- mu_oiy
Arpakorn Singhasun
นักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 2
790
+36 M 977 K 955
PASSPORT
:
(800/1000)
:
Arpakorn Singhasun
Fri 28 Feb 2020, 07:45
ชื่อตัวละคร (ภาษาไทย) : อาภากร สิงห์สัณห์
ชื่อตัวละคร (ภาษาอังกฤษ) : Arpakorn Singhasun
เพศ :ชาย
อายุ/วันเกิด :13. ปี 10/6/25xx
เชื้อชาติ : ไทย-ออส
ส่วนสูง/น้ำหนัก :165 ซม. 55 กก.
นิสัยเด่น : เงียบ เป็นผู้ฟังที่ดี
ระดับชั้น/ตำแหน่งงาน : ม.1
สิ่งที่ชอบ : เสียงดนตรี ที่ที่มีผู้คน ธรรมชาติ แมว
สิ่งที่ไม่ชอบ : เสียงทีทำให้ตกใจ ที่แคบ
ความพิการ : เห็นภาพหลอน หวาดกลัวต่อเสียงดัง
- เรื่องราวชีวิตก่อนเข้าโรงเรียน:
- "แกมันไม่น่าเกิดมาเลย! แกมันตัวปัญหา! ถ้าไม่มีแกชีวิตฉันคงสบายกว่านี้แล้ว!!!"
เสียงตะเบ็งจากชายร่างสูงทำให้เด็กชายตัวเล็กที่นอนเกลือกกลิ้งอยู่กับพื้นถึงกันสั่นสะท้านขึ้นมาด้วยความกลัวจากส่วนลึกของหัวใจ
เขาพยายามปัดป้องการโจมตีจากผู้เป็นบิดาของเขาเองโดยสัญชาตญาณเอาตัวรอดของมนุษย์ โดยที่ไม่เคยได้รู้เลยว่าเขาทำอะไรผิด เขาทำได้เพียงแต่พยายามหลบเลี่ยงการเจอหน้าผู้เป็นพ่อแท้ๆของเขาเอง
“ค่าเทอม ค่าอาหาร ค่าของใช้ ทำไมไม่หาเองวะ!ไปบอกแม่แกด้วยนะว่าอย่ามาขอเงินฉัน ฉันไม่เคยยอมรับแกเป็นลูกเลย!! แม่แกน่ะแค่อยากได้เงินจนถึงกับต้องเอาแกมาผูกมัดฉันไว้ ทำไมชีวิตฉันต้องมาจบสิ้นเพราะเด็กโง่ๆแบบแกด้วยวะ”
ผั๊วะ
“พ่อครับ ผมขอโทษ อึก!ขอโทษครับ มันเจ็บ ยอมแล้ว ผมยอมแล้ว ฮึก..ฮึก”
สองมือเล็กๆพนมมือขึ้นไหว้เพื่อขอความเห็นใจพร้อมกับเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดเกินกว่าเด็กคนหนึ่งจะรับไหว แต่ก็ไม่อาจทำให้ผู้เป็นพ่อเห็นใจหรือสงสารได้เลย มีเพียงความเกลียดชังที่เพิ่มมากขึ้นเป็นทวีคูณในทุกๆวัน
‘หึ..น้ำตาจอมปลอม’
น้ำตามากมายหลั่งไหลลงมาเหมือนความรู้สึกที่ไม่อาจเอ่ยถามออกไปได้ว่าเหตุใดชีวิตจึงเป็นเช่นนี้ เขาก็เกิดมาเหมือนเด็กคนอื่น ตั้งใจเรียนเพื่อให้พ่อแม่ภูมิใจที่มีลูกอย่างเขา แต่มีเพียงแม่เท่านั้นที่คอยชื่นชมให้กำลังใจเสมอมา
‘ทำไมครับพ่อ ผมทำอะไรผิด?’
