Lesson 40 : ปัจฉิมนิเทศ
5 posters
- Nearmoki-2b
Narin
อดีตผู้อำนวยการโรงเรียน
0
+65 M 413 K 676
Lesson 40 : ปัจฉิมนิเทศ
Sat 30 Apr 2016, 19:03
สวัสดีครับ
ตามไทม์ไลน์เนื้อเรื่องแล้วภารกิจนี้จะเป็นการย้อนเวลากลับไปจาก
ช่วงเวลาปัจจุบันสักเล็กน้อยนะครับ และเนื้อเรื่องในคราวนี้จะเป็น
เรื่องราววันที่ ครูไอน์ และ ครูจิณณ์ พึ่งเรียนจบหมาดๆ รวมทั้ง
เป็นช่วงเวลาที่ครูไอน์ยังเป็นประธานนักเรียน อยากรู้แล้วละซี่
ว่าภารกิจย้อนเวลาตัวนี่เกี่ยวกับอะไร เราตามไปดูกันเล๊ย?
ภารกิจนี้เป็นสิ่งที่ผมยินดีเป็นอย่างมาก เนื่องจากในที่สุดโรงเรียน
ของเราก็ได้ประสบความสำเร็จและดำเนินเรื่องมาถึงวันสำเร็จการ
ศึกษาของนักเรียนรุ่นแรก หรือก็คือ "วันปัจฉิมนิเทศครั้งแรก"
ของโรงเรียนควิ้นท์นั่นเอง
ตารางงานวันจบการศึกษานักเรียนมัธยมศึกษาปีที่หกรุ่นที่หนึ่ง
09.00 - 12.00 พิธีจบการศึกษาของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา
ปีที่หก ณ.หอประชุมภายในตึก Convention Hall โดยได้
รับเกียรติจากผู้อำนวยการเป็นคนมอบใบจบการศึกษาให้นักเรียน
เป็นรายบุคคล ผู้อำนวยการทำการกล่าวอำลาและอวยพรนักเรียน
พร้อมทั้งการปราศรัยจากประธานนักเรียน อิสรา พัฒนาศักดิ์
12.00 - 18.00 นักเรียนสามารถร่วมแสดงความยินดีกับ
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่หก ผู้ปกครองสามารถพานักเรียน
ไปเฉลิมฉลองได้ทั้งในและนอกโรงเรียน
18.00 - 22.00 งานเลี้ยงฉลองพิธีจบการศึกษานักเรียน
มัธยมศึกษาปีที่หก ณ.Convention Hall พิธีเริ่มด้วย
การปราศรัยจากตัวแทนนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่หก
Maxwell Sonner เวลา 18.30 - 19.00 น.
ณ.หอประชุม หลังจากการปราศรัยจบลงแล้วทางโรงเรียน
ได้จัดเตรียมอาหารค่ำไว้ให้แขกร่วมงานทุกคนภายใน
ลานประชุมตึก Convention Hall ผู้ร่วมงานสามารถ
อิ่มหนำสำราญและดื่มด่ำกับบรรยากาศงานเลี้ยงได้
ตลอดทั้งคืน
✎ ผู้ที่ทำภารกิจได้เพอร์เฟ็คสูงกว่ามาตรฐานมาก (100%)
✎ ผู้ที่ทำภารกิจได้ยอดเยี่ยมกว่ามาตรฐาน (80%+)
✎ ผู้ที่ทำภารกิจได้โดดเด่นกว่ามาตรฐาน (75%+)
✎ C. ผู้ที่ทำภารกิจได้ตามมาตรฐานทั่วไป (50%+)
✎ D. ผู้ที่ทำภารกิจได้ต่ำกว่ามาตรฐานควรแก่การพัฒนา (35%+)
❤ ของรางวัลพิเศษจากผู้อำนวยการ
.....ถ้วยรางวัลแต่ละชนิดจะถูกมอบให้กับ นักเรียน-อาจารย์ ที่มีผลงานสร้างสรรค์
เกินขอบเขตของจินตนาการ โดยระดับถ้วยเกียรติยศและจำนวนที่จะมอบให้นั้นขึ้น
อยู่กับผู้อำนวยการโรงเรียนเท่านั้น แม้ผลงานที่เพอร์เฟ็คแต่ถ้าขาดความสร้างสรรค์
ก็จะไม่ได้รับถ้วยรางวัลเกียรติยศก็เป็นได้ ในทางกลับกันหากผลงานไม่ได้สวยจน
น่าตะลึง แต่ถ้าหากมีความสร้างสรรค์ผู้อำนวยการก็สามารถมอบถ้วยเกียรติยศให้ได้...
★ Spectacular Award
.....รางวัล Spectacular จะถูกมอบให้สำหรับผู้ที่สร้างสรรค์ผลงานได้ประทับใจ
สปอนเซอร์จากบริษัท NOBLEMAN (EST.1990) เป็นอย่างมาก โดยผลงานนั้น
จะต้องมีเสน่ห์ในรูปแบบต่างๆที่ดึงดูดสายตาและจิตใจของสปอนเซอร์ ซึ่งไม่ได้ขึ้น
อยู่กับคุณภาพผลงานแต่อย่างใด แต่จะขึ้นอยู่กับความคิดสร้างสรรค์, จินตนาการ,
เสน่ห์ของผลงาน, ความกลมกล่อมของภาพรวม เป็นต้น ซึ่งผู้ที่ได้รับรางวัลนี้จะได้
รับการประกาศเกียรติคุณ ณ ความคิดเห็นที่ลงผลงาน และใต้ชื่อกระทู้ภารกิจในหน้า
กระดานภารกิจ พร้อมทั้งของรางวัลดังนี้...
** อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับรางวัลนี้ได้โดย "คลิ๊กที่นี่" **
❤ รางวัลโหวตขวัญใจมหาชน
ตามไทม์ไลน์เนื้อเรื่องแล้วภารกิจนี้จะเป็นการย้อนเวลากลับไปจาก
ช่วงเวลาปัจจุบันสักเล็กน้อยนะครับ และเนื้อเรื่องในคราวนี้จะเป็น
เรื่องราววันที่ ครูไอน์ และ ครูจิณณ์ พึ่งเรียนจบหมาดๆ รวมทั้ง
เป็นช่วงเวลาที่ครูไอน์ยังเป็นประธานนักเรียน อยากรู้แล้วละซี่
ว่าภารกิจย้อนเวลาตัวนี่เกี่ยวกับอะไร เราตามไปดูกันเล๊ย?
ภารกิจนี้เป็นสิ่งที่ผมยินดีเป็นอย่างมาก เนื่องจากในที่สุดโรงเรียน
ของเราก็ได้ประสบความสำเร็จและดำเนินเรื่องมาถึงวันสำเร็จการ
ศึกษาของนักเรียนรุ่นแรก หรือก็คือ "วันปัจฉิมนิเทศครั้งแรก"
ของโรงเรียนควิ้นท์นั่นเอง
ตารางงานวันจบการศึกษานักเรียนมัธยมศึกษาปีที่หกรุ่นที่หนึ่ง
09.00 - 12.00 พิธีจบการศึกษาของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา
ปีที่หก ณ.หอประชุมภายในตึก Convention Hall โดยได้
รับเกียรติจากผู้อำนวยการเป็นคนมอบใบจบการศึกษาให้นักเรียน
เป็นรายบุคคล ผู้อำนวยการทำการกล่าวอำลาและอวยพรนักเรียน
พร้อมทั้งการปราศรัยจากประธานนักเรียน อิสรา พัฒนาศักดิ์
12.00 - 18.00 นักเรียนสามารถร่วมแสดงความยินดีกับ
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่หก ผู้ปกครองสามารถพานักเรียน
ไปเฉลิมฉลองได้ทั้งในและนอกโรงเรียน
18.00 - 22.00 งานเลี้ยงฉลองพิธีจบการศึกษานักเรียน
มัธยมศึกษาปีที่หก ณ.Convention Hall พิธีเริ่มด้วย
การปราศรัยจากตัวแทนนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่หก
Maxwell Sonner เวลา 18.30 - 19.00 น.
ณ.หอประชุม หลังจากการปราศรัยจบลงแล้วทางโรงเรียน
ได้จัดเตรียมอาหารค่ำไว้ให้แขกร่วมงานทุกคนภายใน
ลานประชุมตึก Convention Hall ผู้ร่วมงานสามารถ
อิ่มหนำสำราญและดื่มด่ำกับบรรยากาศงานเลี้ยงได้
ตลอดทั้งคืน
ระยะเวลาภารกิจ พิมพ์ว่า:SUN 01/05/16 ; 00.00 TH - SUN 15/05/16 ; 23.59 TH
รายละเอียดภารกิจ พิมพ์ว่า:1.เขียนบรรยายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในวันปัจฉิมนิเทศ
โดยมีเงื่อนไขการบรรยายดังต่อไปนี้
- เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในวันปัจฉิมนิเนศ
(สามารถเลือกช่วงเวลาที่ประทับใจเป็นพิเศษขึ้นมาเขียนได้
ไม่จำเป็นต้องเขียนถึงเหตุการณ์ตลอดทั้งวัน)
- กรณีของนักเรียน ม.1 - ม.5 ให้เขียนเหตุการณ์
ระหว่างแสดงความยินดีกับรุ่นพี่ ม.6 อย่างน้อย 1 คน
(นักเรียนม.6 ได้แก่ ไอน์ จิณณ์ แม็กเวล ริแอร์)
2.วาดรูปประกอบนิยายโดยมีรูปนักเรียน ม.6
ที่จบการศึกษาร่วมด้วยอย่างน้อย 1 คน
(ไม่จำกัดจำนวนรูป)
กฏการให้สแตมป์ พิมพ์ว่า:วาดรูป 50%/งานเขียน 50%
เนื้อหาวัดจากการตอบโจทย์ภารกิจครบถ้วนและอารมณ์ร่วม
ที่ได้รับจากการอ่านว่าสามารถทำให้อินไปกับเนื้อหาได้มากน้อย
เพียงใด ภาพประกอบวัดตามสแตนด์ดาร์ทฝีมือรายบุคคล
✎ ผู้ที่ทำภารกิจได้เพอร์เฟ็คสูงกว่ามาตรฐานมาก (100%)
S - CLASS STAMP ตราประทับระดับสูงสุดในหมวดภารกิจทั่วไป มีลักษณะเป็นดาวสีนิลสุดแสนจะคลาสสิก มีมูลค่า +100 Grade Exp. จะได้รับเมื่อปฎิบัติภารกิจได้เพอร์เฟ็คเป็นที่น่าประทับใจแก่ผู้อำนวยการโรงเรียน |
+1,500,000 Spirit Point ไอเทมเพิ่มแต้มสะสม Spirit Point ตามปริมาณที่กำหนด สามารถนำไปใช้ในการแลกเปลี่ยนเป็น CHIPS ได้ในภายหลัง |
✎ ผู้ที่ทำภารกิจได้ยอดเยี่ยมกว่ามาตรฐาน (80%+)
A - CLASS STAMP ตราประทับระดับสูงในหมวดภารกิจทั่วไป มีลักษณะเป็นดาวสีทับทิม สื่อถึงความหรูหรา มีมูลค่า +80 Grade Exp. จะได้รับเมื่อปฎิบัติภารกิจได้ยอดเยี่ยมเป็นที่น่าประทับใจแก่ผู้อำนวยการโรงเรียน |
+1,250,000 Spirit Point ไอเทมเพิ่มแต้มสะสม Spirit Point ตามปริมาณที่กำหนด สามารถนำไปใช้ในการแลกเปลี่ยนเป็น CHIPS ได้ในภายหลัง |
✎ ผู้ที่ทำภารกิจได้โดดเด่นกว่ามาตรฐาน (75%+)
B - CLASS STAMP ตราประทับระดับสูงในหมวดภารกิจทั่วไป มีลักษณะเป็นดาวสีไพลิน สื่อถึงความลึกล้ำ มีมูลค่า +75 Grade Exp. จะได้รับเมื่อปฎิบัติภารกิจได้ดีมากเป็นที่น่าพึงพอใจแก่ผู้อำนวยการโรงเรียน |
+1,000,000 Spirit Point ไอเทมเพิ่มแต้มสะสม Spirit Point ตามปริมาณที่กำหนด สามารถนำไปใช้ในการแลกเปลี่ยนเป็น CHIPS ได้ในภายหลัง |
✎ C. ผู้ที่ทำภารกิจได้ตามมาตรฐานทั่วไป (50%+)
C - CLASS STAMP ตราประทับระดับกลางในหมวดภารกิจทั่วไป มีลักษณะเป็นดาวสีมรกต สื่อถึงความมั่นคง มีมูลค่า +50 Grade Exp. จะได้รับเมื่อปฎิบัติภารกิจได้ปานกลางเป็นที่น่าพอใจแก่ผู้อำนวยการโรงเรียน |
+900,000 Spirit Point ไอเทมเพิ่มแต้มสะสม Spirit Point ตามปริมาณที่กำหนด สามารถนำไปใช้ในการแลกเปลี่ยนเป็น CHIPS ได้ในภายหลัง |
✎ D. ผู้ที่ทำภารกิจได้ต่ำกว่ามาตรฐานควรแก่การพัฒนา (35%+)
D - CLASS STAMP ตราประทับระดับต่ำในหมวดภารกิจทั่วไป มีลักษณะเป็นดาวสีแอเมทิสต์ สื่อถึงความเรียบง่าย มีมูลค่า +35 Grade Exp. จะได้รับเมื่อปฎิบัติภารกิจผ่านเกณฑ์ตามที่ได้รับมอบหมายไว้ |
+800,000 Spirit Point ไอเทมเพิ่มแต้มสะสม Spirit Point ตามปริมาณที่กำหนด สามารถนำไปใช้ในการแลกเปลี่ยนเป็น CHIPS ได้ในภายหลัง |
❤ ของรางวัลพิเศษจากผู้อำนวยการ
.....ถ้วยรางวัลแต่ละชนิดจะถูกมอบให้กับ นักเรียน-อาจารย์ ที่มีผลงานสร้างสรรค์
เกินขอบเขตของจินตนาการ โดยระดับถ้วยเกียรติยศและจำนวนที่จะมอบให้นั้นขึ้น
อยู่กับผู้อำนวยการโรงเรียนเท่านั้น แม้ผลงานที่เพอร์เฟ็คแต่ถ้าขาดความสร้างสรรค์
ก็จะไม่ได้รับถ้วยรางวัลเกียรติยศก็เป็นได้ ในทางกลับกันหากผลงานไม่ได้สวยจน
น่าตะลึง แต่ถ้าหากมีความสร้างสรรค์ผู้อำนวยการก็สามารถมอบถ้วยเกียรติยศให้ได้...
GOLDEN HONOR DEGREE TROPHY ถ้วยเกียรติยศทองคำแท้ มอบให้แด่ผู้ที่สามารถปฎิบัติภารกิจหรือร่วมกิจกรรมต่างๆที่ทางโรงเรียนจัดขึ้นได้น่าประทับใจผู้อำนวยการเป็นอย่างมาก |
SILVER HONOR DEGREE TROPHY ถ้วยเกียรติยศเงินแท้ มอบให้แด่ผู้ที่สามารถปฎิบัติภารกิจหรือร่วมกิจกรรมต่างๆที่ทางโรงเรียนจัดขึ้นได้น่าประทับใจผู้อำนวยการ |
BRONZE HONOR DEGREE TROPHY ถ้วยเกียรติยศทองแดง มอบให้แด่ผู้ที่สามารถปฎิบัติภารกิจหรือร่วมกิจกรรมต่างๆที่ทางโรงเรียนจัดขึ้นได้น่าดึงดูดใจผู้อำนวยการ |
★ Spectacular Award
.....รางวัล Spectacular จะถูกมอบให้สำหรับผู้ที่สร้างสรรค์ผลงานได้ประทับใจ
สปอนเซอร์จากบริษัท NOBLEMAN (EST.1990) เป็นอย่างมาก โดยผลงานนั้น
จะต้องมีเสน่ห์ในรูปแบบต่างๆที่ดึงดูดสายตาและจิตใจของสปอนเซอร์ ซึ่งไม่ได้ขึ้น
อยู่กับคุณภาพผลงานแต่อย่างใด แต่จะขึ้นอยู่กับความคิดสร้างสรรค์, จินตนาการ,
เสน่ห์ของผลงาน, ความกลมกล่อมของภาพรวม เป็นต้น ซึ่งผู้ที่ได้รับรางวัลนี้จะได้
รับการประกาศเกียรติคุณ ณ ความคิดเห็นที่ลงผลงาน และใต้ชื่อกระทู้ภารกิจในหน้า
กระดานภารกิจ พร้อมทั้งของรางวัลดังนี้...
** อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับรางวัลนี้ได้โดย "คลิ๊กที่นี่" **
+1,000,000 CHIPS เหรียญตราที่ใช้ในการชำระค่าใช้จ่ายทั้งหมดภายในโรงเรียนหรือการร่วมกิจกรรมพิเศษที่ทางบริษัท NOBLEMAN จัดขึ้น โดยสามารถใช้แต้มสะสมจาก Spirit Point ในการแลกได้ |
+30 QUAINT ORE แร่ธาตุพิเศษที่พบได้ในบริเวณรอบโรงเรียน สามารถนำไปใช้แลกเป็นไอเทมต่างๆที่โรงเรียนกำหนดเอาไว้ได้ แร่ธาตุชนิดนี้จะหาได้ยากเป็นพิเศษ ถ้าไม่ได้เดินรอบโรงเรียนบ่อยๆก็จะไม่มีทางที่จะเจอแร่ธาตุชนิดนี้ได้เลย |
❤ รางวัลโหวตขวัญใจมหาชน
GOLDEN HONOR DEGREE TROPHY ถ้วยเกียรติยศทองคำแท้ มอบให้แด่ผู้ที่สามารถปฎิบัติภารกิจหรือร่วมกิจกรรมต่างๆที่ทางโรงเรียนจัดขึ้นได้น่าประทับใจนักเรียนกับอาจารย์และบุคลากรของโรงเรียนจนได้รับการโหวตมากกว่า 6 คนขึ้นไป |
SILVER HONOR DEGREE TROPHYถ้วยเกียรติยศทองคำแท้ มอบให้แด่ผู้ที่สามารถปฎิบัติภารกิจหรือร่วมกิจกรรมต่างๆที่ทางโรงเรียนจัดขึ้นได้น่าประทับใจนักเรียนกับอาจารย์และบุคลากรของโรงเรียนจนได้รับการโหวตมากกว่า 4 คนขึ้นไป |
BRONZE HONOR DEGREE TROPHYถ้วยเกียรติยศทองคำแท้ มอบให้แด่ผู้ที่สามารถปฎิบัติภารกิจหรือร่วมกิจกรรมต่างๆที่ทางโรงเรียนจัดขึ้นได้น่าประทับใจนักเรียนกับอาจารย์และบุคลากรของโรงเรียนจนได้รับการโหวตมากกว่า 2 คนขึ้นไป |
Signature ------------------------------------------------>
- DJ. Alex Lam
Maxwell Sonner
นักการทูตโรงเรียน
0
+150 K
Re: Lesson 40 : ปัจฉิมนิเทศ
Sun 01 May 2016, 02:27
- Part 1:
- ภายในโรงเรียนเพื่อผู้พิการในนามของควิ้นท์วันนี้แตกต่าง
ไปจากปกติเล็กน้อย เพราะวันนี้คือวันสำคัญที่มีขึ้นเป็น
ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ตั้งแต่ที่ก่อตั้งโรงเรียนมาได้
เป็นเวลาหกปี ใช่แล้ว วันนี้คือ "วันปัจฉิมนิเทศ"
หรือวันประกาศจบการศึกษาซึ่งถูกจัดให้กับนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่หก 'รุ่นแรก' ของโรงเรียนเรา
ที่เก้าอี้ยาวริมทางเดินมีเด็กหนุ่มผมทองคนหนึ่งกำลัง
นั่งเหม่อมองเหล่าเด็กนักเรียนที่เดินสวนกันไปมา
บ้างก็พูดคุยถึงรุ่นพี่ที่กำลังจะจบการศึกษา บ้างก็
ดูเสียใจ บ้างก็ดูดีใจที่เรียนจบมัธยมปลายแล้ว
"เฮ้อ"
เด็กหนุ่มถอนหายใจยาวขณะที่นั่งไหล่ห่อคอตก
เพราะมัวแต่เหม่อลอยจึงทำให้ไม่สังเกตว่าเบื้องหลัง
นั้นมีเด็กหนุ่มอีกคนยืนอยู่ คนมาเยือนแตะไหล่
กว้างทำเอาร่างสูงสะดุ้งโหยง ดวงตาสีเทารีบหัน
มองเร็วไว
"ตกใจหมด มาไม่ให้สุ้มให้เสียง"
"เพราะนายเอาแต่เหม่อต่างหาก"
ผู้มาเยือนเอ่ยเสียงเรียบก่อนจะเดิมอ้อมไปล้มตัว
ลงนั่งบนเก้าอี้ยาวเคียงข้างเด็กหนุ่มผมทอง
ทันทีที่นั่งลงดวงตาสีดำสนิทก็จับจ้องริมฝีปาก
ของอีกฝ่าย ในขณะที่คู่สนทนายังคงจ้องมอง
นักเรียนที่เดินสวนผ่าน
"เราเรียนจบกันแล้วเนอะ.."
น้ำเสียงที่เอ่ยนั้นติดโทนหงอยเหงา เขาปล่อยให้
โทนเสียงไปตามที่ใจรู้สึก แม้จะรู้ดีว่าอีกฝ่ายไม่ได้ยิน
ก็ตามแต่
"แม็ก นายเวอร์อีกแล้วนะ ใช่ว่าเราจะไม่ได้เจอกัน
อีกแล้วซะหน่อย"
ถึงแม้จะไม่ได้ยินแต่ทำไมเพื่อนสนิทอย่างเขาจะไม่รู้
ว่าเพื่อนรู้สึกเช่นไร เมื่อเห็นแม็กเวลที่มักจะร่าเริงแจ่มใส
ในโหมดซึมกระทือก็อดไม่ได้ที่จะชวนคุยปลอบใจ
"อย่าพึ่งรีบเครียดดิ ไปเครียดตอนจะสอบครูนู้น"
คอที่ตกอยู่แล้วตกลงไปอีกระดับหนึ่ง ทำให้รับรู้ชัดเจน
ว่าการพยายามปลอบครั้งแรกไม่สำเร็จผล เมื่อเห็นเช่นนั้น
เด็กหนุ่มหน้าตี๋จึงพาดแขนวางบนไหล่คนตัวสูงกว่า
เขากอดคอเพื่อนไว้สบายๆก่อนจะเอ่ย
"เอาน่า การสอบเข้าครูมันคงไม่ยากขนาดนั้นหรอก
เผลอๆนายอาจจะได้เป็นที่ปรึกษาชมรมโสตด้วยซ้ำไป
ก็เป็นประธานชมรมโสตมาตั้งหลายปีแล้วนี่นะ"
"ฉันไม่แน่ใจว่าฉันอยากจะแย่งงานครูเอลิททำ..."
อดีตหัวหน้าชมรมโสตหัวเราะแห้งๆด้วยสีหน้าซีดๆ
เมื่อนึกถึงอดีตที่มีร่วมกับครูที่ปรึกษาชมรมอย่างเอลิท
"จิณณ์ นายตัดสินใจแล้วเหรอว่าอยากจะเป็นครูสอนอะไร?"
จิณณ์ยักไหล่ทีหนึ่ง ดวงตายังคงมองอยู่ที่หน้าคู่สนทนา
ตามประสาคนโลกเงียบที่จำเป็นจะต้องอ่านปากเพื่อสื่อสาร
"งั้นมั้ง แล้วนายล่ะ?"
"ยังเลย.. ฉันหัวอ่อนจะตายนายก็รู้ จะไปสอนอะไรใครได้"
"พละไงไม่ต้องใช้สมอง"
แม็กเวลหันมองเพื่อนด้วยสายตาคอดค้อนเบาๆ แต่ดูเหมือน
เพื่อนตาใสจะไม่ได้รู้ว่าคำพูดนั้นแทงข้างหลังทะลุถึงหัวใจ
"ไม่ล่ะ ไปแย่งงานครูเกรียงไกรมีหวังโดนถีบส่งบินทะลุ
หลังคาแหงๆ"
แม้จะเล่นมุกแต่ใบหน้ากลับไม่สดใสตาม จิณณ์ที่พยายาม
จะปลอบแล้วไม่ได้ผลจึงเลือกใช้กำลังเข้าสู้(?) เขาผลัก
ศีรษะคนสูงกว่าทีหนึ่งด้วยน้ำหนักที่ไม่แรงแต่ก็ไม่นุ่มนวล
"โอ๊ย เลิกซึมได้แล้วน่า ขี้เกียจปลอบแล้วนะ ไปให้แฟนสาว
ของนายปลอบเลยไป๊"
"ไม่มีแล้ว"
"ห๊ะ?"
คนฟังขมวดคิ้วสงสัย เขารู้ว่าช่วงหลังๆนี้แม็กเวลมีแฟนและ
มักใช้เวลาร่วมกับแฟนสาวที่เป็นแฟนคลับตัวยงของรายการ
เสียงตามสาย
"โดนบอกเลิกไปแล้ว"
"ตอนไหนนั่น เมื่อวานยังเห็นเดินด้วยกันอยู่เลย"
"ก่อนนายมาแป็ปนึง"
"....."
บรรยากาศผลันเงียบลงทันใด เมื่อวานยังเห็นรินชาร้อนเสิร์ฟ
กันหวานแหววทั้งๆที่อากาศสุดจะร้อน และที่ร้อนยิ่งกว่านั้น
คือสายตาคนรอบข้างที่อิจฉาคนมีคู่ แล้วเหตุใดเล่าเรื่องราว
มันถึงจบลงเร็วไวเช่นนี้
"ท ทำไมล่ะ?"
"เธอบอกว่าฉันบ้างานจนไม่สนใจเธอ ขืนคบฉันต่อไปอนาคต
ฉันก็คงเป็นสามีบ้างานที่ทิ้งภรรยาไว้ที่บ้านเพียงลำพัง"
แม็กเวลเลิกมองทิวทัศน์และหันมามองเพื่อนที่นั่งอยู่ข้างๆแทน
ดวงตาสองคู่มองสบกัน คนโดนแฟนทิ้งมองเห็นความลำบากใจ
ในดวงตาสีดำสนิท ท่าทีของจิณณ์ดูเลิ่กลั่กด้วยความอยากช่วย
เหลือแต่ไม่รู้ต้องพูดอย่างไร แม็กเวลหัวเราะน้อยๆให้ท่าทางนั้น
คราวนี้เขาเป็นคนเริ่มพาดแขนโอบไหล่เพื่อนบ้าง
"ฉันไม่ได้ซึมเรื่องนี้สักหน่อย แค่ดีดนิ้วทีเดียวก็หาใหม่ได้แล้ว"
คนตัวสูงหัวเราะร่าเสียงดังจนคนรอบข้างต้องหันมอง แต่เขา
หาได้สนใจไม่ และคนรอบข้างก็ไม่ได้สนใจเป็นพิเศษเช่นกัน
ไม่มีใครในโรงเรียนที่ไม่รู้จักประธานชมรมโสตทัศนศึกษา
อย่างเขา และทุกคนก็รู้ดีว่าการกระทำประหลาดๆกับแม็กเวล
เป็นของคู่กันที่ไม่สามารถแยกออกจากกันได้ จิณณ์เบ้ปาก
มองด้วยสายตาเอือมระอา
"ก็เจ้าหล่อนเข้ามาสารภาพรักเพราะบอกว่าหลงใหลในตัว
ประธานชมรมโสต แต่พอฉันทำงานชมรมก็มาบอกว่าฉัน
สนใจแต่งาน คนหล่อละไม่รู้จริงจริ๊งว่าต้องทำยังไง
ก็ฉันกำลังจะเรียนจบแล้วเลยต้องเร่งสอนงานประธาน
คนถัดไป เรื่องแค่นี้น่าจะเข้าใจได้ไม่ใช่รึไง"
แม้คำพูดจะติดตลกแต่ลักษณะการกร่นเสียงออกจะติด
ความขุ่นเคืองใจอยู่บ้าง จิณณ์ปล่อยให้เพื่อนบ่นโดยที่
ตั้งใจอ่านริมฝีปากอยู่ตลอดแม้จะทำท่าทีเหมือนไม่ได้
ตั้งใจฟังก็ตามแต่
"แต่ก็ดีเหมือนกันที่ถูกทิ้ง"
"ดียังไง?"
