- Nearmoki-2b
Narin
อดีตผู้อำนวยการโรงเรียน
0
+65 M 413 K 676
คู่มือนักเรียน (โหมดเนื้อเรื่อง)
Wed 17 Jan 2018, 15:07
คู่มือนักเรียน
เรียน นักเรียนกับอาจารย์และบุคลากรทุกท่าน
ขณะนี้ทางโรงเรียนขอแจ้งให้ทุกท่านทราบถึง "คู่มือนักเรียน" ในโหมดเนื้อเรื่อง เพื่อใช้อ้างอิงในการเขียนภารกิจหรือกิจกรรมต่างๆ นับจากนี้เป็นต้นไป ข้อมูลต่างๆของโรงเรียนที่เคยแจ้งให้ทราบผ่านทางปากเปล่าหรือที่ระบุไว้ในกระทู้ต่างๆก่อนหน้านี้ที่มีความขัดแย้งกับข้อมูลในกระทู้นี้นี้จะไม่สามารถใช้อ้างอิงได้อีกต่อไป โดยหลังจากนี้ทางโรงเรียนจะ ยึดข้อมูลที่มีอยู่ทั้งหมดภายในกระทู้นี้ในการอ้างอิงเท่านั้น โดยมีรายละเอียดทั้งหมด ดังนี้
○ การก่อตั้งและจุดประสงค์
○ ข้อมูลพื้นฐานของโรงเรียน
○ ปรัชญาของโรงเรียน
○ ตราสัญลักษณ์ของโรงเรียน
○ วิสัยทัศน์โรงเรียน
○ ผู้บริหารโรงเรียน
○ การสมัครเข้าเรียน
○ สกุลเงิน
○ ค่าใช้จ่ายรายปี
○ ตารางสอน
○ การเลื่อนระดับชั้น
○ วันหยุดประจำปีและการปิดเทอม
○ การลาหยุดและสถานภาพ
○ กิจกรรมชมรม
○ กิจกรรมวันสำคัญ
○ กิจกรรมส่งเสริมความรู้
○ กิจกรรมค่ายอาสา
○ กิจกรรมงานบริจาคและการกุศลประจำปี
○ กิจกรรมผู้ปกครอง
○ ชุดนักเรียน
○ ชุดพละ
○ ชุดบุคลากร
○ ทรงผมและเครื่องประดับ
○ การสวมรองเท้าในอาคารเรียน
○ เข็มกลัดประธานนักเรียน
○ Wristband
○ การตรวจสุขภาพ
○ โรงอาหาร
○ เวลาเปิดให้บริการ
○ กฎระเบียบ
○ บทลงโทษ
การก่อตั้งและจุดประสงค์
โรงเรียนก่อตั้งขึ้นโดย "Reine Guillet" อดีตผูับริหารบริษัท QUAINT และกลุ่มหุ้นส่วนอื่นๆ โดยจุดประสงค์เพื่อให้โอกาสแก่เด็กที่มีความพิการในด้านของร่างกายหรือป่วยทางด้านจิตใจ ที่มักไม่ได้รับโอกาสทางสังคมเฉกเช่นเด็กคนอื่นๆ นำพามาซึ่งความสุขของเด็กเหล่านั้น
ข้อมูลพื้นฐานของโรงเรียน
โรงเรียนตั้งอยู่ที่ เลขที่ 8 ทางหลวงหมายเลข 4028 ตำบลแหลมผักเบี้ย อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี 76100 บนเนื้อที่ 53.44 ไร่ (85,500 ตารางเมตร) โดยใช้งบประมาณในการสร้างทั้งสิ้น 37,425,450,000 (สามหมื่นเจ็ดพันสี่ร้อยยี่สิบห้าบาทสี่แสนห้าหมื่นชิพถ้วน) เป็นโรงเรียนเอกชนที่เปิดสอนเฉพาะหลักสูตรวิชาสามัญ ตั้งแต่ระดับชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึง มัธยมศึกษาปีที่ 6 ปัจจุบันมีนักเรียนทั้งหมด 111 คน อาจารย์และบุคลากร แบบประจำทั้งหมด 12 คน และแบบชั่วคราวทั้งหมด 48 คน