‘แม่ครับ ผมเจ็บ..ผมกลัวเหลือเกิน ช่วยผมที’
สายตาเจ็บปวดของเด็กชายช่างไร้ค่าเมื่ออยู่ตรงหน้าผู้เป็นพ่อ แต่สำหรับแม่ที่เลี้ยงดูเองมากับมือจนเติบใหญ่นั้นมันช่างเจ็บปวดเหลือเกิน
“คุณ!! หยุดนะ อย่าตีลูก ฮือออ ฉันขอละ อย่าทำเขาเลย”
“แกมาก็ดี อยากโดนแทนมันนักใช่ไหม ได้!!”
เพี๊ยะ ตุบ ตับ
หญิงผู้เป็นแม่ถลาเข้ามาปกป้องลูกตนเองจากการถูกทำร้าย กายเจ็บ แต่ใจเจ็บยิ่งกว่าเมื่อภาพเด็กชายตัวน้อยกำลังตัวสั่นหวาดกลัวและแววตาอ้อนวอนขอความเห็นใจมันติดตรึงอยู่ในใจของของเธอ ทั้งๆที่เธอคอยประคบประหงมหัวใจน้อยๆของเด็กชายมาอย่างดีตลอด แต่กลับต้องมาแตกละเอียดเพราะพ่อผู้ไม่เคยใยดีเลยแม้แต่วินาทีเดียว ความรักของเขานั้นไม่เคยแบ่งปันมาให้คนในครอบครัวแม้แต่นิด เขาทุ่มเทให้กับการพนัน สุรา และสิ่งเสพติดเท่านั้น
“ฮือออ..ฉันยอมแล้ว อย่าทำอะไรฉันกับลูกเลยนะ ให้ฉันทำ..อึก..อะไรก็ได้ แต่อย่าทำลูกเลย”
“ออกไปจากที่นี่ซะ! แล้วก็เอามันออกไปด้วย อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าแกหรือมันอีก! ไม่งั้นฉันไม่ไว้แกแน่!!”
“แล้วฉันกับลูกจะไปอยู่ที่ไหน ฉันไม่มีอะไรเหลือเลย ฮึก ฉันให้คุณไปหมดทุกอย่างแล้ว ฉันไม่เหลืออะไรอีกแล้วว ฮือออ”
“นั้นมันเรื่องของแก!! ฉันลำบากกับพวกแกมาเกินพอแล้ว ออกไปจากชีวิตฉันสักที”
"คุณทำแบบนี้ได้ยังไง!! ฮึก คุณไม่เคยเห็นความรักของฉันเลยหรือ"
"ความรักบ้าบออะไรของแก แกก็แค่อยากตัดอนาคตฉันเท่านั้นแหละ ถ้าแกรักฉันจริง แกคงเอามันออก
ตั้งแต่รู้ว่ามันอยู่ในท้องแกแล้ว!!"
ความคิดภายในหัวเธอตื้อไปหมด ก้อนเนื้อในอกเต้นเบาจนเจ็บ จังหวะการหายใจขาดห้วง สมองประมวณผลความเจ็บปวดแทบไม่ได้
นี่น่ะหรือ...คือความรู้สึกจริงๆของผู้ชายที่เธอรักมาตลอด?
นี่น่ะหรือ...ชายที่เธอเลือกให้เป็นคู่ชีวิต?
ชายคนนี้...จริงๆน่ะหรือ?
ความรู้สึกมากมายไหลเอ่อล้นออกมาจากดวงตาคู่งาม ไม่มีอีกแล้วแววตาที่เว้าวอนขอความรักจากเขา
ไม่มีอีกแล้วความรู้สึกดีๆที่เคยมีมาตลอด อดทนเพื่อลูกมาตลอด
พอกันที
ฆ่ากันให้ตายเลยยังจะดีกว่า ถ้าได้มารู้ความรู้สึกแย่ๆของเขาที่มีให้เราขนาดนี้ ทั้งๆที่ให้ได้ทุกอย่าง..ทำให้ทุกอย่าง เพียงแค่หวังให้เขาเห็นความรักอันจริงใจของผู่หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งบ้างก็แค่นั้น เพียงแค่นั้นเอง...
