- EURChairman's Club
Elite Urban Royle
ผู้อำนวยการฝ่ายปกครอง
4708
+3,157 M 223 K
PASSPORT
:
(142575/181250)
:
Challenge 04 : ความสัมพันธ์ที่เพิ่มขึ้น
ทุกๆคนคงจะต้องมีความสัมพันธ์กับใครคนใดคนหนึ่งหรือหลายๆคน
ในโรงเรียน ไม่ว่าจะเป็นฐานะ เพื่อน อาจารย์ที่เคารพ คนที่แอบชอบ
และความสัมพันธ์ทั้งหมดต้องมีการพัฒนาตามระยะเวลาที่เปลี่ยนไป
ในภารกิจนี้เปิดโอกาสให้ทุกๆคนได้เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับความสัมพันธ์
ต่อใครก็ได้ในโรงเรียนว่าตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้มีอะไรที่เปลี่ยนแปลง
ไปบ้าง หรือแม้กระทั่งเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง โดยที่สามารถเขียน
ได้ทุกแนวไม่ว่าจะเป็นเรื่องราว ฟีลกู๊ด ดราม่า ตลก สยองขวัญ เป็นต้น
ยกตัวอย่างเช่น สมมติให้นาย A อยากเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับเพื่อนสนิท
ที่ชื่อนาย B จึงเล่าเรื่องราวว่าวันแรกอาจไม่รู้จักนาย B เท่าไร แต่ทว่า
หลังจากได้แอบเล่นล่าท้าผีในโรงเรียนตอนกลางคืน ก็ทำให้สนิทกัน
มากยิ่งขึ้น โดยในเรื่องราวจะเป็นการบรรยายเกี่ยวกับขณะทำกิจกรรม
ล่าท้าผีตอนกลางคืนเพื่อให้เข้ากับความสยองขวัญ เป็นต้น
การเล่าถึงความสัมพันธ์ในภารกิจนี้ต้องเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ต่อ
ตัวละครในโรงเรียนเท่านั้น รวมไปถึงตัวละคร NPC เช่นกัน
ระยะเวลาการเคลียร์ภารกิจ พิมพ์ว่า:WED 02 JAN 2019 ( 12.00 TH ) - THU 31 JAN 2019 ( 23.59 TH )
✱✱ หมายเหตุ ✱✱
คุณสามารถเลือกทำภารกิจใดก็ได้จากภารกิจทั้งหมดอย่างน้อย 1 ภารกิจ
จึงจะถือว่าเคลียร์ Mission Challenge ได้เรียบร้อย และสามารถที่จะทำ
ภารกิจได้มากกว่า 1 ภารกิจ หรือ ทำครบทุกภารกิจ เพื่อรับรางวัลพิเศษที่
เพิ่มขึ้นได้เช่นกัน
เมื่อเลือกทำภารกิจใดไปแล้ว จะต้องเคลียร์เงื่อนไขย่อยของภารกิจนั้นให้
ครบถ้วนสมบูรณ์ทั้งหมด จึงถือว่าเคลียร์ภารกิจนั้นสำเร็จแล้ว
รายละเอียดภารกิจทั้งหมด พิมพ์ว่า:
QUEST I
การก้าวกระโดดของความสัมพันธ์
เขียนบรรยายเล่าเรื่องราวอะไรก็ได้กี่ยวกับ "ความสัมพันธ์"
ต้องเป็นความสัมพันธ์ต่อตัวละครที่อยู่ในโรงเรียนเท่านั้น
อนุญาตให้เป็นตัวละครสมมติที่อยู่ในโรงเรียนได้
มีความยาวไม่น้อยกว่า 4,000 ตัวอักษร
- ตัวอย่างการนับจำนวนตัวอักษร:
QUEST II
นักเล่าเรื่องดีเด่นแห่งปี
จำเป็นต้องทำ QUEST I ด้วยเท่านั้น
การบรรยายใน QUEST I จะต้องไม่มีคำผิดเด็ดขาด
การบรรยายใน QUEST I จะต้องมีความยาวไม่น้อยกว่า 5,500 ตัวอักษร
QUEST III
ก้าวสู่โลกความเป็นจริง
เดินทางมาร่วมกิจกรรม Quaint Meeting
รางวัลของการเคลียร์ Mission Challenge
✎ ผู้ที่สามารถเคลียร์ได้ครบทั้ง 3 ภารกิจ
3 STAR CHALLENGE STAMP
ตราประทับระดับสูงสุดที่มีมูลค่า +100 Grade Exp. มอบให้สำหรับผู้ที่เคลียร์ภารกิจใน Mission Challenge ได้ครบทั้ง 3 ภารกิจ
+10 STAR PIECE
ชิ้นส่วนดวงดาวที่ใช้สะสมรวมกันในขวดโหล สามารถนำไปแลกเป็นของรางวัลกับทางโรงเรียนได้
HNY2019 TAG
TAG เกียรติยศพิเศษติด VISA สำหรับผู้ที่ทำภารกิจแรกของปี 2019 ได้ครบเงื่อนไขที่กำหนดไว้ มีอายุการใช้งานจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2562 เท่านั้น
** สามารถใช้ร่วมกับเกียรติยศอื่นได้อีก 2 เกียรติยศ **
▷ ได้รับรางวัลจากกิจกรรม "ประชุมประจำเดือน" เพิ่มขึ้น 2 เท่า
ของขวัญปีใหม่แด่นักเรียนสุดขยัน
กล่องของขวัญที่มอบให้กับผู้ที่ทำ Challenge 04 : ความสัมพันธ์ที่เพิ่มขึ้น ได้ครบตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ เมื่อเปิดออกจะได้รับไอเทมมากมาย ดังนี้
1. เลือกรับ "มาสคอต" จำนวน 1 ตัว จาก
2. เลือกรับ "ชุดตัวละคร" จำนวน 1 ชุด จาก
อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับมาสคอตได้โดย "คลิ๊กที่นี่"
อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับชุดตัวละครได้โดย "คลิ๊กที่นี่"
FIREWORK
ภาพพื้นหลังสำหรับ Sprite ตัวละครและมาสคอตลายแสงพลุแห่งการเริ่มต้น
SILVER HONOR DEGREE TROPHY
ถ้วยเกียรติยศเงินแท้ มอบให้แด่ผู้ที่สามารถเคลียร์ภารกิจใน Mission Challenge ได้มากกว่ามาตรฐาน
PET NAME TAG
ป้ายชื่อสำหรับ MASCOT เมื่อใช้แล้วจะสามารถตั้งชื่อสัตว์เลี้ยงภูติที่ใช้งานอยู่ได้อย่างอิสระ
+3 MISSION COMPLETE STAMP
ตราประทับที่มอบให้สำหรับผู้ที่เคลียร์ภารกิจใน Mission Challenge ได้ เพื่อเป็นที่ระลึกและจดจำว่าได้เคลียร์ภารกิจใดไปบ้าง