เนื่องจากว่าโรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนเอกชนที่มีระบบการพักอาศัยในโรงเรียนคล้ายโรงเรียนประจำ นักเรียนจึงต้องพักในอาคารหอพักของโรงเรียน จะสามารถกลับบ้านได้เฉพาะช่วงวันหยุดยาวและปิดเทอม กรณีวันอื่นๆจะต้องมี "ผู้คุ้มครอง" เซ็นรับรองและเดินทางไปด้วยเท่านั้น ผู้คุ้มครองนั้นจะเป็นผู้ปกครองหรือบุคลากรของโรงเรียนก็ได้ เมื่อเซ็นยิมยอมเป็นผู้คุ้มครองเพื่อพานักเรียนออกจากโรงเรียนนอกเวลาที่กำหนดแล้ว จะถือว่าในช่วงเวลาที่อยู่นอกโรงเรียน นักเรียนบุคคลนั้นจะอยู่ในความรับผิดชอบของผู้คุ้มครองแทนโรงเรียนทันที ส่วนกรณีอาจารย์และบุคลากรนั้น ทางโรงเรียนไม่บังคับให้พักอาศัยอยู่ในอาคารหอพักของโรงเรียน สามารถเดินทางกลับบ้านหรือออกข้างนอกโรงเรียนได้ตลอดเวลา
ปรัชญาของโรงเรียน
"Imperfect happiness" หรือ "ความสุขที่ไม่สมบูรณ์แบบ"
ตราสัญลักษณ์ของโรงเรียน
วิสัยทัศน์โรงเรียน
ให้ความรู้ทางด้านวิชาการและทักษะในการดำรงชีวิตภายใต้ความพิการของตนเอง ส่งเสริมบุคลิกภาพและการเข้าสังคม จัดกิจกรรมและโครงงานเพื่อสร้างเสริมความรู้รอบตัว ผลักดันการเรียนรู้ในทางปฏิบัติเพื่อให้นักเรียนได้ใช้ศักยภาพทางด้านร่างกายที่มีอยู่ไปสู่สุขภาพที่แข็งแรงยิ่งขึ้น เสริมสร้างศีลธรรมและจริยธรรมในจิตใจ อีกทั้งพัฒนานักเรียนให้สามารถดูแลตนเองและใช้ชีวิตร่วมกับบุคคลทั่วไปในสังคมได้แม้ว่าจะจบการศึกษาแล้ว
ผู้บริหารโรงเรียน
○ ผู้ก่อตั้งโรงเรียน : Reine Guillet
○ ผู้อำนวยการโรงเรียน : ( อยู่ระหว่างการว่าจ้าง )
○ ผู้บริหารโรงเรียน : Elite Urban Royle
การสมัครเข้าเรียน
การสมัครเข้าเรียนนั้นจะเป็นรูปแบบ "สมัครเข้ามาด้วยตนเอง" วิธีนี้ว่าที่นักเรียนหรือผู้ปกครองจะเป็นผู้เดินทางเข้ามาสมัครด้วยตนเองที่โรงเรียน โดยผ่านขั้นตอนการ "สอบประเมินผลความรู้ความสามารถและความพิการ" เป็นลำดับแรกเพื่อประเมินความรู้และความพิการ ณ ปัจจุบัน สำหรับการเตรียมพร้อมดูแลนักเรียนได้อย่างเหมาะสมหลังจากนี้ จากนั้นจะเป็นการสอบสัมภาษณ์กับผู้อำนวยการโรงเรียนเพื่อวัดทัศนคติ เมื่อผ่านแล้วจะต้องชำระค่าเทอมและค่าห้องพัก เมื่อเสร็จสิ้นนักเรียนสามารถย้ายเข้ามาเริ่มต้นเรียนได้ทันที