"คุณคิดแบบนี้มาตลอดเลย..จริงเหรอ?"
"ใครบ้างไม่คิดวะ ชีวิตฉันกำลังดี แต่แกก็กลับมาทำมันพังเพราะไอ้เด็กนั้นคนเดียว!"
ชีวิตกำลังดี? เสเพลกับผู้หญิงคนอื่นทั้งๆที่มีเธออยู่แล้วน่ะหรือ?
เธอคงผิดเองที่คิดว่าความรักของเธอจะทำให้เขาหยุดที่เธอ หันมาใส่ใจลูกที่เกิดจากความรักของเขาและเธอบ้าง
พอแล้ว เธอเหนื่อยกับเขามามากพอ เธอจะไม่ยอมเสียความรู้สึกให้เขาอีกแล้ว เธอจะพาลูกเธอออกไปจากนรกดีๆนี่ เธอจะพาเด็กชาย ‘อาภากร’ ออกไป..
3 เดือนผ่านไป..
ชีวิตของเด็กชายอาภากรกลับมาสงบสุขแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ได้ไปเรียนหนังสือทุกวัน.. พอมีเพื่อนอยู่บ้าง แต่ก็โดนแกล้งมาบ้าง เป็นเรื่องธรรมดาของเด็กน้อยในสมัยนี้
ช่างเป็นชีวิตที่เรียบง่าย ไม่หวือหวาแต่ก็ไม่ได้ถึงกับแย่ เพราะยังมีแม่อยู่ทั้งคน อะไรจะดีได้เท่าการได้อยู่กับคนที่รักเรา
แต่เพียงพริบตาความสุขก็พังทลายลง เมื่อภากรกำลังเดินเข้าบ้านหลังจากโรงเรียนเลิก ได้เห็นชายที่ไม่ได้เจอหน้ามาตลอด3เดือนได้กลับมาหลอกหลอนเขาอีกครั้ง
ชายคนนั้นทุบตีแม่ของเขาอย่างทารุณ
ท่ามกลางเสียงโหยหวนของแม่ที่ถูกทุบตีทำให้เขาได้สติรีบไปกระชากพ่อออกมาด้วยแรงทั้งหมดที่มี ทั้งโกรธ ทั้งหวาดกลัว
‘จะกลับมาทำร้ายกันอีกทำไม’
“แกไอ้เด็กเมื่อวานซืน! บอกให้แม่แกเอาเงินมาเดี๋ยวนี้!จะเอาเงินไปเรียนทำไมวะ โง่ๆอย่างแกเรียนไปก็เปล่าประโยชน์!”
“พ่อจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ มันเป็นเงินที่แม่หามา ฮืออ อย่าทำแม่!”
“ฉันไม่ใช่พ่อแก!!”
“ปล่อยภากรนะ อย่าทำลูกฉัน!”
“อย่ามาแตะ!!”
ผลั่ก
ร่างของหญิงสาวโดนผลักไปตามแรงของชายที่เคยเป็นคนรัก ทำให้เธอไม่ทันได้ตั้งตัวเซถลาไปทางเหลี่ยมชั้นวางของทำมาจากแก้วใส
เพล้ง
เศษแก้วแตกระเนระนาดไปตามพื้นพร้อมกับเลือดที่ค่อยๆไหลซึมเปรอะเปื้อนออกมา
แทบจะทุกส่วนของร่างกายโดนแก้วบาดลึกเข้าไปในผิวหนัง แม้กระทั่งจุดที่มีหลอดอาหารและหลอดลมอยู่..