✎ ผู้ที่สามารถเคลียร์ได้ 2 ภารกิจจากทั้งหมด
2 STAR CHALLENGE STAMP
ตราประทับระดับสูงที่มีมูลค่า +80 Grade Exp. มอบให้สำหรับผู้ที่เคลียร์ภารกิจใน Mission Challenge ได้ 2 ภารกิจจากทั้งหมด
ของขวัญปีใหม่แด่นักเรียนสุดขยัน
กล่องของขวัญที่มอบให้กับผู้ที่ทำ Challenge 04 : ความสัมพันธ์ที่เพิ่มขึ้น ได้ครบตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ เมื่อเปิดออกจะได้รับไอเทมมากมาย ดังนี้
1. เลือกรับ "มาสคอต" จำนวน 1 ตัว จาก
2. เลือกรับ "ชุดตัวละคร" จำนวน 1 ชุด จาก
อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับมาสคอตได้โดย "คลิ๊กที่นี่"
อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับชุดตัวละครได้โดย "คลิ๊กที่นี่"
FIREWORK
ภาพพื้นหลังสำหรับ Sprite ตัวละครและมาสคอตลายแสงพลุแห่งการเริ่มต้น
BRONZE HONOR DEGREE TROPHY
ถ้วยเกียรติยศทองแดง มอบให้แด่ผู้ที่สามารถเคลียร์ภารกิจใน Mission Challenge ได้ทันกำหนดเวลา
+2 MISSION COMPLETE STAMP
ตราประทับที่มอบให้สำหรับผู้ที่เคลียร์ภารกิจใน Mission Challenge ได้ เพื่อเป็นที่ระลึกและจดจำว่าได้เคลียร์ภารกิจใดไปบ้าง
✎ ผู้ที่สามารถเคลียร์ได้ 1 ภารกิจจากทั้งหมด
1 STAR CHALLENGE STAMP
ตราประทับระดับทั่วไปที่มีมูลค่า +50 Grade Exp. มอบให้สำหรับผู้ที่เคลียร์ภารกิจใน Mission Challenge ได้ 1 ภารกิจจากทั้งหมด
+1 MISSION COMPLETE STAMP
ตราประทับที่มอบให้สำหรับผู้ที่เคลียร์ภารกิจใน Mission Challenge ได้ เพื่อเป็นที่ระลึกและจดจำว่าได้เคลียร์ภารกิจใดไปบ้าง
รางวัลแห่งความขยัน
รางวัลสำหรับแจกให้กับผู้ที่เคลียร์ภารกิจได้เป็นคนแรกเท่านั้น เพื่อให้กำลังใจ
แก่ผู้ที่มีความขยันในการร่วม Mission Challenge อย่างมุ่งมั่น
กล่องแห่งความขยัน
กล่องของขวัญที่ทางโรงเรียนมอบให้กับผู้ที่เคลียร์ภารกิจใน Mission Challenge ได้เป็นคนแรก เมื่อเปิดกล่องแล้วสามารถเลือกรับสกิลบัฟจำนวน 1 สกิลได้ดังนี้...
หรือสามารถใช้ STAR PIECE จำนวน 20 ชิ้นแลกการใช้งานสกิลบัฟ 1 สกิลจาก...
อ่านข้อมูลสกิลบัฟได้ที่ "คลิ๊กที่นี่"
Spectacular Award
รางวัล Spectacular จะถูกมอบให้สำหรับผู้ที่สร้างสรรค์ผลงานได้ประทับใจสปอนเซอร์
เป็นอย่างมาก โดยผลงานนั้นจะต้องมีเสน่ห์ในรูปแบบต่างๆที่ดึงดูดสายตาและจิตใจของ
สปอนเซอร์ ซึ่งไม่ได้ขึ้นอยู่กับคุณภาพผลงานแต่อย่างใด เรียกได้ว่าขึ้นอยู่กับจินตนาการ
ความคิดสร้างสรรค์ เสน่ห์ของผลงาน ความกลมกล่อมของภาพรวม ก็ว่าได้
ผู้ที่ได้รับรางวัลนี้จะได้รับการประกาศเกียรติคุณ ณ ความคิดเห็นที่ลงผลงาน และบริเวณ
ใต้ชื่อกระทู้ Mission Challenge ในหน้าห้องประชุมงาน พร้อมทั้งของรางวัล ดังนี้
เหรียญตราที่ใช้ในการชำระค่าใช้จ่ายทั้งหมดภายในโรงเรียนหรือการร่วมกิจกรรมพิเศษที่ทางบริษัทสปอนเซอร์จัดขึ้น
+20 STAR PIECE
ชิ้นส่วนดวงดาวที่ใช้สะสมรวมกันในขวดโหล สามารถนำไปแลกเป็นของรางวัลกับทางโรงเรียนได้
+5 GOLDEN HONOR DEGREE TROPHY
ถ้วยเกียรติยศทองคำแท้ มอบให้แด่ผู้ที่สามารถเคลียร์ภารกิจใน Mission Challenge ได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์
- EURChairman's Club
Elite Urban Royle
ผู้อำนวยการฝ่ายปกครอง
4708
+3,157 M 223 K
PASSPORT
:
(142575/181250)
:
Re: Challenge 04 : ความสัมพันธ์ที่เพิ่มขึ้น
- Spoiler:
- “เฮ้ออออออออ....”
ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่หลังจากที่เคลียร์กองเอกสารที่อยู่บนโต๊ะทำงานทั้งหมดเสร็จเรียบร้อย หลังจากนั้นก็หลับตาลงครู่หนึ่งเพื่อพักสายตาก่อนที่จะเริ่มเดินตรวจความเรียบร้อยบริเวณโรงเรียนต่อ ระหว่างที่กำลังใช้เวลาที่มีอันน้อยนิดในการผ่อนคลายความตึงเครียดของปริมาณงานที่ล้นหลาม ผมได้คิดถึงช่วงเวลาในอดีตตั้งแต่วันแรกที่ได้เข้ามารับตำแหน่งรักษาการณ์ประธานคณะปกครองของโรงเรียนมัธยมผู้พิการแห่งนี้ ด้วยตำแหน่งและหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบทำให้ในแต่ละวันผมจะต้องได้คุยกับนักเรียนที่มีปัญหาต่างๆนานา บางครั้งก็ต้องให้คำปรึกษาเพื่อช่วยแก้ปัญหานั้นให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ในช่วงแรกนักเรียนแต่ละคนมักมีอาการเกร็งอย่างเห็นได้ชัด บางคนก็แสดงสีหน้าที่ดูเหมือนไม่เชื่อถือสักเท่าไร อาจเป็นเพราะด้วยขนาดของร่างกายที่นักเรียนบางคนยังตัวใหญ่กว่าผมด้วยซ้ำ ยิ่งประกอบกับหน้าตาที่ดูเคร่งเครียดตลอดเวลา ทำให้ส่วนใหญ่เวลาให้คำแนะนำหรืออบรมอะไรไป นักเรียนหลายๆคนก็เหมือนแค่ฟังผ่านๆไปเท่านั้น บางคนก็กลัวจนไม่กล้าระบายปัญหาที่แท้จริงสักเท่าไร นักเรียนหลายๆคนจึงมักจะเข้าหาผู้อำนวยการโรงเรียนที่ดูเป็นมิตรและสดใสมากกว่าที่จะเข้าหาผม ทำให้ช่วงนั้นหลังเลิกเรียนผมจะต้องเดินทางไปเรียนพิเศษปรับบุคลิกภาพที่เป็นมิตรสำหรับเด็กสัปดาห์ละสองครั้งเป็นระยะเวลา 6 เดือนติดต่อกัน หลังจากนั้นสถานการณ์ต่างๆก็เริ่มจะดีขึ้นเรื่อยๆ ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะผมเริ่มรู้สึกปรับตัวได้ระดับหนึ่งจนเป็นธรรมชาติแล้วก็เป็นได้
แต่แล้วเมื่อเกิดเหตุการณ์การหายสาบสูญของผู้อำนวยการโรงเรียน ทำให้ขณะนั้นโรงเรียนเกิดปัญหาต่างๆมากมาย อีกทั้งกองเอกสารและหน้าที่ของผู้อำนวยการโรงเรียนที่ปัจจุบันไม่มีผู้รับผิดชอบ ปัญหาทั้งหมดยิ่งทำให้เกิดความลำบากต่อการดำเนินการของโรงเรียนในอนาคตเป็นอย่างมาก ขณะนั้นผมได้ประเมินสถานการณ์ของโรงเรียนเพื่อจัดพิมพ์รายงานแก่ผู้ถือหุ้นทั้งหมด ซึ่งผลการประเมินอย่างเลวร้ายที่สุดคืออาจถึงขั้นต้องปิดโรงเรียนเลยทีเดียว แต่แล้วโอกาสครั้งยิ่งใหญ่ในช่วงวิกฤตก็ได้เกิดขึ้นอย่างมหัศจรรย์ ระหว่างที่ผมได้เรียกประชุมบุคลากรโรงเรียนทั้งหมด ทุกๆคนมีความตั้งใจที่จะอยากให้โรงเรียนนี้ยังคงมีอยู่ต่อไปจนถึงขั้นที่ยอมเพิ่มภาระและหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบเพิ่มเติมกันคนละไม้คนละมือโดยไม่เรียกเงินเดือนเพิ่มแต่อย่างใด และสุดท้ายผลลัพธ์ของความเป็นปึกแผ่นจนเกือบจะเป็นครอบครัวเดียวกันของบุคลากรทุกคนก็คือการที่โรงเรียนยังคงเปิดอยู่ ณ ปัจจุบัน
ทุกวันนี้ดูเหมือนว่าผมกับนักเรียนและบุคลากรของโรงเรียนจะพูดคุยและเข้าหากันได้ด้วยดีมากกว่าแต่ก่อน ความสัมพันธ์ทุกอย่างมันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆวันละเล็กวันละน้อย ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก ทว่าการที่ยังไม่สามารถหาผู้อำนวยการโรงเรียนใหม่ได้ก็ดูจะเป็นปัญหาสำหรับงานเอกสารที่ผมจะต้องรับผิดชอบเพิ่มเติมอย่างหนักหน่วง อีกทั้งยังเป็นภาระต่อหน้าที่ที่เพิ่มขึ้นของบุคลากรหลายๆคนอีกด้วย ถึงแม้ว่าจะมีการเพิ่มอัตราเงินเดือนพื้นฐานให้กับบุคลากรสูงขึ้นก็ตาม แต่ภาระหน้าที่ต่อคนก็ไม่ควรเยอะเกินไป เพื่อที่จะให้ทุกคนสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความสุขในทุกๆวัน จวบจนถึงวันนี้ผมยังคงใช้เวลาว่างและคอนเนคชั่นที่มีอยู่ค้นหาผู้อำนวยการโรงเรียนคนใหม่ที่เหมาะสมกับโรงเรียนแห่งนี้ แต่ก็ยังไม่พบคนที่เหมาะสมและเข้าตาเลยสักคนเดียว
“ตื๊อดือดื่อดือ ตื๊อดือดื่อดือ ตื๊อดือดื่อดือดื๊ดดด...”
ขณะที่กำลังหลับตารำลึกความหลังอยู่นั้น เสียงโทรศัพท์มือถือของผมก็ดังขึ้น หลังจากรับสายผมก็ได้รับข่าวดีที่ผมเฝ้ารอคอยมาเป็นระยะเวลานาน เพื่อนของผมที่ฝรั่งเศสได้โทรมาบอกว่ามีคนที่คิดว่าน่าจะเหมาะสมกับตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนของโรงเรียนมัธยมผู้พิการที่ผมมองหาอยู่ และเขาเองก็มีความสนใจเป็นอย่างมากเช่นกัน ผมไม่รอช้าที่จะขอเบอร์โทรศัพท์ติดต่อบุคคลนั้นจากเพื่อนเพื่อที่จะโทรศัพท์ไปแนะนำตัวและนัดหมายวันเวลาเพื่อนัดพบและคุยรายละเอียดเพิ่มเติม
“ตึ่งตึ๊งง....”
ผ่านไปเพียงระยะเวลาไม่นานหลังจากที่ผมวางสายพร้อมทั้งรีบจัดแจงจองตั๋วเครื่องบินและที่พักเพื่อเดินทางไปพบบุคคลนี้ที่ฝรั่งเศสในช่วงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ เอกสารสรุปข้อมูลส่วนตัวและประวัติการทำงานทั้งหมดของบุคคลนั้นก็ถูกส่งเข้ามาในอีเมลส่วนตัวของผม แต่จากการพูดคุยรายละเอียดทางโทรศัพท์เบื้องต้นแล้วก็ทำให้พอที่จะรู้ข้อมูลคร่าวๆที่น่าจะระบุในเอกสารนี้อยู่แล้วจึงทำให้ผมยังไม่เปิดอ่านในตอนนี้ เพราะขณะนี้ถึงเวลาที่จะต้องเดินตรวจบริเวณรอบโรงเรียนแล้วจึงคิดว่าจะเอาไว้อ่านอย่างละเอียดในช่วงหลังเลิกงานทีเดียว ถึงแม้จะรู้สึกว่าการที่มีผู้สนใจสมัครนี้เป็นข่าวดี แต่ผมก็ผ่านช่วงเวลาที่ต้องประเมินและตัดสินผู้สมัครแบบนี้มาแล้วหลายต่อหลายครั้ง แต่สุดท้ายก็ยังไม่เจอคนที่เหมาะสมกับตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนนี้อย่างแท้จริง จึงทำให้ในครั้งนี้ไม่ได้ตื่นเต้นหรือคาดหวังอะไรมากนัก เหมือนกับว่าก็เป็นแค่อีกครั้งหนึ่งเหมือนที่เคยทำมาก่อนหน้านี้เท่านั้น
“ก๊อก ก๊อก...”