รอยยิ้มกว้างเผยขึ้นบนใบหน้าคนถูกทิ้งไว้กลางทาง
"หึหึหึ นายไม่รู้อะไรเอาซะเลยนะ"
"เอ้า รู้อะไรล่ะ"
"พวกเราเรียนจบแล้ว ไม่ใช่เด็กนักเรียนมัธยมปลาย
อีกต่อไปแล้ว นั่นแปลว่าฉันจะได้เจาะกลุ่มสาวๆ
วัยทำงานที่มากไปด้วยทรัพย์ ฉันจะนั่งในรถสปอต
คันสวยของพวกเธอแล้วก็ชมพระอาทิตย์ตกดินด้วยกัน"
ไม่พูดเปล่า เขาเขย่าไหล่เล็กกว่าด้วยท่าทีแสนตื่นเต้น
ท่าสะดีดสะดิ้งนั้นทำเอาจิณณ์รู้สึกผิดที่คิดปลอบใจ
ตั้งแต่แรก ไม่ว่ายังไงคนเพี้ยนก็ยังคงเป็นคนเพี้ยนอยู่
วันยังค่ำสินะ
"เดี๋ยวว นายกะไม่ทำงานทำการแล้วเรอะ"
"ทำสิ อาชีพ 'สามีที่ดี' ไง"
"นี่มันกะเกาะรับประทานเห็นๆเลยไม่ใช่เร้อ"
แม็กเวลแลบลิ้นมุมปากระหว่างยกมือขึ้นเคาะศีษระ
เบาๆด้วยท่าทีที่เขาคิดเอาเองว่ามันน่าจะน่ารัก
แต่แน่นอนว่าสิ่งที่ได้กลับคือสายตาว่างเปล่า
เด็กหนุ่มผมดำถอนหายใจเบาๆครั้งหนึ่ง
"ระวังเถอะ รักใครจริงๆแล้วเขาจะไม่เอานาย"
"เฮ้ยยยย อย่าพูดแบบนั้นสิ อ๊ากกก"
เสียงตะโกนโวยวายดังขึ้น เด็กหนุ่มยกมือขึ้น
ปิดหูพร้อมกันดิ้นพราดราวกับปลาไม่ได้น้ำ
จิณณ์เหนื่อยใจกับท่าทางที่เกินพอดีนั้น แต่คิดว่า
การห้ามปราบอาจจะทำให้เหนื่อยกว่า เลยปล่อย
ให้ปลาแม็กขาดน้ำดิ้นอยู่แบบนั้น
"พี่ตาล~~"
เสียงใสดังขึ้นจากอีกฝั่ง คนที่หันหาต้นเสียงไม่ใช่
เจ้าของชื่อ แต่คือแม็กเวลที่สามารถได้ยิน เขาหันกลับ
ไปบอกคนที่นั่งทำหน้าฉงน
"ครอบครัวนายมารับแล้ว"
จิณณ์ชะโงกหน้ามองจึงพบว่ามีชายหญิงวัยกลางคน
กำลังเดินมาทางพวกเขา รอบตัวพ่อแม่มีเด็กสาว
ตัวเล็กน่ารักสองคน คนนึงจับมือคุณพ่อ ส่วนอีกคน
จับมือคุณแม่ ทั้งสองคนมีหน้าตาเหมือนกันไม่มีผิด
ทันทีที่เห็นพี่ชาย เด็กสาวทั้งสองคนก็ปล่อยมือ
ผู้ปกครองและวิ่งเข้ามาโอบกอดพี่ชายที่ไม่ได้พบ
กันมาสักระยะหนึ่งแล้ว จิณณ์กอดน้องด้วยรอยยิ้ม
แสนคิดถึง เพื่อนผมทองยิ้มมองภาพนั้นเงียบๆก่อน
จะหันไปยกมือไหว้ชายหญิงที่เดินตามมา
"สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่"
"สวัสดีจ๊ะแม็ก มารยาทดีเหมือนเดิมเลยนะ"
แม็กเวลยิ้มหวานแสนสุภาพ บรรยากาศวิ้งวับรอบตัว
เพื่อนทำเอาจิณณ์ได้แต่กรอกตาไปมา ไม่รู้ว่าวิญญาณ
ลิงที่สิงอยู่จนถึงเมื่อครู่นี้หลุดหายไปไหนแล้ว ถึงได้
กลายมาเป็นพ่อเทพบุตรมารยาทดีไปเสียได้
"คุณพ่อคุณแม่สบายดีกันหรือเปล่าครับ? เจ้าตัวเล็กทั้งสอง
ดูเหมือนจะสูงขึ้นนิดหน่อยแต่ก็ยังน่ารักสดใสเหมือนเดิมเลย"
"แหม หนูแม็กนี่น่ารักจริงๆ ลูกน่าจะเอาเป็นแบบอย่าง
บ้างนะตาล"
"นายควรจะฟังที่คุณแม่พูดนะตาล"
"ไอ้..."
แม็กเวลกลั้วหัวเราะชอบใจเสียงดัง ริมฝีปากที่เม้มแน่น
แสนคันปากอยากจะด่าแต่ก็ด่าไม่ได้เพราะอยู่ต่อหน้า
ผู้ปกครองนั้นทำให้รู้สึกสนุกเกินทน เสียงนั้นหัวเราะ
ชอบอกชอบใจจนเริ่มเหนื่อย จากนั้นจึงหันคุยกับ
ผู้หลักผู้ใหญ่อีกครั้ง
"ถ้าเช่นนั้นผมไม่กวนเวลาครอบครัวแล้วนะครับ
ผมขออนุญาตขอตัวครับ"
เด็กหนุ่มก้มหัวไหว้อย่างนอบน้อมด้วยรอยยิ้มสดใส
เขาหันหลังหวังจะเดินจากไปแต่โดนเพื่อนรั้งไว้ก่อน
"แม็ก!!"
เจ้าของชื่อหยุดการเคลื่อนไหว เขาหยุดนิ่งครู่หนึ่ง
ก่อนจะเหลียวหาคนเรียก
"เย็นนี้เจอกันที่งานเลี้ยงนะเพื่อน"
เสียงนั้นตะกุกตะกักนิดหน่อยเพราะคนพูดเองไม่ได้
ตั้งใจพูดออกมา บางทีเขาก็ปากไวกว่าใจคิดอยู่บ้าง
แต่แผ่นหลังของเพื่อนที่กำลังจะจากไปในวันสุดท้าย
ของชีวิตเด็กมัธยมปลายนั้นทำให้เขารู้สึกโหวงใจ
อย่างบอกไม่ถูก ดวงตาสีดำสนิทสบมองรอคำตอบ
สลับกับมองซ้ายมองขวาอย่างไม่มั่นใจนัก
"อืม"
เด็กหนุ่มผมทองคลี่ยิ้มตอบรับเรียบง่าย มันไม่ใช่
รอยยิ้มแสนหวานที่ใช้กับผู้ใหญ่ ไม่ใช่รอยยิ้มที่
เจิดจรัสน่ามอง แต่เป็นเพียงรอยยิ้มเบาบางที่ออก
มาจากใจจริง แม็กเวลหันหลังวิ่งจากไปอีกครั้ง
โดยปล่อยให้ครอบครัวได้ใช้เวลาร่วมกันพร้อมหน้า
พวกเขามีเวลาค่อนวันกว่าจะถึงงานเลี้ยงพิธี
จบการศึกษา ในช่วงเวลานี้เป็นเวลาที่เปิดให้
ผู้ปกครองได้พาลูกหลานไปเลี้ยงฉลองกันอย่าง
หอมปากหอมคอก่อนที่จะปล่อยให้นักเรียน
ได้เลี้ยงฉลองกับเพื่อนๆเพื่อสร้างความทรงจำ
วันสุดท้ายภายในโรงเรียนแห่งนี้ แม้จิณณ์จะ
ตัดสินใจสมัครงานต่อภายในโรงเรียนแต่เขา
ก็ยังอดที่จะใจหายไม่ได้ที่จะไม่ได้เจอหน้า
เพื่อนร่วมชั้นหลายๆคน
เขาพาครอบครัวเดินไปยังทางออกโรงเรียน
ซึ่งระยะทางที่ไกลนี้ทำให้เขาได้บอกเล่าหลายๆ
เรื่องให้กับผู้ปกครองได้รับรู้ ทั้งเรื่องเกี่ยวกับ
เพื่อนที่จะไปเรียนต่อต่างประเทศ เพื่อที่จะไป
เดินทางเพื่อค้นหาตัวเอง และ...
และทันใดนั้นเองที่ดวงตาสีดำได้สบเข้ากับอะไร
บางอย่างที่ทำให้การสนทนาต้องหยุดชะงักลง
ไม่ใช่เพียงเท่านั้น เล่นเอาลืมหายใจไปเลยด้วยซ้ำ
เด็กหนุ่มอ้าปากพะงาบๆ น้องสาวตัวเล็กที่เห็นพี่ชาย
ที่ยืนตาค้างอยู่จึงหันตามด้วยความสงสัย ภาพที่
พวกเขาเห็นคือภาพเด็กหนุ่มผมทองมีนามว่าแม็กเวล
ลิงแม็กเวลที่จิณณ์มักจะเรียกคนนั้นกำลังยืนคุยอยู่กับ
หญิงสาวสวมแว่นกันแดดสีดำคนหนึ่ง แต่มันจะไม่แปลก
เลยถ้าคนที่แม็กเวลกำลังยืนคุยหน้าแป้นอยู่นั้นไม่ได้
'นั่งอยู่บนรถสปอตคันหรูสัญชาติอิตาลี่อย่างรถเฟอรารี่
สีแดงสด'
ระยะที่ไกลห่างทำให้ไม่สามารถมองใบหน้าหญิงสาวบนรถ
ได้ชัดเจน รวมถึงไกลเกินกว่าที่จะสามารถอ่านปากได้
สิ่งที่เขาเห็นมีเพียงรอยยิ้มของแม็กเวลเท่านั้น จากนั้นไม่นาน
เด็กหนุ่มผมทองก็เปิดประตูและขึ้นนั่งบนรถเฟอรารี่เปิดประทุน
ด้วยท่าทีแสนเป็นกันเอง รถคันหรูเคลื่อนตัวออกไปต่อหน้าเพื่อน
ที่ยังคงอึ้งตะลึงใจ
"เอาจริงดิ..."
TBC ๐ ๐ ๐
ติดตามตอนต่อไปได้ >> ที่นี่
Signature ------------------------------------------------>
Reine : Plays ๐ ๐ ๐
And I will hear, though soft you tread above me,
And on my grave will warmer, sweeter be.
For you'll come and tell me that you love me,
And I will sleep in peace until you come to me.
- gotspinner
Rin Sukho
นักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 4
691
+14 M 550 K 921
PASSPORT
:
(400/2000)
:
Re: Lesson 40 : ปัจฉิมนิเทศ
Tue 10 May 2016, 11:04
เสียงปรบมือดังเกรียวกราวหลังจากที่ ผอ.นรินทร์ กล่าวคำอำลาและอวยพรให้กับนักเรียนที่จบการศึกษา
“หลังจากนี้ก็เป็นการร่วมแสดงความยินดีกับนักเรียนที่จบการศึกษานะครับ จะถ่ายรูป พูดคุย หรือมีทติ้งสังสรรค์ได้ทั้งในและนอกโรงเรียน อ้อ! แล้วอย่าลืมเวลาค่ำนะครับ ตั้งแต่ 18.00 น. เป็นต้นไป ทางโรงเรียนมีเรางานเลี้ยงฉลองให้กับนักเรียนที่จบการศึกษาด้วย ขอเรียนเชิญมาร่วมรับประทานอาหารเย็นและพบปะสังสรรค์ได้ตลอดทั้งคืน โอเค หลังจากนี้ทุกคนก็แยกย้ายได้ครับ แล้วพบกันตอนเย็นนะครับ ขอบคุณครับ”
เสียงปรบมือดังขึ้นก้องหอประชุมอีกครั้ง แล้วทุกคนก็ค่อยๆทยอยลุกจากที่นั่งและแยกย้ายกันไปแสดงความยินดีให้กับนักเรียนที่จบปีการศึกษา
…
บริเวณหน้า Convention Hall นักเรียนและผู้ปกครองที่มาร่วมงานต่างร่วมแสดงความยินดี ถ่ายรูป และมอบของที่ระลึกให้กับนักเรียนที่จบการศึกษา
ในระหว่างที่ทุกคนกำลังร่วมถ่ายรูปแสดงความยินดีกับรุ่นพี่ ขณะนั้น ริน สุขโข นั่งกำลังครุ่นคิดอย่างหนักว่าจะเตรียมของที่ระลึกอะไรดีไว้สำหรับรุ่นพี่ เพราะตอนนี้ยังคิดไม่ออกเลย เพราะตอนเย็นจะต้องมอบของที่ระลึกให้แล้ว
“มีเรื่องกลุ้มอะไรอยู่หรอน้องแว่น นั่งทำหน้าเครียดเชียว” เสียงชายคนหนึ่งดังขึ้น
“อ่ะ! เอ่อ…” รินตกใจนิดๆ ลุกลี่ลุกลนจับไอแพดขึ้นมารีบพิมพ์
“[สวัสดีค่ะพี่จิณณ์ ก็มีเรื่องกลุ้มนิดๆ ล่ะค่ะ คือว่ารินคิดว่าจะมอบของที่ระลึกให้รุ่นแต่ก็ยังคิดไม่ออกเลยว่าจะให้อะไรดี]” รินพิมพ์ด้วยความเร็วแสงแล้วแปลงออกมาเป็นเสียงพูดผ่านไอแพด
จิณณ์ “……..”
“อ่าว! ลืมไปเลยว่าพี่จิณณ์มีปัญหาทางการได้ยิน” รินคิดขึ้นได้แล้วรีบยกไอแพดที่พิมพ์เป็นข้อความให้จิณณ์อ่าน
“อ้อ! อย่างนี้นี่เอง กลุ้มใจเรื่องนี้สินะ เอางี้ ใช้ไอแพดรินถ่ายรูปกับพี่เป็นที่ระลึกก็ได้นะ”
รินนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง “อ่ะจริงสิ! ไอแพด!!!”
-พี่จิณณ์คะ ช่วยมานั่งที่ม้านั่งข้างรินหน่อยสิคะ หนูรู้แล้วค่ะว่าจะทำอะไรเป็นที่ระลึกให้พี่จิณณ์ดี- รินพิมพ์เป็นข้อความแล้วให้จิณณ์อ่าน
“อ่ะๆ ได้สิ”
-นั่งนิ่งๆนะคะ ^___^-
“จะทำอะไรหนอ -3-”
หลังจากจิณณ์นั่งลง รินก็เริ่มละเลงนิ้วลงบนไอแพด
ผ่านไปประมาณ 10 นาที ภาพร่างการ์ตูนรูปหน้าของจิณณ์บนไอแพดของรินก็ตัดเส้นเสร็จ
“ว้าว นี่น้องรินวาดรูปพี่หรอ โห วาดในไอแพดด้วย สวยนะเนี่ย”
-เหลือลงสีค่ะ รอก่อนนะคะ - รินค่อยๆบรรจงละเลงนิ้วบนไอแพดต่อไป
20 นาทีต่อมา ภาพที่รินวาดก็ลงสีเสร็จ
-เสร็จแล้วค่ะ นี่ถือซะว่าเป็นของที่ระลึกสำหรับพี่จิณณ์นะคะ- รินยื่นไอแพดที่มีที่มีข้อความพร้อมรูปของจิณณ์ให้จิณณ์ดู
“โอ้ สวยมากเลย นี่น้องรินวาดในไอแพดได้เก่งเลยนะนี่ ขอบคุณมากนะ”
รินยิ้มรับประมาณจะพูดว่า “ขอบคุณค่ะ”
“เอางี้! วาดแลกกันดีกว่า เดี๋ยวพี่วาดให้น้องรินบ้าง”
รินยิ้มพยักหน้าเหมือนจะพูดว่า “เอาสิคะๆ”
จิณณ์เริ่มละเลงนิ้วลงบนไอแพดของริน
ผ่านไปประมาณ 30 นาที รูปการ์ตูนหน้ารินก็เสร็จ
“อ่ะนี่ รูปน้องริน เป็นไง น่ารักเหมือนตัวจริงไหม” จิณณ์ยื่นไอแพดคืนให้กับริน
-สวยมากเลยค่ะ ขอบคุณนะคะ- ทั้งสองยิ้มให้กัน ใบหน้าที่เป็นกังวลของรินก่อนหน้านั้นยิ้มไปพร้อมกับจิณณ์อย่างมีความสุข
-เดี๋ยวรินจะเอาไปปริ้นและใส่กรอบมาให้พี่จิณณ์ตอนเย็นนะคะ-
“อ่ะ ได้สิ พี่จะรอนะ ^^”
-ขอบคุณค่ะพี่จิณณ์-
“จริงสิ เรายังไม่ได้ถ่ายรูปด้วยกันเลย มันแต่วาดรูปให้กันนี่นะ 5555”
“เฮ้! นั่งทำไรอยู่เพื่อน กำลังจีบน้องใหม่หรอ นี่เราจะจบออกไปแล้วนะ จะมีเวลาให้น้องเขาไหมเนี่ย 5555” เสียงพูดเสียงดังจนเหมือนจะตะโกนของแม็กเวลดังขึ้น
รินสะดุ้งเล็กน้องเพราะเสียงของแม็กเวล จิณณ์เห็นท่าทางของรินทำให้รู้ได้เลยว่าแม็กเวลใส่หูฟังฟังเพลงเสียงดังจนพูดเสียงดังออกมาทำให้รินตกใจ
“ฉันบอกนายกี่ครั้งแล้วว่าถ้าจะพูดกับคนอื่นให้ถอดหูฟังออกก่อนจะได้ไม่พูดเสียงดัง เห็นไหมน้องเขาสะดุ้งเลย ถึงฉันจะไม่ได้ยินก็เหอะแต่สงสารคนอื่น” จิณณ์มองหน้าเทศนาแม็กเวล
“แหะๆ โทษทีๆ” แม็กเวลถอดหูฟังออก
“ว่าแต่น้องริน แม็กเวลมันพูดว่าอะไรอ่ะ”
รินละเลงนิ้วพิมพ์ข้อความที่แม็กเวลพูดเมื่อกี้ให้จิณณ์อ่าน
“อ่อ เปล่าซะหน่อย ก็แค่น้องรินมอบของที่ระลึกให้น่ะ” จิณณ์ปฏิเสธพร้อมขอรูปไอแพดจากรินมาให้เพื่อนดู
“โห นี่หรอของที่ระลึก วาดสวยจัง วาดให้พวกพี่มั่งสิ” แม็กเวลพูดพร้อมกับรับรูปในไอแพดมาดู
รินยื่นมือไปที่ไอน์เหมือนจะบอกว่าขอไอแพดคืน รินรับไอแพดคืนมาแล้วก็ละเลงนิ้วพิมพ์ด้วยความเร็วแสง
“[ได้สิคะ แต่เรามาถ่ายรูปด้วยกันก่อนดีไหมคะ เป็นที่ระลึกที่รุ่นพี่เรียนจบแล้ว ยินดีด้วยนะคะ]”
“ได้เลย” สิ้นเสียงไอแพด จิณณ์อ่านข้อความเสร็จ แม็กเวลกับจิณณ์ก็ขานรับพร้อมกัน
“เอ้า! 3… 2… 1… เป๊ปซี่!”
แชะ!!!
…
19.00 น. หลังจากนักเรียนที่จบการศึกษากล่าวคำปราศรัยเสร็จ
“เอาล่ะครับ หลังจากนี้ขอเชิญทุกท่านอิ่มหนำสำราญกับอาหารและดื่มด่ำสังสรรค์กับบรรยากาศในงานเลี้ยง และเชิญพบกับสองสาวที่จะมาบรรเลงดนตรีให้บรรยากาศในค่ำคืนนี้เต็มไปด้วยความฟิน ประธานนักเรียนแคโรไลน์ ลอสกันกับน้องใหม่ รินทร์ สุขโข ขอให้ทุกท่านมีความสุขในค่ำคืนนี้ ขอบคุณครับ”
เสียงปรบมือดังขึ้นก้องไปทั่วงานพร้อมเสียงดนตรี เพลง “Canon” ที่ค่อยๆบรรเลงขึ้น
***เพลง Canon เป็นเพลงที่สามารถเล่นและสื่อออกมาได้หลายอารมณ์ ขึ้นอยู่กับจังหวะและไดนามิคที่เล่นออกมาทั้งสนุก มีความสุข เศร้า เหงา คิดถึง รัก ***
บริเวณโต๊ะหน้าเวทีที่รุ่นนักเรียนที่จบการศึกษานั่งรับประธานอาหาร ไอน์กำลังนั่งหลับตาฟังเพลงที่ค่อยๆบรรเลง(ถึงไม่หลับตาก็มองไม่เห็นอยู่แล้ว แต่หลับตาเพื่อความฟินในการดื่มด่ำกับเสียงดนตรี) แม็กเวลไม่สวมหูฟังจากปกติที่จะชอบสวมหูฟังตลอดกำลังใช้มือถืออัดเสียงดนตรีที่กำลังบรรเลง ริแอร์ค่อยกินอาหารและนั่งฟังดนตรีอย่างสงบ จิณณ์ถึงแม้จะไม่ได้ยินเสียงแต่สายตาเขาจ้องมองไปบนเวทีสายตาเหมือนจะบ่งบอกว่าแค่มองเห็นก็ได้ยินเสียงดนตรีแล้ว นั่นทำให้จิณณ์รู้สึกได้ถึงความไพเราะของเสียงดนตรี
“คิดถึงจังน๊า นี่ 6 ปีแล้วหรอเนี่ย ผ่านอะไรกันมาเยอะเลยเนอะ หลังจากนี้คงคิดถึงพวกนายแย่เลย ฉันดีใจจริงๆที่ได้มาเรียนที่โรงเรียนนี้ และได้มีพวกนายเป็นเพื่อน” ไอน์พูดขึ้นขณะที่กำลังหลับตาฟังเพลงอยู่
“เฮ้ย! อย่าเพิ่งพูดดิวะ ฉันกำลังอัดเสียงเพลงอยู่ โธ่ว! มีเสียงแทรกเลย” แม็กเวลพูดพร้อมกับตบบ่าของไอน์จนไอน์สะดุ้ง
“เฮ้ๆ พวกนายทำอะไรไม่เข้ากับบรรกาศเลยนะ” จิณณ์พูดขึ้นขณะที่สายตายังจ้องไปบนเวที
“ยังกับนายได้ยินเสียงดนตรีงั้นล่ะ!!!” แม็กเวลตะโกนใส่จิณณ์แต่จิณณ์ก็ยังเฉย ส่วนริแอร์ยังตั้งหน้าตั้งตากินอยู่เงียบๆ
“ก็จริงอย่างที่ไอน์พูดนะคะ คงคิดถึงเพื่อนและครูอาจารย์ โรงเรียนแย่เลย” ริแอร์เงยหน้าจากการกินขึ้นมาพูดและยิ้มให้กับทุกคน ไอน์ แม็กเวลนิ่ง หันหน้ามาทางริแอร์ แม้กระทั้งจิณณ์ที่ไม่ได้ยินเสียงยังสัมผัสได้ถึงปฏิกิริยาของรอแอร์
“เพลงนี้ทำให้คิดถึงวันเวลาที่เราผ่านด้วยกันมา ดูพวกน้องๆสิคะ สนุกสนานมีความสุขกันใหญ่ ก็เหมือนกับพวกเราสมัยนั้นล่ะนะคะ สนุกจริงๆ หลังจากนี้ทุกคนก็ต้องแยกย้ายไปตามความฝันของตัวเอง หรือบางคนอาจจะได้กลับมาเป็นครูที่โรงเรียนเราก็ได้ จริงสินะคะ คุณครูจะคิดถึงพวกเราไหมนะ รุ่นน้องจะคิดถึงพวกเราไหมนะ พวกเราก็คงคิดถึงทุกคนในโรงเรียนนี้เหมือนกัน จริงสิคะ เรายังไม่ได้ทำหนังสือรุ่นเลย รวมภาพพวกเราและโรงเรียน ทำกี่เล่มดีน๊า ใช่ๆ ทำแจกทุกคนเลย เอารูปหลุดๆ บ้าๆ ฮาๆ เยอะๆ เลย โดยเฉพาะรูปของแม็กเวล ฮ่าๆๆๆ ทุกคนว่าไงคะ?”
“ตามใจเธอเลย เรื่องหนังสือต้องยกให้เธออยู่แล้วนี่” ไอน์ แม็กเวล พูดขึ้นพร้อมกัน ส่วนจิณณ์พยักหน้า
“งานนี้รูปหลุดๆตู รุ่นน้องฮาจนตูไม่มีซอกหลืบซุกหัวแน่ = =’” แม็กเวลนึกจำนวนภาพหลุดของตนเองที่ได้ขึ้นหนังสือแล้วมีรุ่นน้องอ่านและหัวเราะก๊าก
บรรยากาศในงานเป็นไปอย่างราบรื่นพร้อม เสียงหัวเราะ เสียงพูดคุย อาหาร เสียงดนตรี ผสมกลมกลืนจนเหมือนจะค่อยๆยืดเวลาแห่งการจากลาของนักเรียนที่จบการศึกษาออกไปได้
บรรยากาศจบลงด้วยสิ้นเสียงกล่าวปิดงานของ ผอ. เสียงปรบมือตัวเกรียวกราวลั่นทั่วงาน รอยยิ้มปลื้มปิติ ผอ. และครูคนอื่นๆ ที่ได้ส่งลูกศิษย์ขึ้นฝั่งได้ รอยยิ้มมิตรภาพของเพื่อนที่จะจดจำกันไปตลอด การเริ่มต้นประสบการณ์ของนักเรียน ม.1 และสานสัมพันธ์เพื่อนกันต่อของนักเรียน ม.2-ม.5 การเริ่มต้นเป็นพี่ใหญ่และเป็นแบบอย่างที่ดีของ ม.5 ที่กำลังจะขึ้น ม.6 และภารกิจของ ผอ. และครู ที่จะส่งขึ้นฝั่งลูกศิษย์ในรุ่นต่อไป
หลัง ผอ. กล่าวปิดงานเสร็จ…
“อ่าว สวัสดีน้องริน” รินเดินมาหาจิณณ์พร้อมกรอบรูป 2 รูป ที่ถืออยู่ในมือ
“ว้าวๆ มาแล้วๆ รูปของพี่กับจิณณ์ใช่ไหม” แม็กเวลลุกจากเก้าอี้รีบไปรับของที่ระลึกจากน้องรินพร้อมกับที่รินยื่นของที่ระลึกให้
“ขอบคุณมากนะครับ” เสียงแม็กเวลและจิณณ์กล่าวขอบคุณพร้อมกัน
“[ด้วยความยินดีค่ะ]” รินยิ้มตอบ
“ว้าว! สวยจังเลย น้องรินวาดให้พี่บ้างสิคะ” เสียงของริแอร์ดังขึ้นหลังจากได้เห็นรูปของแม็กเวลและจิณณ์
“หือ! อะไรหรอ? ของที่ระลึกอะไรกันหรอ รูปวาดหรอ” ไอน์ลุกลี่ลุกลุกเหมือนอยากจะเห็นของที่ระลึกนั่น
“[ได้ค่ะ เดี๋ยวรินวาดให้ทุกคนเลยนะคะ แต่ตอนนี้เรามาถ่ายรูปด้วยกันก่อนดีไหมคะ]”
“เอ๋า 3… 2… 1… เป๊ปซี่!!!”
แชะ!!!