เสียงแก้วยังคงสะท้อนอยู่ในสมองของภากร ภาพทุกอย่างเดินช้าราวกับต้องการตอกย้ำความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น
‘เมื่อไหร่จะเลิกพรากความสุขไปจากเขาเสียที’
วี๊ หว่อ วี๊ หว่อ
สัญญาญของรถตำรวจดังขึ้นพร้อมกับตำรวจจำนวนหนึ่งบุกเข้ามาจับกุมตัวชายที่เพิ่งก่ออาชญากรรม เขาโวยวายดังลั่น โบ้ยความผิดให้หญิงสาวที่นอนจมกองเลือดของตนเองอยู่บนพื้นพร้อมกับเศษแก้วมากมายที่ปักตามตัว
เธอถูกยกขึ้นรถเข็นอย่างเบามือและพาขึ้นรถฉุกเฉินไปยังโรงพยาบาลเพื่อรับการรักษาพร้อมกับลูกชายที่นั่งนิ่งเหมือนยังคงช็อกจากเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตา
ภากรนั่งรออยู่หน้าห้องรอผลตรวจจากหมอด้วยใจที่สั่นระรัว อีกทั้งยังหวาดระแวงว่าพ่อจะตามมาทำร้ายเขาและแม่ที่นี่ต่อหรือไม่ เขาสอดส่ายสายตาไปทั่วทุกทางที่มีผู้คนเดินไปมา ไม่สามารถบังคับอาการตื่นตระหนกได้เลย
“หนูใช่ภากรหรือป่าว?”
“หนูใช่ภากรหรือป่าว?”
เฮือก!
หญิงวัยกลางคนถามเขาขึ้นมาทำให้เขาสะดุ้งออกจากห้วงพวังของตนเอง
“ใช่ครับ…?”
หมับ
หญิงวัยกลางคนโผลเข้ากอดภากร และเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“โถ่...หลานตัวน้อยของป้า ต้องมาเจออะไรบ้างนี่ ป้าเห็นใจหนูเหลือเกินลูก”
เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหญิงที่กำลังกอดเธอนั้นเป็นใคร แต่รับรู้ได้ถึงความเป็นห่วงเป็นใยจากเธอแล้วก็ทำให้เขาน้ำตารื้นขึ้นมา รู้สึกชื้นใจขึ้นมาเมื่อได้รับอ้อมกอดที่เต็มไปด้วยความจริงใจ
‘ปลอดภัย...อบอุ่นเหลือเกิน’
“หนูไปอยู่กับป้านะ ทุกคนเป็นห่วงเธอกับแม่มาก แต่แม่เธอไม่อยากรบกวนที่บ้าน พวกเราเลยไม่ได้ยุ่งอะไรด้วยเลย เพิ่งจะมารู้ข่าวว่าโดนทำร้าย”
ภากรอ้ำอึ้งกับคำพูดมากมายที่พรั่งพรูออกมา เขาไม่เคยรู้เลยว่ายังมีคนอื่นอีกที่รู้จักเขานอกจากแม่ นึกว่าชีวิตนี้จะไม่เหลือใครแล้วเสียอีก
แกร๊ก
“ใครคือญาติคนไข้ครับ”
“ฉันเองค่ะคุณหมอ”
“ตอนนี้คนไข้ยังไม่ได้สตินะครับ คงต้องรอดูไปอีกซักพัก เพราะคนไข้เสียเลือดมาก ร่ายกายบอบช้ำและสภาพจิตใจอยู่ในขั้นย่ำแย่”
“แล้วอีกนานมากแค่ไหนคะกว่าที่เธอจะฟื้น?”
“ต้องเผื่อใจไว้บ้างนะครับ หมอก็ไม่ทราบได้ หมอขอตัวก่อนนะครับ”
เมื่อได้ฟังความจากหมอแล้ว โลกทั้งใบของภากรก็พังครืดลงไม่เป็นท่า เหลือแต่เพียงความมืดมิดที่ไม่มีทางออก
‘พ่อเอาทุกอย่างไปจากผมแล้วจริงๆ’
รู้สึกไม่มีความหมายในการใช้ชีวิตอยู่อีกต่อไป พยายามเท่าไหร่ก็ไร้ความหมาย พยายามรักษาไว้ทุกอย่างแล้วจริงๆ..
