้ว วันนี้ท่านป๊าของพี่จิณณ์ก็จะพาเราออกจากถิ่นเดิมกัน
พวกเราตื่นกันแต่เช้าเพื่อเตรียมพร้อมไปดินแดนใหม่กัน เริ่มจากเตรียมเสบียงลงท้องให้เต็มอิ่มกันก่อนด้วยมื้อเช้าแสนอร่อยจากครัวบ้านจิณณ์ แล้วพวกผม พี่จิณณ์ ปักษ์ พี่คิว น้องแฝดน้ำผึ้งน้ำหวาน และท่านป๊า ก็ออกเดินทางมุ่งสู่เพชรบุรีกันฮะ
ระหว่างทางพวกเราก็คุยกันสนุกสนาน โดยผมมีพี่คิวคอยพูดแทนให้เวลาคุยกับคนที่นั่งด้านหน้า พอได้จังหวะพวกเราก็จะถามอ้อมๆบ้างตรงๆบ้างว่าจะไปไหนกัน แต่ท่านป๊าก็ได้แต่หัวเราะหึหึแล้วก็เลี่ยงไปเลี่ยงมา สกิลการแถพลิ้วสุดๆ สมกับเป็นพ่อพี่จิณณ์เลยแฮะ
พอนั่งรถไปได้สักครึ่งชั่วโมงผมก็หลับไป รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ปักษ์มาจิ้มๆเขี่ยๆปลุกผมตอนถึงที่หมายแล้ว
ที่นี่คือวัดถ้ำเขาหลวงฮะ สิ่งแรกที่เจอเลยคือเจ้าจ๋อเจี๊ยกค่อก เดินเล่นอยู่เต็มเลย ทางเจ้าหน้าที่ก็เอาตุ๊กตาจระเข้มาวางบนรถท่านป๊าให้ เห็นว่ามันจะทำให้ลิงกลัวแล้วไม่มานั่งเล่นกันบนรถเรา แต่ผมว่ามันน่ารักน่ากอดมากกว่าขู่ให้ลิงกลัวนะนั่น (ตอนหลังปักษ์แอบชี้ให้ผมดูลิงตัวหนึ่งที่กำลังนอนหนุนตุ๊กตาพี่เข้นั่นอย่างสบายใจด้วยล่ะ...)
พวกเราต้องเดินลงบันไดไปพอสมควรเลยฮะ พี่น้องน้ำผึ้งน้ำหวานน้ำตาลนี่แรงดีไม่มีเหนื่อยเลยล่ะฮะ แถมยังไปเล่นกับพี่ลิงจ๋อที่อยู่ตามทางด้วย ดีที่พี่จ๋อที่นี่ใจดีไม่ค่อยดุเท่าไหร่ เลยไปเล่นด้วยได้สนุกสนานกันใหญ่เชียวล่ะฮะ ผม ปักษ์ และพี่คิวเลยไปนั่งดูพี่จ๋อนั่งแทะข้าวโพดด้วย แทะจนเกลี้ยงแล้วก็เงยหน้ามองแล้วเราก็นั่งจ้องตากันสักพักจนพี่คิวเดินไปซื้อข้าวโพดมาให้ พี่จ๋อก็เอาไปกินต่อแล้วเดินสะบัดก้นจากไป
ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยเต็มไปหมดเลย เป็นรูปร่างแปลกๆงดงามหยดย้อยมากมาย พวกเราเลยมานั่งจินตนาการกันฮะว่าเป็นรูปอะไรกันบ้าง
“นั่นๆ ตรงนั้นเหมือนน้องหมาเลย”
“น้ำผึ้งว่าเหมือนหอยทากมากกว่า”
“พี่ตาลว่าหน้าตาเหมือนจอห์นนี่ เด็ปป์ชัดๆ”
“พี่ว่าเหมือนก็อตซิล่าเลยนะ”
‘ผมว่าเหมือนช้างกำลังแคะขี้มูก’
“เอ๋ น้ำหวานเห็นเป็นเจ้าชายกำลังอุ้มเจ้าหญิงขึ้นหอล่ะ”
“ป๊าว่าเหมือนก็อตซิล่านั่งไขว่ห้างอยู่บนโถส้วมกำลังเท้าค้างสูบบุหรี่ด้วยความเครียดเพราะอึไม่ออก ดูตรงนั้นสิ เห็นเปล่าเหมือนคอห่านเลย..”
“bacon bacon!!”
ไกด์คนหนึ่งชี้มาตรงจุดที่พวกเรากำลังดูอยู่แล้วบอกกับชาวต่างชาติกลุ่มเล็กๆประมาณ 4-5 คนที่มาด้วยว่า “bacon” สักพักไกด์ก็ชี้ไปที่อีกจุดหนึ่ง..
“Bacon bacon!!”
“bacon again?”
“yes. bacon baconnnn”
“oh baconnnnnn”
แล้วฝรั่งกลุ่มนั้นก็ดูจะประทับใจในหินย้อยรูปเบคอนอันมากมายนั้น .....บางทีผมว่าพวกเราอาจจะมีจิตนาการเหลือล้นไปหน่อยนะฮะ(ฮา)
พอเล่นทายรูปทรงหินงอกหินย้อยจนหนำใจแล้ว พวกเราก็ได้ฤกษ์ไปไหว้พระกันสักที
ในถ้ำนี้แบ่งเป็นสองห้องหลักฮะ ห้องแรกเป็นรอยพระพุทธบาทจำลองขนาดใหญ่บะเอ๊กเลยล่ะ ส่วนอีกห้องเป็นโถงใหญ่มีพระพุทธรูปรายล้อมอยูมากมาย ตอนนี้เป็นช่วงสายๆเลยมีแสงแดดส่องลงมาเป็นลำตรงบริเวณองค์พระประธานพอดีเลย สวยงามเว่อวังอลังการจริงๆฮะ
จากนั้นเราเดินทางกันต่อ ขับๆไปข้างทางก็เริ่มเขียวชอุ่มขึ้นเรื่อยๆในที่สุดเราก็มาหยุดอยู่ที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานกันฮะ
“ทาด๊าาาาาา วันนี้ป๊าพาพวกเราไปชมนกชมไม้ไปส่องผีเสื้อในป่ากัน”
ท่านป๊าบอกพร้อมสปอยให้ฟังว่าผีเสื้อที่นี่มีเยอะแยะมากอย่างกับปลาในทะเลเลย สวยงามหลากหลายสายพันธุ์ ให้เราไปวิ่งฝ่าฝูงผีเสื่อได้เหมือนเวลาวิ่งผ่ากลุ่มนกพิราบในหนังฮอลลีวูดเลยล่ะ
“....เอ่อ ขออภัยที่ขัดจังหวะนะครับ คือ..ช่วงเดือนนี้ทางการเราปิดทำการในเขตนั้นอยู่นะครับ..”
“.........ง่ะ...”
“................”
“ฮะ ฮะ ฮะ... ไม่เป็นไร ป๊ามีแผนสอง เรานี่ก็ใกล้เที่ยวแล้ว เราไปกินข้าวกันเถอะ เดี๋ยวป๊าเลี้ยงเอง” ท่านป๊าพูดอย่างมาดมั่นแล้วก็บอกให้เด็กๆลืมการสปอยผีเสื้อเมื่อกี๊ไปให้หมด
น้องน้ำผึ้งน้ำหวานดูเสียดายไม่น้อยที่อดดูผีเสื้อ แต่ด้วยท้องที่ร้องโครกครากก็ทำให้ทุกคนหันไปสนใจอาหารมื้อกลางวันกันมากกว่า
พอถามว่าแถวนี้มีอะไรอร่อย คุณเจ้าหน้าที่อุทยานแนะนำให้มากินกันที่ร้านค้าสวัสดิการในอุทยาน ฟังชื่ออาจจะดูแหม่งๆแต่ ทำออกมาได้น่ากินดีทีเดียวเลยฮะ
“เอาล่ะ ป๊ามีแผนสาม” ท่านป๊าบอกหลังพวกเราทานข้าวกันเสร็จ เหล่าเด็กๆต่างทำหน้าอยากรู้ว่าจะไปไหนต่อ ท่านป๊าก็ได้แต่ยิ้มกรุ่มกริ่มแล้วบอกว่า “ตามป๊ามาก็แล้วกัน”
แล้วเราก็มาจอดกันที่เหนือเขื่อนแก่งกระจานฮะ
“แผนสาม มาล่องเรือเล่นกันเถอะ”
ท่านป๊าประกาศเสร็จก็เฮกันใหญ่ คราวนี้ท่านป๊าเช่าเหมาเรือมาพาเราไปล่องกันในทะเลสาบของเขื่อนกันฮะ บรรยากาศดีมากๆเลยล่ะ เรือก็ล่องไปให้ลมพัดมา มีละอองน้ำกระเซนมาถูกตัวบ้าง แถมอยู่กับน้ำด้วยเลยไม่ร้อนเท่าไหร่ เรียกได้ว่าเย็นสบายสดชื่นสุดๆไปเลยฮะ วิวทิวทัศน์ก็สวยงาม แล่นๆไปก็มีชะลอให้ชมวิวในจุดที่งามๆ ให้พวกเราได้ดูกันชัดๆด้วย ทุกคนดูมีความสุขกันใหญ่ พี่คิวเลยได้โอกาสถ่ายรูปเก็บไว้ด้วยล่ะฮะ
จากนั้นเราก็ไปชมวิวกันต่อที่สันเขื่อน อากาศที่นี่ดีมากๆเลยล่ะฮะ มีลมพัดเย็นสบายเลย ข้างทางมีดอกไม้ดอกหญ้าต่างๆนานาสีสันสวยงามทีเดียว เรานั่งพักชมวิวกันตรงนี้อยู่พักใหญ่ คุยอะไรกันไปเรื่อยเปื่อย เผลอแป๊บเดียวก็บ่ายแก่แล้วเลยได้ฤกษ์กลับบ้านกันฮะ
“พาน้องๆเที่ยวด้วยนะน้ำตาล เดี๋ยวป๊าจะไปช่วยที่ร้านต่อ” แล้วท่านป๊าก็พาพวกเรามาหย่อนไว้ที่ตลาดน้ำอัมพวา
อัมพวาเป็นตลาดที่คนพลุกพล่านมากเลยฮะ เพื่อกันหลงพวกเราเลยเกาะบ่ากันไปเหมือนเล่นเป็นขบวนรถไฟแบบตอนอนุบาลเลยล่ะฮะ
ที่นี่มีของขายตลอดทางทั้งของกินและของที่ระลึก แต่ที่เป็นจุดเด่นของที่นี่เลยคือมีร้านที่พายเรือขายกันเต็มคลองเลยล่ะ เยอะแยะมากมายจนแผนการแกล้งโยนพี่จิณณ์ลงน้ำของผมกับปักษ์ต้องเป็นหมันไปเลย น่าเสียดายจริงๆ
เดินชมตลาดไปก็ได้ของติดไม้ติดมือมาตลอดทาง ได้ไปซื้อขนมไทยที่พ่อค้าแม่ค้าพายเรือมาขายด้วย เพิ่งจะเคยมาตลาดน้ำแบบนี้ ตื่นเต้นสุดๆไปเลยล่ะฮะ พอหันไปเห็นพี่จิณณ์คอยดูแลน้องๆ ซื้อขนมให้น้องกิน พอน้องๆกินเลอะเทอะก็มีแซวๆบ้างแล้วเช็ดปากให้ รู้สึกว่าน่ารักน่าเอ็นดูดีจังเลย ส่วนทางพี่ชายผมก็คอยดูแลผมกับปักษ์เหมือนกันฮะ ดูคุยกันกับปักษ์ได้ถูกคอกันด้วย เห็นว่าก็คุยกันตอนนั่งรถแต่ผมดันเอาแต่หลับเลยไม่รู้เรื่อง
พอค่ำลงแล้วพี่จิณณ์ก็พาพวกเราไปล่องเรือชมหิ่งห้อยกัน มันเป็นจุดดวงแสงเล็กๆแวบๆอยู่บนต้นไม้เต็มไปหมด เหมือนมีคนเอาหลอดไฟเล็กๆจิ๋วๆมาประดับไว้เลย บ้างก็มีที่บินเป็นจุดแสงเล็กๆบินลอยผ่านไป นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ผมได้เห็นหิ่งห้อยตัวเป็นๆ พอได้เห็นของจริงแบบนี้มันรู้สึกต่างจากที่จินตนาการไว้เลยแฮะ มันไม่ได้สว่างอย่างที่คิด แต่มันก็งดงามอย่างประหลาด ไม่รู้จะบรรยายความรู้สึกนี้ออกมายังไงดี มันรู้สึก...ประทับใจ...ประทับใจอย่างบอกไม่ถูกเลยล่ะฮะ ปักษ์ที่นั่งอยู่ข้างๆกันก็ดูจะรู้สึกไม่ต่างจากผมเท่าไรนัก พี่ชายผมเองก็เช่นกัน
‘ ไ ม่ ถ่ า ย ? ’ ผมเขียนลองไปบนฝ่ามือเขาแทนการสื่อสาร พี่คิวยีหัวผมก่อนจะพูดยิ้มๆว่า บางอย่างใช้ตาถ่ายเก็บไว้ก็พอแล้ว
พอล่องเรือชมหิงห้อยกันเสร็จแล้วพวกเราก็กลับบ้านกันฮะ...แต่จะกลับยังไงกันล่ะ ท่านป๊าปล่อยเกาะทิ้งไว้แล้วกลับไปแล้วนิ
พี่จิณณ์เห็นพวกผมทำหน้างงก็ยืดอกด้วยความมั่นใจแล้วพูดออกมา “ตามป๋ามาก็แล้วกัน”
จากนั้นพวกเราก็...เดินกลับกันฮะ แต่บ้านพี่จิณณ์อยู่ใกล้กว่าที่คิดเยอะเลยล่ะฮะ เดินได้ไม่นานก็ถึงแล้ว ร้านอาหารของบ้านพี่จิณณ์ดูคึกคักครื้นเครงมากทีเดียว มีประดับตกแต่งด้วยลูกโป่งมากมาย ลูกค้าที่แน่นร้านก็ดูหน้าตาคุ้นๆอย่างบอกไม่ถูก โต๊ะกลางร้านมีเค้กปักเทียนไว้ด้วยแหนะ แถมด้านหลังก็มีป้ายข้อความอันโตแปะอยู่
“แหบปี่เบิด เด่ทู้ยู~ แหบปี่เบิด เด่ทู้ยู~ แหบปี่เบิด เด~ แฮบปีเบิด เด~ แฮบปี้เบิด เด่ ทู้ ยู~~~”
จริงด้วย.... วันนี้วันเกิดพี่จิณณ์นี่นา ท่านป๊ากระซิบบอกไว้ตั้งกะเมื่อวานแล้วแต่ดันเผลอลืมไปซะได้
ผมอดหันไปมองหน้างงๆของพี่เขาไม่ได้ เห็นน้องน้ำหวานกับน้องน้ำผึ้งกรี๊ดกร๊าดแล้วพากันลากพี่น้ำตาลของเธอที่ยังยืนสตั๊นอยู่ให้วิ่งเข้าในร้าน
พี่จิณณ์ดูเขินๆนิดหน่อยขณะที่ญาติๆเดินเข้ามาและร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์แบบมีซับไตเติ้ลให้
พอจบเพลงพี่จิณณ์ก็ทำท่าจะเป่าเทียน ท่านป๊านี่รีบเบรกแทบหัวทิ่มเลยฮะ
"ก่อนเป่าเทียนต้องอธิษฐานก่อนสิ" พอได้รับคำอธิบาย หน้าเหวอๆของพี่จิณณ์ถึงได้กลายเป็นรอยยิ้มขำๆแทน
หลังเป่าเทียนเสร็จ เค้กก้อนใหญ่ก็ถูกตัดแบ่งออกมาได้ไม่กี่เสี้ยวเพื่อนำไปให้ญาติผู้ใหญ่อย่างคุณยายของพี่จิณณ์ก่อน จากนั้นก็ถูกตัดครึ่งอย่างโหดร้ายแบ่งให้กลุ่มพวกเรารวมถึงน้องน้ำหวานและน้ำผึ้งทานด้วยกัน (ท่านป๊าบอก เด็กๆกินเยอะๆได้โตไวๆ และ จะตัดแบ่งย่อยๆทำไมให้เลอะหลายชาม กินด้วยกันนี่แหละ เดี๋ยวก็หมดอยู่ดีแหละ เนอะ)