- Fin -
✎ ผู้ที่ทำภารกิจได้ยอดเยี่ยมกว่ามาตรฐาน (80%+)
“หลังจากนี้ก็เป็นการร่วมแสดงความยินดีกับนักเรียนที่จบการศึกษานะครับ จะถ่ายรูป พูดคุย หรือมีทติ้งสังสรรค์ได้ทั้งในและนอกโรงเรียน อ้อ! แล้วอย่าลืมเวลาค่ำนะครับ ตั้งแต่ 18.00 น. เป็นต้นไป ทางโรงเรียนมีเรางานเลี้ยงฉลองให้กับนักเรียนที่จบการศึกษาด้วย ขอเรียนเชิญมาร่วมรับประทานอาหารเย็นและพบปะสังสรรค์ได้ตลอดทั้งคืน โอเค หลังจากนี้ทุกคนก็แยกย้ายได้ครับ แล้วพบกันตอนเย็นนะครับ ขอบคุณครับ”
เสียงปรบมือดังขึ้นก้องหอประชุมอีกครั้ง แล้วทุกคนก็ค่อยๆทยอยลุกจากที่นั่งและแยกย้ายกันไปแสดงความยินดีให้กับนักเรียนที่จบปีการศึกษา
…
บริเวณหน้า Convention Hall นักเรียนและผู้ปกครองที่มาร่วมงานต่างร่วมแสดงความยินดี ถ่ายรูป และมอบของที่ระลึกให้กับนักเรียนที่จบการศึกษา
ในระหว่างที่ทุกคนกำลังร่วมถ่ายรูปแสดงความยินดีกับรุ่นพี่ ขณะนั้น ริน สุขโข นั่งกำลังครุ่นคิดอย่างหนักว่าจะเตรียมของที่ระลึกอะไรดีไว้สำหรับรุ่นพี่ เพราะตอนนี้ยังคิดไม่ออกเลย เพราะตอนเย็นจะต้องมอบของที่ระลึกให้แล้ว
“มีเรื่องกลุ้มอะไรอยู่หรอน้องแว่น นั่งทำหน้าเครียดเชียว” เสียงชายคนหนึ่งดังขึ้น
“อ่ะ! เอ่อ…” รินตกใจนิดๆ ลุกลี่ลุกลนจับไอแพดขึ้นมารีบพิมพ์
“[สวัสดีค่ะพี่จิณณ์ ก็มีเรื่องกลุ้มนิดๆ ล่ะค่ะ คือว่ารินคิดว่าจะมอบของที่ระลึกให้รุ่นแต่ก็ยังคิดไม่ออกเลยว่าจะให้อะไรดี]” รินพิมพ์ด้วยความเร็วแสงแล้วแปลงออกมาเป็นเสียงพูดผ่านไอแพด
จิณณ์ “……..”
“อ่าว! ลืมไปเลยว่าพี่จิณณ์มีปัญหาทางการได้ยิน” รินคิดขึ้นได้แล้วรีบยกไอแพดที่พิมพ์เป็นข้อความให้จิณณ์อ่าน
“อ้อ! อย่างนี้นี่เอง กลุ้มใจเรื่องนี้สินะ เอางี้ ใช้ไอแพดรินถ่ายรูปกับพี่เป็นที่ระลึกก็ได้นะ”
รินนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง “อ่ะจริงสิ! ไอแพด!!!”
-พี่จิณณ์คะ ช่วยมานั่งที่ม้านั่งข้างรินหน่อยสิคะ หนูรู้แล้วค่ะว่าจะทำอะไรเป็นที่ระลึกให้พี่จิณณ์ดี- รินพิมพ์เป็นข้อความแล้วให้จิณณ์อ่าน
“อ่ะๆ ได้สิ”
-นั่งนิ่งๆนะคะ ^___^-
“จะทำอะไรหนอ -3-”
หลังจากจิณณ์นั่งลง รินก็เริ่มละเลงนิ้วลงบนไอแพด
ผ่านไปประมาณ 10 นาที ภาพร่างการ์ตูนรูปหน้าของจิณณ์บนไอแพดของรินก็ตัดเส้นเสร็จ
“ว้าว นี่น้องรินวาดรูปพี่หรอ โห วาดในไอแพดด้วย สวยนะเนี่ย”
-เหลือลงสีค่ะ รอก่อนนะคะ - รินค่อยๆบรรจงละเลงนิ้วบนไอแพดต่อไป
20 นาทีต่อมา ภาพที่รินวาดก็ลงสีเสร็จ
-เสร็จแล้วค่ะ นี่ถือซะว่าเป็นของที่ระลึกสำหรับพี่จิณณ์นะคะ- รินยื่นไอแพดที่มีที่มีข้อความพร้อมรูปของจิณณ์ให้จิณณ์ดู
“โอ้ สวยมากเลย นี่น้องรินวาดในไอแพดได้เก่งเลยนะนี่ ขอบคุณมากนะ”
รินยิ้มรับประมาณจะพูดว่า “ขอบคุณค่ะ”
“เอางี้! วาดแลกกันดีกว่า เดี๋ยวพี่วาดให้น้องรินบ้าง”
รินยิ้มพยักหน้าเหมือนจะพูดว่า “เอาสิคะๆ”
จิณณ์เริ่มละเลงนิ้วลงบนไอแพดของริน
ผ่านไปประมาณ 30 นาที รูปการ์ตูนหน้ารินก็เสร็จ
“อ่ะนี่ รูปน้องริน เป็นไง น่ารักเหมือนตัวจริงไหม” จิณณ์ยื่นไอแพดคืนให้กับริน
-สวยมากเลยค่ะ ขอบคุณนะคะ- ทั้งสองยิ้มให้กัน ใบหน้าที่เป็นกังวลของรินก่อนหน้านั้นยิ้มไปพร้อมกับจิณณ์อย่างมีความสุข
-เดี๋ยวรินจะเอาไปปริ้นและใส่กรอบมาให้พี่จิณณ์ตอนเย็นนะคะ-
“อ่ะ ได้สิ พี่จะรอนะ ^^”
-ขอบคุณค่ะพี่จิณณ์-
“จริงสิ เรายังไม่ได้ถ่ายรูปด้วยกันเลย มันแต่วาดรูปให้กันนี่นะ 5555”
“เฮ้! นั่งทำไรอยู่เพื่อน กำลังจีบน้องใหม่หรอ นี่เราจะจบออกไปแล้วนะ จะมีเวลาให้น้องเขาไหมเนี่ย 5555” เสียงพูดเสียงดังจนเหมือนจะตะโกนของแม็กเวลดังขึ้น
รินสะดุ้งเล็กน้องเพราะเสียงของแม็กเวล จิณณ์เห็นท่าทางของรินทำให้รู้ได้เลยว่าแม็กเวลใส่หูฟังฟังเพลงเสียงดังจนพูดเสียงดังออกมาทำให้รินตกใจ
“ฉันบอกนายกี่ครั้งแล้วว่าถ้าจะพูดกับคนอื่นให้ถอดหูฟังออกก่อนจะได้ไม่พูดเสียงดัง เห็นไหมน้องเขาสะดุ้งเลย ถึงฉันจะไม่ได้ยินก็เหอะแต่สงสารคนอื่น” จิณณ์มองหน้าเทศนาแม็กเวล
“แหะๆ โทษทีๆ” แม็กเวลถอดหูฟังออก
“ว่าแต่น้องริน แม็กเวลมันพูดว่าอะไรอ่ะ”
รินละเลงนิ้วพิมพ์ข้อความที่แม็กเวลพูดเมื่อกี้ให้จิณณ์อ่าน
“อ่อ เปล่าซะหน่อย ก็แค่น้องรินมอบของที่ระลึกให้น่ะ” จิณณ์ปฏิเสธพร้อมขอรูปไอแพดจากรินมาให้เพื่อนดู
“โห นี่หรอของที่ระลึก วาดสวยจัง วาดให้พวกพี่มั่งสิ” แม็กเวลพูดพร้อมกับรับรูปในไอแพดมาดู
รินยื่นมือไปที่ไอน์เหมือนจะบอกว่าขอไอแพดคืน รินรับไอแพดคืนมาแล้วก็ละเลงนิ้วพิมพ์ด้วยความเร็วแสง
“[ได้สิคะ แต่เรามาถ่ายรูปด้วยกันก่อนดีไหมคะ เป็นที่ระลึกที่รุ่นพี่เรียนจบแล้ว ยินดีด้วยนะคะ]”
“ได้เลย” สิ้นเสียงไอแพด จิณณ์อ่านข้อความเสร็จ แม็กเวลกับจิณณ์ก็ขานรับพร้อมกัน
“เอ้า! 3… 2… 1… เป๊ปซี่!”
แชะ!!!
…
19.00 น. หลังจากนักเรียนที่จบการศึกษากล่าวคำปราศรัยเสร็จ
“เอาล่ะครับ หลังจากนี้ขอเชิญทุกท่านอิ่มหนำสำราญกับอาหารและดื่มด่ำสังสรรค์กับบรรยากาศในงานเลี้ยง และเชิญพบกับสองสาวที่จะมาบรรเลงดนตรีให้บรรยากาศในค่ำคืนนี้เต็มไปด้วยความฟิน ประธานนักเรียนแคโรไลน์ ลอสกันกับน้องใหม่ รินทร์ สุขโข ขอให้ทุกท่านมีความสุขในค่ำคืนนี้ ขอบคุณครับ”
เสียงปรบมือดังขึ้นก้องไปทั่วงานพร้อมเสียงดนตรี เพลง “Canon” ที่ค่อยๆบรรเลงขึ้น
***เพลง Canon เป็นเพลงที่สามารถเล่นและสื่อออกมาได้หลายอารมณ์ ขึ้นอยู่กับจังหวะและไดนามิคที่เล่นออกมาทั้งสนุก มีความสุข เศร้า เหงา คิดถึง รัก ***
บริเวณโต๊ะหน้าเวทีที่รุ่นนักเรียนที่จบการศึกษานั่งรับประธานอาหาร ไอน์กำลังนั่งหลับตาฟังเพลงที่ค่อยๆบรรเลง(ถึงไม่หลับตาก็มองไม่เห็นอยู่แล้ว แต่หลับตาเพื่อความฟินในการดื่มด่ำกับเสียงดนตรี) แม็กเวลไม่สวมหูฟังจากปกติที่จะชอบสวมหูฟังตลอดกำลังใช้มือถืออัดเสียงดนตรีที่กำลังบรรเลง ริแอร์ค่อยกินอาหารและนั่งฟังดนตรีอย่างสงบ จิณณ์ถึงแม้จะไม่ได้ยินเสียงแต่สายตาเขาจ้องมองไปบนเวทีสายตาเหมือนจะบ่งบอกว่าแค่มองเห็นก็ได้ยินเสียงดนตรีแล้ว นั่นทำให้จิณณ์รู้สึกได้ถึงความไพเราะของเสียงดนตรี
“คิดถึงจังน๊า นี่ 6 ปีแล้วหรอเนี่ย ผ่านอะไรกันมาเยอะเลยเนอะ หลังจากนี้คงคิดถึงพวกนายแย่เลย ฉันดีใจจริงๆที่ได้มาเรียนที่โรงเรียนนี้ และได้มีพวกนายเป็นเพื่อน” ไอน์พูดขึ้นขณะที่กำลังหลับตาฟังเพลงอยู่
“เฮ้ย! อย่าเพิ่งพูดดิวะ ฉันกำลังอัดเสียงเพลงอยู่ โธ่ว! มีเสียงแทรกเลย” แม็กเวลพูดพร้อมกับตบบ่าของไอน์จนไอน์สะดุ้ง
“เฮ้ๆ พวกนายทำอะไรไม่เข้ากับบรรกาศเลยนะ” จิณณ์พูดขึ้นขณะที่สายตายังจ้องไปบนเวที
“ยังกับนายได้ยินเสียงดนตรีงั้นล่ะ!!!” แม็กเวลตะโกนใส่จิณณ์แต่จิณณ์ก็ยังเฉย ส่วนริแอร์ยังตั้งหน้าตั้งตากินอยู่เงียบๆ
“ก็จริงอย่างที่ไอน์พูดนะคะ คงคิดถึงเพื่อนและครูอาจารย์ โรงเรียนแย่เลย” ริแอร์เงยหน้าจากการกินขึ้นมาพูดและยิ้มให้กับทุกคน ไอน์ แม็กเวลนิ่ง หันหน้ามาทางริแอร์ แม้กระทั้งจิณณ์ที่ไม่ได้ยินเสียงยังสัมผัสได้ถึงปฏิกิริยาของรอแอร์
“เพลงนี้ทำให้คิดถึงวันเวลาที่เราผ่านด้วยกันมา ดูพวกน้องๆสิคะ สนุกสนานมีความสุขกันใหญ่ ก็เหมือนกับพวกเราสมัยนั้นล่ะนะคะ สนุกจริงๆ หลังจากนี้ทุกคนก็ต้องแยกย้ายไปตามความฝันของตัวเอง หรือบางคนอาจจะได้กลับมาเป็นครูที่โรงเรียนเราก็ได้ จริงสินะคะ คุณครูจะคิดถึงพวกเราไหมนะ รุ่นน้องจะคิดถึงพวกเราไหมนะ พวกเราก็คงคิดถึงทุกคนในโรงเรียนนี้เหมือนกัน จริงสิคะ เรายังไม่ได้ทำหนังสือรุ่นเลย รวมภาพพวกเราและโรงเรียน ทำกี่เล่มดีน๊า ใช่ๆ ทำแจกทุกคนเลย เอารูปหลุดๆ บ้าๆ ฮาๆ เยอะๆ เลย โดยเฉพาะรูปของแม็กเวล ฮ่าๆๆๆ ทุกคนว่าไงคะ?”
“ตามใจเธอเลย เรื่องหนังสือต้องยกให้เธออยู่แล้วนี่” ไอน์ แม็กเวล พูดขึ้นพร้อมกัน ส่วนจิณณ์พยักหน้า
“งานนี้รูปหลุดๆตู รุ่นน้องฮาจนตูไม่มีซอกหลืบซุกหัวแน่ = =’” แม็กเวลนึกจำนวนภาพหลุดของตนเองที่ได้ขึ้นหนังสือแล้วมีรุ่นน้องอ่านและหัวเราะก๊าก
บรรยากาศในงานเป็นไปอย่างราบรื่นพร้อม เสียงหัวเราะ เสียงพูดคุย อาหาร เสียงดนตรี ผสมกลมกลืนจนเหมือนจะค่อยๆยืดเวลาแห่งการจากลาของนักเรียนที่จบการศึกษาออกไปได้
บรรยากาศจบลงด้วยสิ้นเสียงกล่าวปิดงานของ ผอ. เสียงปรบมือตัวเกรียวกราวลั่นทั่วงาน รอยยิ้มปลื้มปิติ ผอ. และครูคนอื่นๆ ที่ได้ส่งลูกศิษย์ขึ้นฝั่งได้ รอยยิ้มมิตรภาพของเพื่อนที่จะจดจำกันไปตลอด การเริ่มต้นประสบการณ์ของนักเรียน ม.1 และสานสัมพันธ์เพื่อนกันต่อของนักเรียน ม.2-ม.5 การเริ่มต้นเป็นพี่ใหญ่และเป็นแบบอย่างที่ดีของ ม.5 ที่กำลังจะขึ้น ม.6 และภารกิจของ ผอ. และครู ที่จะส่งขึ้นฝั่งลูกศิษย์ในรุ่นต่อไป
หลัง ผอ. กล่าวปิดงานเสร็จ…
“อ่าว สวัสดีน้องริน” รินเดินมาหาจิณณ์พร้อมกรอบรูป 2 รูป ที่ถืออยู่ในมือ
“ว้าวๆ มาแล้วๆ รูปของพี่กับจิณณ์ใช่ไหม” แม็กเวลลุกจากเก้าอี้รีบไปรับของที่ระลึกจากน้องรินพร้อมกับที่รินยื่นของที่ระลึกให้
“ขอบคุณมากนะครับ” เสียงแม็กเวลและจิณณ์กล่าวขอบคุณพร้อมกัน
“[ด้วยความยินดีค่ะ]” รินยิ้มตอบ
“ว้าว! สวยจังเลย น้องรินวาดให้พี่บ้างสิคะ” เสียงของริแอร์ดังขึ้นหลังจากได้เห็นรูปของแม็กเวลและจิณณ์
“หือ! อะไรหรอ? ของที่ระลึกอะไรกันหรอ รูปวาดหรอ” ไอน์ลุกลี่ลุกลุกเหมือนอยากจะเห็นของที่ระลึกนั่น
“[ได้ค่ะ เดี๋ยวรินวาดให้ทุกคนเลยนะคะ แต่ตอนนี้เรามาถ่ายรูปด้วยกันก่อนดีไหมคะ]”
“เอ๋า 3… 2… 1… เป๊ปซี่!!!”
แชะ!!!
- Fin -
✎ ผู้ที่ทำภารกิจได้ยอดเยี่ยมกว่ามาตรฐาน (80%+)
A - CLASS STAMP ตราประทับระดับสูงในหมวดภารกิจทั่วไป มีลักษณะเป็นดาวสีทับทิม สื่อถึงความหรูหรา มีมูลค่า +80 Grade Exp. จะได้รับเมื่อปฎิบัติภารกิจได้ยอดเยี่ยมเป็นที่น่าประทับใจแก่ผู้อำนวยการโรงเรียน |
+1,250,000 Spirit Point ไอเทมเพิ่มแต้มสะสม Spirit Point ตามปริมาณที่กำหนด สามารถนำไปใช้ในการแลกเปลี่ยนเป็น CHIPS ได้ในภายหลัง |
- Narin's Comment:
- เป็นเรื่องราวที่น่ารักมากเลยครับ ตัวละครทุกตัวมีบทบาทร่วมด้วย
ผมเห็นความใส่ใจจากรินที่ไปถามรุ่นพี่ว่าใครพิการอย่างไรบ้าง
เพื่อที่จะนำมาเขียนเนื้อเรื่อง เป็นความใส่ใจที่น่าชื่นชมมากครับ
ทั้งงานเขียนและงานวาดของรินนั้นไม่มีเรื่องต้องเป็นห่วงนัก
รินมีทั้งสไตล์การเขียนและวาดเป็นของตัวเองค่อนข้างเด่นชัด
ขอให้รักษาเอกลักษณ์เช่นนี้ต่อไปและพัฒนาต่อไปด้วยกันนะครับ
งาน S แต่หักสแตมป์ลงหนึ่งขั้นเนื่องจากเนื้อเรื่องผิดในส่วนของ
ประธานนักเรียนนะครับ ที่หัวกระทู้เขียนว่าภารกิจนี้เป็นภารกิจ
ช่วงที่คุณอิสรายังเป็นประธานนักเรียน ส่วนเรื่องรินใส่ชุดนักเรียน
โรงเรียนอื่นในรอบนี้ผมจะนับว่าเป็นการคอสเพลย์ในงานปาร์ตี้
เพราะไม่ได้ระบุไว้ว่าควรใส่ชุดอะไรมา แต่ครั้งหน้าถ้าเป็นเนื้อเรื่อง
ช่วงเวลาในโรงเรียน กรุณาใส่ชุดนักเรียนของโรงเรียนให้เรียบร้อย
ด้วยนะครับ
- Nearmoki-2b
Narin
อดีตผู้อำนวยการโรงเรียน
0
+65 M 413 K 676
Re: Lesson 40 : ปัจฉิมนิเทศ
Wed 11 May 2016, 02:06
- After Party:
- 22.30 น. After Party
ขุ่นพระ นี่สนามเด็กเล่นหรือวันปัจฉิมนิเทศกันแน่เนี่ย
ผมนั่งปาดเหงื่อภายใต้บรรยากาศแอร์เย็นฉ่ำภายใน
ลานประชุมในอาคาร Convention Hall ที่ถูกจัด
สถานที่เลี้ยงฉลองไว้สำหรับบุคลากร คณะอาจาร์ย
และผู้บริบารระดับสูงทุกท่าน เราพึ่งมารวมตัวกัน
หลังจากที่งานเลี้ยงหลักได้จบลงแล้ว เด็กนักเรียน
บางส่วนได้ถยอยกันกลับบ้าน จะเหลือก็แค่เหล่า
นักเรียนม.หกที่ยังคงอยู่ในห้วงบรรยากาศการอำลา
แม้แอร์จะเย็นแค่ไหนแต่ก็ต้องยอมศิโรราบให้ความ
วุ่นวายของผู้ใหญ่จอมซนทั้งหลาย ทุกครั้งที่เจ้าของ
โรงเรียนมาเยี่ยมเยียนจะต้องเกิดเสียงเจี๊ยวจ๊าวขึ้นจาก
เหล่าผู้บริหารโรงเรียนระดับสูงผู้พูดคุยกันอย่างปกติชน
ไม่ค่อยเป็น
แต่ดูเหมือนว่าวันนี้ทุกคนจะคึกคะนองมากเป็นพิเศษ
แม้แต่คุณรัตที่มักสงวนท่าทีเองก็ยังวิ่งเล่นไปกับเขาด้วย
วันนี้เป็นวันที่แสนพิเศษสำหรับหลายๆคน เราเหล่า
ผู้บริหารทุกคนล้วนปลื้มปิติกับความสำเร็จครั้งแรก
ของโรงเรียนแห่งนี้ เอลิทบอกว่าวันนี้ผมยังไม่หุบยิ้ม
เลยแม้แต่นาทีเดียว ซึ่งมันก็อาจจะเป็นเช่นนั้นจริงๆ
ผมรู้สึกดีใจไปกับเด็กๆและโรงเรียนแห่งนี้
เสียงหัวเราะร่าดังขึ้นจากผู้ใหญ่ลืมอายุสองคน
คนแรกคือหญิงสาวเจ้าของโรงเรียน เรเน่ กิลเล็ต
ส่วนอีกเสียงเป็นเสียงของผู้รักษาการณ์ฝ่ายปกครอง
เอลิท รอยด์ ซึ่งเสียงหัวเราะของเอลิทนับเป็นสิ่ง
แปลกใหม่สำหรับผม ผมอาจจะเคยได้ยินเขาหัวเราะ
มาบ้างเพราะเราเองก็ต่างมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
แต่ที่น่าแปลกคือการที่เขาหัวเราะต่อหน้า เรเน่
ผู้หญิงที่เจอหน้ากันทีไรต้องเป็นอันทะเลาะกันทุกที
ดูเหมือนจะมีอะไรบางอย่างเปลี่ยนไปโดยที่ผมไม่รู้
แต่มันคงเป็นเรื่องธรรมดาที่อะไรจะเปลี่ยนแปลงไป
โดยที่ไม่ทันสังเกต พอรู้ตัวอีกทีผมก็อยู่โรงเรียน
แห่งนี้มาเป็นเวลามากกว่าหกปีแล้ว
'ปึก'
ร่างเล็กขยับมาชนผมที่นั่งอยู่บนเก้าอี้
"อ๊ะ ขอโทษค่ะนรินทร์"
เรเน่กล่าวขอโทษด้วยน้ำเสียงเพลียแรง ฟังดูเหมือน
พวกเขากำลังเล่นกิจกรรมอะไรสักอย่างที่คุณรัตเป็น
คนจัดขึ้นเพื่อบุคลากรทุกคน ผมก็ร่วมด้วยจนถึงชั่วครู่
ที่รู้สึกว่าสังขารเริ่มไม่สนุกตามจิตใจ คุณรัตผู้ตื่นเต็มที่
นั้นช่างร่าเริงกระฉับกระเฉง บวกกับพลังของวันแห่งความ
ยินดียิ่งทำให้เธอเริงร่าได้พอๆกับเจ้าแม็กเวลจอมซน
ผมยันตัวลุกขึ้นก่อนจะหยิบไม้เท้าคู่ใจและโน้มตัวลง
พูดกับเจ้าของโรงเรียนด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาเพราะ
ไม่อยากทำลายบรรยากาศกิจกรรม
"ผมออกไปข้างนอกนะครับ"
"อ๊ะ อ้อ โอเคค่ะ"
ฟังจากคำตอบแล้วเจ้าตัวคงไม่ได้ตั้งใจฟังนัก เธอวิ่ง
กลับไปสบทบกับกลุ่มอีกครั้ง ดูเหมือนตอนนี้กิจกรรม
แสนสนุกคงน่าสนใจกว่าคนแก่หมดเรี่ยวแรงอย่างผม
ผมส่ายหน้าพลางหัวเราะน้อยๆด้วยความเอ็นดูก่อนจะ
เดินปลีกตัวออกมาจากตึกเพียงลำพัง สิ่งแรกที่สัมผัส
ได้คือลมทะเลยามค่ำคืนที่ออกจะหนาวกว่าปกติอยู่บ้าง
แต่สำหรับผมที่ชอบอากาศเย็นนั้นรู้สึกว่าสดชื่นดี
ผมมุ่งหน้าไปยังริมชายหาดหลังหอพักโรงเรียนอัน
เป็นสถานที่ที่ได้นัดหมายกับ 'เขา' เอาไว้
"มาตรงเวลาสมกับเป็นคุณเลยนะครับ"
ทันทีที่มาถึงผมก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่คุ้นเคย ผมมักจะ
แยกคนออกจากลักษณะการเดินหรือลักษณะการ
หายใจ เช่นคุณรัตที่มักจะหายใจช้าเพราะกำลัง
ยืนหลับ หรือเอลิทผู้เดินลงเท้าแผ่วเบารักษามารยาท
อยู่เสมอ ครั้งนี้ก็เช่นกัน มันเป็นเสียงฝีเท้าของ..
"ก็เป็นประธานนักเรียนนี่ครับ ถึงจะเป็นวันนี้เป็นวัน
สุดท้ายก็เถอะ"
เสียงนั้นดูติดโทนโศกเศร้าเล็กน้อย สำหรับคุณอิสรา
แล้วตำแหน่งประธานนักเรียนคือสิ่งที่เขาภาคภูมิใจ
อีกทั้งวันนี้ยังเป็นวันที่เขาจะต้องลาจากกับเพื่อนร่วม
ห้องหลายๆคนอีกด้วย คงจะกำลังเศร้าใจอยู่แน่ๆ
"อ๊ะ.."
ผมเดินเข้าไปใกล้ระหว่างที่มือควานหาร่างอีกฝ่าย
ผ้าแบบนี้.. วันนี้คงใส่สูทเต็มยศเลยสินะ ว่าแล้วผม
ไปถอดสูทตัวนอกไว้ที่ไหนอีกแล้วเนี่ย... เมื่อหา
ร่างอีกคนเจอแล้วผมจึงยกมือขึ้นลูบศีรษะหวัง
ปลอบประโลม
"ไม่เป็นไรนะครับ เดี๋ยวก็ได้เจอกับเพื่อนๆอีกนะ"
"ครับ..."
จะชอบให้ลูบผมหรือเปล่านะ? แต่เห็นไม่ได้แสดงท่าที
ปฏิเสธอะไร คงจะไม่เป็นไรละมัง ผมยังคงลูบเรือนผม
นั้นต่อไป ก็มันนุ่มดีนี่นา~
"ผอ.นัดผมมามีอะไรหรือครับ?"
เอาอีกแล้วพ่อหุ่นยนต์น้อยของผม ทั้งๆที่บรรยากาศ
ออกจะโรแมนซ์ขนาดนี้ ต่อให้ไม่เห็นดวงจันทร์ก็น่าจะ
เคลิบเคลิ้มไปกับเสียงคลื่นเป็นเพื่อนผมสักหน่อยนะ
ผมหัวเราะน้อยๆก่อนจะเอ่ยตอบกวนเล่น
"ก็แค่คิดถึง วันนี้ไม่ค่อยได้คุยด้วย"
ไร้ซึ่งปฏิกริยาตอบรับจากหุ่นยนต์ Einz-Bot
สงสัยจะไม่ได้คีย์ข้อมูลไว้ว่าต้องตอบรับเช่นไร
เสียงเพียงอย่างเดียวที่มีอยู่ในตอนนี้คือเสียงของ
คลื่นทะเลที่กำลังพากันตีพัดเข้าฝั่ง เจ้าเด็กข้างกาย
ยังคงนิ่งสนิท ไม่พูดอะไรเลยจริงๆแฮะ.. ด เดี๋ยวนะ
นี่หรือว่าจะอายจริง ม๊ายยย อย่าทำตัวน่ารักแบบน๊านน
หัวใจคนแก่ไม่แข็งแรงงง
"อะแฮ่ม.. ที่เรียกมาก็ต้องมีเรื่องจะพูดด้วยแน่นอนอยู่แล้ว"
นี่แหน่ เปลี่ยนเรื่องพูดซะเลย
"เรื่องสำคัญเชียวนะ!!"
"ครับ"
ขอบใจนะที่อุส่าห์ตอบมาตั้งคำนึง ผมหันหน้าหนีไปร้องไห้
กับตัวเองอยู่ในใจ คงจะกลัวดอกพิกุลร่วงจากปากสินะ!!
แม้จะสะอื้นอยู่ในใจแต่เอาเข้าจริงผมก็ชินแล้วละนะกับ
ความพูดน้อยของเขา ในช่วงเวลาสองปีที่ผ่านมานี้ผมกับ
คุณอิสราได้มีโอกาสได้พูดคุยทำความรู้จักกันมากขึ้น
ผมรู้สึกว่าตัวเองรู้จักเจ้าเด็กพูดน้อยต่อยหนักคนนี้ดี
แต่ไม่รู้เขาจะสามารถเข้าถึงผมได้ขนาดไหนกันนะ..