ผมเคาะประตูห้องสภานักเรียน จริงอยู่ที่ในอดีตนั้นสภานักเรียนจะขึ้นตรงต่อผู้อำนวยการโรงเรียน แต่ในสถานการณ์ที่ไร้ผู้อำนวยการโรงเรียนเช่นนี้ “ศุภรเพลิง โชตภาณุ” ประธานนักเรียนคนปัจจุบันจึงเป็นหัวเรือใหญ่บริหารสภานักเรียนแต่เพียงผู้เดียวแทนผู้อำนวยการโรงเรียน ในบางครั้งผมก็จะมาสอบถามถึงปัญหาต่างๆและให้คำปรึกษาเล็กน้อยแก่สภานักเรียนเหมือนที่มาในครั้งนี้ แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยน่าเป็นห่วงสักเท่าไร เพราะประธานนักเรียนและสภานักเรียนทุกคนเองก็สามารถจัดการปัญหาต่างๆและทำหน้าที่ของตนเองได้เป็นอย่างดี ไม่ขาดตกบกพร่องแต่อย่างใด
ผมเดินไปตามทางเดินของอาคารเรียนบริเวณหน้าห้องของระดับชั้นต่างๆ อาจารย์ทุกคนก็สามารถสอนนักเรียนในรูปแบบความถนัดและลักษณะเฉพาะบุคคลของตนเองได้อย่างสดใสร่าเริงและทำหน้าที่ได้อย่างไร้ที่ติ บรรยากาศการเรียนก็เต็มไปด้วยความสนุกสนาน อาจมีบางวิชาที่ต้องใช้สมาธิและความเข้าใจอย่างสูงจึงทำให้มีความเครียดแสดงออกมาบนหน้านักเรียนอย่างชัดเจนอยู่บ้าง แต่โดยรวมแล้วทุกอย่างก็อยู่ในระดับที่น่าพึงพอใจเป็นอย่างมาก เพราะระหว่างเดินตรวจรอบโรงเรียนผมมักจะถามคำถามกับตัวเองเสมอว่า “ถ้าผมเป็นนักเรียน โรงเรียนที่ผมอยากที่จะเรียนจะต้องเป็นแบบไหน..?” โรงเรียนอาจเป็นสถานที่ที่จะต้องให้ความรู้แก่เด็กนักเรียนก็จริง แต่มันเป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น ผมอยากที่จะให้โรงเรียนเป็นเหมือนบ้านหลังที่สองของทั้งนักเรียนและบุคลากรของโรงเรียนอย่างแท้จริง เป็นสถานที่ที่อยากอยู่ตลอดเวลาไม่แพ้บ้านของตนเอง เป็นสถานที่ที่อยู่แล้วมีความสุข เต็มไปด้วยผองเพื่อนพี่น้อง เต็มไปด้วยผู้ใหญ่ที่มีความเข้าใจ เต็มไปด้วยความรู้ใหม่ๆที่น่าค้นหา เต็มไปด้วยบรรยากาศที่ดี และสิ่งสำคัญที่สุดคือ เต็มไปด้วยความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น เหมือนกับที่โรงเรียนแห่งนี้เป็นอยู่ ณ ปัจจุบัน
“ให้ตายสิ ไม่น่าเชื่อว่าโรงเรียนแห่งนี้จะยังอยู่มาได้ขนาดนี้ และสมบูรณ์ขนาดนี้....”
ผมยิ้มและพึมพำกับตัวเองพร้อมทั้งรู้สึกว่าตัวเองโชคดีแค่ไหนที่ได้เข้ามาอยู่ในโรงเรียนแห่งนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างไม่ได้เกิดขึ้นเพราะคนคนเดียว แต่มันเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกๆคนในโรงเรียนนั่นเอง
- pangkawjoaประธานนักเรียน
Taira Payakaroon
อาจารย์ภาษาไทย
3313
+611 M 422 K 265
PASSPORT
:
(2580/21000)
:
Re: Challenge 04 : ความสัมพันธ์ที่เพิ่มขึ้น
คร่าวนี้ใช้เพลิงเป็นตัวดำเนินเรื่อง
ก็จะออกแนวหวานๆ หน่อย ต้อนรับเดือนแห่งความรักที่ใกล้จะถึงแล้ว
ปล. แก้ไขตามที่แจ้งแล้วครับ
ได้ม๊าจิณณ์มาช่วยตรวจกับเกลาเนื้อเรื่องด้วย ขอบพระคุณอย่างสูงมากๆ // สไลด์ตัวไปก้มกราบสามตลบบบ
QUEST I & QUEST II
การก้าวกระโดดของความสัมพันธ์ & นักเล่าเรื่องดีเด่นแห่งปี
- ความสัมพันธ์ของผม:
“การบ้านของคาบนี้ คือให้ทุกคนกลับไปเขียนเรียงความหัวข้อ ‘ความสัมพันธ์ที่เพิ่มขึ้น’ ความยาวไม่น้อยกว่าหนึ่งหน้ากระดาษเอสี่นะ แล้วขอให้นำมาส่งครูคาบหน้านะครับ”
เสียงของครูไทระ ผู้รับหน้าที่สอนวิชาภาษาไทยดังกังวานทั่วห้อง ช่างน่าอัศจรรย์ที่ครูสามารถกะระดับเสียงพูดได้พอดิบพอดี ทั้งที่มีความพิการทางการได้ยินแท้ๆ
“แล้วก็...เรียงความนี้ห้ามเขียนถึงครูนะครับ ให้เขียนถึงเพื่อนๆ ไม่ก็ครูหรือบุคลากรท่านอื่นก็ได้” ครูไทระสั่งงานต่ออีกหน่อย
“ทำไมเขียนถึงครูไม่ได้เหรอคะ” เพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งยกมือแล้วยืนขึ้นถาม เพื่อให้ครูอ่านปากได้ถนัด
“เพราะถ้าให้เขียนถึงครูได้ หลายคนคงเลือกเขียนถึงครู” ไม่รู้ผมคิดไปเองไหม แต่รู้สึกเหมือนครูไทระเบนสายตามาทางนี้เลย “ครูอยากให้ลองคิดดูว่าตั้งแต่เข้ามาเรียนที่นี่ แต่ละคนมีความสัมพันธ์กับใคร และไปในทิศทางไหน มีเพื่อนเยอะขึ้นไหม แล้วได้พัฒนาความสัมพันธ์ให้สนิทกันมากขึ้นหรือเปล่า”
“...”
“ครูอยากให้ทุกคนลองมองรอบๆ ตัวดูนะ” ครูไทระยิ้มกว้างตามแบบฉบับก่อนจะสั่งเลิกชั่วโมงเรียน หลังจากนั้นหัวหน้าห้องก็บอกทำความเคารพ และเมื่อครูเดินออกไปแล้ว ผมก็ก้มลงมองกระดาษสำหรับเขียนเรียงความที่อยู่ในมือ
‘ชื่อ - นามสกุล : ศุภรเพลิง โชตภาณุ ชื่อเล่น : เพลิง ชั้นมัธยมปีที่ 6’
นั่นคือสิ่งที่เขียนอยู่บนหัวกระดาษ นอกจากนั้นก็มีแต่ความว่างเปล่า...อืม...ตอนแรกผมกะจะเขียนถึงครูไทระกับ ‘ฮ่องเต้’ เพื่อนสนิทของผม แต่เขียนถึงครูไทระไม่ได้ ถ้าเขียนถึงฮ่องเต้คนเดียวจะเขียนได้เยอะไหมนะ
ผมหันไปมองฮ่องเต้ที่นั่งอยู่ข้างๆ เขาเป็นผู้ชายผิวขาวสุขภาพดี ใบหน้าสวยหวาน ดวงตากลมโต รูปร่างก็บอบบาง สูงแค่ไหล่ของผมเอง หากมองภายนอกคงคิดว่าเขาปกติทุกอย่าง แต่การเข้ามาเรียนที่ควิ้นท์เป็นสิ่งยืนยันแล้วว่าฮ่องเต้มีความพิการ ซึ่งมันคือความพิการทางด้านจิตใจ
แต่พักเรื่องความพิการของฮ่องเต้ไปก่อนดีกว่า มาเขียนเรื่องดีๆ เกี่ยวกับฮ่องเต้กันเถอะ
มีเวลาก่อนถึงคาบเรียนถัดไป ผมเลยลงมือเขียนเรียงความไปนิดหน่อย สักพักฮ่องเต้ก็ชะเง้อมาดู
“เพลิงเขียนแล้วเหรอ” ฮ่องเต้ถาม
“อือ เขียนถึงฮ่องเต้น่ะ”
แววตาของฮ่องเต้ลุกวาวทันที ฮ่องเต้ไม่ค่อยแสดงท่าทางแบบนี้บ่อยนัก เขามักจะทำตอนที่อยู่กับคนสนิทและไว้ใจเท่านั้น
“เราขออ่านได้ไหม”
“ได้สิ ไว้เขียนเสร็จแล้วผมจะเอาให้อ่านนะ” ผมตอบตกลง ส่วนฮ่องเต้ก็พยักหน้าดีใจ
เขียนไปเขียนมา ผมก็เขียนได้เกือบหนึ่งหน้าเอสี่ แต่ก็ยังไม่ถึงที่ครูกำหนดอยู่ดี สงสัยต้องเขียนถึงคนอื่นด้วยแฮะ จะเขียนถึงใครดีนะ...