ผมเห็นน้องน้ำผึ้ง(หรือน้ำหวาน?)แอบกระซิบถามพี่จิณณ์เกี่ยวกับคำอธิษฐาน พี่จิณณ์ก็ยิ้มแล้วบอกว่า "พูดออกมาให้ได้ยินก็ไม่ศักดิ์สิทธิ์สิคะ" แล้วก็เอาเค้กป้ายหน้าน้องไปทีนึง
หลังจากนั้นมหกรรมป้ายเค้กก็เปิดขึ้นฮะ
ถามว่าใครโดนหนักสุด.... แน่นอนว่าต้องเป็นท่านเจ้าของวันเกิดอยู่แล้ว หันไปมองหน้าพี่เขาอีกทีนี่รู้สึกเหมือนหันไปเจอซานตาคลอส 55555
หลังงานเลี้ยงวันเกิดสุดหรรษาผ่านไป พวกเราก็ช่วยกันจัดการเก็บกวาดข้าวของและซากเค้กที่เหลืออยู่นิดหน่อยให้เรียบร้อย
แล้วก็ไปอาบน้ำแต่งตัวเตรียมนอนกันเพราะตอนนี้ก็ค่อนข้างดึกแล้วด้วย
ท่านป๊าที่นั่งดูทีวีอยู่กับคุณแม่หันมาเห็นผมกับพี่คิวที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จเตรียมจะขึ้นนอนก็บอก
"พรุ่งนี้เตรียมชุดเผื่อเปียกไว้ด้วยนะ"
"พรุ่งนี้จะพาไปไหนเหรอครับ" พี่คิวถาม
ท่านป๊ายิ้มแล้วตอบกลับมาสั้นๆ
"ราชบุรี"
B. รางวัลสำหรับนักเรียนที่ทำภารกิจได้อยู่ในระดับยอดเยี่ยม 80% ขึ้นไป
- A - CLASS STAMP
[ STUDENT CLASS ONLY ]
ตราประทับระดับสูงในหมวดภารกิจทั่วไปสำหรับนักเรียนเท่านั้น มีลักษณะเป็นดาวสีทับทิม
สื่อถึงความหรูหรา มีมูลค่า +80 Grade Exp. จะได้รับเมื่อปฎิบัติภารกิจได้ยอดเยี่ยมเป็น
ที่น่าประทับใจแก่ผู้อำนวยการโรงเรียน- Spirit Point +1.250,000
ไอเทมเพิ่มแต้มสะสม Spirit Point ตามปริมาณที่กำหนด ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการ
แลกเปลี่ยนเป็น CHIPS ได้ในภายหลัง
- Narin's Comment:
- งานครั้งนี้อยู่ก้ำกึ่งระหว่าง A กับ S จนทำให้ผมนั่งตัดสินใจอยู่นาน
มากเลยครับ ผมคิดว่าภารกิจถูกเขียนในมุมของพีซึ่งได้นำพี่คิวซึ่ง
เป็นพี่ชายของพีออกมามีบท ซึ่งมันน่าจะดีถ้านำพี่คิวซึ่งเป็นตัวละคร
ใหม่ออกมานำเสนอให้มากกว่านี้ เพราะพี่คิวเป็นหนึ่งในบุคคล
สำคัญในชีวิตพี ถ้ามีบทในพาร์ทของพีเขาก็จะเด่นได้มากกว่าที่ใด
ผมคิดว่าส่วนนี้เป็นส่วนที่ถูกดึงออกมาและไม่ได้นำไปใช้ต่อเท่าไหร่
รูปครั้งนี้ผมชอบรูปน้องสาวจิณณ์ที่กระโดดด้วยรอยยิ้มมากเลยครับ
(ไม่ใช่เพราะผมชอบเด็กน้อยนะ!!) แต่ผมคิดว่ารูปนั้นเป็นรูปที่สดใส
ให้พลังงานความสดใสชวนยิ้มตามดีครับ
- dedog
Jinn Watinpol
อาจารย์ศิลปะ
5262
+1,074 M 191 K 627
PASSPORT
:
(9911/28000)
:
Re: Lesson 24 : เที่ยวกระหน่ำ รับปิดเทอม
Mon 31 Aug 2015, 01:19
- ไปเที่ยวกันมั้ย~~:
23 สิงหาคม
วันนี้พวกเราโดนปลุกมาใส่บาตรแต่เช้าโดยคุณยายของผมเอง
พวกเราในที่นี้คือผม ป๊า เจ้าเด็กแฝดน้ำหวานกับน้ำผึ้ง ปักษ์ พี และพี่คิว
ส่วนคุณแม่ผมนั้นท่านตื่นเช้ามาใส่บาตรกับคุณยายเป็นปกติอยู่แล้ว
สภาพแต่ละคนที่เมาขี้ตาไม่แพ้กันเลยฮะ เป็นเหตุให้โดนไม้ตะพดคุณยายแพ่นกบาลกันไปคนละที
มีป๊าได้สิทธิพิเศษอีกสองทีเพราะดันเซจนเกือบจะชนพระท่านให้ ทีนี้เลยตื่นเต็มตากันยกแก๊งค์เลย 55555
หลังจากอาบน้ำแต่งตัวกินข้าวกันเสร็จเรียบร้อย พวกเราก็กระโดดขึ้นรถพร้อมเดินทางสู่ราชบุรีเมืองโอ่งมังกร
และจุดหมายแรกของพวกเราคือ....
เถ้า ฮง ไถ่ โรงงานเครื่องปั้นดินเผาแห่งแรกที่อยู่คู่กับราชบุรีมานานกว่า 80 ปี!!!
“ไปเมืองโอ่งก็ต้องไปดูโอ่งสิ” – ป๊า กล่าว
อืมม์...โรงงานเครื่องปั้นดินเผามันมีอะไรน่าสนใจตรงไหนกันฮะป๊า
ป๊าคงเห็นคำถามนี้จากสีหน้าของทุกคนเลยหัวเราะหึหึแล้วบอกว่าคอยดูก็แล้วกัน
พวกเด็กๆยิ่งส่งสายตาไม่เชื่อถือเข้าไปใหญ่
ทันทีที่ป๊าเลี้ยวรถเข้าไปในสถานที่ที่เรียกว่าโรงงานเครื่องปั้นดินเผา
ภาพโรงงานเก่าๆกับโอ่งดินเผาสีส้มๆแดงๆถูกวางระเกะระกะในหัวเป็นอันสลายไปโดยพลัน
ด้วยสนามหญ้าเขียวชะอุ่มที่ถูกประดับประดาไปด้วยเครื่องปั้นเซรามิคสีสันสดใส
ที่สะดุดตาที่สุดคงไม่พ้นตุ๊กตาเอเลี่ยนสีขาวตัวใหญ่ที่เห็นมาแต่ไกล ดูยัยน้ำหวานกับน้ำผึ้งจะถูกใจเจ้าเอเลี่ยนนี่ไม่น้อย
ถึงขนาดลากพี่คิว พี่ชายของพีที่ไปสนิทกันตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ให้ไปถ่ายรูปให้
ป๊าบอกก็เข้าไปดูๆกันแล้วกัน ป๊าดูบ่อยแล้ว ว่าแล้วป๊าก็หนีไปนั่งจิบกาแฟรออยู่ที่ร้านกาแฟสีสันสดใสซึ่งก็เป็นส่วนหนึ่งของที่นี่เหมือนกัน
หลังจากนั้นพวกเราก็เดินเข้าไปดูด้านในกัน ระหว่างทางมีเครื่องปั้นดินเผาหลากสีหลายขนาดถูกวางตกแต่งอยู่เต็มไปหมดเลยฮะ
ไม่ว่าจะเป็นโอ่ง แจกัน อ่างบัว กระถาง โต๊ะ เก้าอี้ ที่ใส่เทียน ตุ๊กตาประดับ ฯลฯ
เห็นปักษ์ยืนมองน้ำพุรูปน้องหมาท่าทางสนอกสนใจ แต่พอพลิกดูราคานี่วางกันแทบไม่ทัน อะไรจะแพงขนาดนั้นนน T-T
ส่วนพีนี่ไปยืนดูรูปปั้นแพะที่เค้าวางตกแต่งไว้ที่สนามหญ้าด้วยท่าทางเหมือนอยากจะยกกลับบ้าน... แพะนั่นตัวใหญ่กว่านายอีกนะพี....
“บอกแล้วว่าคอยดูก็แล้วกัน” – ป๊ากล่าว พร้อมกับจิบกาแฟเย็น
สายตามองตามเหล่าเด็กๆที่สนุกสนานอยู่กับการถ่ายรูปแล้วยิ้มอย่างอ่อนโยนในแบบที่ไม่ค่อยได้เห็นนัก
ถ่ายรูปกันจนหนำใจแล้วพวกเราก็ออกมานั่งที่ร้านกาแฟกับป๊า
กินขนมนมเนยรองท้องกันนิดหน่อยแล้วก็ออกเดินทางกันต่อ จุดหมายต่อไปคือ....
“เดี๋ยวถึงก็รู้เองแหละ”
“...”