ผมยิ้มน้อยๆกับตัวเองก่อนจะเอ่ยประโยคต่อไป
"ผมอยากขอบคุณที่คุณคอยช่วยเหลืองานผมมาตลอด
ถึงเพื่อนๆจะบอกว่างานหนักมากแต่คุณก็ไม่เคยบ่นเลย"
คุณอิสราเป็นประธานนักเรียนคนแรกของโรงเรียนเรา
และผมก็ยอมรับจากใจว่าเขาทำหน้าที่ได้สมบูรณ์แบบ
หลายครั้งก็ทำงานหนักเกินกว่าที่เด็กนักเรียนคนหนึ่งควร
จะแบกรับด้วยซ้ำ เขาควรมีเวลาไปวิ่งเล่นกับเพื่อนมากกว่า
มานั่งคลุกช่วยงานผมอยู่ที่ห้อง แต่นั่นก็เป็นหนึ่งสาเหตที่
ทำให้เราสนิทกันนั่นแหละนะ..
"ไม่เป็นไรครับ มันเป็นหน้าที่"
ช่างเป็นคนที่ฆ่าบรรยากาศโรแมนติกได้อย่างเหี้ยมโหดเหลือร้าย
โชคดีที่ดวงใจของผมเรียนรู้ที่จะอยู่กับมันแล้ว ไม่งั้นคงจะ
รู้สึกอยากผูกคอตายใต้ต้นเฟื้องฟ้าอยู่บ้าง ผมพูดต่อสบายๆ
โดยไม่ได้ติดใจอะไร
"ต่อจากนี้ก็จะได้เป็นครูแล้ว เติบโตไปอีกขั้นแล้วเนอะ"
"ครับ"
ผมพูดเรื่อยเปื่อยถึงเรื่องชีวิตหลังวัยเรียน เรื่องการขึ้นเป็นครู
เรื่องชีวิตวัยผู้ใหญ่ ในขณะที่พูดนั้นก็ค่อยๆเดินมาหยุดอยู่ที่
เบื้องหลังร่างเด็กชายผู้ตัวเล็กกว่านิดหน่อย ผมหยิบอะไร
บางอย่างขึ้นจากกระเป๋ากางเกงโดยที่ปากก็ยังเอ่ยสนทนา
เด็กหนุ่มสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อถูกสัมผัสที่ไหล่ เหมือนจะไม่รู้
ด้วยซ้ำว่าผมมายืนอยู่ข้างหลังตั้งแต่เมื่อไหร่ ผมพาดบางสิ่ง
ลงบนลำคอนั้น
"ผอ.ครับ? นี่มัน?..."
ผมยิ้มระหว่างที่ติดตะขอเพื่อยึดสิ่งนั้นไว้บนลำคอของคุณอิสรา
เจ้าเด็กน้อยแสดงท่าทีสนใจ เขาคงจะกำลังสำรวจมันอยู่สินะ
"Make Love Not War"
ภาษาอังกฤษสำเนียงใช้ได้ถูกเอ่ยขึ้นจากเจ้าเด็กตั้งใจเรียน
มันคือคำที่สลักเป็นภาษาเบลล์อยู่บน 'สร้อยคอ' ที่ผมสวมให้- Spoiler:
"อืม ใช่แล้ว นี่แหละคือสิ่งที่ผมอยากบอก"
"เอ๋?"
คุณอิสราในตอนนี้เต็มไปด้วยความสงสัย โทนเสียงที่สูงกว่าปกติ
แสดงให้เห็นถึงความประหลาดใจ เขาหมุนตัวหันหน้ามาทางผม
"ต่อจากนี้คุณจะกลายเป็นครูแล้วนะ คนเป็นครูน่ะ ไม่ได้มอบ
ให้นักเรียกได้แต่ความรู้หรอกนะครับ ผมอยากจะให้คุณช่วยผม
เป็นอีกหนึ่งคนที่คอยดูแลเด็กๆในเวลาที่พวกเขามีปัญหา
ผมอยากให้คุณดูแลเด็กๆด้วยความรัก ความเอาใจใส่
ใช้ความรักและหัวใจเพื่อที่จะเข้าถึงพวกเขาแต่ละคน
ในยามที่มีปัญหาให้ขุ่นเคืองใจ ผมก็อยากให้คุณย้อน
นึกถึงความรักที่คุณมีให้แก่พวกเขา คุณพอจะช่วยผมได้ไหม?"
เด็กหนุ่มยืนฟังเงียบๆอยู่พักหนึ่ง เขาคงกำลังพิจารณาสิ่งที่ได้ยิน
เสียงกระทบกันของจี้สร้อยดังขึ้นทำให้รับรู้ว่าเขากำลังกำมันอยู่
การสนทนาถูกเว้นระยะไปพักหนึ่งก่อนที่อีกฝ่ายจะพูดตอบ
"ผอ.เนี่ย.. รักเด็กๆจริงๆเลยนะครับ"
"แฮะๆ"
ผมยกมือเอาหลังคอแก้เขิน คุณอิสราเอื้อมมือมาจับมืออีกข้าง
ของผมเอาไว้
"ขอบคุณนะครับสำหรับสร้อยเส้นนี้ ผมจะรักษามันไว้อย่างดี
แล้วผมก็จะทำตามคำสอนของผอ. จะดูแลนักเรียนด้วยรัก
จะคอยช่วยเหลือพวกเขาอย่างเต็มความสามารถ"
ถ้าไม่ติดว่ากำลังเข้าโหมดซึ้งอยู่ผมคงหยิบมือถือขึ้นมาอัดเสียง
ประโยคยาวๆของคุณอิสราเพื่อเก็บไว้ฟังวันหลัง ถ้อยคำมุ่งมั่น
ฉะฉานนั้นช่างฟังแสนชื่นใจ ตอนนี้คงได้แต่เก็บไว้ในความทรงจำ
"ผอ.ครับ"
"ครับผม?"
สัมผัสที่มือบีบแรงขึ้นแสดงให้เห็นถึงความจริงจังที่มี เสียงสูด
หายใจเฮือกใหญ่ดังขึ้นก่อนจะตามมาด้วยเสียงผ่อนลมออก
มือนั้นบีบแน่นขึ้นอีกหน่อยหากในคราวเดียวกันก็พอสัมผัสได้
ว่ามันกำลังสั่นไหว
"นอกจากนักเรียนแล้ว ให้ผมช่วยเหลือคุณด้วยได้ไหม?"
ผมประหลาดใจ ไม่รู้ว่าตัวเองตีความหมายในสิ่งที่ได้ยินถูกต้อง
หรือไม่ ดวงใจที่เคยสงบผลันกระตุกเต้นเร็วไว เขากำลังพูดกับ
ผมอยู่อย่างนั้นเหรอ? เขาต้องการที่จะช่วยเหลือคนอย่างผม
อย่างนั้นน่ะเหรอ?... ในระหว่างที่มัวแต่คิดคุณอิสราก็เอ่ยขึ้น
อีกครั้ง
"นอกจากนักเรียนแล้ว ให้ผมรักคุณด้วยได้ไหม?..."- Spoiler:
ผมไม่รู้จริงๆว่าตอนนี้ตัวเองกำลังแสดงสีหน้าแบบไหนอยู่
ท่ามกลางสายลมทะเลและบรรยากาศของการจากลานั้น
ผมกำลังรู้สึกมีความสุขอย่างที่ไม่สามารถอธิบายได้
วันนี้ช่างเป็นวันที่ดีจริงๆ...
ขอบคุณนะ...
Signature ------------------------------------------------>
- ผู้มาเยือนผู้มาเยือน
Re: Lesson 40 : ปัจฉิมนิเทศ
Wed 11 May 2016, 08:43
เขินจัง..
EDIT:: มาส่งภารกิจครับ
✎ ผู้ที่ทำภารกิจได้ยอดเยี่ยมกว่ามาตรฐาน (80%+)
EDIT:: มาส่งภารกิจครับ
- Spoiler:
วันนี้เป็นวันเปิดเรียนปกติ แต่เนื่องจากวันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่นักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 6 จะจบการศึกษา และยังเป็นรุ่นแรกของโรงเรียน ทางโรงเรียนจึงได้จัดงานปัจฉิมนิเทศขึ้น เพื่อเป็นเกียรติแก่นักเรียนชั้นม.6 ทุกๆ คนที่จบการศึกษาในปีนี้ ไม่เพียงจะมีแต่นักเรียนม.6 ที่พร้อมหน้าเพื่อเข้าพิธี แต่นักเรียนชั้นอื่นๆ เองก็แต่งตัวไปโรงเรียน เพื่อแสดงความยินดีแก่รุ่นพี่ด้วย
วันนั้นอิสราตื่นเช้ากว่าปกติ เพื่อท่องจำคำปราศรัยและคำอำลาในฐานะตัวแทนนักเรียนชั้นม.6 และในฐานะประธานนักเรียน เขารู้สึกตื่นเต้นที่ในที่สุดก็มีวันนี้ แต่ก็รู้สึกใจหายและเสียดายไม่น้อย ที่จะไม่ได้สวมชุดนักเรียนและเข้าไปนั่งเรียนในห้องอีกแล้ว
ก่อนจะถึงเวลาเข้าหอประชุม ก็เป็นธรรมเนียมที่ต้องมีการถ่ายภาพ และมอบของที่ระลึก สัปดาห์ที่ผ่านมาใช้ว่าอิสราจะไม่เตรียมของแจกเพื่อนๆ น้องๆ สิ่งที่เขาทำเป็นที่คั่นหนังสือใส่ซองแก้ว ที่ปลายที่คั่นเขียนภาษาเบรลล์ไปว่า 'จบแล้วอย่าลืมอ่านหนังสือ' ไว้ให้ขำๆ เด็กหนุ่มคิดว่าคงมีคนมาแลกของกับตัวเองไม่มากนัก จึงทำไว้เพียง 50 ชุด เช้าตรู่ประมาณ 08.00 น. บริเวณหน้าหอประชุมคึกคักกว่าปกติ มีทั้งผู้ปกครองของนักเรียน และเหล่ารุ่นน้องที่บางคนเตรียมมาทำเซอร์ไพรซ์พี่ๆ เรียกเอาเสียงนักเรียนที่เจี๊ยวจ๊าวอยู่แล้วให้เจี๊ยวจ๊าวมากกว่าเดิม ทันทีที่อิสราปรากฏตัว เหล่ารุ่นน้องที่น่ารักก็ดึงเข้าไปถ่ายรูปทันที
"พี่ไอน์ ถ่ายรูปกันนะคะ"
"ประธานขาาาา ถ่ายรูปกันๆๆๆ"
"เอ่อ...ครับๆ"
อิสราเหงื่อแตกตั้งแต่เช้า เพราะโดนดึงไปดึงมา ตามตัวเริ่มมีของจุกจิกเล็กน้อยทั้งแปะทั้งห้อยอยู่ ไม่ว่าจะเป็นดอกไม้ประดิษฐ์ ตุ๊กตาหรือที่คาดผมหูกระต่าย หรือป้ายห้อยคอ อิสรานึกไปเองว่าน้องๆ น่าจะมาให้ช่วงเที่ยงไม่ก็บ่ายๆ หลังเสร็จพิธีมอบเกียรติบัตร แต่หลายคนบ่นว่าตอนบ่ายร้อน ไม่อยากแบกของ...เอาให้พี่ๆ แต่เช้าเลยดีกว่า
ขอบคุณนะครับที่รีบทำรีบให้... อิสราคิดอย่างติดตลก
พิธีการเริ่มขึ้นช้ากว่าตารางกำหนดการเพียงเล็กน้อย ของบางอย่างที่ต้องถืออิสราก็วางไว้กับเพื่อน แล้วเตรียมตัวขึ้นเวที ควิ้นท์ไม่ได้เคร่งครัดว่าการเข้าพิธีรับมอบเกียรติบัตรจะต้องเรียบร้อยเนี้ยบเป๊ะ ภาพการรับเกียรติบัตรจากผอ.ในวันนั้นจึงมีทั้งคนสวมหมวกตัวตลก ที่คาดผมหูกระต่าย หรือมัดจุกแบบเซเลอมูน สำหรับคนที่เห็นก็ดูแล้วมีสีสัน แต่คนที่ไม่เห็นก็ได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ และอดจะหัวเราะตามไม่ได้
เมื่อเสร็จสิ้นการมอบเกียรติบัตร ก็ถึงคราวประธานนักเรียนกล่าวคำปราศรัยและกล่าวคำอำลา ทั้งที่ซ้อมและคิดมาดีแล้ว แต่ประธานนักเรียนหนุ่มก็อดที่จะตื่นเต้นไม่ได้ ทั้งตื่นเต้นและ...
"วันนี้แกจะได้ขึ้นหน้าเวทีวันสุดท้ายแล้วเนอะ" จิณณ์รำพึงขึ้น
"อืม"
"เสียดายเหรอวะ"
อิสราอมยิ้มกับการรู้ทันของเพื่อน
"นิดหน่อย"
"นั่นสินะ อยู่มาตั้งนาน"
เมื่อสิ้นสุดเสียงผู้ดำเนินพิธี อิสราก็ลุกจากที่นั่งแถวหน้าสุด ตรงไปยังแท่นปรำพิธีโดยมีเจ้าหน้าที่ในงานคอยช่วยเหลือ คำปราศรัยของอิสรามีไม่ยาวมาก เขากล่าวขอบคุณผู้มีพระคุณทุกท่าน คุณครูที่ช่วยสั่งสอน และเพื่อนๆ ที่คอยอยู่เคียงข้าง ทั้งคนที่ลาออกไปก่อน ย้ายโรงเรียนและคนที่ยังอยู่กับเขาตั้งแต่เข้าม.1 มาจนถึงวันนี้
"...แม้นี่จะเป็นวันสุดท้ายที่ผมจะได้ขึ้นมาพูดในฐานะนักเรียน แต่สิ่งดีงามที่โรงเรียนได้เหลือไว้ให้ผม จะไม่ถูกทิ้งไว้กับคำว่านักเรียนแน่นอน ในวันข้างหน้าหากมีโอกาส ผมจะกลับมาที่โรงเรียนแห่งนี้ และถ่ายทอดสิ่งดีๆ แก่รุ่นน้องต่อๆ ไปครับ ขอบคุณครับ"
อาจจะเป็นการพูดที่ยาวที่สุดในชีวิตของอิสราเลยก็เป็นได้ อิสราโค้งตัวและเสียงปรบมือก็ดังขึ้น เมื่อนั้นพิธีการในช่วงเช้าก็เป็นอันเสร็จสิ้น เสียงโห่ร้องและเสียงปรบมือของนักเรียนที่จบการศึกษาดังกึกก้อง บางคนรีบลุกจากเก้าอี้แล้วเข้าไปหาเพื่อนๆ เพื่อถ่ายรูป และแลกของปัจฉิม และอื่นๆ อีกมากมาย รวมไปถึงผู้ปกครองบางส่วนก็มาแสดงความยินดีจนหอประชุมแน่นขนัด
"ไอน์ ไม่ถ่ายรูปกับเพื่อนเหรอลูก" เสียงเรียบๆ แต่แฝงความปลื้มใจของยายดังขึ้น คุณยายของอิสรามาถึงตั้งแต่เมื่อค่ำวานแล้ว อิสรายิ้มกว้างก่อนจะกอดคุณตาคุณยายที่มาร่วมงานในครั้งนี้
"เดี๋ยวไปครับ ตากับยายไม่ร้อนนะ หิวยังครับ โรงเรียนมีโรงอาหารกับร้านเบเกอรี่.."
"ไม่ต้องห่วงตากับยายนะ คนแก่หากินเองได้ ไอน์ไปหาเพื่อนเถอะไป"
"ครับ"
อิสราโค้งศีรษะเล็กน้อย ก่อนจะเข้าร่วมวงเพื่อนๆ ที่ตอนนี้มีน้องๆ ร่วมผสมโรงด้วย ตอนนี้ในอ้อมแขนของอิสรามีทั้งดอกไม้ ตุ๊กตา ผ้าสี ที่คาดผม มงกุฏและอื่นๆ อีกมากมาย เสียงหัวเราะกับคำอวยพรแปลกๆ ดังขึ้นไม่ขาด ไม่มีบรรยากาศโศกเศร้าที่ต้องอำลาโรงเรียน มีเพียงความสุขที่ในที่สุดความพากเพียรในการร่ำเรียนวิชาได้สำเร็จ จะเศร้าไปทำไมในเมืองโรงเรียนไม่ได้หายไปไหน แต่ใครจะรู้ว่าบทโศกดันตกไปอยู่ตอนเย็นกับดีเจอารมณ์ดี 'แม็กเวล' คนนั้น
.
.
.
.
.
ช่วงเย็นยังมีงานเลี้ยงสำหรับนักเรียนม.6 อิสราเปลี่ยนจากชุดนักเรียนและสวมใส่ชุดสุภาพด้วยสูทแบบเต็มยศ เด็กหนุ่มรู้สึกเคอะเขินอย่างบอกไม่ถูก ยิ่งยายชมว่าหล่อก็ยิ่งเขินเข้าไปใหญ่ แต่เด็กหนุ่มก็ไม่แสดงท่าทีอะไรมากนอกจากนิ่งเงียบกว่าปกติพร้อมกับแก้มที่แดงเพราะเขินจัด คุณตาเป็นคนพามาส่งที่ฮอลจัดงาน ดวงตาผ่านเลนส์แว่นจ้องมองหนุ่มๆ สาวๆ แต่งตัวกันสวยงาม บางคนแม้จะนั่งรถเข็นไฟฟ้าก็ยังเหมือนองค์หญิงน้อยๆ และองค์หญิงน้อยๆ ที่คุณตาของอิสราเห็นก็รีบพุ่งรถเข็นไฟฟ้ามาทางหลานชายของตน
"โอ้โห..ท่านไอน์ หล่อมากเลยค่ะ"
"เอ่อ ริแอร์.."
"นี่ท่านตาสินะคะ สวัสดีค่ะ" แม้จะหน้าตาฝรั่งจ๋าและสำเนียงไทยที่ไม่ค่อยชัด แต่เมื่อเห็นผู้หลักผู้ใหญ่ ริแอร์ก็ยกศอกขึ้นพนมมือและก้มศีรษะลงไหว้อย่างสวยงามตามหลักเป๊ะๆ จนคุณตาของอิสรายกมือรับไหว้ไม่ทัน สายตาของท่านมองสาวน้อยฝรั่งคนนี้ด้วยสายตาที่ชื่นชม ก่อนจะขอแยกตัวออกมา ปล่อยให้หลานสนุกกับงานและเพื่อนๆ ตามประสา
อิสราและริแอร์พูดคุยกันเล็กน้อยแล้วเข้าไปในงานพร้อมกัน ถือเสียว่าทั้งคู่ควงกันมาโดยมิได้นัดหมาย ดนตรีภายในงานถูกจัดแจงโดยดีเจคนเก่งของโรงเรียน 'แม็กเวล' แม้บรรยากาศจะไม่ได้เจี๊ยวจ๊าว แต่เสียงเพลงและเสียงพูดคุยก็ทำให้บรรยากาศอบอุ่น
เมื่อถึงเวลา เสียงเพลงดับลง และถึงคราวเปิดงานและปราศรัยส่งท้ายจากตัวแทนนักเรียนชั้นม.6 นั่นคือ 'แม็กเวล' อีกนั่นแหละ คำปราศรัยของแม็กเวลนั้นช่างซาบซึ้ง ช่างดูแตกต่างจากแม็กเวลในยามปกติหรือที่เพื่อนๆชอบเห็น น้ำเสียงที่ยียวนถูกกลบหายไปด้วยความขอบคุณจากก้นบึ้งของจิตใจ บางคนถึงกับน้ำตาซึมกับคำกล่าวอำลาของเพื่อนคนนี้ อิสรานั่งนิ่งฟังด้วยรอยยิ้มบางๆ เพื่อนหนอเพื่อน...มีโมเม้นต์ดราม่ากับเขาด้วย เด็กหนุ่มปรบมือดังกึกก้องให้กับคำอำลาโรงเรียนของเพื่อนสนิท และงานเลี้ยงก็ได้เริ่มต้นขึ้น ด้วยอาหารที่ฟรีตลอดงาน...
"ประธานหล่อมากก อยากถ่ายรูปปป ถ่ายรูปด้วยๆๆ"
"ตรงนี้มืด ขอที่สว่างๆๆ"
เพื่อนนักเรียนหญิงต่างเอ่ยชมไม่หยุด เล่นเอาเด็กหนุ่มที่อุตส่าห์หายเขินแล้วต้องเขินจนหน้าแดงก่ำอีกรอบ เขาไม่ได้ปฏิเสธใคร จึงถูกลากไปลากมา อิสรารู้สึกว่าวันนี้เหมือนเป็นวันถ่ายรูปแห่งชาติ มากกว่าวันปัจฉิมนิเทศ
ขณะที่กำลังพูดคุยหัวเราะสนุกสนาน อิสราก็รู้สึกเหมือนใครซักคนกำลังยืนอยู่ด้านหลัง จนเมื่อเพื่อนๆ ร้องทักขึ้นว่า 'อ๊ะ...ผอ. สวัสดีค่ะ/ครับ' เมื่อนั้นอิสราจึงได้หันไป ลมวูบวาบผ่านหน้าก่อนจะได้ยินเสียงกระซิบแผ่วเบาที่มีเพียงเขาและ 'ผู้อำนวยการ' ได้ยิน
"อีก 20 นาทีไปเจอกันที่ชายหาดหน่อยนะ"
อิสราไม่ทันได้ตอบตกลง คนๆ นั้นก็อันตรธานหายไปจากตรงนั้นเสียแล้ว เด็กหนุ่มรู้สึกแปลกใจระคนตื่นเต้น ผอ...ต้องการจะบอกอะไรเขางั้นหรือ
ผ่านไป 20 นาทีไม่ขาดไม่เกิน อิสราก็ขอตัวออกมาจากวงเพื่อนๆ แล้วตรงไปที่ชายหาด ลมทะเลในตอนกลางคืนนั้นพัดแรงเสียจนผมที่อุตส่าห์ทำมายุ่งไม่เป็นทรง และที่ตรงนั้นก็มีคนยืนรออยู่แล้ว
"มาตรงเวลาสมกับเป็นคุณเลยนะครับ"
อิสรายิ้มรับกับคำต้อนรับนั้นเล็กน้อย ทั้งคู่พูดคุยกัยเพียงไม่กี่คำ ด้วยเพราะอิสราไม่รู้จะพูดอะไร แต่ในอกนั้นหัวใจกำลังเต้นตึกตักๆ เพราะบรรยากาศมันไม่ได้ดูธรรมดาอย่างที่ภายนอกเป็นเลย ยิ่งฝ่ามืออุ่นหนาลูบผมเขาเบาๆ เด็กหนุ่มก็รู้สึกเหมือนใบหน้าของตัวเองร้อนฉ่าจนกลืนน้ำลายลงคอเบาๆ ถ้าขึนออกเสียงอะไรไป เสียงของเขาต้องสั่นแน่ๆ...
ผอ.ไม่ค่อยได้ลูบผมเขาแบบนี้เลย อยากอ้อนจัง..
"ผมอยากขอบคุณที่คุณคอยช่วยเหลืองานผมมาตลอด ถึงเพื่อนๆจะบอกว่างานหนักมากแต่คุณก็ไม่เคยบ่นเลย"
"ไม่เป็นไรครับ มันเป็นหน้าที่"
แม้จะติดขี้เกียจบางครั้ง แต่หน้าที่ก็คือหน้าที่ แต่ทำไมเมื่อตอบตามความจริงแบบนั้นไปแล้ว เสียงถอนหายใจแบบระอาๆ ถึงได้ดังขึ้นก็ไม่ทราบได้ ขณะที่กำลังพูดคุยอะไรไปเรื่อยเปื่อย สิ่งของบางอย่างก็ถูกสวมเข้าที่คอของเด็กหนุ่ม อิสราตกใจเล็กน้อยแต่ไม่ได้แสดงท่าทีกระโตกกระตาก เขาลูบที่สร้อย เรื่อยไปจนถึงจี้ของสร้อย มันสลักเป็นภาษาเบรลล์เอาไว้ว่า...
"Make Love Not War"
สร้อยเส้นนั้นได้บอกกับเขา อิสราสงสัย
"ต่อจากนี้คุณจะกลายเป็นครูแล้วนะ คนเป็นครูน่ะ ไม่ได้มอบให้นักเรียกได้แต่ความรู้หรอกนะครับ ผมอยากจะให้คุณช่วยผม เป็นอีกหนึ่งคนที่คอยดูแลเด็กๆ ในเวลาที่พวกเขามีปัญหา ผมอยากให้คุณดูแลเด็กๆ ด้วยความรัก ความเอาใจใส่ ใช้ความรักและหัวใจเพื่อที่จะเข้าถึงพวกเขาแต่ละคน ในยามที่มีปัญหาให้ขุ่นเคืองใจ ผมก็อยากให้คุณย้อนนึกถึงความรักที่คุณมีให้แก่พวกเขา คุณพอจะช่วยผมได้ไหม?"
ทุกถ้อยคำที่เอ่ยมา ล้วนแต่แสดงถึงความรัก ความห่วงใยในฐานะ 'ครูผู้ให้' มากกว่าผู้อำนวยการที่เป็นฝ่ายบริหาร อิสราฟังแล้วก็ได้แต่อมยิ้ม
"ผอ.เนี่ย... รักเด็กๆ จริงๆ เลยนะครับ" น่าจะมาเป็นครูมากกว่าเป็นผอ.ที่นั่งโต๊ะทำงานเอกสารมากกว่าอีก....อิสรานึกแต่ไม่ได้พูดออกไป
เสียงหัวเราะแหะๆ ดังขึ้น เด็กหนุ่มขอบคุณของขวัญวันปัจฉิมที่คนพิเศษผมให้ เขาสัญญากับตัวเองว่าจะไม่ถอดมันออกอย่างเด็ดขาด และจะรักษามันไว้อย่างดี เป็นของขวัญที่มีค่าและทำให้เขารู้สึกเหมือนมี 'คนพิเศษ' อยู่ใกล้ๆ ตัวอยู่เสมอ ทั้งยังเป็นเครื่องย้ำเตือนให้เขาเป็นครูที่ดีในอนาคตอีกด้วย
แต่เมื่อนึกถึงประโยคกึ่งขอร้องนั้นแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผอ.ขอ ไม่มีสิ่งไหนเพื่อตัวเขาเองเลย รู้จักกันมาก็ตั้งกี่ปี แต่ผอ.ที่นึกถึงคนอื่นเสมอก็ยังคงเช่นเดิม อิสรารู้สึกอ่อนอกอ่อนใจกับความใจดีเกินไปนั้น จนท้ายสุดเด็กหนุ่มก็เอ่ยสิ่งที่ตัวเขาเองอยากจะช่วยมากที่สุดออกไป
"นอกจากนักเรียนแล้ว ให้ผมช่วยเหลือคุณด้วยได้ไหม?"
มีเพียงเสียงลมเป็นคำตอบ เสียงอุทานอย่างประหลาดใจดังขึ้นเบาๆ สั้นๆ อิสราก้าวเท้าเข้าไปใกล้นรินทร์มากกว่าเดิม
"นอกจากนักเรียนแล้ว ให้ผมรักคุณด้วยได้ไหม?..."