อืม...
อืม.....
อืม.......
ผมยังครุ่นคิดเกี่ยวกับเรียงความ คิดจนกระทั่งเลิกเรียนแล้วมาเข้าชมรมก็ยังไม่เลิกคิด
“พี่เพลิง” เสียงเรียกที่คุ้นหูดังขึ้นตรงหน้า พอหันไปมองก็เห็น ‘อักษร’ กำลังยิ้มกว้างส่งมาให้ “ษรอยากปรึกษาเรื่องกิจกรรมวาเลนไทน์หน่อยน่ะค่ะ”
“อ๋อ ได้สิ” ผมบอกแล้วอักษรก็นั่งลงข้างๆ ก่อนที่เธอจะเล่าละเอียดของกิจกรรมที่จะจัดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ ผมนั่งฟังอยู่สักพักก็สะดุดกับกิจกรรมเสริมอย่างหนึ่งที่เธอเสนอไอเดียมา ซึ่งเป็นกิจกรรมที่เพิ่มขึ้นมาจากกิจกรรมหลัก “หืม? กิจกรรมสารภาพความในใจเหรอ”
“ใช่ค่ะ ส่วนใหญ่ที่อื่นจะจัดให้สารภาพรักกับคนที่แอบชอบ แต่ที่เราจัดจะเป็นใครสารภาพกับใครก็ได้ค่ะ อย่างเช่นเพื่อนบอกเพื่อน หรือนักเรียนบอกครูน่ะค่ะ”
“แล้วจะมีคนกล้ามาสารภาพเหรอ”
“ก็น่าจะมีอยู่นะคะ ษรคิดว่าคงมีหลายคนเลยที่ตื่นเต้นกับกิจกรรมแบบนี้”
พอพูดจบ อักษรก็ยิ้มให้อีกแล้ว...บอกตามตรงว่าผมลังเลเหมือนกันว่าจะจัดกิจกรรมนั่นดีไหม แต่พอเจอรอยยิ้มสดใสของคนตรงหน้าเข้าไปเลยบอกปัดไม่ออก สุดท้ายก็เลย...
“งั้นผมจะลองถามคุณเอลีทให้อีกทีแล้วกัน ว่าจัดได้ไหม”
“รับทราบค่ะ!” อักษรทำท่าตะเบ๊ะแล้วกลับมายิ้มอีกรอบ “ขอบคุณนะคะพี่เพลิง”
จากนั้นเราก็คุยรายละเอียดเรื่องกิจกรรมกันต่อ ที่จริงควรรอฮันนามาร่วมลงความเห็นด้วย เพราะฮันนาเองก็เป็นสมาชิกสภานักเรียนเหมือนกัน แต่รู้สึกว่าวันนี้ฮันนาจะติดส่งงานหลายอย่าง งั้นเอาไว้ค่อยบอกรายละเอียดทีหลังแล้วกัน
ก๊อกๆ
ระหว่างที่นั่งวางแผนกับอักษร เสียงเคาะประตูก็ดังแทรกขึ้นมา ผู้ที่เคาะคือชายหนุ่มร่างเล็ก ตำแหน่งผู้รักษาการณ์ฝ่ายปกครอง ‘คุณเอลีท’ นั่นเอง เห็นตัวเล็กอย่างนั้นแต่อายุเข้าเลขสามแล้วนะ...
หลังจากที่อดีตผู้อำนวยการหายตัวไปอย่างไม่ทราบสาเหตุ คุณเอลีทเลยเข้ามาดูความเรียบร้อยของสภานักเรียนเป็นครั้งคราว และบางทีก็ช่วยพวกผมตัดสินใจเรื่องการจัดกิจกรรม อย่างเช่นครั้งนี้ก็ด้วย
ผมกับอักษรเดินเข้าไปทักทายคุณเอลีทก่อนจะเล่าเรื่องกิจกรรมสารภาพความในใจให้ฟัง เขาฟังอย่างตั้งใจแล้วจึงรับเรื่องไปพิจารณา จากนั้นก็ขอตัวไปตรวจความเรียบร้อยของโรงเรียนต่อ พวกผมมองส่งอย่างนอบน้อม ตอนแรกผมคิดว่าคุณเอลีทต้องเป็นคนดุมากแน่ๆ แต่ที่จริงก็ไม่ได้ดุมากขนาดนั้น เพียงแค่กฎก็คือกฎ มีความเคร่งครัดในแบบฉบับของตัวเอง แล้วก็ดูเป็นคนที่มีโลกส่วนตัวสูงเท่านั้นเอง
เมื่อคุณเอลีทเดินลับสายตาไปแล้ว ผมกับอักษรก็กลับมาทำงานในสภานักเรียนต่อ
“พี่เพลิงว่าวันวาเลนไทน์จะครึกครื้นไหมคะ”
“เอ๊ะ?”
“ถ้าครึกครื้นก็คงดีนะคะ กิจกรรมที่เราจัดจะได้สนุกไปด้วย”
อักษรยิ้มแฉ่ง เธอคงอยากหาเรื่องคุยเพื่อไม่ให้บรรยากาศเงียบเหงาเกินไประหว่างทำงานละมั้ง เธอยังเหมือนครั้งแรกที่ผมได้เจอ ตอนนั้นอักษรก็เข้ามาคุยกับผมก่อนโดยที่ไม่กลัวผมสักนิด ไม่รู้ว่าเพราะมองเห็นเลือนรางหรือเพราะไม่กลัวจริงๆ แต่ไม่ว่าจะเหตุผลไหน ผมก็ดีใจทั้งนั้นที่มีคนเข้ามาคุยด้วย
“นั่นสินะ” ผมอยากจะตอบกลับให้มากกว่านี้แต่ผมเป็นคนพูดไม่ค่อยเก่ง เลยได้แต่บอกไปแค่นั้น
“แล้วพี่เพลิงว่าใครจะได้ของขวัญจากสาวๆ มากสุดเหรอคะ”
“ครูไทระ” ผมตอบทันควัน ก็ผมนับถือครูไทระมากและคิดว่าคงมีคนอื่นที่นับถือครูเขาเหมือนกัน และหลายคนก็คงอยากให้ของขวัญครูไทระ
พอนึกถึงครูไทระแล้ว ผมก็นึกถึงอีกสองคนที่มักเจอบ่อยๆ
“พี่แม็กกับครูจิณณ์ก็ด้วยนะ” ผมพูดต่อ “มีเสน่ห์ทั้งคู่เลย ต้องป๊อปมากแน่ๆ”
ได้ยินคำตอบเช่นนั้น ผมก็ได้ยินอักษรส่งเสียงว้าวเบาๆ
“ก็จริงนะคะ” อักษรพยักหน้าเห็นด้วย “แล้วพี่เพลิงล่ะคะ อยากได้ของขวัญจากใครบ้างหรือเปล่า”
“...”