ในที่สุดเราก็มาถึงจุดหมายที่สอง
The Scenery Vintage Farm สวนผึ้ง
ฟาร์มเลี้ยงแกะสไตล์วินเทจ ทุ่งหญ้าสีเขียวทอดไปบนเนินเขากว้างใหญ่ และท้องฟ้าสีฟ้าสดใส
ราวกับหลุดเข้าไปอยู่ในฟาร์มแกะที่เคยเห็นในหนังเรื่อง Babe เลยละฮะ
(เบ๊บ หมูน้อยหัวใจเทวดา,1995- ดักแก่กันเลยทีเดียว 555)
แต่แสงแดดก็ไม่ได้วินเทจตามไปแต่อย่างใด ดวงอาทิตย์ยังคงทำงานหนักหน่วงแผดแสงแรงกล้า
ในแบบที่ผมแทบจะสลายตัวมุดลงดินไปอยู่กับไส้เดือนทั้งหลายให้รู้แล้วรู้รอด
พีกับปักษ์ดูจะสนุกกับการให้อาหารแกะ ส่วนผมกับพี่คิวลากเจ้าเด็กแฝดเข้าซุ้มเกมที่แดดค่อนข้างร่มกว่าบริเวณฟาร์ม
บริเวณซุ้มเกมนี้มีเกมให้เล่นหลากหลายไม่ว่าจะเป็นยิงธนู ปาเป้า ชู้ตบาส เตะบอล ฯลฯ
บางอย่างผมก็ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ว่ามันเกี่ยวข้องกับฟาร์มแกะยังไง
นอกจากนี้แล้วยังมีจุดถ่ายรูปสไตล์วินเทจน่ารักๆ มากมาย ควรจะเรียกว่าเป็นสถานที่ส่วนใหญ่ของที่นี่เลยแหละฮะ
“ยุคโซเชียลก็เงี้ย มีแต่ที่ให้ถ่ายรูปเช็คอิน” ป๊าบ่นขณะซื้อไอศกรีมนมแกะมาแจกให้พวกเราคนละโคน ก่อนจะไล่ให้ไปยืนรวมกันจะถ่ายรูปหมู่ให้
...เมื่อกี๊ใครบ่นว่ามีแต่ที่ถ่ายรูปเช็คอินนะฮะ - -?
และด้วยแรงแห่งกระเพาะที่ร้องลั่นประท้วงว่าไอติมโคนเดียวไม่พอก็พาพวกเรามาถึงจุดหมายที่สามอย่างรวดเร็ว
ร้านสมหวังส้มตำ (ริมลำธาร)
หลังจากสั่งอาหารกันอย่างหน้ามืดตามัวไม่ว่าจะเป็นไก่ย่าง ตำไทยไข่เค็ม น้ำตกหมู
ลาบเป็ด ต้มแซ่บกระดูกอ่อน ข้าวเหนียว และอีกมากมายจนจำไม่ได้ว่าสั่งอะไรไปบ้าง
พวกเราก็เพิ่งสังเกตว่า ร้านนี้มันพีคตรงที่ลงไปเล่นน้ำในลำธารได้!
คือทานไปเล่นไปได้เลยฮะเพราะส่วนสำหรับนั่งทานนี่เหมือนเป็นแพที่ถูกต่อขาให้เหนือน้ำขึ้นมานิดหน่อยพอปีนขึ้นปีนลงได้ไม่ยากนัก
และแยกเป็นซุ้มๆ จัดวางห่างกันออกไปทำให้แต่ละซุ้มค่อนข้างเป็นส่วนตัว
ระหว่างรออาหารก็นั่งคุยเล่นกันไปเรื่อยเปื่อย เจ้าเด็กแฝดน้ำหวานน้ำผึ้งถลาลงน้ำไปตั้งแต่รถจอดละฮะ
ผมเห็นพี่คิวลงไปดูแล้วก็เลยไม่ได้ตามลงไปอีก ช่างเป็นพี่ชายที่ดีเลิศประเสริฐศรีจริงๆ ผมขอยืมพี่คิวจากพีซักเดือนค่อยเอาไปคืนได้มั้ยเนี่ย
ความจริงน้ำที่นี่ไม่ลึกเท่าไหร่แถมยังใสน่าเล่นมากเลย แต่พอมองแดดเที่ยงที่กระทบผิวน้ำวิบวับขนาดนี้....
ไว้คราวหน้าค่อยว่ากันแล้วกันนะฮะ T-T
ตูมมมมมมมมมม!!!
น้ำกระจายไปสามสิบเมตรโดยประมาณ เด็กหนุ่มหน้าตี๋ถูกเพื่อนและพ่อยันโครมตกน้ำแบบด้วยความเอ็นดูถึงขีดสุด....
ผมไอค่อกแค่กสำลักน้ำเพราะไม่ทันได้ตั้งตัว เงยหน้ามองบนแคร่ก็เห็นสามสหาย (ป๊า ปักษ์ พี) ยิ้มสะพรึงส่งมาให้
เรื่องแบบนี้ละเข้ากันได้ดีนักนะ ผมได้แต่ส่งสายตาคาดโทษไปให้
ฝากไว้ก่อนเถอะเจ้าเด็กพวกนี้ สิบปีแก้แค้นก็ยังไม่สาย คอยดูเถอะ!!
(ส่วนป๊านี่ช่างเถอะ ผมโดนท่านแกล้งเป็นปกติจนเจ็บและชินไปเองแล้วละฮะ T-T)
และไหนๆก็เปียกแล้วผมเลยไปเล่นกับเจ้าแฝดและพี่คิวซะเลย เล่นกันได้ไม่นานอาหารก็มา
พวกเราก็เลยต้องทำตามเสียงกระเพาะเรียกร้องด้วยการขึ้นไปกินอาหารก่อน
เจ้าแฝดอิดออดจะเล่นต่อ ผมกับพี่คิวเลยคว้าคนละตัวหิ้วขึ้นแคร่ไปเลย 555
ไม่รู้ว่าเพราะอร่อยหรือเพราะหิว แค่สิบกว่านาทีอาหารทุกอย่างก็เหลือแต่จานละฮะ
เห็นพีทำหน้าง่วงๆเหมือนจะหลับ ผมก็รู้สึกได้ว่าแค้นนี้คงไม่ต้องรอถึงสิบปีแล้ว : )
ตูมมมมมมมมมมมมมมมมมมม!!!!!!!
ตื่นเต็มตาเลยทีนี้ ผมหัวเราะก๊ากขณะที่พีนั่งเหวออยู่ในน้ำด้วยแรงโยนของผมกับพี่คิว
เห็นเป็นพี่ชายแสนดีขนาดนี้ก็ชอบแกล้งน้องเหมือนกันเถอะ
หันไปจะแกล้งปักษ์อีกคนก็เห็นเจ้าตัวลงไปนั่งแช่น้ำอยู่กับน้ำหวานกับน้ำผึ้งแล้ว
เห็นทำหน้ามึนๆใส่ก็ไม่รู้ว่ารู้แกวว่าจะโดนแกล้งเลยชิงลงน้ำซะก่อนหรือเพราะจะเล่นน้ำอยู่แล้วกันแน่
ไหนๆก็เปียกกันหมดแล้วพวกเราเลยแบ่งทีมเล่นเกมกัน ทีแรกพี่คิวจะขอเป็นคนดูเฉยๆ แต่ก็โดนยัยน้ำผึ้งไปชวนมาเล่นด้วยกันจนได้
เล่นจนไม่รู้จะเล่นอะไรกันแล้วป๊าก็เรียกให้ขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวเตรียมไปจุดหมายต่อไปพอดี
นี่ยังจะไปต่ออีกเหรอเนี่ย ผมนึกว่าทริปวันนี้จะมีแค่นี้ซะอีก
“จะไปที่ไหนต่อเหรอครับ” ผมเห็นปักษ์ที่เปลี่ยนชุดเสร็จแล้วถามป๊าที่เช็ดผมให้ยัยน้ำหวานอยู่
ผมที่เช็ดผมให้ยัยน้ำผึ้งอยู่ใกล้ๆกันเลยพลอยหันไปสนใจ
“ไปดูหมี” ป๊าบอก
“ดูหมี?” เห็นปักษ์ทวนคำ สีหน้าไม่เข้าใจ
“ใช่ ดูหมี” ป๊าย้ำด้วยรอยยิ้มเบิกบาน พร้อมๆกับเจ้าเด็กแฝดที่ดูคึกคักขึ้นมา
“ไปดูหมีจริงๆใช่มั้ยคะ ดูหมีๆ”
“ป๊าไม่หลอกน้ำหวานนะ ไปดูหมีจริงๆนะ”
“จริงสิ ป๊าจะพาเด็กๆไปดูหมีกัน”
ผมกับปักษ์ได้แต่มองหน้ากันอย่างงุนงง มีรหัสลับอะไรซ่อนอยู่ในคำว่าดูหมีนี้หรือไม่ โปรดติดตามชมกันต่อไป...