วันนี้เป็นวันสุดท้ายในฐานะนักเรียน และอิสราจะพูดในฐานะนักเรียนเป็นครั้งสุดท้าย แม้ที่ผ่านมาเพราะคำว่ายังเด็กจะช่วยอะไรมากไม่ได้ แต่นับจากนี้ เขาไม่ใช่นักเรียน ไม่ใช่เด็กอีกต่อไปแล้ว ไม่ว่าอะไรก็ตาม...ต่อแต่นี้เขาพร้อมที่จะช่วยเหลือคนตรงหน้านี้ในทุกๆ เรื่องอย่างสุดความสามารถ อิสรายิ้มพร้อมกับตรงเขาสวมกอดคนตรงหน้าท่ามกลางสายลมและเสียงคลื่นทะเล
ปัจฉิมอาจจะเป็นวันสุดท้ายในฐานะนักเรียน แต่ในโรงเรียนควิ้นท์ นี่ยังไม่ใช่วันสุดท้าย ในฐานะ 'ครู' ของอิสรา อาจจะมีอะไรเริ่มต้นขึ้นก็เป็นได้
✎ ผู้ที่ทำภารกิจได้ยอดเยี่ยมกว่ามาตรฐาน (80%+)
A - CLASS STAMP ตราประทับระดับสูงในหมวดภารกิจทั่วไป มีลักษณะเป็นดาวสีทับทิม สื่อถึงความหรูหรา มีมูลค่า +80 Grade Exp. จะได้รับเมื่อปฎิบัติภารกิจได้ยอดเยี่ยมเป็นที่น่าประทับใจแก่ผู้อำนวยการโรงเรียน |
+1,250,000 Spirit Point ไอเทมเพิ่มแต้มสะสม Spirit Point ตามปริมาณที่กำหนด สามารถนำไปใช้ในการแลกเปลี่ยนเป็น CHIPS ได้ในภายหลัง |
- Narin's Comment:
- เนื้อเรื่องน่ารักอบอุ่นมากครับ มีการเขียนถึงตัวเองและคนรอบข้าง
คุณอิสราเริ่มกระจายบทไปหาตัวละครอื่นๆมากขึ้นซึ่งจริงๆแล้วมัน
เป็นวิธีการอธิบายตัวละครของตัวเองอีกวิธีหนึ่งที่อาจไม่ทันคาดคิด
เพราะมุมมองที่ตัวละครมองคนอื่นๆนั้นสามารถสะท้อนความคิดนิสัย
ของตัวละครหลักได้ เช่นตอนที่ไอน์พูดถึงแม็กเวลว่า
"เพื่อนหนอเพื่อน...มีโมเม้นต์ดราม่ากับเขาด้วย"
ตรงนี้ผมอ่านแล้วรู้สึกว่าไอน์มีความอาธร เอ็นดูเพื่อนฝูง ซึ่งทำให้
ผมเองก็เอ็นดูไอน์และคิดว่าเขาเป็นคนน่ารัก แม้เทคนิกการเล่า
แบบนี้จะไม่ได้ทำได้ง่ายๆหรือถ้าจงใจนำเสนอมากเกินไปมันก็
จะดูไม่สมจริงขึ้นมาง่ายๆ แต่ผมคิดว่ามันเป็นวิธีการเล่าที่มีสเน่ห์
มากเลยครับ ลองเอาไปปรับเล่นดูได้นะ~
- pangkawjoaประธานนักเรียน
Taira Payakaroon
อาจารย์ภาษาไทย
3315
+611 M 122 K 265
PASSPORT
:
(2580/21000)
:
Re: Lesson 40 : ปัจฉิมนิเทศ
Fri 13 May 2016, 23:41
...นี่เป็นวันที่คึกคักอีกวัน...
เวลานี้เป็นเวลาที่พิธีจบการศึกษาของรุ่นพี่มัธยมหกกำลังดำเนินอยู่ ผมคิดว่าพิธีนี้เป็นพิธีที่ศักดิ์สิทธิ์และเป็นเกียรติมาก มันเหมือนการยอมรับเหล่านักเรียนว่าเติบโตอย่างมีคุณค่าและจบการศึกษาอย่างมีคุณภาพ เพราะมีพิธีจบการศึกษาเลยทำให้พวกรุ่นพี่ต่างยุ่งกันใหญ่ ผมก็หวังว่าพิธีจะผ่านไปด้วยดีนะ แล้วสิ่งที่ผมรอคอยต่อจากนั้นก็คือ...หลังพิธีจบการศึกษาล่ะครับ!
หลังจบพิธีแล้วนักเรียนชั้นต่างๆ สามารถเข้าไปแสดงความยินดีได้ ผมเองก็อยากเข้าไปแสดงความยินดีด้วยเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นรุ่นพี่ไอน์ รุ่นพี่จิณณ์ รุ่นพี่แม็กเวล หรือรุ่นพี่ริแอร์ก็ตาม ทุกคนใจดีกับผมมากเพราะงั้นผมต้องแสดงความยินดีออกไปให้เต็มที่...โอ๊ะ! รออยู่หน้าหอประชุมสักพักก็เห็นพวกรุ่นพี่เดินออกมาจากตึกแล้ว โชคดีจริงๆ เลยครับที่เห็นรุ่นพี่ไอน์กับรุ่นพี่จิณณ์เดินมาโน่นแล้ว
นี่ถ้าผมพูดได้ผมคงตะโกนเรียกเสียงดังไปแล้ว แต่ในเมื่อผมพูดไม่ได้ งั้นคงรอช้าไม่ได้แล้วครับต้องรีบเข้าไปหาพวกพี่ๆ แล้ว
ผมวิ่งเหยาะๆ ตรงไปทางพวกรุ่นพี่ อีกไม่เท่าไหร่ก็จะถึงตัวเป้าหมายแล้วแต่ว่า...ก่อนที่ผมจะไปถึงฝั่งฝัน (?) ก็มีเด็กผู้หญิงสี่ห้าคนไปล้อมรุ่นพี่ไอน์กับรุ่นพี่จิณณ์ไว้ แล้วจากสี่คนก็กลายเป็นสิบเลยครับ!!! ไม่เพียงแค่รุ่นพี่สองคนนี้เท่านั้นที่โดนล้อม แม้แต่รุ่นพี่แม็กเวลกับรุ่นพี่ริแอร์ก็โดนด้วย โดยเฉพาะรุ่นพี่แม็กเวลเนี่ยโดนสาวล้อมเยอะกว่าใครเพื่อนเลยครับ ก็รุ่นพี่เขาหล่อเทพนี่นะ ฮ่าๆๆ...ฮ่า...
เดี๋ยวนะ...ไทระ...นี่มันใช่เวลามาหัวเราะไหม! ตอนนี้ต้องไปแสดงความยินดีกับรุ่นพี่สิ!
เมื่อคิดได้แบบนั้นผมก็พยายามจะแทรกตัวฝ่ากลุ่มนักเรียนหญิงเข้าไปแต่ก็ไม่สำเร็จ ผมโดนกระแทกออกมาเลยแถมดูท่าพวกนั้นคงจะคุยกับพวกรุ่นพี่อีกยาวแน่ ถึงจะเจ็บใจก็เถอะแต่ผมก็พยายามอดกลั้นใจไว้แล้วคิดว่าค่อยแสดงความยินดีในงานเลี้ยงที่จะจัดขึ้นช่วงค่ำก็ได้ เพราะตอนนั้นทุกคนน่าจะแสดงความยินดีกันไปจนหนำใจแล้วล่ะ คงเหลือพื้นที่ไว้ให้ผมได้เข้าใกล้รุ่นพี่บ้าง
ผมกำลังจะเดินผละออกไปจากตรงนี้แต่ก็ไม่วายหันไปแอบแลบลิ้นแก้แค้นใส่พวกสาวๆ ที่ล้อมพวกรุ่นพี่อยู่ นี่ผมไปติดนิสัยแบบนี้มาจากใครเนี่ย!? แต่ช่างเถอะครับ ไปเตรียมตัวสำหรับงานเลี้ยงดีกว่า
และแล้วช่วงเวลางานเลี้ยงก็มาถึง งานถูกจัดขึ้นที่หอประชุมของตึก Convention Hall ครับ ที่จริงงานมันก็สนุกอยู่หรอกแต่ผมกำลังเซ็งตัวเองที่คิดผิดอย่างมหันต์ ทั้งที่คิดว่าสาวๆ พวกนั้นน่าจะแสดงความยินดีกับพวกรุ่นพี่เสร็จแล้วซะอีก กลับกลายเป็นว่าพวกเธอยังคงตามติดรุ่นพี่แจเลยครับ อะไรมันจะติดรุ่นพี่ขนาดนั้นเนี่ย!
ผมมองพวกร่นพี่ที่ถูกล้อมแล้วก็ถอนหายใจกับตัวเองก่อนจะเดินไปโซนของหวานเพราะอยากหาเค้กใส่ท้อง กินของหวานสักหน่อยอาจจะช่วยให้สมองแล่นแล้วคิดออกก็ได้ว่าจะเข้าไปแสดงความยินดีกับรุ่นพี่ยังไงดี ผมรีบหยิบเค้กขึ้นมาโดยไม่ได้ดูให้ดีว่ามันเป็นเค้กอะไรกันแน่แต่หวังว่าคงไม่ใช่เค้กมาม่าแล้วกันนะครับ เพราะเค้กมาม่าน่ะ...ช่างเถอะครับ ละไว้ในฐานที่เข้าใจละกันครับ ฮ่าๆ
โอ้...เค้กช็อกโกแลตซะด้วย อร่อยมากๆ เลยครับ ผมนี่รีบกินเลยเพราะมันทั้งอร่อยและเพราะอยากให้หัวสมองแล่น และด้วยความที่รีบร้อนไปหน่อยแล้วทำให้เค้กติดอเลยครับ!!! ผมรีบวางจานใส่เค้กลงแล้วไอแบบไม่มีเสียงพลางหันซ้ายหันขวาหวังหาน้ำดื่ม ตอนนี้ผมรู้เลยครับว่าเวลารีบๆ นี่มักจะหาอะไรไม่เจอ ผมหาน้ำไม่เจออ่ะ น้ำอยู่ไหนนน ไอ วอท ทู วอเตอร์!!!
!?
แล้วเหมือนสวรรค์จะได้ยินเสียงภาวนาของผม อยู่ๆ ก็มีแก้วน้ำมาอยู่ตรงหน้า วินาทีนี้ผมไม่สนใจอะไรแล้วครับรีบคว้าน้ำนั่นมาดื่มทันที พอดื่มเสร็จถึงได้รู้ว่าคนที่ยื่นให้คือรุ่นพี่จิณณ์นั่นเอง แถมรุ่นพี่ไอน์ก็ยืนอยู่ข้างๆ ด้วยครับ ผมเห็นรุ่นพี่จิณณ์ขยับปากพูดอะไรสักอย่างซึ่งผมไม่ได้ยินแต่คาดว่าคงเป็นเรื่องที่ผมกินเค้กจนติดคอเพราะรุ่นพี่เขาลูบหลังผมไปด้วยครับ
ผมพักหายใจหายคอเล็กน้อยแล้วส่งภาษามือว่า "ขอบคุณ" ไปให้รุ่นพี่จิณณ์ พี่เขายิ้มแล้วหันไปพูดบางอย่างกับรุ่นพี่ไอน์จากนั้นทั้งคู่ก็ยิ้มมาอีก สงสัยคงคุยเรื่องผมแน่ๆ รู้สึกเขินจัง...จริงสิ! ตอนนี้ไม่มีพวกสาวๆ อยู่ด้วยนี่นา ถึงไม่รู้ว่าพวกรุ่นพี่ปลีกตัวออกมาได้ยังไงก็เถอะแค่ก็ถือเป็นโอกาสที่ดีที่ผมจะได้แสดงความยินดีกับรุ่นพี่ ผมเดินเข้าไปใกล้รุ่นพี่ทั้งสองอีกหน่อยแล้วดึงแขนเสื้อของทั้งคู่เบาๆ รุ่นพี่จิณณ์หันมาเอียงคอสงสัยใส่ว่ามีอะไรหรือเปล่า ส่วนรุ่นพี่ไอน์ถึงพี่เขาจะมองไม่เห็นแต่ก็เลิกคิ้วแกมสงสัยเช่นกัน ผมเลยส่งยิ้มแล้วล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงหวังจะหยิบกระดาษกับปากกาออกมาเขียนแสดงความยินดี แต่ว่า...
ทำไมไม่มีทั้งกระดาษและปากกาเลยล่ะ! หรือว่าไปทำหล่นไว้ที่ไหน!!
ผมพยายามค้นทั่วตัวแต่ก็ไม่มี ทางด้านพวกรุ่นพี่ก็ยิ่งทำหน้าสงสัยมากขึ้น แย่ล่ะ...ถ้าผมไม่รีบทำให้พวกพี่เขารู้ว่าผมอยากแสดงความยินดีมากขนาดไหนมีหวังผมนอนไม่หลับแน่ๆ เอาไงดีๆ มีวิธีอื่นนอกจากเขียนไหม ผมเองก็ไม่สามารถเปล่งเสียงออกมาตามปกติได้ รุ่นพี่ไอน์ก็มองไม่เห็น จะมีวิธีไหนที่จะสื่อสารกันเข้าใจและรวดเร็วบ้างไหม วิธีไหนดี...
อ๊ะ!
เหมือนผมจะฉุกคิดวิธีหนึ่งขึ้นมาได้ ไม่รู้หรอกว่าจะได้ผลไหมแต่ก็ต้องลองดู ผมขยับเข้าไปใกล้พวกรุ่นพี่อีกนิด และก่อนที่พวกเขาจะสงสัยกันมากกว่าดิมผมก็เอื้อมมือไปคว้ามือขอรุ่นพี่ไอน์กับรุ่นพี่จิณณ์มาคนละข้างแล้วมกุมมันไว้ ผมใช้ทั้งสองมือโอบอุ้มมือของพวกรุ่นพี่เอาไว้พร้อมกับถ่ายทอดความรู้สึกยินดีผ่านไออุ่นจากฝ่ามือสู่ฝ่ามือ ไม่เพียงเท่านั้นผมยังส่งยิ้มอ่อนไปให้ทั้งสองคนด้วย ผมคิดว่าการที่เราจับมือกันอย่างอ่อนโยนเป็นอีกวิธีหนึ่งที่แสดงถึงความยินดีและดีใจได้ ไม่รู้ว่าความรู้สึกของผมจะถ่ายทอดออกไปได้มากแค่ไหน แต่ที่สุดแล้วทั้งรุ่นพี่ไอน์และรุ่นพี่จิณณ์ต่างส่งยิ้มขอบคุณกลับมาพร้อมกัน
รุ่นพี่จิณณ์ผละมือออกไปก่อนทำให้ผมต้องปล่อยมือ แล้วจากนั้นรุ่นพี่จิณณ์ก็ขยี้หัวผมเล่นอย่างเอ็นดู แถมรุ่นพี่ทั้งสองยิ่งยิ้มกว้างขึ้นไปอีก ปกติผมไม่ชอบเลยที่ตัวเตี้ยแต่ผมจะชอบความเตี้ยของตัวเองสักวันแล้วกัน เพราะมันทำให้ผมถูกรุ่นพี่ลูบหัวอย่างอ่อนโยนและทำให้รู้ด้วยว่าทั้งรุ่นพี่จิณณ์และรุ่นพี่ไอน์ต่างก็เข้าใจแล้วว่าผมน่ะ...
✎ ผู้ที่ทำภารกิจได้เพอร์เฟ็คสูงกว่ามาตรฐานมาก (100%)
เวลานี้เป็นเวลาที่พิธีจบการศึกษาของรุ่นพี่มัธยมหกกำลังดำเนินอยู่ ผมคิดว่าพิธีนี้เป็นพิธีที่ศักดิ์สิทธิ์และเป็นเกียรติมาก มันเหมือนการยอมรับเหล่านักเรียนว่าเติบโตอย่างมีคุณค่าและจบการศึกษาอย่างมีคุณภาพ เพราะมีพิธีจบการศึกษาเลยทำให้พวกรุ่นพี่ต่างยุ่งกันใหญ่ ผมก็หวังว่าพิธีจะผ่านไปด้วยดีนะ แล้วสิ่งที่ผมรอคอยต่อจากนั้นก็คือ...หลังพิธีจบการศึกษาล่ะครับ!
หลังจบพิธีแล้วนักเรียนชั้นต่างๆ สามารถเข้าไปแสดงความยินดีได้ ผมเองก็อยากเข้าไปแสดงความยินดีด้วยเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นรุ่นพี่ไอน์ รุ่นพี่จิณณ์ รุ่นพี่แม็กเวล หรือรุ่นพี่ริแอร์ก็ตาม ทุกคนใจดีกับผมมากเพราะงั้นผมต้องแสดงความยินดีออกไปให้เต็มที่...โอ๊ะ! รออยู่หน้าหอประชุมสักพักก็เห็นพวกรุ่นพี่เดินออกมาจากตึกแล้ว โชคดีจริงๆ เลยครับที่เห็นรุ่นพี่ไอน์กับรุ่นพี่จิณณ์เดินมาโน่นแล้ว
นี่ถ้าผมพูดได้ผมคงตะโกนเรียกเสียงดังไปแล้ว แต่ในเมื่อผมพูดไม่ได้ งั้นคงรอช้าไม่ได้แล้วครับต้องรีบเข้าไปหาพวกพี่ๆ แล้ว
ผมวิ่งเหยาะๆ ตรงไปทางพวกรุ่นพี่ อีกไม่เท่าไหร่ก็จะถึงตัวเป้าหมายแล้วแต่ว่า...ก่อนที่ผมจะไปถึงฝั่งฝัน (?) ก็มีเด็กผู้หญิงสี่ห้าคนไปล้อมรุ่นพี่ไอน์กับรุ่นพี่จิณณ์ไว้ แล้วจากสี่คนก็กลายเป็นสิบเลยครับ!!! ไม่เพียงแค่รุ่นพี่สองคนนี้เท่านั้นที่โดนล้อม แม้แต่รุ่นพี่แม็กเวลกับรุ่นพี่ริแอร์ก็โดนด้วย โดยเฉพาะรุ่นพี่แม็กเวลเนี่ยโดนสาวล้อมเยอะกว่าใครเพื่อนเลยครับ ก็รุ่นพี่เขาหล่อเทพนี่นะ ฮ่าๆๆ...ฮ่า...
เดี๋ยวนะ...ไทระ...นี่มันใช่เวลามาหัวเราะไหม! ตอนนี้ต้องไปแสดงความยินดีกับรุ่นพี่สิ!
เมื่อคิดได้แบบนั้นผมก็พยายามจะแทรกตัวฝ่ากลุ่มนักเรียนหญิงเข้าไปแต่ก็ไม่สำเร็จ ผมโดนกระแทกออกมาเลยแถมดูท่าพวกนั้นคงจะคุยกับพวกรุ่นพี่อีกยาวแน่ ถึงจะเจ็บใจก็เถอะแต่ผมก็พยายามอดกลั้นใจไว้แล้วคิดว่าค่อยแสดงความยินดีในงานเลี้ยงที่จะจัดขึ้นช่วงค่ำก็ได้ เพราะตอนนั้นทุกคนน่าจะแสดงความยินดีกันไปจนหนำใจแล้วล่ะ คงเหลือพื้นที่ไว้ให้ผมได้เข้าใกล้รุ่นพี่บ้าง
ผมกำลังจะเดินผละออกไปจากตรงนี้แต่ก็ไม่วายหันไปแอบแลบลิ้นแก้แค้นใส่พวกสาวๆ ที่ล้อมพวกรุ่นพี่อยู่ นี่ผมไปติดนิสัยแบบนี้มาจากใครเนี่ย!? แต่ช่างเถอะครับ ไปเตรียมตัวสำหรับงานเลี้ยงดีกว่า
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
และแล้วช่วงเวลางานเลี้ยงก็มาถึง งานถูกจัดขึ้นที่หอประชุมของตึก Convention Hall ครับ ที่จริงงานมันก็สนุกอยู่หรอกแต่ผมกำลังเซ็งตัวเองที่คิดผิดอย่างมหันต์ ทั้งที่คิดว่าสาวๆ พวกนั้นน่าจะแสดงความยินดีกับพวกรุ่นพี่เสร็จแล้วซะอีก กลับกลายเป็นว่าพวกเธอยังคงตามติดรุ่นพี่แจเลยครับ อะไรมันจะติดรุ่นพี่ขนาดนั้นเนี่ย!
ผมมองพวกร่นพี่ที่ถูกล้อมแล้วก็ถอนหายใจกับตัวเองก่อนจะเดินไปโซนของหวานเพราะอยากหาเค้กใส่ท้อง กินของหวานสักหน่อยอาจจะช่วยให้สมองแล่นแล้วคิดออกก็ได้ว่าจะเข้าไปแสดงความยินดีกับรุ่นพี่ยังไงดี ผมรีบหยิบเค้กขึ้นมาโดยไม่ได้ดูให้ดีว่ามันเป็นเค้กอะไรกันแน่แต่หวังว่าคงไม่ใช่เค้กมาม่าแล้วกันนะครับ เพราะเค้กมาม่าน่ะ...ช่างเถอะครับ ละไว้ในฐานที่เข้าใจละกันครับ ฮ่าๆ
โอ้...เค้กช็อกโกแลตซะด้วย อร่อยมากๆ เลยครับ ผมนี่รีบกินเลยเพราะมันทั้งอร่อยและเพราะอยากให้หัวสมองแล่น และด้วยความที่รีบร้อนไปหน่อยแล้วทำให้เค้กติดอเลยครับ!!! ผมรีบวางจานใส่เค้กลงแล้วไอแบบไม่มีเสียงพลางหันซ้ายหันขวาหวังหาน้ำดื่ม ตอนนี้ผมรู้เลยครับว่าเวลารีบๆ นี่มักจะหาอะไรไม่เจอ ผมหาน้ำไม่เจออ่ะ น้ำอยู่ไหนนน ไอ วอท ทู วอเตอร์!!!
!?
แล้วเหมือนสวรรค์จะได้ยินเสียงภาวนาของผม อยู่ๆ ก็มีแก้วน้ำมาอยู่ตรงหน้า วินาทีนี้ผมไม่สนใจอะไรแล้วครับรีบคว้าน้ำนั่นมาดื่มทันที พอดื่มเสร็จถึงได้รู้ว่าคนที่ยื่นให้คือรุ่นพี่จิณณ์นั่นเอง แถมรุ่นพี่ไอน์ก็ยืนอยู่ข้างๆ ด้วยครับ ผมเห็นรุ่นพี่จิณณ์ขยับปากพูดอะไรสักอย่างซึ่งผมไม่ได้ยินแต่คาดว่าคงเป็นเรื่องที่ผมกินเค้กจนติดคอเพราะรุ่นพี่เขาลูบหลังผมไปด้วยครับ
ผมพักหายใจหายคอเล็กน้อยแล้วส่งภาษามือว่า "ขอบคุณ" ไปให้รุ่นพี่จิณณ์ พี่เขายิ้มแล้วหันไปพูดบางอย่างกับรุ่นพี่ไอน์จากนั้นทั้งคู่ก็ยิ้มมาอีก สงสัยคงคุยเรื่องผมแน่ๆ รู้สึกเขินจัง...จริงสิ! ตอนนี้ไม่มีพวกสาวๆ อยู่ด้วยนี่นา ถึงไม่รู้ว่าพวกรุ่นพี่ปลีกตัวออกมาได้ยังไงก็เถอะแค่ก็ถือเป็นโอกาสที่ดีที่ผมจะได้แสดงความยินดีกับรุ่นพี่ ผมเดินเข้าไปใกล้รุ่นพี่ทั้งสองอีกหน่อยแล้วดึงแขนเสื้อของทั้งคู่เบาๆ รุ่นพี่จิณณ์หันมาเอียงคอสงสัยใส่ว่ามีอะไรหรือเปล่า ส่วนรุ่นพี่ไอน์ถึงพี่เขาจะมองไม่เห็นแต่ก็เลิกคิ้วแกมสงสัยเช่นกัน ผมเลยส่งยิ้มแล้วล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงหวังจะหยิบกระดาษกับปากกาออกมาเขียนแสดงความยินดี แต่ว่า...
ทำไมไม่มีทั้งกระดาษและปากกาเลยล่ะ! หรือว่าไปทำหล่นไว้ที่ไหน!!
ผมพยายามค้นทั่วตัวแต่ก็ไม่มี ทางด้านพวกรุ่นพี่ก็ยิ่งทำหน้าสงสัยมากขึ้น แย่ล่ะ...ถ้าผมไม่รีบทำให้พวกพี่เขารู้ว่าผมอยากแสดงความยินดีมากขนาดไหนมีหวังผมนอนไม่หลับแน่ๆ เอาไงดีๆ มีวิธีอื่นนอกจากเขียนไหม ผมเองก็ไม่สามารถเปล่งเสียงออกมาตามปกติได้ รุ่นพี่ไอน์ก็มองไม่เห็น จะมีวิธีไหนที่จะสื่อสารกันเข้าใจและรวดเร็วบ้างไหม วิธีไหนดี...
อ๊ะ!
เหมือนผมจะฉุกคิดวิธีหนึ่งขึ้นมาได้ ไม่รู้หรอกว่าจะได้ผลไหมแต่ก็ต้องลองดู ผมขยับเข้าไปใกล้พวกรุ่นพี่อีกนิด และก่อนที่พวกเขาจะสงสัยกันมากกว่าดิมผมก็เอื้อมมือไปคว้ามือขอรุ่นพี่ไอน์กับรุ่นพี่จิณณ์มาคนละข้างแล้วมกุมมันไว้ ผมใช้ทั้งสองมือโอบอุ้มมือของพวกรุ่นพี่เอาไว้พร้อมกับถ่ายทอดความรู้สึกยินดีผ่านไออุ่นจากฝ่ามือสู่ฝ่ามือ ไม่เพียงเท่านั้นผมยังส่งยิ้มอ่อนไปให้ทั้งสองคนด้วย ผมคิดว่าการที่เราจับมือกันอย่างอ่อนโยนเป็นอีกวิธีหนึ่งที่แสดงถึงความยินดีและดีใจได้ ไม่รู้ว่าความรู้สึกของผมจะถ่ายทอดออกไปได้มากแค่ไหน แต่ที่สุดแล้วทั้งรุ่นพี่ไอน์และรุ่นพี่จิณณ์ต่างส่งยิ้มขอบคุณกลับมาพร้อมกัน
รุ่นพี่จิณณ์ผละมือออกไปก่อนทำให้ผมต้องปล่อยมือ แล้วจากนั้นรุ่นพี่จิณณ์ก็ขยี้หัวผมเล่นอย่างเอ็นดู แถมรุ่นพี่ทั้งสองยิ่งยิ้มกว้างขึ้นไปอีก ปกติผมไม่ชอบเลยที่ตัวเตี้ยแต่ผมจะชอบความเตี้ยของตัวเองสักวันแล้วกัน เพราะมันทำให้ผมถูกรุ่นพี่ลูบหัวอย่างอ่อนโยนและทำให้รู้ด้วยว่าทั้งรุ่นพี่จิณณ์และรุ่นพี่ไอน์ต่างก็เข้าใจแล้วว่าผมน่ะ...