ของขวัญเหรอ...ผมไม่เคยได้และไม่เคยคิดว่าจะได้รับจากใคร ยิ่งเป็นของขวัญวาเลนไทน์แล้วยิ่งไม่มีทางที่จะได้รับ เพราะด้วยผิวเผือกที่แปลกแยกและดวงตาสีแดงก่ำ ทำให้หลายคนเกรงกลัวผม เมื่อตอนเด็กๆ มีเพื่อนบางคนหาว่าผมเป็นปีศาจบ้าง เป็นผีดูดเลือดบ้าง ถึงตอนนั้นจะยังเด็ก แต่เหตุการณ์นั้นมันก็ฝังใจผมมาจนกระทั่งได้เข้ามาเรียนที่ควิ้นท์และได้เจอกับครูไทระ ความฝังใจจึงค่อยๆ มลายหายไป...
ไม่ได้สิ...ผมไม่อยากกลับไปคิดถึงเรื่องในอดีตอีกแล้ว ตอนนี้ผมสามารถยอมรับตัวเองและอยู่อย่างมีความสุขได้
ผมส่ายหน้าเบาๆ เพื่อไล่ความคิดฟุ้งซ่านออกจากหัว
“ผมคงไม่ได้จากใครหรอก” ผมหันไปตอบคำถามของอักษร “ว่าแต่ษรเถอะ จะให้ของขวัญใครไหม”
พอฟังคำถามของผมจบ อักษรก็ชะงักมือที่เขียนงานอยู่แล้วเอามือขึ้นมาแตะคางตัวเองราวกับกำลังครุ่นคิด “นั่นสิคะ ษรไม่มีคนที่อยากให้แบบจริงจังด้วยสิ”
“ไม่มีเหรอ”
“ค่ะ”
เฮ้อ...ค่อยยังชั่ว...
เอ๊ะ? เดี๋ยวนะ...ทำไมผมต้องโล่งใจด้วย?
“แต่ษรก็อยากสนุกกับวันวาเลนไทน์เหมือนกันแฮะ” อักษรพูดต่อก่อนจะหันขวับมาหาจนผมแทบผงะ “งั้นเอาให้พี่เพลิงแล้วกันค่ะ”
“เอ๊ะ?”
“ให้ขอบคุณที่ช่วยกันดูแลสภานักเรียนไงคะ”
“...ของขวัญตามมารยาทเหรอ”
“ใช่ค่ะ”
แล้วอักษรก็ยิ้มแฉ่งอีกรอบ ผมควรดีใจสินะที่รุ่นน้องอยากให้ของขวัญตอบแทนที่เหนื่อยยากทำงานมาด้วยกัน แต่ทำไมผมกลับรู้สึกหน่วงๆ ชอบกล เหมือนอยากได้แต่ก็ไม่อยากได้
ไม่เข้าใจเลย...
“อ๋อ! จริงสิ!” อยู่ๆ อักษรก็ร้องขึ้นพร้อมกับลุกพรวด “ษรนัดกับครูฝ่ายดูแลสถานที่ไว้ ว่าจะไปคุยรายละเอียดที่จัดกิจกรรม พี่เพลิงไปกับษรได้ไหมคะ”
“ได้สิ”
“ขอบคุณนะคะ”
ยิ้มอีกแล้ว...
ผมว่ารอยยิ้มของอักษรเป็นอาวุธสังหารผมได้เลยนะ เห็นทีไรผมจำต้องยอมศิโรราบให้ทุกทีสิ หรือไม่ก็...ผมอาจจะเห็นรอยยิ้มของอักษรซ้อนทับกับรอยยิ้มของครูไทระก็ได้ สองคนนี้มีรอยยิ้มที่สดใสเหมือนกัน
“ถ้างั้นไปกันเถอะค่ะ”
“อืม”
ผมรับคำสั้นๆ แล้วก็เก็บข้าวของใส่กระเป๋านักเรียน คิดว่าหลังจากไปคุยเรื่องสถานที่แล้วคงกลับหอพักเลย แล้ววันนี้คงไม่ได้เข้าชมรมอีก ส่งไลน์ไปบอกฮันนาหน่อยดีกว่า
ผมหยิบมือถือขึ้นมาแล้วกดส่งข้อความไปในแชทกลุ่มชื่อว่า ‘สภาของเราน่าอยู่’ ชื่อห้องแชทน่ารักดีไหมละครับ ใช้เวลาไม่มากนักก็สื่อสารกับฮันนาเข้าใจ น้องเขายังต้องอยู่ส่งงานอีก งั้นผมคงต้องไปดูสถานที่กับอักษรแค่สองคนก่อน
พลั่ก!
เดินออกมาจากอาคารเรียนได้ไม่เท่าไหร่ ผมก็ได้ยินเสียงเหมือนใครเดินสะดุดอะไรสักอย่าง แล้วคนสะดุดก็ไม่ใช่ใครแต่เป็นอักษรนั่นแหละ เธอเดินสะดุดรากไม้จนหน้าเกือบทิ่มพื้น โชคดีที่ผมคว้าคอเสื้อไว้ทัน
แต่ช่างดูเป็นภาพที่เหมือนผมกำลังหิ้วเธอเป็นกระเป๋าจังแฮะ...
ผมเลยรีบวางอักษรลง
“ไม่เป็นไรนะ” ผมถามด้วยความเป็นห่วง
อักษรยังคงส่งยิ้มมาให้เหมือนเดิม “ไม่เป็นไรค่ะ มองไม่ค่อยเห็นเลยเดินลำบากนิดหนึ่งน่ะค่ะ”
“...”
“ไปกันต่อเถอะค่ะ”
“...”
“พี่เพลิง?”
ผมมองอักษรแล้วชั่งใจอยู่แป๊บหนึ่งก่อนจะยื่นมือออกไปตรงหน้ารุ่นน้อง โดยยื่นไปในระยะที่อักษรน่าจะมองออกว่าผมกำลังทำอะไร ก่อนจะพูดต่อ “ส่งมือมาให้ผมหน่อยได้ไหม”
อักษรคล้ายจะงงงวยอยู่ไม่น้อยแต่ก็ยอมส่งมือมาแต่โดยดี เธอไม่รู้ว่าจะวางมือลงบนฝ่ามือของผมดีไหม ผมเลยเป็นฝ่ายเอื้อมไปจับมือของเธอได้เบาๆ
“ผมขอจับมือไว้แล้วเดินไปด้วยกันนะ จะได้ไม่สะดุดอีก” แม้ว่าอักษรจะมองเห็นไม่เห็น แต่ผมรู้ว่าตอนนี้เธอต้องกำลังพยายามจ้องเขม็งมาที่ผมอยู่แน่ๆ “อนุญาตไหม?”