และแล้วคำใบ้ดูหมีก็ได้รับการเปิดเผย เมื่อเราเดินทางมาถึงจุดหมายสุดท้ายของวันนี้...
สุนทรีแลนด์ แดนตุ๊กตา
ตอนผมกับพี่คิวอาสาไปซื้อบัตร คุณพนักงานก็ดูจะสตั๊นไปเล็กน้อยที่เห็นเด็กผู้ชายตัวโตๆสองคนจะมาดูหมีกัน
พอบอกจำนวน คุณพนักงานก็เอียงคอมองเล็กน้อยเพื่อนับจำนวนเด็ก-ผู้ใหญ่
แล้วก็เหมือนจะสตั๊นไปอีกรอบที่เหมือนจะเห็นแต่ผู้ชายกันทั้งทริป
จนยัยตัวเล็กทั้งคู่โผล่หัวขึ้นมาเกาะเคาน์เตอร์นั่นแหละถึงได้เลิกสตั๊นแล้วยอมส่งบัตรให้
“เป็นผู้ชายแล้วมาดูหมีมันแปลกตรงไหน” ป๊าบ่นอย่างไม่จริงจังนัก
ผมว่ามันแปลกตรงคำพูดป๊านี่แหละฮะ...
“ที่นี่เคยเป็นโรงงานตุ๊กตา แล้วต่อมาเจ้าของได้ไอเดียอยากทำดินแดนในฝันให้เป็นจริงขึ้นมา ที่นี่ก็เลยกลายเป็นดินแดนตุ๊กตา”
ป๊าบอกความเป็นมาของที่นี่แบบสั้นๆ ขณะที่ผมมองตุ๊กตาหมีน้อยใหญ่ที่เรียงรายต้อนรับอยู่เต็มไปหมดแล้วอยากจิ๊กกลับบ้านซักตัว
เมื่อเดินเข้าไปข้างในนี่เหมือนเข้าสู่ดินแดนแห่งความฝันจริงๆนั่นแหละฮะ เหมือนเดินเข้าไปในโลกนิทาน
มีปราสาท เจ้าหญิง เจ้าชาย พ่อมด ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นตุ๊กตาหมีที่ถูกจัดแต่งตัวให้เข้ากับเรื่องราว
แถมยังมีชุดให้ยืมแต่งตัวเป็นตุ๊กตาให้กลมกลืนกับบรรยากาศด้วยนะฮะ
รวมไปถึงการแบ่งโซนจัดแสดง ไม่ว่าจะเป็นน้องหมีตามเทศกาล น้องหมีอาเซียน น้องหมีมัมมี่ น้องหมีบ่าวสาว น้องหมีคาวบอย
เยอะแยะไปหมดเลย มากไปกว่านั้นคือเราสามารถกอดจูบลูบคลำ(?)ลวนลาม(?)น้องหมีพี่หมีทั้งหลายได้ตามสบาย
เพราะเค้ารับประกันความสะอาด มีพนักงานมาทำความสะอาดหมีทุกตัวทุกวัน
อย่าว่าแต่ยัยแฝดชอบเลย ผมนี่แทบไม่อยากลุกจากพี่หมีขาวเอสกิโมตัวใหญ่แสนนุ่มนิ่มนี่เลยครับ... //โดนปักษ์กับพีลากให้เดินต่อไป T-T
พี พี่คิว และปักษ์ดูไม่ได้ปลาบปลื้มตุ๊กตาเท่าชาวแก๊งค์บ้านผมซักเท่าไหร่ แต่ก็ดูสนอกสนใจตุ๊กตาหมีมากมายมหาศาลนี่อยู่ไม่น้อย....
อันที่จริงดูจากการเข้าไปแอ็กท่าถ่ายรูปกับหมีเกือบทุกตัวที่เดินผ่านแล้ว ผมว่าพวกเค้าค่อนข้างจะสนใจมากๆๆๆเลยแหละฮะ 555
ออกจากโซนจัดแสดงตุ๊กตามาก็เป็นโซนของที่ระลึกฮะ ในจุดนี้เราสามารถตกแต่งตุ๊กตาเองได้ด้วย
พวกเราเลยให้ยัยแฝดเลือกตุ๊กตามาแต่งกันคนละตัว โดยพีกับพี่คิวจะช่วยยัยน้ำหวาน ผมกับปักษ์จะช่วยยัยน้ำผึ้ง
ส่วนป๊า... หนีออกไปกินกาแฟแล้วฮะ ตาหนวดคนนี้เสพติดคาเฟอีนในกาแฟไม่แพ้กับที่ผมเสพติดคาเฟอีนในเปบซี่หรอกครับ
ไม่นานนัก ตุ๊กตาทั้งสองตัวจากความร่วมมือร่วมใจของพวกเราก็เสร็จสมบูรณ์...
หรือควรจะบอกว่าตุ๊กตาฝีมือยัยแฝดและพี่คิวทั้งสองตัวก็เสร็จสมบูรณ์ดีนะ...?
เนื่องมาจากผมไม่ใช่คนที่ตบะแก่กล้าสมาธิแข็งแรงพอที่จะจดจ่อกับอะไรนานๆได้มากนัก
พอทำไปได้ซักผมก็เริ่มลุกไปก่อกวนชาวบ้านเค้าด้วยการเอาลูกกะตาไปติดกลางหลังหมีตัวนึง และตัดเอาหางไปติดที่หูหมีอีกตัว
เป็นเหตุให้โดนพลพรรคชาวแก๊งค์ไล่ไปนั่งกินนมสงบสติอารมณ์อยู่กะป๊า ณ อารมณ์ดี คอฟฟี่ ร้านกาแฟที่อยู่ด้านหน้าหน้าสุนทรีแลนด์
ไม่นานนักพีก็โดนไล่ออกมาอีกคนโทษฐานที่ดันหลับในจนติดตาหมีเบี้ยว ตามด้วยปักษ์ที่โดนข้อหาทำปืนกาวระเบิด (ห๊ะ!!?)
เราสามสี่คนเลยมานั่งจ๊องเล่นหมากฮอตด้วยลายตารางของโต๊ะและฝาน้ำอัดลมรอแก๊งค์นักสร้างหมีอย่างไม่มีอะไรจะทำ
ไม่นานพี่คิวก็พายัยแฝดออกมาจากสุนทรีแลนด์พร้อมหมีหน้าตาดีอีกสองตัวที่ผมไม่มีวันทำได้แบบนั้น
พูดจริงๆนะพี ขอยืมตัวพี่คิวซักเดือนเถอะ สองเดือนเลยก็ดีนะ ตลอดไปเลยก็ได้
พวกเราถ่ายรูปกับบรรยากาศยามเย็นของดินแดนแห่งตุ๊กตาอีกเล็กน้อยแล้วจึงเดินทางกลับบ้านกัน
ขณะที่ผมกำลังเคลิ้มๆจะหลับ ป๊าก็สะกิดแล้วบุ้ยใบ้ให้มองไปที่นั่งแถวหลัง ริมสุดฝั่งด้านหลังป๊าเป็นพีที่หลับคอเอียงพิงกระจก
ถัดมาเป็นยัยน้ำตาลที่เอนซบแขน แล้วจึงเป็นพี่คิวที่มียัยน้ำผึ้งนั่งหลับอยู่บนตัก และสุดท้ายคือปักษ์ที่เอียงหัวซบไหล่พี่คิวอีกที
เห็นได้ชัดว่าทุกคนเหนื่อยกับทริปวันนี้ ถึงอย่างนั้นก็ดูมีความสุข แม้ไม่ได้ยิ้มออกมาให้เห็นแต่ก็รับรู้ได้ถึงรอยยิ้มที่แฝงอยู่ภายใน
ผมมองแล้วก็อดยิ้มกับภาพที่เห็นไม่ได้
“เป็นเพื่อนที่ดีนะ” ป๊าพูดขึ้น ผมหันกลับไปไม่ทันคำนี้ก็ทำหน้างงๆใส่ ป๊าก็บอก “น้ำตาลดูมีความสุข”
ผมชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะบอกขำๆ “ตาลก็มีความสุขตลอดเวลานั่นแหละ”
“อย่าคิดว่าป๊าไม่เห็น ตอนอธิษฐานเมื่อวานตาลทำหน้าเศร้าขึ้นมาแวบนึง”
“...”