"ยินดีด้วยนะครับรุ่นพี่ที่จบการศึกษาแล้ว"
ผมอยากจะบอกอย่างนี้จริงๆ...✎ ผู้ที่ทำภารกิจได้เพอร์เฟ็คสูงกว่ามาตรฐานมาก (100%)
S - CLASS STAMP ตราประทับระดับสูงสุดในหมวดภารกิจทั่วไป มีลักษณะเป็นดาวสีนิลสุดแสนจะคลาสสิก มีมูลค่า +100 Grade Exp. จะได้รับเมื่อปฎิบัติภารกิจได้เพอร์เฟ็คเป็นที่น่าประทับใจแก่ผู้อำนวยการโรงเรียน |
+1,500,000 Spirit Point ไอเทมเพิ่มแต้มสะสม Spirit Point ตามปริมาณที่กำหนด สามารถนำไปใช้ในการแลกเปลี่ยนเป็น CHIPS ได้ในภายหลัง |
GOLDEN HONOR DEGREE TROPHY ถ้วยเกียรติยศทองคำแท้ มอบให้แด่ผู้ที่สามารถปฎิบัติภารกิจหรือร่วมกิจกรรมต่างๆที่ทางโรงเรียนจัดขึ้นได้น่าประทับใจผู้อำนวยการเป็นอย่างมาก |
- Narin's comment:
- ถ้วยทองสำหรับวิธีการสื่อความรู้สึกของไทระต่อรุ่นพี่ครับ
การจับมือนั้นเป็นไอเดียที่น่ารักและอบอุ่นมากจริงๆ
คิดได้ยังไงครับเนี่ย ผมอาจจะประทับใจเป็นพิเศษเพราะ
ผมเองก็ชอบสัมผัสหรือชอบสื่อสารด้วยการสัมผัสเช่นกัน
ถึงแม้จะมาสั้นๆแต่ก็สามารถรู้สึกอบอุ่นร่วมไปกับตัวละครด้วย
ผมไม่ค่อยมีเรื่องจะติเติมเสริมแนะคุณจริงๆครับ ผมว่าคุณน่า
จะชำนานกว่าผม ;_;
ส่วนเรื่องวาด ช่วงนี้เริ่มทำงานมือผสมกับงานคอมแล้วสิะครับ
ลองดูงานของคุณจิณณ์หรือสุภะดูได้นะครับ พวกเขาก็ชอบเล่น
งานผสมแบบนี้เหมือนกัน เผื่อจะได้ไอเดียหรือลูกเล่นใหม่ๆเพิ่ม
- ผู้มาเยือนผู้มาเยือน
Re: Lesson 40 : ปัจฉิมนิเทศ
Sun 15 May 2016, 11:15
- Lesson 40:
งานวันปัจฉิมนิเทศ
12.00 pm @Convention Hall
“และสุดท้ายนี้ผมก็ขอให้ทุกคนใช้ชีวิตในโรงเรียนแห่งนี้ร่วมกันอย่างมีความสุขครับ”
เมื่อสิ้นเสียงปราศรัยของพี่ไอน์ประธานนักเรียน เสียงปรบมือก็ดังขึ้น และ ก็มาพร้อมกับเสียงเจี้ยวจ้าว เด็กๆค่อยๆทยอยเดินออกจากห้องประชุมไป เพื่อจะออกไปแสดงความยินดีกับรุ่นพี่ม.6 ที่กำลังจะจบการศึกษาจากโรงเรียนไปในปีนี้
@ด้านหน้าหอประชุม
“กรี๊ด!!พี่แม๊กแวล ยินดีด้วยนะคะ ที่จบการศึกษาแล้ว ถ้ามาเป็นครูเนี่ยหนูจะตั้งใจเรียนทุกคาบเลยค่ะ”
เสียงเด็กหญิงวัยมัธยมต้นกลุ่มหนึ่งดังขึ้น ด้วยความดีใจ ซึ่งเป็นเสียงที่สามารถทำให้คนที่อยู่ใกล้ๆสามารถกระโดดหลบไปห่างๆได้ดีเลยทีเดียว
“พี่จน ไปไหนกันนะ ทำไมไม่ยอมออกมาซะที”
เดียร์ที่ยืนรออยู่สักพักแล้ว ยังไม่เห็นรุ่นพี่ออกมาเสียทีเลยพูดบ่นพึมพำให้เมอินที่ยืนอยู่ข้างๆฟัง
‘เอาเถอะน่า เดียร์เดี๋ยวอีกสักพักพี่เขาก็คงออกมาแหละค่ะ’ เมอินตอบกลับผ่านกระดานคู่ใจของเธอ
“ทำอะไรกันอยู่ครับสาวๆ”
ระหว่างที่เดียร์กำลังบ่นให้เมอินยังอยู่นั้น ก็มีเสียงคนคนนึงดังขึ้น เมื่อหันไปก็พบว่าคนนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็น ท่านประธานนักเรียน ของเรานั้นเอง
“เดียร์รอพี่จนออกมาอ่ะค่ะ พี่ไอน์พอจะเห็นไหมคะ”
“เอ่อ จินตุงหรอครับ ตั้งแต่ออกจากห้องประชุมมาผมไม่เจอเลยนะ สงสัยจะอยู่กับแม๊กเวล”
“อ้อค่ะ ขอบคุณค่ะ ดีใจด้วยนะคะพี่ไอน์เรียนจบแล้ว”
“ครับ” พี่ไอน์พูดจบก็เอามือขยี้หัวเดียร์กับเมอิน แล้วยิ้มให้พร้อมเดินจากไป
'สงสัยจะรีบไปหาผอ.แน่ๆ คิคิ ' เดียร์คิดในใจ
‘นู้นไงคะเดียร์ พี่จิณณ์อยู่นั้น’
เมอินยกกระดานขึ้นพร้อมชี้ไปทางเป้าหมาย ที่พึ่งเดินออกมาจากห้องประชุม
เดียร์เลยรีบลากเมอินเข้าไปหารุ่นพี่ทันที
“ยินดีด้วยนะคะ พี่จน ในที่สุดก็เรียนจบแล้ว”
เดียร์พูดด้วยหน้าตายิ้มแย้ม
‘ดีใจด้วยนะคะ พี่จิณณ์’ เมอินยิ้มพร้อมยื่นกระดานให้กับรุ่นพี่อ่าน
“ครับ ขอบใจนะครับ” รุ่นพี่ยิ้มตอบด้วยสีหน้ายิ้มแย้มเช่นกัน
“ค่า ไม่เป็นไรค่า” เดียร์พูดพร้อมกับเมอินที่เขียนลงกระดาน
“ไว้เจอกันตอนเย็นนะครับ เดี๋ยวพี่ไปหาเพื่อนก่อน”
“ค่า บ้ายบายค่ะ” เดียร์กับเมอินโบกมือบ้ายบายให้กับรุ่นพี่ ที่กำลังวิ่งจากไป
7.00 pm @หอประชุม
“ในวันนี้ วันสุดท้ายของการเป็นนักเรียนมัธยมปลาย
ผมได้สัญญาอะไรบางอย่างไว้กับตัวเอง ผมสัญญาว่า
ต่อจากนี้.. ผมจะไม่หนีความรู้สึกของตัวเองอีกต่อไป
ผมจะตัดสินใจ ลงมือทำ และรับผลที่ได้จากการกระทำ
ต่อให้ผลจะออกมาเป็นเช่นไรผมก็จะรับมันไว้จากใจ
และนี่คือการก้าวแรกของการเป็นผู้ใหญ่ของ
แม็กเวล ซอนเนอร์ ครับ”
(ขอขอบคุณเนื้อหาจากผอ.)
เสียงปรบมือดังขึ้น ไปทั่วห้องประชุม หลังจากรุ่นพี่กล่าวคำปราศรัยจบลง นักเรียนหลายๆคนค่อยๆทยอมเดินออกไปจากห้องประชุม ด้วยความหิวโหย บางคนถึงกับเก็บท้องเพื่อมาทานมื้อดึกกันเลยเดียว
“สวัสดีค่ะ พี่ไอน์ ฮิเอาเค้กมาให้ทานค่ะ” เสียงฮิโซกะ กล่าวเรียกประธานนักเรียนพร้อมกับยืนเค้กสีเขียวๆให้กับพี่ไอน์
“อ่อ...จะดีหรอครับ”
“ดีสิคะ เดี๋ยวฮิขอป้อนให้นะคะ”
“อ่า ครับๆ”
ฮิค่อยๆหั่นเค้กแล้วเขย่งป้อนใส่ปากพี่ไอน์ที่กำลังย่อตัวลงในฮิโซกะป้อน เพราะความสูงเลยทำให้ค่อนข้างจะเป็นอุปสรรคในการป้อน- เค้ก!:
และหลังจากนั้น
“อั้ก! ฮิเอาอะไรมาให้ผมกินครับเนี่ย น้ำๆขอน้ำ” พี่ไอน์ทำท่าทางจะอ้วกเพราะ ได้ทานเค้กขี้หูไป
“เค้กไงคะ” ฮิยังคงทำน้ำเสียงเรียบตามเคย
“แค่กๆ เค้กอะไรครับเนี่ย”
“เค้กขี้หูค่ะ ประยุกต์มาจากลูกอมแฮรี่ พอตเตอร์ รสขี้หู” เดียร์ที่แอบจ้องอย่างเงียบๆค่อยๆเดินมาแล้วพูดขึ้น
“เอิ่ม นี่ร่วมมือกันใช่ไหมครับ”
“ใช่แล้วล่ะค่ะ ถูกเผ่งเลย ฮิฮิฮิ”
“ครับ 555”
แล้วงานเลี้ยงก็ดำเนินต่อไป โดยมีพี่แม๊กเวลเป็นดีเจเปิดเพลงอย่างสนุกสนาน
จบ
✎ ผู้ที่ทำภารกิจได้ยอดเยี่ยมกว่ามาตรฐาน (80%+)
A - CLASS STAMP ตราประทับระดับสูงในหมวดภารกิจทั่วไป มีลักษณะเป็นดาวสีทับทิม สื่อถึงความหรูหรา มีมูลค่า +80 Grade Exp. จะได้รับเมื่อปฎิบัติภารกิจได้ยอดเยี่ยมเป็นที่น่าประทับใจแก่ผู้อำนวยการโรงเรียน |
+1,250,000 Spirit Point ไอเทมเพิ่มแต้มสะสม Spirit Point ตามปริมาณที่กำหนด สามารถนำไปใช้ในการแลกเปลี่ยนเป็น CHIPS ได้ในภายหลัง |
- Narin's Comment:
- งานเขียนเดียร์พัฒนาขึ้นเรื่อยๆเลยนะครับ เริ่มอธิบาย
เกี่ยวกับบรรยากาศ สถานการณ์รอบข้าง ความรู้สึก
ตัวละครได้มากขึ้น ภารกิจหน้าลองค่อยๆลดการ
สนทนาดูได้นะครับ เพราะตอนนี้เดียร์เขียนโดย
ใช้บทสนทนาดำเนินเรื่อง ผมอยากให้ลองเขียน
โดยใช้บทบรรยายดำเนินเรื่อง แล้วให้บทสนทนา
เป็นตัวเสริมดูบ้าง แต่จริงๆแล้วตัวละครเดียร์
เป็นคนสดใสพูดเก่ง อาจจะเหมาะกับการเขียน
รูปแบบที่ทำอยู่แล้วก็ได้ แค่อยากให้ลองดูหลายๆ
แบบเผื่อจะเจอสิ่งที่ชอบครับ
ส่วนรูปวาดรอบนี้มีผมรู้สึกว่ามีการใส่ใจรายละเอียด
ในเรื่องของหน้าตาตัวละครมากขึ้น สามารถดูออก
ว่าใครเป็นใครจากแววตาของตัวละคร เช่นไอน์จะ
หางตาตก ฮิโซกะแววตานิ่งๆ ถือเป็นการใส่ใจ
รายละเอียดที่ดีเลยครับ
- ผู้มาเยือนผู้มาเยือน
Re: Lesson 40 : ปัจฉิมนิเทศ
Sun 15 May 2016, 17:23
- PART I:
- วันนี้เป็นวันปัจฉิมนิเทศครับ ตัวผมนั้นรอคอยที่จะแสดงความยินดีให้รุ่นพี่ที่จะจบในปีนี้
แทบไม่ไหวซะแล้วล่ะ ผมตื่นแต่เช้ามืด(ทั้งที่ปกติจะตื่นประมาณเจ็ดโมง)เพื่อทำขนมให้พวกรุ่นพี่ทั้งหลาย
อันที่จริงผมก็จะทำซุปเห็ดให้พี่อิสรา แต่ว่า..รุ่นพี่คนอื่นจะน้อยใจมั้ยนะ
พอผมมาคิดดูแล้ว 'ขนมหวาน' เป็นสิ่งที่น่าจะให้ทุกๆได้
ที่จริงมันก็แปลกๆที่จะมาทำซุปเห็ดให้ในวันปัจฉิม =_=
ก็อยากให้นี่นา! แต่ถ้าทำขนมมันก็คงไม่แปลก ถ้าจะทำขนมสักอย่างก็คงต้องเป็นพวกเค้กล่ะน้า
ถ้าพูดถึงรุ่นพี่ที่จบในปีนี้..- Spoiler:
พี่ไอน์ ผมชอบพี่เขามากเพราะพี่เขาดูใจดีและดูมีความเป็นผู้นำอย่างบอกไม่ถูก แล้วเมื่อพี่เขาได้เป็นปธ.นร.แล้ว ผมก็ยิ่งชื่นชมพี่เขาขึ้นไปอีก
ผมคิดว่าถ้าเรียนจบจากที่นี่แล้วพี่เขาก็คงจะมาเป็นครูที่นี่ เพราะเขาสนิทกับผอ. และตำแหน่งครูก็ยังว่างๆอยู่บ้างด้วย ก็อาจจะยังเจอกันอยู่ดี ไว้ค่อยทำซุปเห็ดให้ทีหลังแล้วกันนะ
พี่จิณณ์ ก็ไม่ค่อยสนิทกับพี่เขาสักเท่าไหร่ แต่ผมก็รู้ว่าพี่เขาไม่ใช่คนไม่ดีหรอก แล้วผมก็รู้มาว่าพี่เขาชอบของหวานด้วย!
พี่ริแอร์ ผมมักจะเจอพี่เขาอยู่บ่อยๆเวลาที่ผมไปหาหนังสือทำอาหารในห้องสมุด แต่ก็ไม่เคยคุยกันหรอกนะ
พี่แม็กซ์เวล เป็นคนที่ฮ็อตมาก วันวาเลนไทน์ผมเห็นแต่สาวๆประเคนช็อกโกแลตเป็นลังๆให้พี่แกแบบแทบจะราดหัว ผมว่าพี่เขาน่ารักดีนะ แล้วก็เท่ด้วย
พี่ทิว หัวหน้าสาขาบาสชั่วคราว พอพี่แกจบผมคงต้องให้ใครสักคนในสาขาฟุตบอลเป็นหน.สข.บาสไปก่อน เพราะเดี๋ยวจะไม่มีคนดูแลสาขานั้น
ไอ้พี่เติ้ล สมาชิกสาขาฟุตบอลที่อายุเยอะที่สุดในกลุ่ม พอพี่แกจบแล้วก็รู้สึกแปลกๆ.. แต่พี่แกก็สัญญานะว่าจะแวะมาหาพวกเราบ้าง ถ้าว่างน่ะนะ
- เค้กที่ภูมิทำ:
ส่วนผสมตัวเค้ก
เนยจืดหั่นเต๋า 100 กรัม
ไข่ไก่ 2 ฟอง
แป้งเค้ก 100 กรัม
เกลือ ½ ชช.
ผงฟู 1 ชช.
ไอซ์ซิ่ง 80 กรัม
นมสด ½ ถ้วย
กลิ่นวนิลา 1ชช.
ส่วนผสมแต่งหน้าเค้ก
วิปปิ้งครีม 300 มล.
ไอซ์ซิ่ง 70 กรัม
เกลือ ½ ชช.
กลิ่นวนิลา 1 ชช.
สตอเบอรี่ 1 ถ้วย (หั่นสไลด์)
สตอเบอรี่ 5 ลูก
วิธีการทำ
1.ร่อนแป้ง , เกลือ , ผงฟู เข้าด้วยกัน พักไว้ก่อน
2.ตีเนยให้ขึ้นฟู ค่อยๆเติมไอซ์ซิ่งลงไป ตีด้วยความเร็วสูงสุด ประมาณ 5 นาที
3.เติมไข่ไก่ลงไปทีละ 1 ฟอง ตีให้เข้ากันดีแล้วจึงค่อยเติมกลิ่นวนิลาลงไป
4.ลดความเร็วลงต่ำสุด เติมแป้งที่ร่อนแล้วลงไปทีละน้อย สลับกับเติมนมทีละะน้อย เติมจนนมและแป้งหมด
5.ทาเนยขาวในพิมพ์กรุกระดาษไขให้ทั่วพิมพ์เค้ก เทเค้กลงไปเกลี่ยหน้าให้เนียน
6.นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 180 องศา 30 นาที
7.ตี วิปปิ้งครีมด้วยความเร็วสูงสุดจนขึ้นฟู (ต้องนำวิปปิ้งครีมไปแช่ในช่องฟรีซ 30 นาที ก่อนจะนำมาตีให้ขึ้นฟู ไม่อย่างนั้นจะตีไม่ขึ้น)
8.เติมเกลือ และไอซ์ซิ่ง , กลิ่นวนิลาลงไป เมื่อผสมจนครีมขึ้นฟูดีแล้ว นำเข้าตู้เย็นพักไว้ก่อน (ถ้าอยู่ในอุณหภูมิห้อง วิปปิ้งครีมจะยุบตัว)
9.เมื่อเค้กสุกดีแล้ว ดึงกระดาษไขออกคว่ำหน้าเค้กลงบนตะแกรงและพักไว้
10.ตัดเค้กแบ่งเป็น 2 ชั้น ปาดครีมเค้กบางๆบนเค้กชั้นที่ 1 จัดเรียงสตอเบอรี่
สไลด์ลงไปให้ทั่วเค้ก
11.วางเค้กชั้นที่ 2 ลงไป ปาดครีมให้ทั่วหน้าเค้ก บีบครีมด้วยหัวบีบรูปดาว รอบๆเค้ก ตกแต่งด้วยสตอเบอรี่สด เป็นอันเสร็จ
Cr. https://icefogdota.wordpress.com/
หลังจากทำเค้กเสร็จและตัดแบ่ง6ชิ้นใส่กล่อง6กล่องเรียบร้อยแล้วผมก็รีบไปอาบน้ำแต่งตัวให้เรียบร้อย
และไปทันพิธีจบการศึกษาแบบเฉียดฉิว...
- PART II:
หลังจากที่พี่แม็กซ์เวลกล่าวปราศรัยจบ ผมก็พร้อมที่จะเริ่มปฏิบัติการแล้ว เค้กนี้เมื่อเช้าผมนำไปฝากแช่เย็นไว้ที่ร้าน La Pastel ก่อนงานเลี้ยงผมจึงรีบไปรับเค้กกลับมา
เค้กพร้อม ใจพร้อม กายพร้อม ลุย!
ผมมองหาเหล่ารุ่นพี่ที่ผมรู้จัก 'พี่อิสรา พี่จิณณ์ พี่แม็กซ์เวล จับกลุ่มอยู่ด้วยกัน' อืมม.. 'พี่ทิวกับไอ้พี่เติ้ลก็กำลังแข่งล่าอาหารกันอย่างเมามัน'
แล้วพี่ริแอร์ล่ะ? ไม่เห็นเลยแฮะ งั้นเริ่มจากที่กลุ่มสามคนนั้นก่อนแล้วกัน
"สวัสดีครับทั้งสามคน" ผมเอ่ยทักทายรุ่นพี่สามคนที่กำลังนั่งทานอาหารอยู่
"ภูมิเหรอ.. มีอะไรเหรอครับ?" พี่อิสราถาม
"โย่! รุ่นน้อง มาชวนเข้าชมรมเหรอ แต่พี่เรียนจบแล้วคงเข้าร่วมชมรมไม่ได้หรอกนะคร้าบบ" พี่แม็กซ์เวลยิ้มกว้าง
"ผมเอาขนมมาให้ครับ เพราะพวกพี่จบไปแล้ว..ไม่ได้กินขนมจากผมเดี๋ยวพวกพี่จะเสียใจเอานะครับ ฮ่าฮ่า" ผมหัวเราะเล็กน้อย
..
"แล้ว.. จบจากนี่พวกพี่มีคิดไว้หรือยังครับ ว่าจะทำอะไรต่อ...?" ผมถามรุ่นพี่ทั้งสามคน
"ฉันอยากจะสอบบรรจุครูน่ะ" พี่แม็กซ์เวลตอบคนแรก
"ฉันก็อยากเป็นครูเหมือนกัน แต่เป็นครูศิลปะนะครับ" พี่จิณณ์ตอบบ้าง
"แล้วพี่อิสราล่ะครับ?" ผมถามอีกคนที่ยังไม่ได้ตอบ
"ก็คง..เป็นครูล่ะมั้งครับ?" พี่อิสรายิ้มน้อยๆ
"น..นี่มัน.. แก๊งครูเรอะเนี่ย!? o_O ถ้าสอนผมช่วยใจดีกับผมด้วยนะครับ ฮี่"
..
หลังจากคุยกับแก๊งไตรทีชเชอร์(?)นานพอสมควร ผมจึงแยกตัวออกมาตามหาสองหน่อพี่ทิวกับไอ้พี่เติ้ล
ระหว่างมองหาสงคนนั้น ผมก็ได้เจอกับรุ่นพี่ริแอร์นั่งอื่นหนังสืออยู่ในที่ๆคนไม่ค่อยพลุกพล่านนัก
"สวัสดีครับ รุ่นพี่ริแอร์" ผมยิ้มทักทาย ใบหน้าอีกฝ่ายมีแต่เครื่องหมายคำถามผุดขึ้นมาผมจึงต้องอธิบาย
"ผมเห็นรุ่นพี่ที่ห้องสมุดบ่อยๆในช่วงพักกลางวันน่ะครับ รุ่นพี่ชอบอ่านหนังสือสินะครับ" ผมลากเก้าอี้ที่ไม่มีเจ้าของมานั่งคุยกับอีกคน
"ค่ะ"
"แล้วรุ่นพี่ก็อยู่ชมรมดาราศาสตร์ด้วย ผมมีเรื่องที่ผมสงสัยอยากจะถามรุ่นพี่น่ะครับ"
"อื้อ อยากรู้อะไรเหรอคะ?" ผมรู้สึกว่ารุ่นพี่ริแอร์สนใจคำถามที่ผมจะถาม
"พวกดวงดาวอะไรเนี่ยเกิดจากอะไรเหรอครับ?"
"เกิดจากการที่พลังงานในอวกาศยุบตัวรวมกัน... จนเกิดการระเบิดครั้งใหญ่ที่เรียกว่าบิ๊กแบงค่ะ"
"บิ๊กแบ---" ผมยังพูดไม่จบอีกฝ่ายก็พูดต่อ
"พอระเบิดแล้วเนี่ย พวกแก๊สที่กระจายตัวอยู่ใกล้ๆกันก็จะยุบตัวรวมกันเป็นดาวดวงหนึ่งค่ะ"
"งั้นเหรอครับ" ...ไม่เข้าใจเลยเฟ้ย!!!
"พอจะเข้าใจมั้ยคะ?"
"เอ่อ..ครับ" ผมเกาหัวตัวเองแกรกๆ
"งั้นก็ .. ยินดีด้วยนะครับที่เรียนจบ ถึงเราจะไม่รู้จักกันแต่ผมก็อยากแสดงความยินดีครับ แล้วผมก็ทำขนมเค้กมาให้ด้วยนะครับ" ผมยื่นถุงใส่กล่องเค้กถุงหนึ่งให้อีกคน
"ขอบคุณนะคะ"
..
สองหน่อหายไปไหนล่ะเนี่ย.. ผมเดินหาในงานสอง-สามครั้งก็เจอสองคนนั้นกำลังเอาอาหารแต่ละอย่างมาผสมกันในจานสองใบ
"ใครกินหมดก่อนชนะ!" พี่ทิวลั่นวาจาแข็งขัน
"ก็เอาสิ ฉันไม่แพ้แกหรอกเฟ้ยยย!" ไอ้พี่เติ้ลก็ลั่นวาจาข่มศัตรูเช่นกัน
ผัวะ
ฝ่ามือผมกระแทกกบาลทั้งสองคนที่ห้ำหั่นกันอยู่คนละที
"ใครบังอาจ..!" พี่ทิวหันขวับมาทางผม พี่เติ้ลก็เช่นกัน
พี่เติ้ลกับพี่ทิวเป็นสมาชิกชมรมการกีฬา ก่อนที่จะมีชมรมพวกเราก็มาเล่นฟุตบอลด้วยกันบ่อยๆ
ในตอนแรกมีผมยืนเตะฟุตบอลอยู่คนเดียวที่สนาม พี่เติ้ลเป็นคนแรกที่มาชวนผมไปเล่นด้วยกัน จากสองคนก็เพิ่มขึ้นจนกลายเป็นกลุ่ม
และในวันนี้พี่ทิวกับพี่เติ้ลก็ต้องจบการศึกษาเสียแล้ว เป็นอะไรที่ผมรู้สึกโหวงเหวงอยู่ลึกๆข้างในเหมือนกัน
"ภูมิเองพี่ เล่นบ้าอะไรกันเนี่ย อาหารอร่อยๆเสียหมด" ผมบ่นทั้งสองคนด้วยท่าทีเบื่อหน่าย
"พูดมากน่า.. นั่นอะไรอ่ะ เอามาให้พวกเรางั้นเหรอ" พี่เติ้ลแย่งถุงจากมือผมไปอย่างไว
"ไม่เห็นต้องรีบขนาดนั้น ก็เอามาให้พวกพี่นั่นละ เฮ้ออ เจ้าพวกนี้นี่" ผมถอนหายใจพลางยิ้มให้กับการกระทำของคนตรงหน้า
"จบแล้วไปไหนอ่ะ?" ผมถามทั้งสองคน
"ไม่รู้แฮะ/ไม่รู้สิ" ทั้งสองคนตอบพร้อมกัน
"เฮ้ออออ ไอ้พวกไร้อนาคต! ก๊ากกก" ผมระเบิดหัวเราะ
"เป็นเด็กอย่ามาสั่งสอนนะเฟ้ย!! เติ้ล! จัดการ!" พี่ทิวล็อคตัวผมไว้ไม่ให้ไปไหน
"จะทำอะไ-- อ๊ากกกก อย่านะโว้ยยย" ไอ้บ้าพี่เติ้ลเทพริกใส่จานจานนึงจนแดงเถือก ก่อนจะตักมาจ่อปากผม
"อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยย"
เสียงโหยหวนนี้ได้ลั่นกังวานไปทั่วทั้งฮอล..
End :)
ปล. ว่าจะเขียนตอนเสริมของพี่ทิวพี่เติ้ลและก็พวกทีมฟุตบอลของภูมิ แต่ไม่ได้เริ่มสักทีครับ ไม่ต้องแปลกใจว่าไม่คุ้นกับตลค.สองคนนี้
✎ C. ผู้ที่ทำภารกิจได้ตามมาตรฐานทั่วไป (50%+)
C - CLASS STAMP ตราประทับระดับกลางในหมวดภารกิจทั่วไป มีลักษณะเป็นดาวสีมรกต สื่อถึงความมั่นคง มีมูลค่า +50 Grade Exp. จะได้รับเมื่อปฎิบัติภารกิจได้ปานกลางเป็นที่น่าพอใจแก่ผู้อำนวยการโรงเรียน |
+900,000 Spirit Point ไอเทมเพิ่มแต้มสะสม Spirit Point ตามปริมาณที่กำหนด สามารถนำไปใช้ในการแลกเปลี่ยนเป็น CHIPS ได้ในภายหลัง |
- Narin's Comment:
- รูปอยู่ที่ไหนนนนน โอ๊ยยยยยย
ผมจำเป็นต้องกัดฟันให้ C เพราะส่งแต่เนื้อหาเลยขึ้นมาสูงสุด
ได้แค่ 50% แต่เนื้อเรื่องรอบนี้ดูตั้งใจมากกว่าครั้งอื่นๆ
เป็นเนื้อเรื่องที่แสดงถึงความใส่ใจ ใส่ใจรายละเอียดรุ่นพี่
แต่ละคนแม้บางคนจะแทบไม่รู้จักก็ตาม ภูมินี่ยิ่งโตยิ่งละมุน
นะครับ ทำเค้กด้วย น่ารักจัง ฮ่าๆๆๆ ส่วนสูตรเค้กนั่นก็ทำเอา
ผมแทบลุกไปอบเค้กตาม หิวขึ้นมาเลยทีเดียว คราวหลัง
พยายามปั่นรูปให้ทันนะครับ เสียดายแทนมากเลยง่ะ
อยากให้สแตมป์ดีๆ ;_;
- ผู้มาเยือนผู้มาเยือน
Re: Lesson 40 : ปัจฉิมนิเทศ
Sun 15 May 2016, 17:53
ท้องฟ้าแจ่มใสในยามเช้าที่แสนอบอุ่น เด็กหนุ่มกำตื่นขึ้นมาจากห้วงนิทราอันแสนยาวนาน จากนั้นก็ลุกขึ้นมา
บิดตัวไปมานิดหน่อย แล้วก็เดินไปทำกิจธุระส่วนตัว
" งืม...." เสียงแจ๊บปาก ลั่นในห้องน้ำ ผมที่พึ่งจะตื่นนอน ก็อาบน้ำ ล้างหน้า แปลงฟัน และก็แต่งตัวไป
รับประทานอาหารเช้าที่โรงอาหารแล้วพอผมไปถึงที่โรงอาหาร เสียงโวยวายเจี๊ยวจ๊าว ตามประสาเด็กๆ
ในโรงเรียนก็ดังลั่นเข้าหูผม ผมก็ไม่ใส่ใจอะไร ไปรับอาหาร แล้วก็มานั่งกินให้เรียบร้อย ผมนั่งทานไปสักพัก
ก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นข้างผม
" ขอนั่งด้วยได้มั้ยคะ "
เป็นเสียงโปรแกรมแน่ๆ ผมจึงหันไปทิศของจุดกำเนิดเสียง ปรากฎ หญิงสาวใส่หูฟัง มือข้างนึงถืออาหาร อิกข้างถือ
โทรศัพท์เครื่องใหญ่ นั่นคือ ริน สุขโข เด็กสาวผู้ที่ไม่สามารถพูดได้ จำเป็นต้องใช้โทรศัพท์เป็นตัวกลางสื่อสารระหว่าง
เค้ากับคนอื่น
" ได้ครับ" ผมพูดแล้วเขยิบที่ให้ว่างๆ รินก็มานั่งกินข้าวเช้าด้วยกัน
.
.
.