สกุลเงิน
ทางโรงเรียนจะใช้สกุลเงิน "CHIPS" เท่านั้น ซึ่งเป็นค่าเงินดิจิตอลของโรงเรียน โดยที่ นักเรียน อาจารย์ และ บุคลากร ของโรงเรียนจะต้องเปิดบัญชีธนาคารในโรงเรียน เพื่อทำการแลกเปลี่ยนค่าเงินในอัตราแลกเปลี่ยนที่ทางธนาคารกำหนด ซึ่งโดยปกติอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินจะอยู่ที่ $1 = 14 CHIPS หรือหากเทียบค่าเงินไทยก็จะประมาณ 1 CHIPS = 2.50 THB นั่นเอง โดยบัญชีนี้จะใช้ในการทำธุรกรรมทางการเงินภายในโรงเรียนทั้งหมด หากต้องการเปลี่ยนเป็นค่าเงินอื่น จะต้องโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารที่เปิดนอกสาขาของโรงเรียนเท่านั้น
ค่าใช้จ่ายรายปี
ทางโรงเรียนจะมีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายรายปี เช่น ค่าเทอม ค่าห้องพัก ค่าอาหาร ค่าสวัสดิการ ค่าบำรุงรักษาโรงเรียน ฯลฯ โดยจะมีการตัดบัญชีธนาคารแบ่งชำระเป็นรายเดือนทุกวันที่ 1 ของทุกเดือน ซึ่งทั้งหมดถือเป็นค่าใช้จ่ายเบ็ดเสร็จแล้ว ยกเว้นค่าใช้จ่ายเสริมหรือฟุ่มเฟือย เช่น ค่าสินค้าและการใช้บริการฟุ่มเฟือยภายในร้านค้าต่างๆใต้อาคารหอพัก เป็นต้น ซึ่งค่าใช้จ่ายส่วนนี้จะไม่ถูกนับรวมในค่าใช้จ่ายรายปี
○ นักเรียน
ชำระค่าเทอมปีละ 1,200,000 CHIPS และค่าห้องพักปีละ 600,000 CHIPS ต่อปี
○ อาจารย์และบุคลากร
ชำระอุปกรณ์การศึกษาหรือปฎิบัติหน้าที่ปีละ 600,000 CHIPS และค่าห้องพักปีละ 600,000 CHIPS ต่อปี
กรณีนักเรียนที่ได้รับทุนการศึกษาจากทางโรงเรียน เช่น ทุนเรียนดี ทุนรางวัลจากบริษัทผู้สนับสนุน เป็นต้น จะสามารถนำทุนการศึกษานั้นมาชำระค่าใช้จ่ายรายปีได้
ตารางสอน
การจัดตารางสอนของโรงเรียนจะเป็นวิชาการควบคู่การปฎิบัติ อีกทั้งยังส่งเสริมสุขภาพที่แข็งแรงด้วยวิชาพละศึกษาผ่านทางการสอนกีฬาประเภทต่างๆที่มีประโยชน์แตกต่างกัน
การเลื่อนระดับชั้น
เนื่องจากเป้าหมายของทางโรงเรียนคือเมื่อจบการศึกษาไปแล้ว นักเรียนจะต้องมีวิชาความรู้และสามารถช่วยเหลือตนเองได้โดยที่ความพิการนั้นไม่เป็นอุปสรรคต่อการดำรงชีวิตอีกต่อไป ดังนั้นการเลื่อนระดับชั้นจะไม่ได้วัดผลเพียงแค่คะแนนสอบทางด้านวิชาการเท่านั้น แต่จะมีการประเมินทักษะการดำรงชีวิตภายใต้ความพิการจากคณะแพทย์ด้วย โดยในการเลื่อนแต่ละระดับชั้นจะให้ความสำคัญ ดังนี้