“ป๊าเดาถูกสินะ”
“มั่วแล้ว ตาลนึกอยู่หรอกว่าไปทำหน้าเศร้าอะไรนั่นตอนไหน” ผมถลึงตาใส่ป๊าที่ปล่อยก๊ากออกมา
ป๊าหัวเราะอยู่อีกแปบนึงก่อนเอื้อมมือมาขยี้หัวผม แล้วถามไปอีกเรื่อง “พรุ่งนี้เพื่อนเราจะกลับกันกี่โมง”
“คงสายๆมั้งฮะ ให้คนซาๆหน่อยค่อยกลับ”
“ก็ดีนะ ได้ไม่วุ่นวายด้วย” ป๊าพยักหน้ารับ
จะว่าไป
วันสุดท้ายของทริปกำลังจะมาถึงแล้วจริงๆสินะ...
24 สิงหาคม
หลังจากท่องเที่ยวไปติดๆกันหลายวัน เมื่อคืนทางบ้านเลยปล่อยให้นอนกันตามสบาย เช้านี้พวกเราเลยตื่นกันเกือบสิบโมงแน่ะ
อาบน้ำแต่งตัวเก็บของกันเสร็จก็เกือบเที่ยงก็มาทานอาหารเช้า(?)กันที่ร้านอาหารบ้านผมเอง
หลังพาตระเวณบอกลาญาติๆของผมเสร็จแล้วก็เตรียมตัวกลับกันครับ
ก่อนกลับป๊าพาไปไหว้หลวงพ่อบ้านแหลมซึ่งเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดสมุทรสงคราม
โดยพระพุทธรูปนี้ประดิษฐานอยู่ที่วัดเพชรสมุทรวรวิหารซึ่งตั้งอยู่ในตลาดแม่กลอง เพื่อขอพรให้โชคดีและเดินทางโดยสวัสดิภาพ
เดินออกทางประตูด้านข้างวัดมานิดเดียวก็เจอท่ารถตู้ไปอนุสาวรีย์ฯแล้วฮะ
ก่อนจากกันปักษ์ พี และพี่คิวก็ไหว้ขอบคุณป๊าที่ช่วยพาเที่ยว พี่คิวหันมาตบบ่าผมเบาๆแล้วบอกขอบใจ ปักษ์ก็ยิ้มให้ ในขณะที่พีเขียนบอก
..ทริปนี้สนุกมาก ขอบคุณนะครับ..
ก่อนขึ้นรถตู้เจ้าเด็กแฝดงอแงเล็กน้อยเพราะกลัวไม่ได้เจอพี่ๆอีก พอเกี่ยวก้อยสัญญาว่าถ้าว่างจะมาหาอีกแน่นอนถึงได้ยิ้มออกแล้วอวยพรให้ว่างอีกไวๆ
พวกเรายืนมองอยู่จนรถตู้ออกจากท่าจึงเตรียมตัวจะกลับกันบ้าง ผมอดไม่ได้ที่จะหันไปมองทางที่รถตู้ลับสายตาไปอีกครั้ง
แม้เปิดเทอมจะได้เจอกันอีกแต่ก็คงไม่ได้สนุกกันเหมือนเวลามาเที่ยวด้วยกันแบบนี้
มิตรภาพจากในรั้วโรงเรียนที่เผื่อแผ่ออกมาถึงครอบครัวของกันและกัน ดึงให้คนไม่รู้จักให้ได้มาผูกพันธ์กัน
...ผมว่าเป็นมิตรภาพที่เจ๋งดีนะ
ว่าแล้วผมก็แอบภาวนาให้พวกเราได้มีเวลาว่างมาเที่ยวกันแบบนี้อีกบ่อยๆ
A. รางวัลสำหรับนักเรียนที่ทำภารกิจได้อยู่ในระดับเพอร์เฟ็ค 100%
- S - CLASS STAMP
[ STUDENT CLASS ONLY ]
ตราประทับระดับสูงสุดในหมวดภารกิจทั่วไปสำหรับนักเรียนเท่านั้น มีลักษณะเป็นดาวสีนิล
สุดแสนจะคลาสสิก มีมูลค่า +100 Grade Exp.จะได้รับเมื่อปฎิบัติภารกิจได้เพอร์เฟ็ค
เป็นที่น่าประทับใจแก่ผู้อำนวยการโรงเรียน- Spirit Point +1,500,000
ไอเทมเพิ่มแต้มสะสม Spirit Point ตามปริมาณที่กำหนด ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการ
แลกเปลี่ยนเป็น CHIPS ได้ในภายหลัง
- Narin's Comment:
- งานครั้งนี้ยังอลังการงานสร้างไม่เปลี่ยนเลยครับ ติดทำงานอลัง
เป็นสแตนด์ดาร์ทไปซะแล้วสินะครับเนี่ย (หัวเราะ) งานครั้งนี้
ค่อนข้างละเอียดในแง่ของข้อมูลอ้างอิงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่
หรือวัฒนธรรมท้องถิ่นต่างๆที่ทำให้ผมได้เรียนรู้ตามไปด้วย
เรียกได้ว่านอกจากจะสนุกแล้วยังได้ความรู้ไปด้วยอีกต่างหาก!!
ขอขอบคุณสำหรับการตั้งใจทำภารกิจอย่างสม่ำเสมอ ผมเชื่อว่า
การใส่ใจคุณภาพในด้านการวาดและเขียนเช่นนี้จะส่งผลดีต่อ
ตัวคุณในภายภาคหน้า และผมรู้สึกดีใจที่เรามีโอกาสได้มา
พัฒนาไปพร้อมกันครับ
- bluebearz
Bonita Blanchett
นักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 5
1311
+128 M 935 K 310
PASSPORT
:
(550/2125)
:
Re: Lesson 24 : เที่ยวกระหน่ำ รับปิดเทอม
Mon 31 Aug 2015, 20:29
คืนที่สองและเป็นทั้งคืนสุดท้ายของพวกเรา...
หลังจากเล่นน้ำทะเลกันจนเหนื่อยมามากพอแล้ว ก็ถึงเวลาต้องล้างเนื้อล้างตัว เตรียมเข้านอนเสียที เมื่อกลับมาถึงบ้านพักทุกคนก็นัดแนะกันว่าใครจะได้อาบน้ำก่อนหลัง ซึ่งผมไม่ค่อยสนใจสักเท่าไรแต่รู้แค่ว่าตัวเองได้อยู่ท้ายสุด...
เมื่อผมอาบน้ำเสร็จก็เห็นว่าทุกคนหายไปกันหมดเลย มองซ้ายมองขวาก็เจอแต่ความว่างเปล่า ยังไม่ทันที่จะได้ถามตัวเองว่าพวกเขาหายไปไหนก็ได้ยินเสียงแว่วๆ มาจากที่ไหนสักแห่งใกล้ๆ นี้ ผมจึงเดินไปยังหน้าต่างแล้วมองลงไปข้างล่าง เห็นหาดสวนสนอันกว้างใหญ่พร้อมกับคำตอบที่ชัดเจนขึ้นจนผมต้องลงจากบ้านพักไปอย่างเร่งรีบ
"ยังไม่นอนกันอีกหรอครับ?" ผมขมวดคิ้วมุ่นแล้วปรายตามองทุกคนที่บัดนี้กำลังถือไฟเย็นโบกไปมากลางอากาศ
"เล่นไฟเย็นหมดก็กลับแล้วล่ะครับ" พี่ไอน์บอกพร้อมยิ้มบาง คำตอบของเขาทำให้ผมต้องขมวดคิ้ว
"แถวนี้มีร้านขายไฟเย็นด้วยหรอครับ?"
สิ้นเสียงของผมกางเขนก็เดินเข้ามาหาพร้อมกับกระเป๋าสะพายสีส้มใบหนึ่งที่ดูจะคุ้นตาผมเหลือเกิน...
"เขนขอโทษฮะ ตอนนั้นเขนกำลังเล่นต่อสู้กับพี่รันแล้วเขนเผลอไปเตะกระเป๋าของสุภะ พวกไฟเย็นมันเลยกระเด็นออกมาหมดเลย เขนว่าจะไปขอยืมมาเล่นอยู่พอดีแต่ก็อดใจไม่ได้เลยชวนกันมาเล่นก่อนแล้วค่อยไปขอทีหลังอ่ะ"
ผมขมวดคิ้วมุ่นพลางมองกระเป๋าในมือของกางเขน สงสัยคงจะลืมหยิบไฟเย็นออกตั้งแต่ปีที่แล้วแน่เลย ผมส่ายหัวเชิงไม่เป็นไรก่อนจะบอกให้ทุกคนเล่นกันต่อ กางเขนยัดกระเป๋าใส่มือผมก่อนจะจุดไฟเย็นขึ้นมาใหม่แล้วไล่จี้หลังคนอื่นๆ อย่างสนุกสนาน ผมมองสภาพกระเป๋าของตัวเองที่ถูกรื้อค้นแล้วก็ถึงกลับต้องถอนหายใจออกมา
"นี่ๆ ทุกคนครับ" รันเดลร้องเสียงดังเรียกให้ทุกคนหันไปมองอย่างง่ายดาย "ผมซื้อพลุมาอันหนึ่งมาจุดเพื่อร่ำลากันดีไหมครับ?"