กินเสร็จแล้วก็เก็บจานช้อน จากนั้นก็แยกย้ายกันไปทำธุระของตัวเอง ผมเดินไปนั่งม้านั่งใกล้ๆ ทันใดนั้น
เสียงประชาสัมพันธ์ ก็ได้ดังขึ้น
" ขอให้นักเรียนทุกคน มาประชุมพร้อมกันที่ convention hall ภายในเวลา 09.00 ด้วยนะครับ"
พี่แม็กเวลได้ ประชาสัมพันธ์เรื่องของวันสำคัญสำหรับวันนี้
" อ่อ...วันนี้เป็นวันปัจฉิมนิเทศของพี่ม.6 นี่นา" ผมพึ่งนึกออก ว่าวันนี้ เป็นวันปัจฉิมนิเทศ แต่ผมยังไม่เตรียมของขวัญให้พี่ๆเลย
ผมคิดอะไรหรอก ผมก็เลยกลับไปที่ห้องชมรม เตรียมของ วัตถุดิบต่างๆ ที่จะทำของขวัญให้พี่ๆ ใส่ผ้ากันเปื้อน แล้วก็
เริ่มทำของขวัญให้รุ่นพี่
.
.
.
" เสร็จแล้ว!! เอาละ ไปที่ฮอล์กัน "
ผมจัดของขวัญให้พี่ๆทุกคน แล้วก็เตรียมไปที่ฮอล์ ใช้เวลาทำเค้กไปก็นานพอสมควรเลย แล้วผมก็เดินทางไปที่hall
ในเวลาที่เริ่มจะฉลองกันแล้วนั่นเอง
ผมก็เดินเที่ยวงานนิดหน่อย ทั้งๆที่มือของผมก็ถือของขวัญถุงใหญ่นั่นเอง แล้วผมก็ไปเจอกลุ่มของพี่ๆม.6 จนได้
" พี่ไอน์ พี่จิณณ์ พี่แม็ก พี่ริแอร์ สวัสดีครับ ทุกคน"
ผมเดินไปหาพวกพี่ๆ แล้วก็ทักทาย ตามประสาน้องทักพี่ พี่ๆทุกคนก็รับคำทักทายของผม
" อ้าว! ..กร สวัสดีนะ " แล้วพี่จิณณ์ ก็มองมาถุงใหญ่ๆที่ผมถือมา แล้วก็ถามผม ผมก็บอกไปว่า..
" นี่คือถุงของขวัญของพี่ๆไงละครับ" จากนั้นผมก็ได้แกะถุงใหญ่ๆออกมาเป็น ขนมเค้กที่ผมทำเอง ให้พี่ๆทุกคน
" เอ๋ ทำมาให้พวกเราหรอ ขอบใจนะ" พี่จิณณ์ก็รับไป แล้วผมก็แจกให้พี่ๆทุกคน
" ขอบใจนะ กร" พี่ๆทุกคนก็พูดขอบใจให้กับผม แต่น่าเสียดาย ที่ผมต้องไปช่วยแม่บ้านทำอาหาร ให้ทุกคนทานในงาน
ผมจึงรีบไปทำงาน แต่ก่อนที่จะไปทำงาน
" พี่ๆครับ ผมมีสิ่งที่ผมอยากจะบอกพี่ๆ ครับ"
" ว่ามาเลย กร"
" ขอแสดงความยินดีกับพี่ๆทุกคนเลยนะครับ พี่ไอน์ ขอบคุณที่พี่คอยช่วยเหลือ คอยปรึกษาปัญหาให้กับพวกเรา ช่วยสอน
กฎระเบียบ ให้กับผม ขอบคุณจริงๆครับ และก็ พี่จิณณ์ ขอบคุณที่พี่ที่มาเป็นสะพานเชื่อมความสัมพันธ์ ให้กับพี่ไอน์นะครับ
และก็ เป็นเพื่อนคุยเวลาเล่นด้วย ขอบคุณครับ อย่าน้อยใจนะครับ ถ้าไม่ได้พี่ ผมคงไม่ได้เจอกับพี่ไอน์หรอก ขอบคุณพี่แม็กเวล
ที่คอยเป็นปากให้กับโรงเรียนแห่งนี้ คอยบอกเรื่องต่างๆ ที่สำคัญๆให้กับพวกเรา นักเรียนควิ้นท์ ได้รู้ และก็ เป็นดีเจที่สนุกมากๆครับ
และก็ขอบคุณพี่ริแอร์ มากๆเช่นกันครับ ถึงไม่รู้ว่า พี่ริแอร์เป็นไคร แล้วทำอะไรให้กับโรงเรียนบ้าง แต่ก็ขอบคุณที่ช่วยโรงเรียนนี้ครับ
แล้วก็ สุดท้ายนี้ผมก็ขอให้พี่ๆทุกคน โชคดี ได้งานดีๆทำ อย่าลืมพวกเรา ควิ้นท์นะครับ จำไว้ว่า ขอให้มีความสุขนะครับ ถึงแม้จะเป็น
'ความสุขที่ไม่สมบูรณ์แบบ ' ก็ตาม โชคดีครับ พี่ๆ"
ผมได้แสดงความยินดีและก็ขอบคุณพี่ๆม.6ทุกคนไปแล้ว พี่ก็บอกมาคำเดียวๆกันว่า....
" ขอบใจนะกร "
จากนั้นผม ก็ขอปลีกตัวออกไปช่วยแม่บ้านทำอาหารให้งานเลี้ยงนี้ จนจบงานปัจฉิมนิเทศ
เหตุผลที่มาช่วยงานให้กับงานปัจฉิมนิเทศหรอครับ คือ...
" เสียสละความสุขของตัวเอง เพื่อให้ได้รอยยิ้มของคนอื่นเป็นสิ่งตอบแทน" ครับ
ปล.เหตุใดที่ พี่จิณณ์ ถึงเป็นสะพานเชื่อมความสัมพันธ์ ระหว่างผมกับพี่ไอน์ เหตุเพราะ พี่จิณณ์ เป็นคนพาพี่ไอน์มาหาผม มาคุยด้วย
ในครั้งที่ผมเปิดซุ้มเค้กกับน้องสาวของผมนั่นเอง
ปล2. วาดภาพได้ ปั่นมากๆ ขอโทษด้วนนะครับ
✎ ผู้ที่ทำภารกิจได้โดดเด่นกว่ามาตรฐาน (75%+)
บิดตัวไปมานิดหน่อย แล้วก็เดินไปทำกิจธุระส่วนตัว
" งืม...." เสียงแจ๊บปาก ลั่นในห้องน้ำ ผมที่พึ่งจะตื่นนอน ก็อาบน้ำ ล้างหน้า แปลงฟัน และก็แต่งตัวไป
รับประทานอาหารเช้าที่โรงอาหารแล้วพอผมไปถึงที่โรงอาหาร เสียงโวยวายเจี๊ยวจ๊าว ตามประสาเด็กๆ
ในโรงเรียนก็ดังลั่นเข้าหูผม ผมก็ไม่ใส่ใจอะไร ไปรับอาหาร แล้วก็มานั่งกินให้เรียบร้อย ผมนั่งทานไปสักพัก
ก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นข้างผม
" ขอนั่งด้วยได้มั้ยคะ "
เป็นเสียงโปรแกรมแน่ๆ ผมจึงหันไปทิศของจุดกำเนิดเสียง ปรากฎ หญิงสาวใส่หูฟัง มือข้างนึงถืออาหาร อิกข้างถือ
โทรศัพท์เครื่องใหญ่ นั่นคือ ริน สุขโข เด็กสาวผู้ที่ไม่สามารถพูดได้ จำเป็นต้องใช้โทรศัพท์เป็นตัวกลางสื่อสารระหว่าง
เค้ากับคนอื่น
" ได้ครับ" ผมพูดแล้วเขยิบที่ให้ว่างๆ รินก็มานั่งกินข้าวเช้าด้วยกัน
.
.
.
กินเสร็จแล้วก็เก็บจานช้อน จากนั้นก็แยกย้ายกันไปทำธุระของตัวเอง ผมเดินไปนั่งม้านั่งใกล้ๆ ทันใดนั้น
เสียงประชาสัมพันธ์ ก็ได้ดังขึ้น
" ขอให้นักเรียนทุกคน มาประชุมพร้อมกันที่ convention hall ภายในเวลา 09.00 ด้วยนะครับ"
พี่แม็กเวลได้ ประชาสัมพันธ์เรื่องของวันสำคัญสำหรับวันนี้
" อ่อ...วันนี้เป็นวันปัจฉิมนิเทศของพี่ม.6 นี่นา" ผมพึ่งนึกออก ว่าวันนี้ เป็นวันปัจฉิมนิเทศ แต่ผมยังไม่เตรียมของขวัญให้พี่ๆเลย
ผมคิดอะไรหรอก ผมก็เลยกลับไปที่ห้องชมรม เตรียมของ วัตถุดิบต่างๆ ที่จะทำของขวัญให้พี่ๆ ใส่ผ้ากันเปื้อน แล้วก็
เริ่มทำของขวัญให้รุ่นพี่
.
.
.
" เสร็จแล้ว!! เอาละ ไปที่ฮอล์กัน "
ผมจัดของขวัญให้พี่ๆทุกคน แล้วก็เตรียมไปที่ฮอล์ ใช้เวลาทำเค้กไปก็นานพอสมควรเลย แล้วผมก็เดินทางไปที่hall
ในเวลาที่เริ่มจะฉลองกันแล้วนั่นเอง
ผมก็เดินเที่ยวงานนิดหน่อย ทั้งๆที่มือของผมก็ถือของขวัญถุงใหญ่นั่นเอง แล้วผมก็ไปเจอกลุ่มของพี่ๆม.6 จนได้
" พี่ไอน์ พี่จิณณ์ พี่แม็ก พี่ริแอร์ สวัสดีครับ ทุกคน"
ผมเดินไปหาพวกพี่ๆ แล้วก็ทักทาย ตามประสาน้องทักพี่ พี่ๆทุกคนก็รับคำทักทายของผม
" อ้าว! ..กร สวัสดีนะ " แล้วพี่จิณณ์ ก็มองมาถุงใหญ่ๆที่ผมถือมา แล้วก็ถามผม ผมก็บอกไปว่า..
" นี่คือถุงของขวัญของพี่ๆไงละครับ" จากนั้นผมก็ได้แกะถุงใหญ่ๆออกมาเป็น ขนมเค้กที่ผมทำเอง ให้พี่ๆทุกคน
" เอ๋ ทำมาให้พวกเราหรอ ขอบใจนะ" พี่จิณณ์ก็รับไป แล้วผมก็แจกให้พี่ๆทุกคน
" ขอบใจนะ กร" พี่ๆทุกคนก็พูดขอบใจให้กับผม แต่น่าเสียดาย ที่ผมต้องไปช่วยแม่บ้านทำอาหาร ให้ทุกคนทานในงาน
ผมจึงรีบไปทำงาน แต่ก่อนที่จะไปทำงาน
" พี่ๆครับ ผมมีสิ่งที่ผมอยากจะบอกพี่ๆ ครับ"
" ว่ามาเลย กร"
" ขอแสดงความยินดีกับพี่ๆทุกคนเลยนะครับ พี่ไอน์ ขอบคุณที่พี่คอยช่วยเหลือ คอยปรึกษาปัญหาให้กับพวกเรา ช่วยสอน
กฎระเบียบ ให้กับผม ขอบคุณจริงๆครับ และก็ พี่จิณณ์ ขอบคุณที่พี่ที่มาเป็นสะพานเชื่อมความสัมพันธ์ ให้กับพี่ไอน์นะครับ
และก็ เป็นเพื่อนคุยเวลาเล่นด้วย ขอบคุณครับ อย่าน้อยใจนะครับ ถ้าไม่ได้พี่ ผมคงไม่ได้เจอกับพี่ไอน์หรอก ขอบคุณพี่แม็กเวล
ที่คอยเป็นปากให้กับโรงเรียนแห่งนี้ คอยบอกเรื่องต่างๆ ที่สำคัญๆให้กับพวกเรา นักเรียนควิ้นท์ ได้รู้ และก็ เป็นดีเจที่สนุกมากๆครับ
และก็ขอบคุณพี่ริแอร์ มากๆเช่นกันครับ ถึงไม่รู้ว่า พี่ริแอร์เป็นไคร แล้วทำอะไรให้กับโรงเรียนบ้าง แต่ก็ขอบคุณที่ช่วยโรงเรียนนี้ครับ
แล้วก็ สุดท้ายนี้ผมก็ขอให้พี่ๆทุกคน โชคดี ได้งานดีๆทำ อย่าลืมพวกเรา ควิ้นท์นะครับ จำไว้ว่า ขอให้มีความสุขนะครับ ถึงแม้จะเป็น
'ความสุขที่ไม่สมบูรณ์แบบ ' ก็ตาม โชคดีครับ พี่ๆ"
ผมได้แสดงความยินดีและก็ขอบคุณพี่ๆม.6ทุกคนไปแล้ว พี่ก็บอกมาคำเดียวๆกันว่า....
" ขอบใจนะกร "
จากนั้นผม ก็ขอปลีกตัวออกไปช่วยแม่บ้านทำอาหารให้งานเลี้ยงนี้ จนจบงานปัจฉิมนิเทศ
เหตุผลที่มาช่วยงานให้กับงานปัจฉิมนิเทศหรอครับ คือ...
" เสียสละความสุขของตัวเอง เพื่อให้ได้รอยยิ้มของคนอื่นเป็นสิ่งตอบแทน" ครับ
ปล.เหตุใดที่ พี่จิณณ์ ถึงเป็นสะพานเชื่อมความสัมพันธ์ ระหว่างผมกับพี่ไอน์ เหตุเพราะ พี่จิณณ์ เป็นคนพาพี่ไอน์มาหาผม มาคุยด้วย
ในครั้งที่ผมเปิดซุ้มเค้กกับน้องสาวของผมนั่นเอง
ปล2. วาดภาพได้ ปั่นมากๆ ขอโทษด้วนนะครับ
✎ ผู้ที่ทำภารกิจได้โดดเด่นกว่ามาตรฐาน (75%+)
B - CLASS STAMP ตราประทับระดับสูงในหมวดภารกิจทั่วไป มีลักษณะเป็นดาวสีไพลิน สื่อถึงความลึกล้ำ มีมูลค่า +75 Grade Exp. จะได้รับเมื่อปฎิบัติภารกิจได้ดีมากเป็นที่น่าพึงพอใจแก่ผู้อำนวยการโรงเรียน |
+1,000,000 Spirit Point ไอเทมเพิ่มแต้มสะสม Spirit Point ตามปริมาณที่กำหนด สามารถนำไปใช้ในการแลกเปลี่ยนเป็น CHIPS ได้ในภายหลัง |
- Narin's Comment:
- วิธีการเขียนของกรค่อยๆพัฒนาขึ้นเรื่อยๆเลยนะครับ
ผมแนะนำให้ลองเว้นช่วงการเขียนดูโดยที่ไม่ต้องอธิบาย
ทุกอย่างในทุกๆครั้ง บางทีมันจะตื่นเต้นกว่าถ้าเราปล่อย
ให้คนอ่านได้คิดเองบ้างครับ ตัวอย่างเช่น กรตื่นมาตอนเช้า
" งืม...." เสียงแจ๊บปาก ลั่นในห้องน้ำ ผมที่พึ่งจะตื่นนอน
ก็อาบน้ำ ล้างหน้า แปลงฟัน และก็แต่งตัวไป"
ตรงนี้สามารถเว้นการเขียนว่า อาบน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน
แล้วก็แต่งตัวไป โดยข้ามไปในฉากที่อยู่ในโรงเรียนเลย
หรือพูดแบบรวบรัดว่า "ผมเตรียมตัวเพื่อที่จะไปโรงเรียน"
ก็ได้ครับ เราสามารถเว้นเรื่องสามัญที่คิดว่าทุกคนควรรู้
อยู่แล้วได้ การตัดฉากไปมาจะทำให้ผู้อ่านเกิดความ
อยากรู้มากขึ้น อาจจะทำให้เรื่องตื่นเต้นขึ้นอีกระดับหนึ่ง
ลองเล่นดูในครั้งต่อๆไปนะครับ
- ผู้มาเยือนผู้มาเยือน
Re: Lesson 40 : ปัจฉิมนิเทศ
Sun 15 May 2016, 19:48
7.00 p.m. หอประชุม
ฮิเด็กสาวใส่แว่นพึ่งเดินย่างเข้ามาในบริเวณหน้าฮอล เพื่อมาแสดงความยินดีกับพี่ม.6 แต่เธอตื่นสายเพราะทำของให้พี่ม.6เลยทำให้มาช้าไปหน่อย..
เมื่อเข้าไปในหอประชุมก็พบพี่แม็กเวลกำลังขึ้นปราศัยอยู่บนเวที และเห็นพี่ม.6ที่ดูเหมือนซอมบี้ผู้หิวโหยอาหารที่จัดเลี้ยง
สงสัยอดเปรี้ยวไว้กินหวาน อดนานๆไว้กินของฟรีแห๊ะ ฉันคิดในใจและแอบขำเล็กน้อย ฮิฮิฮิ
ระหว่างพี่แม็กเวลขึ้นปราศรัยฉันก็เดินชมรอบๆงาน อ้า! นึกขึ้นได้ว่าฉันต้องไปเอาของที่รุ่นพี่เดียร์หนิ ว่าแล้วฉันก็เดินหาพี่เดียร์ในงาน ก็พบเด็กสาวเปียคู่แอบอยู่มุมหนึ่ง?
ฉันเดินเข้าไปใกล้และกระซิบ..
"พี่เดียร์ๆ" ฉันกระซิบให้เบาที่สุดแล้วทำเนียนหยิบอาหารแถวนั้นเข้าปากเคี้ยวไปด้วย
"อ้าวฮิ มาแล้วหรอ นี่ของที่ตกลงกันไว้" พี่เดียร์ตอบกลับมาด้วยเสียงเบาๆกลัวใครจะได้ยิน
"รับทราบค่ะ เริ่มปฏิบัติการ" ฉันรับเค้กสีเขียวขจี เขียวมาก เขียวอะไรแบบนี้มาไว้ในมือและทำท่าวันทยาหัตให้และรีบเดินเนียนๆออกมาจากบริเวณนั้น ก่อนไปฉันก็ไม่ลืมหยิบของฟรีมากินด้วย งั่มๆ ฉันเคี้ยวด้วยใบหน้านิ่งแต่ในใจนี่ฟินมากกกกก ~
ฉันกำลังเริ่มปฏิบัติการภารกิจลับของฉันร่วมกับพี่เดียร์ โดยเริ่มจากการกวาดสายตามองหาเหยื่อ เอ๊ยรุ่นพี่ม.6ที่จะให้เค้ก และแล้วฉันก็เจอรุ่นพี่อาย เอ๊ย พี่ไอน์บุคคลที่ฉันและพี่เดียร์
ตั้งใจจะมองของขวัญจบม.6ให้ ฉันจึงเดินปรี่เข้าไปทักทาย..
"สวัสดีค่ะ พี่อ๊าอิยา อิยา พี่อายยย~" ฉันเอ่ยด้วยน้ำเสียงร่าเริง แต่ทำไมมันดูน่ากลัวสำหรับคนอื่น..
"สวัสดีครับฮิ พี่ชื่อไอน์ต่างหาก" พี่ไอน์ตอบกลับ และหัวเราะเล็กน้อย
"55555"ฉันหัวเราะเล็กน้อยและยิ้ม ที่ดูเหมือนแสยะยิ้มมากกว่า.. ฉันยังกลัวตัวเองเลย บรึ๋ย..
"มีไรหรอครับ" พี่ไอน์ถาม
"มีค่ะ มีหัวใจมาให้พี่ ฮิ้วววว" ฉันเล่นมุขเสี่ยวด้วยใบหน้าที่นิ่ง..
"แหม่ ผมคงรับใจฮิไม่ได้นะครับ ผมมีใจของผอ.แล้ว 555555 ล้อเล่น" พี่ไอน์ตอบกลับมา ทำเอาเลือดวายแทบพุ่ง //หันหลังไปปาดกำเดา
"โถ่ ฮิแค่มาแสดงความยินดีกับพี่ไอน์ที่จบม.6หน่ะค่ะและเอาเค้กมาให้ทานด้วย" ฉันยื่นเค้กสีเขียวอื๋อออกมาและยิ้ม
"โอ้ ขอบคุณครับ แต่เค้กนี่จะดีหรอครับ..." สีหน้าหวั่นๆปรากฎบนหน้าชายหนุ่ม
“ดีสิคะ เดี๋ยวฮิขอป้อนให้นะคะ”
“อ่า ครับๆ”
ฮิค่อยๆหั่นเค้กแล้วเขย่งป้อนใส่ปากพี่ไอน์ที่กำลังย่อตัวลงในฮิโซกะป้อน เพราะความสูงเลยทำให้ค่อนข้างจะเป็นอุปสรรคในการป้อน
และหลังจากนั้น
“อั้ก! ฮิเอาอะไรมาให้ผมกินครับเนี่ย น้ำๆขอน้ำ” พี่ไอน์ทำท่าทางจะอ้วกเพราะ ได้ทานเค้กขี้หูไป
“เค้กไงคะ” ฮิยังคงทำน้ำเสียงเรียบตามเคย
“แค่กๆ เค้กอะไรครับเนี่ย”
“เค้กขี้หูค่ะ ประยุกต์มาจากลูกอมแฮรี่ พอตเตอร์ รสขี้หู” เดียร์ที่แอบจ้องอย่างเงียบๆค่อยๆเดินมาแล้วพูดขึ้น
“เอิ่ม นี่ร่วมมือกันใช่ไหมครับ”
“ใช่แล้วล่ะค่ะ ถูกเผ่งเลย ฮิฮิฮิ”
“ครับ 555”
"อ้อ ขอให้มีความสุขมากๆนะคะ มาเป็นครูที่นี่ยิ่งดีเลยล่ะค่ะ" ฉันเอ่ยอวยพรด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ
"ขอบคุณครับฮิ แต่คราวหน้าไม่เอาเค้กแล้วนะ" พี่ไอน์เอ่ยขอบคุณแล้วยิ้มให้
หลังจากนั้นฉันก็ขอตัวไปหาของกินฟรีในงานต่อ โดยก่อนไปฉันกับพี่เดียร์ก็แท็กมือกัน พร้อมหัวเราะแบบโวลเดอร์มอร์ วะฮ่าๆ *-*
✎ ผู้ที่ทำภารกิจได้โดดเด่นกว่ามาตรฐาน (75%+)
ฮิเด็กสาวใส่แว่นพึ่งเดินย่างเข้ามาในบริเวณหน้าฮอล เพื่อมาแสดงความยินดีกับพี่ม.6 แต่เธอตื่นสายเพราะทำของให้พี่ม.6เลยทำให้มาช้าไปหน่อย..
เมื่อเข้าไปในหอประชุมก็พบพี่แม็กเวลกำลังขึ้นปราศัยอยู่บนเวที และเห็นพี่ม.6ที่ดูเหมือนซอมบี้ผู้หิวโหยอาหารที่จัดเลี้ยง
สงสัยอดเปรี้ยวไว้กินหวาน อดนานๆไว้กินของฟรีแห๊ะ ฉันคิดในใจและแอบขำเล็กน้อย ฮิฮิฮิ
ระหว่างพี่แม็กเวลขึ้นปราศรัยฉันก็เดินชมรอบๆงาน อ้า! นึกขึ้นได้ว่าฉันต้องไปเอาของที่รุ่นพี่เดียร์หนิ ว่าแล้วฉันก็เดินหาพี่เดียร์ในงาน ก็พบเด็กสาวเปียคู่แอบอยู่มุมหนึ่ง?
ฉันเดินเข้าไปใกล้และกระซิบ..
"พี่เดียร์ๆ" ฉันกระซิบให้เบาที่สุดแล้วทำเนียนหยิบอาหารแถวนั้นเข้าปากเคี้ยวไปด้วย
"อ้าวฮิ มาแล้วหรอ นี่ของที่ตกลงกันไว้" พี่เดียร์ตอบกลับมาด้วยเสียงเบาๆกลัวใครจะได้ยิน
"รับทราบค่ะ เริ่มปฏิบัติการ" ฉันรับเค้กสีเขียวขจี เขียวมาก เขียวอะไรแบบนี้มาไว้ในมือและทำท่าวันทยาหัตให้และรีบเดินเนียนๆออกมาจากบริเวณนั้น ก่อนไปฉันก็ไม่ลืมหยิบของฟรีมากินด้วย งั่มๆ ฉันเคี้ยวด้วยใบหน้านิ่งแต่ในใจนี่ฟินมากกกกก ~
ฉันกำลังเริ่มปฏิบัติการภารกิจลับของฉันร่วมกับพี่เดียร์ โดยเริ่มจากการกวาดสายตามองหาเหยื่อ เอ๊ยรุ่นพี่ม.6ที่จะให้เค้ก และแล้วฉันก็เจอรุ่นพี่อาย เอ๊ย พี่ไอน์บุคคลที่ฉันและพี่เดียร์
ตั้งใจจะมองของขวัญจบม.6ให้ ฉันจึงเดินปรี่เข้าไปทักทาย..
"สวัสดีค่ะ พี่อ๊าอิยา อิยา พี่อายยย~" ฉันเอ่ยด้วยน้ำเสียงร่าเริง แต่ทำไมมันดูน่ากลัวสำหรับคนอื่น..
"สวัสดีครับฮิ พี่ชื่อไอน์ต่างหาก" พี่ไอน์ตอบกลับ และหัวเราะเล็กน้อย
"55555"ฉันหัวเราะเล็กน้อยและยิ้ม ที่ดูเหมือนแสยะยิ้มมากกว่า.. ฉันยังกลัวตัวเองเลย บรึ๋ย..
"มีไรหรอครับ" พี่ไอน์ถาม
"มีค่ะ มีหัวใจมาให้พี่ ฮิ้วววว" ฉันเล่นมุขเสี่ยวด้วยใบหน้าที่นิ่ง..