‘ฉันจะฆ่ามัน ฮ่าๆๆๆ แกก็ด้วย อย่าคิดว่าแกจะรอดไปจากฉัน!!’
หัวใจของภากรกระตุกวูบเมื่อเห็นพ่อยืนอยู่ตรงประตูห้องพักคนป่วยของแม่ พร้อมกับประกาศกร้าวหมายจะเอาชีวิตแม่ของเขาอีกคราแล้วเดินเข้าไปข้างในห้องพร้อมกับรอยยิ้มชวนสยอง
“พ่อ! อย่านะ ไม่!!”
ภากรรีบวิ่งตรงไปยังห้องพัก ผลักประตูเข้าไปอย่างแรงด้วยความกลัวทั้งหมดที่มี
แต่แล้วก็พบแต่ความว่างเปล่า…
‘อะไร..?’
ภากรรู้สึกสับสนอย่างมาก สมองตีกันรวนไปหมดว่าสิ่งที่เขาเห็นคืออะไร
‘ไอ้เด็กโง่….ฮ่าๆๆๆ!’
ภากรสะดุ้งโหยง และมองไปทั่วทุกมุมห้องแต่ก็ไม่พบใครนอกจากแม่ที่นอนไม่ได้สติอยู่บนเตียง
“เกิดอะไรขึ้นครับ?”
หมอเดินหน้าเครียดเข้ามาในห้องพร้อมกับคุณป้าของภากร
“ผมเห็นพ่อ..หมายถึงคนที่ทำร้ายแม่ของผมเข้ามาในนี้..”
“...”
หมอและป้าของเขานิ่งเงียบไปจนทำให้ภากรร้อนรนใจว่าพ่อเขาอาจจะอยู่ในนี้จริง แต่หมอก็พูดขึ้น
“ช่วยมากับหมอหน่อยนะครับ”
ภากรเดินออกมากับหมออย่างหวาดระแวง มองไปยังทุกที่อย่างไร้จุดหมาย ไม่สามารถหยุดความหวาดกลัวในใจได้
หมอพาเขามาดูกล้องวงจรปิดในห้องพักของแม่
ภากรเห็นภาพทุกอย่างที่เพิ่งเกิดขึ้นในห้อง ทุกการกระทำของเขาจนหมอเข้ามา...แต่ไม่เห็นแม้แต่เงาพ่อของเขาเอง
“คุณอาจจะอยู่ในอาการตื่นกลัวอยู่จนเห็นภาพหลอนนะครับ แต่สักพักก็อาจจะหาย หลังจากนี้ก็ช่วยมาพบตามที่หมอนัดด้วยนะครับ เผื่อเป็นอะไรจะได้รักษาได้ทันนะครับ หมอของตัวก่อน”
“อ่า...ครับ ขอบคุณมากครับคุณหมอ”
เขาได้แต่เก็บความกังวลไว้ในใจแล้วเดินกลับมาที่ห้องพักของแม่
‘เราคงกังวลเกินไปสินะ..’