"ก็ดีนะครับ" พี่ไอน์ตอบก่อนที่ทุกคนที่เหลือจะพยักหน้าเออตามกัน
"จะว่าไปแล้ว...ตอนที่ผมไปซื้อพลุป้าคนหนึ่งบอกผมว่าตอนสองทุ่มชาวบ้านแถวนี้จะจุดพลุฉลองกันด้วยนะครับ นี่ก็จะใกล้สองทุ่มแล้วด้วย" รันเดลเอ่ยขึ้นอย่างลอยๆ แต่กลับทำให้คนฟังตาลุกวาวได้เป็นอย่างดี
"เอางี้ไหมเขนว่าเราน่าจะจุดพลุพร้อมกับชาวบ้านเลย" กางเขนเสนอ
"แล้วใครจะเป็นคนจุดพลุครับ?" มาร์แชลเปิดประเด็นขึ้นในที่สุด นั่นทำให้ทุกคนที่เหลือต่างเงียบกริบลงทันที
"ในฐานะที่คุณมาร์ชเปิดประเด็น...คุณมาร์ชจุดครับ" รันเดลโบ้ยพร้อมกับยัดกระบอกพลุใส่มือคนข้างๆ มาร์แชลถึงกับเลิกลัก ทำอะไรไม่ถูก
"เอ่อ...ผมแค่ถาม ไม่ได้อยากจุดสักหน่อย"
"เขนก็ไม่อยากจุด เสียงตอนมันพุ่งดังจนหูแทบหนวกเลย" กางเขนส่ายหน้าพร้อมปิดหูแน่น
"งั้นผมเป็นคนจุดละกันครับ" พี่ไอน์เสนอแต่ทุกคนกลับเถียงหัวชนฝาพร้อมกันเต็มที่เพราะคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ถ้าให้คนมองไม่เห็นมาจุดพลุ ถ้าจุดผิดล่ะแย่เลย
สุดท้ายทุกคนก็พร้อมใจกันบอกเซย์โน กรรมเลยมาตกอยู่ที่ผม ทุกคนจ้องผมอย่างเอาเป็นเอาตาย ผมก็ไม่ได้กลัวพลุหรอกแต่พอเจอสายตาคาดคั้นของทุกคนก็พูดไม่ออก มาร์แชลยื่นกระบอกพลุมาให้ผมที่รับมาอย่างงงๆ ผมวางมันลงบนพื้นทรายก่อนจะเริ่มจุด ทุกคนที่เหลือรีบกระเจิงหนีกันออกไปไกลให้ห่างจากกระบอกพลุมากที่สุดยกเว้นผมที่ยังนั่งเอาไฟแช็คจ่อฉนวนอยู่ ทีนี้ล่ะทิ้งกันเฉยเลย...
เงียบฉี่...
"ทำไมไม่จุดล่ะครับคุณสุภะ?" รันเดลชะเง้อคอถามผม
"จุดไม่เป็นหรอครับ?" มาร์แชลก็ทำด้วยคน ส่วนกางเขนกับพี่ไอน์ก็ยังยืนนิ่งรอฟังเหตุผล
"ผม...ทำแก๊สหก..." ผมตอบเสียงเรียบ แต่ทุกคนนี่สิโวยวายกับแทบจะเป็นบ้าโดยเฉพาะกางเขนที่ถึงกับเขย่าแขนพี่ไอน์อย่างไม่กลัวเลยว่ารุ่นพี่จะคอหักหรือเปล่า เหอะ...อยากให้ผมจุดทำไมล่ะ...
ปัง!!! ปัง!!! ปัง!!!
พลุของชาวบ้านมากมายแล่นขึ้นไปบนท้องฟ้าก่อนจะกระจายออกเป็นละอองหลากสีพร้อมเสียงอันดังสนั่น ทุกคนต่างละความสนใจจากผมแล้วเงยหน้ามองท้องฟ้าทันที กางเขนชี้ไปยังพลุด้วยความคึกคะนองที่มีมากกว่าใคร มิวายคนที่เหลือยังหยิบไฟเย็นในกระเป๋าผมไปเล่นกันอีกสองรอบก่อนจะพากันเข้านอน
"ฮ้าวววว~ เป็นคืนสุดท้าย...ที่สนุกมากเลยยย" รันเดลหาวหวอดออกมาพร้อมกับปิดปากไปด้วยเสียงจึงออกมาฟังไม่ค่อยได้ศัพท์
"แต่น่าเสียดายที่พลุเราไม่ได้ร่วมแจม" พี่ไอน์ยิ้มพร้อมกับทิ้งตัวลงนอนคนแรก สายลมเย็นๆ ที่พัดเข้ามาทางหน้าต่างมันช่างเป็นตัวช่วยทำให้เปลือกตาปิดลงเร็วขึ้นจริงๆ
"นั่นสิครับ ผมว่าอยากจะเห็นพลุใกล้ๆ ซะหน่อย" มาร์แชลทำหน้าผิดหวังเล็กน้อยก่อนจะทิ้งตัวลงนอนบ้าง ตามด้วยรันเดลแล้วก็ผม
กางเขนอาสาเป็นคนปิดไฟให้ ทั้งบ้านตอนนี้อยู่ในความมืดและความเงียบสงบก่อนที่ทุกคนจะเข้าสู่ห้วงผวังค์กันเรียบร้อย
คืนที่สองและเป็นทั้งคืนสุดท้ายของพวกเราช่างเป็นคืนที่แสนสนุกและงดงามมากจริงๆ (ถึงแม้จะมีผิดพลาดไปบ้างก็ตาม)...
C. รางวัลสำหรับนักเรียนที่ทำภารกิจได้อยู่ในระดับโดดเด่น 75% ขึ้นไป
หลังจากเล่นน้ำทะเลกันจนเหนื่อยมามากพอแล้ว ก็ถึงเวลาต้องล้างเนื้อล้างตัว เตรียมเข้านอนเสียที เมื่อกลับมาถึงบ้านพักทุกคนก็นัดแนะกันว่าใครจะได้อาบน้ำก่อนหลัง ซึ่งผมไม่ค่อยสนใจสักเท่าไรแต่รู้แค่ว่าตัวเองได้อยู่ท้ายสุด...
เมื่อผมอาบน้ำเสร็จก็เห็นว่าทุกคนหายไปกันหมดเลย มองซ้ายมองขวาก็เจอแต่ความว่างเปล่า ยังไม่ทันที่จะได้ถามตัวเองว่าพวกเขาหายไปไหนก็ได้ยินเสียงแว่วๆ มาจากที่ไหนสักแห่งใกล้ๆ นี้ ผมจึงเดินไปยังหน้าต่างแล้วมองลงไปข้างล่าง เห็นหาดสวนสนอันกว้างใหญ่พร้อมกับคำตอบที่ชัดเจนขึ้นจนผมต้องลงจากบ้านพักไปอย่างเร่งรีบ
"ยังไม่นอนกันอีกหรอครับ?" ผมขมวดคิ้วมุ่นแล้วปรายตามองทุกคนที่บัดนี้กำลังถือไฟเย็นโบกไปมากลางอากาศ
"เล่นไฟเย็นหมดก็กลับแล้วล่ะครับ" พี่ไอน์บอกพร้อมยิ้มบาง คำตอบของเขาทำให้ผมต้องขมวดคิ้ว
"แถวนี้มีร้านขายไฟเย็นด้วยหรอครับ?"
สิ้นเสียงของผมกางเขนก็เดินเข้ามาหาพร้อมกับกระเป๋าสะพายสีส้มใบหนึ่งที่ดูจะคุ้นตาผมเหลือเกิน...