"แหม่ ผมคงรับใจฮิไม่ได้นะครับ ผมมีใจของผอ.แล้ว 555555 ล้อเล่น" พี่ไอน์ตอบกลับมา ทำเอาเลือดวายแทบพุ่ง //หันหลังไปปาดกำเดา
"โถ่ ฮิแค่มาแสดงความยินดีกับพี่ไอน์ที่จบม.6หน่ะค่ะและเอาเค้กมาให้ทานด้วย" ฉันยื่นเค้กสีเขียวอื๋อออกมาและยิ้ม
"โอ้ ขอบคุณครับ แต่เค้กนี่จะดีหรอครับ..." สีหน้าหวั่นๆปรากฎบนหน้าชายหนุ่ม
“ดีสิคะ เดี๋ยวฮิขอป้อนให้นะคะ”
“อ่า ครับๆ”
ฮิค่อยๆหั่นเค้กแล้วเขย่งป้อนใส่ปากพี่ไอน์ที่กำลังย่อตัวลงในฮิโซกะป้อน เพราะความสูงเลยทำให้ค่อนข้างจะเป็นอุปสรรคในการป้อน
- pic1:
และหลังจากนั้น
“อั้ก! ฮิเอาอะไรมาให้ผมกินครับเนี่ย น้ำๆขอน้ำ” พี่ไอน์ทำท่าทางจะอ้วกเพราะ ได้ทานเค้กขี้หูไป
“เค้กไงคะ” ฮิยังคงทำน้ำเสียงเรียบตามเคย
“แค่กๆ เค้กอะไรครับเนี่ย”
“เค้กขี้หูค่ะ ประยุกต์มาจากลูกอมแฮรี่ พอตเตอร์ รสขี้หู” เดียร์ที่แอบจ้องอย่างเงียบๆค่อยๆเดินมาแล้วพูดขึ้น
“เอิ่ม นี่ร่วมมือกันใช่ไหมครับ”
“ใช่แล้วล่ะค่ะ ถูกเผ่งเลย ฮิฮิฮิ”
“ครับ 555”
"อ้อ ขอให้มีความสุขมากๆนะคะ มาเป็นครูที่นี่ยิ่งดีเลยล่ะค่ะ" ฉันเอ่ยอวยพรด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ
"ขอบคุณครับฮิ แต่คราวหน้าไม่เอาเค้กแล้วนะ" พี่ไอน์เอ่ยขอบคุณแล้วยิ้มให้
หลังจากนั้นฉันก็ขอตัวไปหาของกินฟรีในงานต่อ โดยก่อนไปฉันกับพี่เดียร์ก็แท็กมือกัน พร้อมหัวเราะแบบโวลเดอร์มอร์ วะฮ่าๆ *-*
- pic2:
✎ ผู้ที่ทำภารกิจได้โดดเด่นกว่ามาตรฐาน (75%+)
B - CLASS STAMP ตราประทับระดับสูงในหมวดภารกิจทั่วไป มีลักษณะเป็นดาวสีไพลิน สื่อถึงความลึกล้ำ มีมูลค่า +75 Grade Exp. จะได้รับเมื่อปฎิบัติภารกิจได้ดีมากเป็นที่น่าพึงพอใจแก่ผู้อำนวยการโรงเรียน |
+1,000,000 Spirit Point ไอเทมเพิ่มแต้มสะสม Spirit Point ตามปริมาณที่กำหนด สามารถนำไปใช้ในการแลกเปลี่ยนเป็น CHIPS ได้ในภายหลัง |
- Narin's Comment:
- ผมแอบตกใจ ฮิวาดทรงผมคุณอิสรารอดด้วยง่ะ ดูดีเลย
นั่นทรงผมปราบเซียนเลยนะครับนั่น(หัวเราะ) งานเขียน
น่ารักดีแต่คิดว่าสั้นไปหน่อยครับ น่าจะเขียนถึงรุ่นพี่คน
อื่นๆเพิ่มอีก ไหนๆทำเค้กทั้งที ผมอยากให้ฮิให้เวลากับ
งานวาดมากกว่านี้ดูนะครับ ไม่ค่อยได้เห็นงานลงสีหรือ
งานที่เก็บรายละเอียดเยอะๆเท่าไหร่ ครั้งไหนว่างๆลอง
ให้เวลากับมันดู เผื่อจะเจอแนวทางการวาดหรือลงสีใหม่ๆ
ที่ชอบก็ได้นะครับ^^
- dedog
Jinn Watinpol
อาจารย์ศิลปะ
5262
+1,074 M 191 K 627
PASSPORT
:
(9911/28000)
:
Re: Lesson 40 : ปัจฉิมนิเทศ
Sun 15 May 2016, 23:32
- สุดท้าย:
เย็นนี้แม็กเวลมาหาจิณณ์ที่ห้องพักครู
สถานะในตอนนี้เขาเป็นนักการฑูตประจำโรงเรียน และจิณณ์เป็นครูศิลปะ พวกเขารู้จักกันมาตั้งแต่
ตอนมัธยม แม็กเวลกล้าพูดว่าจิณณ์คือเพื่อนที่สนิทที่่สุดของเขา ไม่ว่าจะเป็นในตอนนี้หรือเมื่อตอนนั้น
มองบรรยากาศของโรงเรียนยามเย็นแล้วเขาก็อดคิดถึงสมัยมัธยมไม่ได้
เมื่อเดินไปถึงห้องพักครูก็เห็นจิณณ์กำลังอ่านหนังสืออยู่ เขาจึงเดินเข้าไปหา ท่าทางเพื่อนสนใจกับเนื้อหา
ในหนังสือมากจนไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้าง แม็กเวลนั่งลงตรงเก้าอี้ตรงข้ามแล้วจิณณ์ก็ยังจมอยู่กับหนังสือ
จนเขาอดไม่ได้จะแกล้งยื่นมือไปดีดนิ้วระหว่างหน้ากระดาษกับหน้าเพื่อน เห็นเพื่อนสะดุ้งก็หัวเราะเบาๆ
เมื่อเพื่อนเงยหน้ามามองค้อนใส่จึงถามออกไป
“อ่านอะไรอยู่”
เมื่อถามแล้วก็มองไปที่หนังสือในมือเพื่อน เปิดรอยยิ้มบางเมื่อเห็นภาพที่คุ้นเคยปรากฏอยู่บนหน้ากระดาษ
เขาแทบจะบอกได้ว่าหน้าต่อไปและต่อๆไปมีรูปอะไร ไม่ใช่แค่เขาสินะที่คิดถึงเรื่องราวตอนมัธยม
ได้ยินเสียงจิณณ์ตอบกลับมาพร้อมๆกับคำตอบที่ดังอยู่ในใจ
“หนังสือรุ่น”
จิณณ์เห็นเพื่อนหยิบหนังสือที่เขาดูอยู่จนถึงเมื่อครู่ไปเปิดๆ ดูก็บอกต่อ “ที่ได้มาตอนวันปัจฉิมไง จำได้มั้ย”
“จำได้ดิ” แม็กเวลตอบ ใครจะไปลืมวันสำคัญขนาดนั้นลงได้
คำหลังไม่ได้พูดออกมาแต่ชัดเจนอยู่ในสายตาและรอยยิ้ม
******************************************
“พวกเราเรียนจบแล้วกันจริงๆเหรอเนี่ย”
เจ้าลิงหัวทองแม็กเวลพูดขึ้นขณะที่พวกเราเดินมารับหนังสือรุ่นและออกจากหอประชุมหลังจบพิธีในช่วงเช้า
หน้าตาซึมๆชอบกล ดูผิดมาดพญาลิงผู้ร่าเริงดังเช่นปกติไม่น้อย
ยังไม่ทันได้ปลอบเพื่อนก็โดนรุ่นน้องสาวๆเข้าชาร์ต มองของขวัญและคำอวยพรให้ บางคนถึงกับร้องไห้ว่า
จะไม่ได้เจอพี่แม็กโซฮอตผู้นี้อีกต่อไปในเทอมหน้า
เออนะ ไม่ฮอตบ้างให้มันรู้ไป
ผมได้แต่มองเพื่อนขำๆ ก่อนจะสะดุ้งเมื่อมีใครบางคนมากระตุกชายเสื้อ
เมื่อหันกลับไปจึงเห็นราพันเซลแห่งห้องสมุดและอดีตประธานนักเรียนเพื่อนร่วมรุ่นของผมเอง
“ไงไอน์ ริแอร์” ผมทัก ไอน์ยังไม่ทันได้ตอบอะไรก็โดนน้องๆแห่กันเข้ามามอบของขวัญ
นี่ก็โซฮอตเกินไปอีกคนแล้ว 555
คุยกันแปบๆก็ต้องแยกเพราะต่างคนก็ต่างมีน้องๆเข้ามาคุยด้วย แถมยังมีผู้ปกครองรออยู่อีก
ผมเองก็มีน้องที่รู้จักเข้ามาทักทายบ้าง คุยกับคนโน้นคนนี้ซักพักผมก็ปลีกตัวออกมา
ทางบ้านผมบอกจะมารับพรุ่งนี้เช้าทีเดียวเลย ช่วงเวลานี้ผมจึงค่อนข้างว่าง
เห็นแวบๆว่าเจ้าลิงหัวทองก็ปลีกตัวมาจากน้องๆและโดดขึ้นเฟอรารี่คันหรูไปกับสาวสวยผมสั้น
คนหนึ่ง เป็นเพื่อนกันมาตั้งนานไม่เห็นมีวี่แวว กลับมาต้องถามซะหน่อยแล้วว่าแอบคบสาว
ที่ไหนอยู่ ไม่เห็นแนะนำให้รู้จักบ้างเลย *-*
พอว่างผมเลยขึ้นไปเก็บของที่หอพัก พรุ่งนี้ได้ขนขึ้นรถไปได้เลย
ไม่นึกว่าเปิดห้องไปจะเจอรันเดลทำหน้าตกใจกลับมา
ชั่วขณะที่ยังอึ้งกันอยู่ น้องก็กวาดทุกสิ่งทุกอย่างที่กำลังทำอยู่ไปด้านข้าง ลุกขึ้นยืนเอาตัวบังไว้
เปิดรอยยิ้มสดใสและบอกว่า “สวัสดีครับพี่จิณณ์ ส..สบายดีมั้ยครับ”
ความมีพิรุธระดับนี้คืออะไรเนี่ย!??
เห็นผมยังคงนิ่ง (งงอยู่ ไม่รู้จะตอบว่าไงดี) น้องก็ถอนหายใจเบาๆและบอก
“ผมแอบขึ้นมาทำของขวัญเซอร์ไพรส์ให้พี่ๆจะจบอะครับ ไม่นึกว่าพี่จิณณ์จะขึ้นมาตอนนี้”
“งั้น.. งั้นพี่ออกไปก่อนก็ได้นะ”
“ไม่เป็นไรครับ ไหนๆก็มาแล้ว” รันบอกแล้วเดินมาหาผม ยื่นอะไรบางอย่างมาตรงหน้า
“ขอแสดงความยินดีกับความสำเร็จในวันนี้ด้วยนะครับ”
ประโยคหลังผมไม่ทันสังเกตเพราะมัวแต่มองของที่น้องยื่นมาให้ เป็นเชือกถักเป็นสร้อยข้อมืออย่างเรียบง่าย
บูดเบี้ยวนิดหน่อยตามประสาคนไม่ชำนาญ แต่ก็มองเห็นความตั้งใจได้อย่างชัดเจน
“ขอบใจนะ” บอกผมยื่นมือไปให้น้องใส่ให้ ยกอีกมือมาลูบหัวน้อง
“ขอบคุณพี่จิณณ์ที่คอยดูแลกันมาด้วยนะครับ พี่ไม่อยู่ผมคงเหงาแย่เลย”
“ไม่เหงาหรอก เดี๋ยวก็ได้รูมเมทใหม่ อาจจะไม่เจ้ากี้เจ้าการอย่างพี่ก็ได้นะ” ผมบอกขำๆ
“เจ้ากี้เจ้าการที่ไหนครับ อยู่ด้วยกันนี่ผมรบกวนพี่จิณณ์ตั้งหลายอย่าง ขอบคุณที่ช่วยบอกช่วยเตือนกันตลอดนะครับ”
“พี่ก็ขอบใจที่รันเป็นรูมเมทที่น่ารักของพี่นะ มาๆ ขอกอดที ไหนๆจะไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว”
ผมอ้าแขน น้องก็กอดตอบกลับมา เรากอดกันนิ่งๆอยู่ซักพัก เมื่อผละออกจากกัน เห็นรันตาแดงๆนิดหน่อย
น้องยิ้มให้ผมอีกทีก่อนจะขอตัวไปมอบของขวัญให้พี่ๆคนอื่นๆ
ผมมองเชือกถักบนข้อมืออีกที ยิ้มให้มัน ก่อนจะเริ่มลงมือเก็บของ
ไม่นานนักผมก็เก็บของเสร็จ นอนบนเตียงมองห้องที่โล่งไปครึ่งห้องแล้วก็อดใจหายไม่ได้
คืนนี้คงเป็นคืนสุดท้ายแล้วที่ผมจะได้นอนที่นี่
มองไปมองมาก็กลับมาสะดุดที่ชุดของตัวเองที่ใส่อยู่ วันนี้ก็คงเป็นวันสุดท้ายที่ผมจะได้ใส่ชุดนี้เหมือนกันสินะ
เครื่องแบบที่ใส่มาหกปี จะไม่ได้ใส่มันอีกต่อไปแล้ว หรือต่อให้หยิบมาใส่ มันก็ไม่มีทางเหมือนเดิมไปได้ อืมม์...
ผมหยิบปากกาสีสามสี่แท่งแล้วเดินออกจากห้องพัก
.
.
.
คู่แรกที่เจอเมื่อผมเดินออกมาจากโซนหอพักคือเจ้าเด็กหัวจุกพีกับน้องปักษ์ ด้วยความที่เคยไปเที่ยวด้วยกัน
มาก่อนจึงค่อนข้างสนิทกันพอสมควร ผมยื่นปากกาสีให้น้องสองคนแล้วบอก
“เขียนเสื้อให้พี่หน่อย”
“เขียนอะไรอ่ะครับ” ปักษ์กระพริบตาปริบๆ
“เขียนอะไรก็ได้” ผมบอก
แบบที่รร.อื่นเขาเขียนเสื้อกันตอนเรียนจบ? – พีเขียนถาม
“ใช่ๆ แบบนั้นแหละ” ผมยิ้มให้ “ยังไงชุดโรงเรียนเราก็ไม่เหมือนที่อื่น คงเอาไปบริจาคที่ไหนไม่ได้อยู่แล้ว
ขอเขียนซักตัวเก็บไว้เป็นที่ระลึกแล้วกัน”
น้องสองคนมองหน้ากันอยู่ชั่วขณะ ก่อนจะเข้ามาเขียนเสื้อให้ผม
แถมเขียนในมุมที่อ่านตอนที่ใส่เสื้ออยู่ไม่ได้ด้วยนะ บอกว่าอ่านตอนนี้เลยเดี๋ยวเขิน(?)
พอเดินออกมาจากตรงนั้น ผมก็ให้คนโน้นคนนี้เขียนเสื้อไปเรื่อย ตั้งแต่รุ่นน้อง เพื่อน ครู
ไปยันพี่คนขายข้าวที่โรงอาหาร เพื่อนๆเห็นเสื้อผมเปรอะก็ชักสนใจ ทำตามๆกันบ้าง
จากนั้นมหกรรมเขียนเสื้อก็เริ่มต้นขึ้น อึ้น อึ้น อึ้น...
กว่าจะถึงงานเลี้ยงตอนเย็น เด็กม.6ก็ลายพร้อยกันไปทั้งตัวละฮะ 555
งานเลี้ยงตอนเย็นเริ่มต้นด้วยการปราศรัยของตัวแทนนักเรียน ซึ่งก็คือเจ้าลิงแม็กเวลนั่นเอง
ก่อนหน้านั้นไปถามมาแล้ว ได้ความมาว่าสาวสวยเจ้าของเฟอรารี่คือแม่บุญธรรม เป็นแม่บุญธรรมที่วิ้งวับมากทีเดียว
ปราศรัยเสร็จก็เริ่มปาร์ตี้กัน แม็กกี้เพื่อนเลิฟหายไปไหนอีกแล้วไม่ทราบ...
ผมเลยเกาะติดอยู่กับไอน์ เพื่อนเลิฟอีกคน แล้วก็เดินคุยกะคนโน้นคนนี้ไป ชิมโน่นชิมนี่ไปเรื่อย
อาหารที่ทางโรงเรียนจัดมาก็รสชาติอลังการงานสร้างไม่แพ้งานเฉลิมฉลองวันนี้เลยฮะ
ผมก็โฉบไปโฉบมาอยู่แถวโซนอาหารนี่แหละ 555
เห็นมีอีกคนที่วนเวียนอยู่แถวๆโซนอาหารเหมือนกัน นั่นไง กำลังสำลักคัพเค้กเลย ผมแค่นินทาในใจเองนะ...
“น้ำหน่อยมั้ย”
ผมยื่นน้ำให้ไทระที่กำลังไอคอกแคก ลูบหลังน้องไปก็หันไปบอกไอน์ที่เผลอลากติดมือมาด้วยว่าคนตรงหน้าคือไทระ
เมื่อน้องหายสำลักเงยหน้าขึ้นมาก็ส่งภาษามือเป็นคำว่าขอบคุณ
“ไม่ต้องรีบทานขนาดนั้นก็ได้ ของมีอีกเยอะ” ผมแซว แซวแล้วก็นึกขึ้นได้ว่าไทระหูไม่ได้ยินเหมือนผมนี่หว่า
แถมเหมือนจะไม่ได้ฝึกอ่านปากมาแบบผมด้วย เห็นน้องทำหน้าเลิ่กลั่กเหมือนหาของไม่เจอและไม่รู้จะสื่อสาร
กับพวกผมยังไงแล้วก็อยากบอกน้องว่าพี่พอใช้ภาษามือได้บ้างนะ... แต่น้องยื่นมือมาคว้ามือผมกับไอน์คนละข้างซะก่อน
ผมมองหน้าน้อง ไอน์เองก็ดูงงนิดหน่อย ไทระส่งยิ้มมาให้
ดวงตาใสแจ๋วนั่นแทบจะสกัดออกมาเป็นคำพูดได้ว่า ยินดีด้วยนะครับ ได้เลยทีเดียว
ผมหันไปบอกไอน์ ไอน์ก็ยิ้มรับ ผมหันไปยิ้มขอบใจไทระ ยกมือข้างที่ว่างลูบหัวน้อง
ก่อนจะจากกันผมก็ส่งปากกาให้ไทระเขียนเสื้อให้ ไอน์เองก็บอกให้เขียนของเขาด้วย
ถึงจะมองไม่เห็นแต่ก็อยากเก็บไว้เป็นที่ระลึกเหมือนกัน
ซักสองทุ่มกว่าแม็กเวลก็มารวมกลุ่ม เจ้าตัวบอกแค่ว่าไปขอบคุณม๊ามา แล้วก็ทำหน้าเขิน... โอเค ไม่ถามต่อก็ได้
คุยเล่นกับเพื่อนๆอีกซักพักก็มีภูมิกับกรที่เอาขนมมาแสดงความยินดี คุยเล่นกันอยู่ซักพักน้องๆก็ไปหาพี่คนอื่นต่อ
จากนั้นน้องรินที่ได้คุยกันอยู่เมื่อตอนบ่ายๆก็เอารูปที่วาดไว้ใส่กรอบมาให้ก่อนจะถ่ายรูปรวมกันซักแชะสองแชะ
ประมาณสามทุ่มครึ่ง น้องๆม.อื่นส่วนใหญ่กลับไปกันหมดแล้ว เหลือแค่เด็กม.6ที่ยังไม่ไปไหน
พวกเรามารวมตัวกันอีกครั้งและจับมือกันเป็นวงกลมขนาดใหญ่ ด้วยความที่เพื่อนในชั้นมีไม่มากเท่าไหร่
พวกเราจึงรู้จักกันทุกคน และจากจุดนี้ พวกเราสามารถเห็นหน้าเพื่อนๆทุกคนได้ไม่ยากนัก
ไฟในหอประชุมถูกปิด เทียนเล่มเล็กๆถูกจุด และส่งต่อวางไว้ที่หน้าเพื่อนๆทุกคน เพิ่มความขลังให้กับบรรยากาศ
“ขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำให้เราได้อยู่ด้วยกันในตอนนี้ ขอบคุณผอ. ขอบคุณคุณครู ขอบคุณบุคลากร ขอบคุณโรงเรียน”
หัวหน้าห้องพูดขึ้นมา ถึงผมจะไม่ได้ยิน แต่จากจุดนี้ผมมองเห็นเขาชัดเจน
“ขอบคุณทุกคนที่อยู่ด้วยกันจนถึงตอนนี้ ขอบคุณที่เป็นเพื่อนกันนะ”
เพื่อน ที่อยู่กันมาถึงหกปี มีทั้งสุขทั้งเศร้าร่วมกัน ผ่านอะไรๆมาด้วยกันตั้งมากมาย ความผูกพันที่มีไม่ใช่น้อยๆเลย
พวกเราร้องเพลงร่วมกัน เพลงที่ถึงผมจะไม่ได้ยินด้วยหู แต่ดังก้องอยู่ในหัวใจ
******************************************
“เฮ้ คนเขาดูอยู่จะมาแย่งทำไมเนี่ย”
จิณณ์ยื่นเท้าไปถีบเก้าอี้เพื่อนที่นั่งอู่ตรงข้ามเมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมส่งหนังสือคืนมาซักที
“เฮ้ยๆๆ” แม็กเวลร้องเสียงหลง พยายามอยู่ชั่วขณะที่จะทรงตัวไม่ให้เก้าอี้ล้ม เขามองค้อนเพื่อนก่อนจะบ่น
“ก็อยากดูเหมือนกันนี่นา ไม่ได้เปิดดูนานแล้ว”
สองคนโหวกเหวกกันทั้งที่อยู่ในห้องพักครูได้เพราะตอนนี้เย็นมากแล้ว ครูคนอื่นๆก็กลับไปกันหมด
ส่วนจิณณ์ที่ยังอยู่เพราะแม็กเวลบอกจะมาหาจึงรออยู่ เหลือเพียงพวกเขาสองคนที่ยังอยู่ตรงนี้ในตอนนี้
จิณณ์หรี่ตามองแม็กเวลเมื่อคำนวณแล้วไม่น่าแย่งกลับมาได้ง่ายๆ เขาจึงว่า “ก็เอามาดูด้วยกันสิ”
“เออเนอะ” แม็กเวลหัวเราะเขินๆ เลื่อนหนังสือรุ่นมาวางตรงกลางโต๊ะ เปิดดูตั้งแต่หน้าแรกไปพร้อมๆกัน
อดีตนักเรียนมัธยมสองคนจมเข้าไปในอดีตผ่านภาพต่างๆ ในหนังสือรุ่น ทั้งภาพโรงเรียน ภาพครู ภาพเพื่อน
มีทั้งภาพเทศกาลต่างๆที่ร่วมกันทำมา ภาพที่เป็นพิธีการเคร่งขรึม ภาพที่ถ่ายกันเล่นๆก็มีให้เห็น
บางภาพตลกเสียจนต้องหลุดหัวเราะ บางภาพก็ซาบซึ้งเสียจนน้ำตาแทบไหล บางภาพถ่ายตั้งแต่สมัยที่
โรงเรียนยังอยู่ที่เดิมก่อนจะย้ายมา บางภาพก็แทบจะลืมไปแล้วว่าถ่ายเอาไว้ตอนไหน
เศษเสี้ยวแห่งความทรงจำยังคงตราตรึง สายใยแห่งมิตรภาพยังคงปรากฏให้เห็นเลือนรางในรูปภาพ
เพื่อนสมัยม.ปลายที่ตอนนี้หลายคนก็ห่างหายกันไปตามเส้นทางของตัวเอง
น้อยคนที่จะกลับมาทำงานที่โรงเรียนต่ออย่างพวกเขา โอกาสเจอกันช่างยากเย็น
“พวกนายยังไม่กลับอีกเหรอ”
เสียงที่จู่ๆก็ดังขึ้นทำเอาแม็กเวลสะดุ้งและหันไปทางต้นเสียง จิณณ์เห็นเพื่อนหันก็หันมองตาม
ที่ประตูปรากฏร่างของอิสรา คุณครูสอนภาษาเบรลล์ผู้เป็นเพื่อนร่วมรุ่นอีกคนของพวกเขายืนอยู่
“ไอน์นี่เอง ตกใจหมดเลย” แม็กเวลว่า ก่อนจะเรียก “เข้ามาก่อนสิ มาได้ไงเนี่ย นึกว่าแถวนี้ไม่มีคนแล้วซะอีก”
“ได้ยินเสียงพวกนายคุยกันแว่วๆเลยเข้ามาดู” คนถูกตกใจบอก
“เรามีเด็กมาขอให้สอนพิเศษให้นิดหน่อยก็เลยเลิกช้า พวกนายเถอะทำอะไรกันอยู่”
“ดูหนังสือรุ่นกันอยู่” จิณณ์เป็นคนตอบ “ดูแล้วก็อยากเจอเพื่อนๆ”
“นั่นสิ ว่าไปก็ไม่ได้เจอกันมานานแล้วนะ”
ฟังเพื่อนบ่นแล้ว อิสราที่แม้จะมองไม่เห็นรูปในหนังสือรุ่น แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีความผูกพันกับเพื่อนๆก็อดคิดถึง
เพื่อนมัธยมเหล่านั้นขึ้นมาไม่ได้ จึงเสนอขึ้นมาเบาๆ “งั้น...จัดงานเลี้ยงรุ่นกันมั้ย”
“เอออออออ จัดดดดดดดดดดดด” แม็กเวลตอบรับอย่างว่องไว จิณณ์เองก็เห็นดีเห็นงามด้วย
สามคนคุยเรื่องงานเลี้ยงรุ่นจนฟ้ามืด แม็กเวลท้องร้องโครกครากขึ้นมา เป็นเหตุให้สามหนุ่มต้องอพยพเปลี่ยนที่คุย
จากห้องพักครูไปที่ร้านอาหารThe Porch Bar & Restaurantกันแทน จิณณ์ยังคงถือหนังสือรุ่นติดมือมาด้วย
ขณะที่กินข้าวไปและเครียดไปว่าจะติดต่อเพื่อนๆ บางคนที่ห่างหายไปยังไงดี
จิณณ์ก็ค้นพบว่าในหนังสือรุ่นมีบอกที่อยู่และเบอร์โทรติดต่ออยู่ด้วย
“ถ้าโทรไปไม่ติดก็ไปหาถึงบ้านเลยละกัน” แม็กเวลเอ่ยอย่างมุ่งมั่น
“ถ้าเค้าย้ายบ้านไปแล้วอ่ะ” จิณณ์อดถามไม่ได้
“ก็ถามบ้านข้างๆ มันต้องมีคนรู้บ้างแหละน่า” แม็กเวลตอบ
“สมมตว่าเค้าย้ายไปต่างประเทศอ่ะ” จิณณ์ยังคงถามต่อไป
“อยู่ถึงสวีเดนฉันก็จะไปตาม!!”
“นี่นายจะจัดงานเลี้ยงรุ่นหรือจะไปทวงหนี้ไม่ทราบ!?”
“ฉันเป็นถึงอดีตประธานชมรมโสตฯเลยนะ เรื่องแค่นี้ทำได้อยู่แล้ว”
“ฉันไม่ได้กำลังชมนายอยู่นะ จะยืดอกภูมิใจทำไมเนี่ย?!”
อิสราตักข้าวเข้าปากไปก็ฟังบทสนทนาที่มีสาระบ้างไร้สาระบ้างของเพื่อนๆไป
เขาอดยิ้มจางๆไม่ได้เมื่อนึกถึงงานเลี้ยงรุ่นที่จะมาถึง
✎ ผู้ที่ทำภารกิจได้เพอร์เฟ็คสูงกว่ามาตรฐานมาก (100%)
S - CLASS STAMP ตราประทับระดับสูงสุดในหมวดภารกิจทั่วไป มีลักษณะเป็นดาวสีนิลสุดแสนจะคลาสสิก มีมูลค่า +100 Grade Exp. จะได้รับเมื่อปฎิบัติภารกิจได้เพอร์เฟ็คเป็นที่น่าประทับใจแก่ผู้อำนวยการโรงเรียน |
+1,500,000 Spirit Point ไอเทมเพิ่มแต้มสะสม Spirit Point ตามปริมาณที่กำหนด สามารถนำไปใช้ในการแลกเปลี่ยนเป็น CHIPS ได้ในภายหลัง |
GOLDEN HONOR DEGREE TROPHY ถ้วยเกียรติยศทองคำแท้ มอบให้แด่ผู้ที่สามารถปฎิบัติภารกิจหรือร่วมกิจกรรมต่างๆที่ทางโรงเรียนจัดขึ้นได้น่าประทับใจผู้อำนวยการเป็นอย่างมาก |
- Narin's Comment:
- ถ้วยทองให้ไอเดียการเขียนจากปัจจุบันแล้วย้อนกลับไปอดีตครับ
ผมไม่ทันนึกถึงเลยว่าทำแบบนี้ก็ได้เหมือนกัน รู้สึกได้เปิดโลก ฮ่าๆๆ
ภารกิจนี้เป็นภารกิจเชื่อมเรื่องจากหลายๆคน แต่อ่านแล้วไม่ได้รู้สึก
ว่าน่าเบื่อหรือกำลังอ่านอะไรซ้ำๆเดิมๆ อาจจะเพราะการเขียนข้าม
ในบางส่วนที่ภารกิจของคนอื่นได้อธิบายอย่างละเอียดไว้อยู่แล้ว
หรือการใส่มุมของของตัวเองลงไปเพิ่ม ซึ่งก็ทำได้ดีครับ ส่วนใหญ่
การเชื่อมเรื่องนั้นคนส่งทีหลังจะเสียเปรียบเพราะจะกลายเป็นเหมือน
การอ่านซ้ำอีกรอบ แต่คุณทำออกมาได้ไม่น่าเบื่อเลย
อีกไอเดียที่ชอบคือการเขียนเสื้อครับ ผมไม่ได้โตมาที่ไทยเพราะ
ฉะนั้นจึงไม่ค่อยได้นึกถึงรายละเอียดเล็กๆน้อยๆพวกนี้ แต่การที่
จิณณ์เดินวนคุยกับน้องๆเพื่อนๆทั้งวันนั้นมันทำให้ผมรู้สึกว่าจิณณ์
เองก็ไม่ได้เพื่อนน้อยหรือเป็นที่รู้จักน้อยไปกว่าแม็กหรือไอน์เลย
วันหลังถ้าอยากได้รูปฉากหลังสามารถขอผมได้เป็นการส่วนตัวนะครับ
ผมเอาเครดิตออกให้ได้ แต่จริงๆแล้วชอบรูปที่เชื่อมเรื่องกับไทระ
มากที่สุดครับ บรรยากาศอบอุ่นกันมากจริงๆ
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|