ครืดดด
ภากรเปิดประตูเข้าไปก็พบป้าของเขากำลังนั่งมองแม่ที่นอนอยู่บนเตียงด้วยสายตาเป็นกังวล
“ป้าครับ”
“อ้ะ..ภากร เป็นอย่างไรบ้าง ต่อจากนี้หนูไปอยู่กัป้านะ ป้าจะดูแลหนูแทนแม่จนกว่าแม่จะฟื้นเอง”
คุณป้าเอ่ยด้วยน้ำเสียงแสดงความจริงใจและความรัก ทำไมเขาไม่เจอกับป้าที่ใจดีให้ไวกว่านี้กันนะ
ผ่านไปเป็นเดือนหลังจากภากรย้ายมาอยู่กับป้า เขาก็คอยมาเยี่ยมแม่ทุกๆวัน มาอ่านหนังสือให้ฟัง เล่าเรื่องในแต่ละวันว่าเป็นอย่างไร ป้าของเขาใจดีมากเหลือเกิน เขาจะตอบแทนได้อย่างไรดี
เขากุมมือแม่ขึ้นมาแนบกับแก้ม มันไม่อุ่นเหมือนเดิมแล้ว.. ความเศร้าเข้าเกาะกุมจิตใจ
‘ผมจะทำอย่างไรดีกับพรุ้งนี้ที่ไม่มีแม่?’
ภากรปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาแทนคำพูดที่ยากเกินกว่าจะเอ่ยออกมา
มันหนักไปหมดทั้งหัวใจเมื่อคิดถึงวันที่โลกนี้ไม่มีแม่แล้ว..
‘ฮ่าๆๆแกมันเด็กไร้ยางอาย!!แม่แกเป็นแบบนี้เพราะแก ยังจะกล้ามาที่นี่อีกงั้นเหรอ?!’
เสียงดังเข้ามาในโสตประสาท
ใช่..เขาเป็นแบบนี้มาตั้งแต่วันที่พ่อโดนจับกุมตัว เขามาหาหมอตามที่นัดเสมอ มันเกิดขึ้นกับเขาแล้ว..สิ่งที่เขาไม่คิดว่าเขากำลังเป็น..
โรคกลัวเสียงดัง(Acousticophobia)
และที่เลวร้ายกว่านั้น
โรคประสาทหลอน (Hallucination)
มันแย่กว่าที่เขาคิด เขาทนทุกข์ทรมาณจากเสียงและภาพหลอนของพ่อที่เขาเห็นมาตลอดตั้งแต่ได้รู้เรื่องอาการของเขา มันรุนแรงมากจนเขาควบคุมตัวเองไม่ได้
แทบบ้า
- เรื่องราวชีวิตขณะรู้จักและตัดสินใจเข้าโรงเรียน:
- ไม่นานมานี้ป้าซื้อกีต้าร์ให้เขา เพราะป้าต้องออกไปทำงานจึงไม่ค่อยมีเวลาอยู่กับเขา เขาฝึกเล่นกีต้าร์บ่อยๆจนทำให้รู้ว่าตลอดเวลาที่เล่นกีต้าร์เขาจะไม่เห็นภาพหลอนเลย และเขาเพิ่งรู้ตัวว่าเขาชอบเสียงเพลง..นุ่มนวล
ภากรนิ่งไปชั่วอึดใจก่อนจะตั้งสติได้ใช้มืออันสั่นเทาหยิบหูฟังขึ้นมาใส่ แล้วหลับตาลง
‘อย่ามายุ่งกับผม..’
ไม่กี่วันมานี้ เขาเริ่มหาโรงเรียนที่ทำให้เขาสามารถเรียนได้อย่างปกติสุขเหมือนกับคนอื่น เพื่อที่เรียนจบมาแล้วเขาจะได้หาเงินมาเลี้ยงดูแม่
Quaint School
‘แม่รอผมก่อนนะ..’