“ถึงไม่อนุญาตก็จับไปแล้วนี่คะ”
“เอ่อ...”
กรรม! ไปต่อไม่ถูกเลย!
ผมนิ่งเงียบไปหลายวินาทีเหมือนกัน จนกระทั่งได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักของอีกฝ่าย
“คิกๆ ษรล้อเล่นค่ะ” หัวเราะเสร็จ อักษรก็ส่งยิ้มอ่อนโยนมาให้ “ขอบคุณนะคะ”
“อะ...อือ”
แปลกจัง แค่เธอยิ้มตามปกติแต่ผมกลับรู้สึกว่าน่ารักจัง
ผมเดินนำหน้าเล็กน้อยเพื่อทำหน้าที่เหมือนเป็นเข็มทิศให้อักษร และยังคงจับมือของเธอไว้ ระหว่างที่เดินกันไป ผมก็ได้ยินอักษรหัวเราะอีก
“มีอะไรเหรอ” ผมกังวลว่าตัวเองจะทำหน้าที่บกพร่องหรือเปล่าเลยหยุดเดินแล้วหันไปถาม สิ่งแรกที่ปะทะสายตาคือรอยยิ้มสดใสของอีกฝ่าย
อักษรพยายามกลั้นขำแล้วตอบกลับมา “แค่นึกถึงเมื่อก่อนน่ะค่ะ”
“...”
“ตอนเจอกันครั้งแรกพี่เพลิงเงียบมาก เลยไม่ค่อยกล้าเข้าไปทักเท่าไหร่” สีหน้าของอักษรแสดงออกชัดเจนว่ากำลังรำลึกความหลังอยู่ “แต่ดีแล้วที่วันนั้นทักไป ตอนแรกษรคิดว่าพี่โกรธซะอีก”
“ทำไมผมต้องโกรธด้วยล่ะ”
“ก็อยู่ดีๆ มีใครไม่รู้ไปทักนี่คะ”
“ไม่ได้โกรธสักหน่อย แค่เขินน่ะ”
“เอ๊ะ”
“อืม”
แล้วบทสนทนาก็เงียบหายไป หายไป...พร้อมกับช่วงเวลาที่ผมเจอกับอักษรครั้งแรกก็ปรากฎขึ้นมาในหัว
.
.
.
ย้อนเวลากลับไปวันแรกที่ได้เข้าชมรมสภานักเรียน
หลังจากที่ได้รับเลือกเป็นประธานนักเรียนรุ่นที่สี่ ผมก็ต้องมาที่ห้องสภานักเรียนเพื่อทำความรู้จักกับสมาชิก ซึ่งสารภาพตามตรงว่าผมประหม่ามาก แล้วตอนนั้นคุณเอลีทที่เพิ่งเข้ามาคอยดูแลชมรมเป็นการชั่วคราวก็ติดงานพอดี เลยต้องปล่อยให้พวกเราทำความรู้จักกันเอง
ตอนนั้นไม่ค่อยมีใครเข้ามาทักผมเท่าไหร่ นอกจากสาเหตุทางด้านกายภาพแล้ว การที่ผมเป็นคนเงียบๆ ก็คงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้คนอื่นเข้าหาลำบาก และในตอนนั้นเอง...
“สวัสดีค่ะ” น้ำเสียงน่ารักดังขึ้น พอเงยหน้ามองก็เห็นนักเรียนหญิงสองคนยืนอยู่ ดูจากสีของโบที่ติดอยู่ข้างเสื้อแล้วคาดว่าเป็นนักเรียนชั้นมัธยมปีที่สี่และห้า แล้วคนที่ส่งเสียงทักทายคือคนที่อยู่ม.ห้า “หนูชื่ออักษรนะ เรียกษรเฉยๆ ก็ได้ค่ะ ส่วนนี่ฮันนา”
แล้วความเงียบก็เข้ามาครอบคลุม ผมไม่รู้จะตอบกลับยังไงดี จนในที่สุดอีกฝ่ายก็พูดต่ออย่างประหม่าเล็กน้อย
“เอ่อ...พี่ชื่อพี่เพลิงใช่ไหมคะ”
“...” ผมอยากจะตอบกลับทันทีแต่ความประหม่าทำให้เสียงจุกอยู่ในลำคอ กว่าจะเปล่งเสียงออกมาได้ก็เงียบไปหลายวินาทีเหมือนกัน “เอ่อ...ครับ”
พอได้ยินผมตอบกลับ อีกฝ่ายก็คลี่ยิ้มกว้างพลางถอนหายใจโล่งอก “เฮ้อ นึกว่าจะทำให้รู้สึกไม่ดีซะแล้วค่ะ”
“เอ๊ะ?”
“ก็เล่นนิ่งไปเลยนี่นา”
“...ขอโทษครับ”
“ไม่ให้อภัยหรอกค่ะ”
“...”
“ถ้าไม่ยอมเป็นเพื่อนกัน”
“เอ่อ...”
“เป็นเพื่อนกันนะคะ”
“ครับ...” ผมขานรับแล้วเริ่มรู้สึกร้อนที่ใบหน้า สารภาพตามตรงว่าตั้งแต่เกิดมาไม่ค่อยได้คุยกับผู้หญิงเท่าไหร่ เพราะส่วนใหญ่ผมมักจะหลบเลี่ยงพวกเธอ แต่ตอนนี้มันหลบไม่ได้เลยต้องเลยตามเลย นี่เป็นครั้งแรกที่ผมมีเพื่อนผู้หญิง “ยินดีที่ได้รู้จักครับ”
“เช่นกันค่ะ”
อักษรยิ้มกว้างแถมยิ้มน่ารักกว่าเดิมด้วย ก่อนที่เธอจะค่อยๆ หุบยิ้มแล้วจ้องผมเขม็ง ใบหน้าของเธอเคลื่อนเข้ามาใกล้กว่าเดิม
“ตาพี่เพลิงเป็นสีแดงเหรอคะ” เธอถามและยังจับจ้องมา “มันเหมือนกับ...”
“...”
พอได้ยินอักษรพูดแล้วเว้นช่วงไว้แบบนั้น คำพูดมากมายก็ประดังเข้ามาในสมองอย่างห้ามไม่ได้
‘เหมือนปีศาจ!’
‘ตาอย่างกับเลือด!’
‘น่ากลัวชะมัด!’
เป็นคำพูดในอดีตที่ผมเคยได้รับ วินาทีนี้ผมได้แต่กำหมัดแน่นคอยเตรียมใจว่าอักษรจะพูดว่าอะไร และผมต้องคอยปลอบตัวเองว่าไม่เป็นไร ใช่ ผมต้องไม่เป็นไร
ไม่เป็นไร...
‘ผีดูดเลือด!’
‘ไปไกลๆ เลยนะ!’