"เขนขอโทษฮะ ตอนนั้นเขนกำลังเล่นต่อสู้กับพี่รันแล้วเขนเผลอไปเตะกระเป๋าของสุภะ พวกไฟเย็นมันเลยกระเด็นออกมาหมดเลย เขนว่าจะไปขอยืมมาเล่นอยู่พอดีแต่ก็อดใจไม่ได้เลยชวนกันมาเล่นก่อนแล้วค่อยไปขอทีหลังอ่ะ"
ผมขมวดคิ้วมุ่นพลางมองกระเป๋าในมือของกางเขน สงสัยคงจะลืมหยิบไฟเย็นออกตั้งแต่ปีที่แล้วแน่เลย ผมส่ายหัวเชิงไม่เป็นไรก่อนจะบอกให้ทุกคนเล่นกันต่อ กางเขนยัดกระเป๋าใส่มือผมก่อนจะจุดไฟเย็นขึ้นมาใหม่แล้วไล่จี้หลังคนอื่นๆ อย่างสนุกสนาน ผมมองสภาพกระเป๋าของตัวเองที่ถูกรื้อค้นแล้วก็ถึงกลับต้องถอนหายใจออกมา
"นี่ๆ ทุกคนครับ" รันเดลร้องเสียงดังเรียกให้ทุกคนหันไปมองอย่างง่ายดาย "ผมซื้อพลุมาอันหนึ่งมาจุดเพื่อร่ำลากันดีไหมครับ?"
"ก็ดีนะครับ" พี่ไอน์ตอบก่อนที่ทุกคนที่เหลือจะพยักหน้าเออตามกัน
"จะว่าไปแล้ว...ตอนที่ผมไปซื้อพลุป้าคนหนึ่งบอกผมว่าตอนสองทุ่มชาวบ้านแถวนี้จะจุดพลุฉลองกันด้วยนะครับ นี่ก็จะใกล้สองทุ่มแล้วด้วย" รันเดลเอ่ยขึ้นอย่างลอยๆ แต่กลับทำให้คนฟังตาลุกวาวได้เป็นอย่างดี
"เอางี้ไหมเขนว่าเราน่าจะจุดพลุพร้อมกับชาวบ้านเลย" กางเขนเสนอ
"แล้วใครจะเป็นคนจุดพลุครับ?" มาร์แชลเปิดประเด็นขึ้นในที่สุด นั่นทำให้ทุกคนที่เหลือต่างเงียบกริบลงทันที
"ในฐานะที่คุณมาร์ชเปิดประเด็น...คุณมาร์ชจุดครับ" รันเดลโบ้ยพร้อมกับยัดกระบอกพลุใส่มือคนข้างๆ มาร์แชลถึงกับเลิกลัก ทำอะไรไม่ถูก
"เอ่อ...ผมแค่ถาม ไม่ได้อยากจุดสักหน่อย"
"เขนก็ไม่อยากจุด เสียงตอนมันพุ่งดังจนหูแทบหนวกเลย" กางเขนส่ายหน้าพร้อมปิดหูแน่น
"งั้นผมเป็นคนจุดละกันครับ" พี่ไอน์เสนอแต่ทุกคนกลับเถียงหัวชนฝาพร้อมกันเต็มที่เพราะคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ถ้าให้คนมองไม่เห็นมาจุดพลุ ถ้าจุดผิดล่ะแย่เลย
สุดท้ายทุกคนก็พร้อมใจกันบอกเซย์โน กรรมเลยมาตกอยู่ที่ผม ทุกคนจ้องผมอย่างเอาเป็นเอาตาย ผมก็ไม่ได้กลัวพลุหรอกแต่พอเจอสายตาคาดคั้นของทุกคนก็พูดไม่ออก มาร์แชลยื่นกระบอกพลุมาให้ผมที่รับมาอย่างงงๆ ผมวางมันลงบนพื้นทรายก่อนจะเริ่มจุด ทุกคนที่เหลือรีบกระเจิงหนีกันออกไปไกลให้ห่างจากกระบอกพลุมากที่สุดยกเว้นผมที่ยังนั่งเอาไฟแช็คจ่อฉนวนอยู่ ทีนี้ล่ะทิ้งกันเฉยเลย...
เงียบฉี่...
"ทำไมไม่จุดล่ะครับคุณสุภะ?" รันเดลชะเง้อคอถามผม
"จุดไม่เป็นหรอครับ?" มาร์แชลก็ทำด้วยคน ส่วนกางเขนกับพี่ไอน์ก็ยังยืนนิ่งรอฟังเหตุผล
"ผม...ทำแก๊สหก..." ผมตอบเสียงเรียบ แต่ทุกคนนี่สิโวยวายกับแทบจะเป็นบ้าโดยเฉพาะกางเขนที่ถึงกับเขย่าแขนพี่ไอน์อย่างไม่กลัวเลยว่ารุ่นพี่จะคอหักหรือเปล่า เหอะ...อยากให้ผมจุดทำไมล่ะ...
ปัง!!! ปัง!!! ปัง!!!
พลุของชาวบ้านมากมายแล่นขึ้นไปบนท้องฟ้าก่อนจะกระจายออกเป็นละอองหลากสีพร้อมเสียงอันดังสนั่น ทุกคนต่างละความสนใจจากผมแล้วเงยหน้ามองท้องฟ้าทันที กางเขนชี้ไปยังพลุด้วยความคึกคะนองที่มีมากกว่าใคร มิวายคนที่เหลือยังหยิบไฟเย็นในกระเป๋าผมไปเล่นกันอีกสองรอบก่อนจะพากันเข้านอน
"ฮ้าวววว~ เป็นคืนสุดท้าย...ที่สนุกมากเลยยย" รันเดลหาวหวอดออกมาพร้อมกับปิดปากไปด้วยเสียงจึงออกมาฟังไม่ค่อยได้ศัพท์
"แต่น่าเสียดายที่พลุเราไม่ได้ร่วมแจม" พี่ไอน์ยิ้มพร้อมกับทิ้งตัวลงนอนคนแรก สายลมเย็นๆ ที่พัดเข้ามาทางหน้าต่างมันช่างเป็นตัวช่วยทำให้เปลือกตาปิดลงเร็วขึ้นจริงๆ
"นั่นสิครับ ผมว่าอยากจะเห็นพลุใกล้ๆ ซะหน่อย" มาร์แชลทำหน้าผิดหวังเล็กน้อยก่อนจะทิ้งตัวลงนอนบ้าง ตามด้วยรันเดลแล้วก็ผม
กางเขนอาสาเป็นคนปิดไฟให้ ทั้งบ้านตอนนี้อยู่ในความมืดและความเงียบสงบก่อนที่ทุกคนจะเข้าสู่ห้วงผวังค์กันเรียบร้อย
คืนที่สองและเป็นทั้งคืนสุดท้ายของพวกเราช่างเป็นคืนที่แสนสนุกและงดงามมากจริงๆ (ถึงแม้จะมีผิดพลาดไปบ้างก็ตาม)...
- ความรีบก็ทำให้เกิดศิลเปอะได้:
C. รางวัลสำหรับนักเรียนที่ทำภารกิจได้อยู่ในระดับโดดเด่น 75% ขึ้นไป
- B - CLASS STAMP
[ STUDENT CLASS ONLY ]
ตราประทับระดับสูงในหมวดภารกิจทั่วไปสำหรับนักเรียนเท่านั้น มีลักษณะเป็นดาวสีไพลิน
สื่อถึงความลึกล้ำ มีมูลค่า +75 Grade Exp. จะได้รับเมื่อปฎิบัติภารกิจได้อย่างดีเป็นที่
น่าพึงพอใจแก่ผู้อำนวยการโรงเรียน- Spirit Point +1,000,000
ไอเทมเพิ่มแต้มสะสม Spirit Point ตามปริมาณที่กำหนด ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการ
แลกเปลี่ยนเป็น CHIPS ได้ในภายหลัง
- Narin's Comment:
- งานรอบนี้ค่อนข้างดูรีบร้อนเมื่อเทียบกับงานอื่นๆที่ผ่านมานะครับ
ตัวเนื้อหาติดบรรยากาศอบอุ่นน่ารัก เนื้อหามีคุณภาพ แต่ถูกตัดลง
ตรงด้านคุณภาพของรูปภาพนะครับผม งานด้านเนื้อหาของคุณเริ่ม
พัฒนาขึ้นเรื่อยๆในแง่ความสนุกสนาน จากบทความที่เรียบง่ายก็เริ่ม
มีอะไรมากขึ้นทุกครั้งที่คุณได้มีตัวละครอื่นๆเข้ามามีส่วนร่วมได้ในเรื่อง
ผมหวังว่าตัวละครสุภะจะมีความสุขกับเพื่อนๆและสนิทกันมากขึ้นเรื่อยๆ
รวมถึงหวังว่าคุณจะได้เรียนรู้รู้จักกับเพื่อนใหม่ภายในโรงเรียนมากขึ้น
ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากในที่แห่งนี้ แล้วพบกันในกีฬาสีครั้งแรกของคุณนะครับ!!
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|