เขาจับมือแม่ที่เริ่มผอมลงมาแนบแก้ม มองใบหน้าซีดเซียวด้วยแววตามุ่งมั่น
‘..รอวันที่ผมจะทำให้มือแม่กลับมาอบอุ่นอีกครั้ง’
- ช่องทางติดต่อ:
- mu_oiy
Arpakorn Singhasun
นักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 2
790
+36 M 977 K 955
PASSPORT
:
(800/1000)
:
Re: Arpakorn Singhasun
Thu 30 Sep 2021, 23:18
- ผปค:
- ภาก๊ร:
- คิวแอ่นเอ:
๏ คุณชื่ออะไร..? หมวยค่า
๏ นามปากกาของคุณคืออะไร..? ไม่มีค่า
๏ คุณเข้าวงการวาดรูปมานานแค่ไหนแล้ว..? ตั้งแต่ประถม5 ไฟแรงมาก55555 แล้วก็เลิกไปขึ้นมัธยมต้น กลับมาวาดอีกทีตอนเข้าควิ้นคอมมูค่า
๏ คุณเกิดวันที่เท่าไร..? 17 กันยายน 2545
๏ แนวงานที่วาดของคุณเป็นอย่างไร..? : ยังไม่แน่นอน กำลังหาแนวที่ใช่
๏ เอกลักษณ์ของผลงานคุณคือ..? : ลายเส้นมั้งคะ แต่กำลังอยู่ในขั้นตอนฝึกฝน!
๏ ไอดอลของคุณคือ..? : Suzuri Ryo ลายเส้นงดงามมากกก งานเค้าออกไปทางgore
๏ คุณเป็นคนแบบไหน..? เป็นคนเรื่อยเปื่อย ชอบสุมงานมาทำใกล้ๆวัน นานๆทีจะนั่งทำงานทั้งวัน
๏ คุณชอบอะไร..? และ กลัวอะไรบ้าง..? ชอบซื้อนิยายปกสวยๆมาดองไว้ กลัวสัตว์เลื้อยคลานและอะไรก็ตามที่ทำให้ตกใจ เพราะเป็นคนสะดุ้งแรงมาก55555
๏ ความฝันของคุณคืออะไร..? นักจิตวิทยาและรวย!
๏ ปกติคุณฟังเพลงตอนวาดไหม..? เพลงอะไรที่คุณชอบ..? ฟังค่า ถ้ากำลังวาดผู้หญิงจะฟังเพลงของ Doja cat
๏ คุณชอบวาดอะไรเป็นหลัก..? คนค่ะ โดยเฉพาะผู้หญิง ตอนนี้มีแพลนว่าจะฝึกวาดกล้ามค่ะ!
๏ ปกติคุณชอบลงผลงานที่ไหน..? Instagram
๏ แนวงานที่คุณไม่ถนัดมีอะไรบ้าง..? Perspective ค่ะ ขอบายเลย
๏ ชอบวาดแฟนอาร์ตบ้างไหม..? เคยวาดบ่อยๆอยู่ช่วงนึง
๏ Original Character ที่ชอบของคุณคือใคร..? ภากรรรรรรรรร
๏ Mascot คุณชื่อว่า..? ไม่มีค่า
๏ ปกติคุณใช้โปรแกรมอะไรสร้างสรรค์ผลงาน..? Sai and Procreate
๏ คุณชอบใช้โทนสีแบบไหน..? สีหม่นๆ แล้วแต่แนวงานที่กำลังทำ
๏ คุณออกกำลังกายบ้างไหม..? ออกบ้างเป็นบางครั้งแต่นานๆทีทำ555555 ไม่วิ่งบนลู่ก็ออกตามคลิปในยูทูป
๏ คุณการวาดรูปในสเกลแบบไหนเก่งที่สุด..? Burst shotไม่เบี้ยวก็ดีใจแล้วค่ะ5555555
๏ คุณเปิด Commission อยู่หรือเปล่า..? อาจจะเกิดในอนาคตตอนที่ลายเส้นมั่นคงกว่านี้
๏ ราคา Commission ของคุณประมาณเท่าไร..? กำลังศึกษา
๏ ผลงานเก่า ๆ ที่พอเป็นตัวอย่างที่คุณภูมิใจมีอะไรบ้าง..?- ผลงานเก่าๆ:
๏ อยากฝากอะไรถึงคนอื่น ๆ ในคอมมูนี้บ้าง..? ทุกคนเฮฮาน่ารักกันมากๆค่ะ ไว้มีโอกาสอยากไปแจมมีตติ้งด้วย
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|