อีกแล้ว คำเหล่านั้นมันยังผุดขึ้นมาไม่หยุดหย่อน ผมจะไม่เป็นไรจริงๆ ใช่ไหม...
“เหมือนกับกระต่ายเลยค่ะ”
“เอ๊ะ?”
“ถึงษรจะมองไม่ค่อยชัด แต่ก็พอรู้สีผมกับสีตาของพี่เพลิง ทำให้นึกถึงกระต่ายเลยค่ะ”
“...”
“ดูนุ่มนิ่มๆ น่ารักดีค่ะ”
รู้สึกเหมือนกำลังโดนชมว่าน่ารักเลย ถึงที่จริงอักษรอาจจะหมายถึงกระต่ายก็ได้ กระต่ายเหรอ...โดนเปรียบเทียบแบบนี้ก็รู้สึกดีและจั๊กจี้หัวใจจังแฮะ
จั๊กจี้หัวใจจนใบหน้าร้อนวูบวาบยังก็ไม่รู้
แล้วก็...ดีใจจัง ที่อักษรไม่กลัวผม...
.
.
.
กลับมาปัจจุบัน
“ก็อย่างที่บอก ผมแค่เขิน” ผมย้ำอีกรอบพร้อมกับรู้สึกว่าจะเขินอีกแล้ว เลยเปลี่ยนเรื่อง “ผมว่าเรารีบไปดูสถานที่กันเถอะ เดี๋ยวครูจะรอนาน”
ส่วนอักษรก็ขานรับแล้วเดินตามมา แต่เธอจะรู้ไหมนะว่าผมจับมือเธอแน่นกว่าเดิม
...ถึงครูไทระ…
ครูบอกว่าให้มองดูรอบๆ ตัวใช่ไหมครับ ผมได้ลองมองแล้วนะ
แล้วก็เห็นว่ามีเรื่องราวของหลายคนที่ผมสามารถนำมาเขียนเรียงความได้
นอกจาก ‘ฮ่องเต้’ ‘คุณเอลีท’ และอีกหลายคนที่ผมนำมาเขียนได้
จะมี ‘อักษร’ อีกคนที่ผมอยากเขียนถึง ความสัมพันธ์ของพวกเราดีขึ้น สนิทกันมากขึ้น
แต่ครูครับ อาการฟูฟ่องราวกับหัวใจล่องลอยเวลาอยู่กับอักษรคืออะไรเหรอครับ
ผมเขียนมาถามครูในเรียงความได้ไหม ผมไม่เข้าใจจริงๆ ครับ...- รูปนับจำนวนตัวอักษรครับ:
QUEST III
ก้าวสู่โลกความเป็นจริง
- ไปร่วมกิจกรรม Quaint Meeting มาแล้วครับ แถมโดนหมาป่าจ้องเล่นงานตลอด... ทำไม ทำไม ทำไมมม เกรี้ยวกราด 555+
2 STAR CHALLENGE STAMP
ตราประทับระดับสูงที่มีมูลค่า +80 Grade Exp. มอบให้สำหรับผู้ที่เคลียร์ภารกิจใน Mission Challenge ได้ 2 ภารกิจจากทั้งหมด
ของขวัญปีใหม่แด่นักเรียนสุดขยัน
กล่องของขวัญที่มอบให้กับผู้ที่ทำ Challenge 04 : ความสัมพันธ์ที่เพิ่มขึ้น ได้ครบตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ เมื่อเปิดออกจะได้รับไอเทมมากมาย ดังนี้
1. เลือกรับ "มาสคอต" จำนวน 1 ตัว จาก
2. เลือกรับ "ชุดตัวละคร" จำนวน 1 ชุด จาก
อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับมาสคอตได้โดย "คลิ๊กที่นี่"
อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับชุดตัวละครได้โดย "คลิ๊กที่นี่"
FIREWORK
ภาพพื้นหลังสำหรับ Sprite ตัวละครและมาสคอตลายแสงพลุแห่งการเริ่มต้น
BRONZE HONOR DEGREE TROPHY
ถ้วยเกียรติยศทองแดง มอบให้แด่ผู้ที่สามารถเคลียร์ภารกิจใน Mission Challenge ได้ทันกำหนดเวลา
+2 MISSION COMPLETE STAMP
ตราประทับที่มอบให้สำหรับผู้ที่เคลียร์ภารกิจใน Mission Challenge ได้ เพื่อเป็นที่ระลึกและจดจำว่าได้เคลียร์ภารกิจใดไปบ้าง
กล่องแห่งความขยัน
กล่องของขวัญที่ทางโรงเรียนมอบให้กับผู้ที่เคลียร์ภารกิจใน Mission Challenge ได้เป็นคนแรก เมื่อเปิดกล่องแล้วสามารถเลือกรับสกิลบัฟจำนวน 1 สกิลได้ดังนี้...
หรือสามารถใช้ STAR PIECE จำนวน 20 ชิ้นแลกการใช้งานสกิลบัฟ 1 สกิลจาก...
อ่านข้อมูลสกิลบัฟได้ที่ "คลิ๊กที่นี่"
** ตรวจพบคำผิด **
“อ๋อ ได้สิ” ผมบอกแล้วอักษรก็นั่งลงข้างๆ ก่อนที่เธอจะเล่าละเอียดของกิจกรรมที่จะจัดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ ผมนั่งฟังอยู่สักพักก็สะดุดกับกิจกรรมเสริมอย่างหนึ่งที่เธอเสนอไอเดียมา ซึ่งเป็นกิจกรรมที่เพิ่มขึ้นมาจากกิจกรรมหลัก “หืม? กิจกรรมสารภาพความในใจเหรอ”
Signature ------------------------------------------------>
初めまして、どうぞよろしくお願いします。
- peemung
Phee
อาจารย์เกษตรกรรม
3537
+675 M 108 K 756
PASSPORT
:
(3060/20000)
:
Re: Challenge 04 : ความสัมพันธ์ที่เพิ่มขึ้น
1 STAR CHALLENGE STAMP
ตราประทับระดับทั่วไปที่มีมูลค่า +50 Grade Exp. มอบให้สำหรับผู้ที่เคลียร์ภารกิจใน Mission Challenge ได้ 1 ภารกิจจากทั้งหมด
+1 MISSION COMPLETE STAMP
ตราประทับที่มอบให้สำหรับผู้ที่เคลียร์ภารกิจใน Mission Challenge ได้ เพื่อเป็นที่ระลึกและจดจำว่าได้เคลียร์ภารกิจใดไปบ้าง
- dedog
Jinn Watinpol
อาจารย์ศิลปะ
5262
+1,074 M 191 K 627
PASSPORT
:
(9911/28000)
:
Re: Challenge 04 : ความสัมพันธ์ที่เพิ่มขึ้น
1 STAR CHALLENGE STAMP
ตราประทับระดับทั่วไปที่มีมูลค่า +50 Grade Exp. มอบให้สำหรับผู้ที่เคลียร์ภารกิจใน Mission Challenge ได้ 1 ภารกิจจากทั้งหมด
+1 MISSION COMPLETE STAMP
ตราประทับที่มอบให้สำหรับผู้ที่เคลียร์ภารกิจใน Mission Challenge ได้ เพื่อเป็นที่ระลึกและจดจำว่าได้เคลียร์ภารกิจใดไปบ้าง
|
|