○ มัธยมศึกษาปีที่ 1 - 3 :
วัดผลทางวิชาการ 30% | ทักษะการดำรงชีวิตภายใต้ความพิการ 70%
○ การวัดผลเพื่อขึ้นมัธยมปลาย :
วัดผลทางวิชาการ 100% | ทักษะการดำรงชีวิตภายใต้ความพิการ 50%
○ มัธยมศึกษาปีที่ 4 - 6 :
วัดผลทางวิชาการ 50% | ทักษะการดำรงชีวิตภายใต้ความพิการ 50%
○ การวัดผลเพื่อจบการศึกษา :
วัดผลทางวิชาการ 100% | ทักษะการดำรงชีวิตภายใต้ความพิการ 100%
โดยการเลื่อนระดับชั้นจะไม่ได้เลื่อนหลังเรียนจบแต่ละเทอมหรือตามปีเหมือนกับโรงเรียนปกติทั่วไป แต่จะเป็นการยื่นเรื่อง "สอบวัดผล" ผ่านทางอาจารย์หัวหน้าระดับชั้น โดยสามารถยื่นเรื่องได้ตลอดเวลา ไม่จำเป็นต้องเรียนระดับชั้นนั้นให้ครบปีก่อน โดยหลังทำการยื่นเรื่องแล้ว อาจารย์หัวหน้าระดับชั้นจะแจ้งกำหนดการวันสอบวัดผลให้ทราบในภายหลัง
วันหยุดประจำปีและการปิดเทอม
ทางโรงเรียนกำหนดให้มีวันหยุดประจำปีโดยยึดจาก "วันหยุดราชการไทย" ตามปกติ และในการปิดเทอมจะแบ่งเป็น ปิดกลางเทอม ซึ่งอยู่ระหว่างวันที่ 1 - 30 ตุลาคมของทุกปี และ ปิดปลายเทอม ซึ่งอยู่ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม ถึง 31 พฤษภาคม ของทุกปี โดยช่วงวันหยุดหรือปิดเทอมนั้นอาคารหอพักและอาคารสวัสดิการต่างๆยังคงเปิดให้ดำเนินการตามปกติ ดังนั้นบุคคลใดที่ไม่ได้กลับบ้านในช่วงเวลาดังกล่าว ยังคงสามารถพักอาศัยอยู่ภายในโรงเรียนได้ตามปกติเช่นเดิม
การลาหยุดและสถานภาพ
การรักษาสถานภาพการเป็น นักเรียน อาจารย์ และ บุคลากร ของโรงเรียน จะต้องปฎิบัติตามกฎระเบียบของโรงเรียนอย่างเคร่งครัด มีจำนวนวันลาป่วยและลากิจได้ไม่เกินอัตราที่กำหนดไว้ อีกทั้งการขอพักการเรียนหรือพักงาน การลาออก การไล่ออก นั้นล้วนส่งผลต่อสถานภาพทั้งสิ้น ดังนี้
○ การลาป่วย
นักเรียน อาจารย์ และ บุคลากร ของโรงเรียนมีสิทธิในการลาป่วย 3 วันต่อปีโดยไม่ต้องแสดงใบรับรองแพทย์ หากใช้อัตราเกินกำหนดแล้วจะต้องแสดงใบรับรองแพทย์จากแพทย์ของอาคารพยาบาลที่โรงเรียนเท่านั้น กรณีที่มีใบรับรองแพทย์จะได้รับสิทธิในการลาป่วยตามจำนวนวันที่แพทย์ประเมินไว้ หากต้องลาป่วยต่อเนื่องเป็นเวลาเกิน 30 วัน อาจส่งผลกระทบต่อสถานภาพได้ เนื่องจากทางโรงเรียนอาจมีคำสั่งให้พักการเรียนหรือพักงานชั่วคราว และหากการพักฟื้นอาการป่วยนั้นใช้ระยะเวลานานเกินกว่า 45 วัน แพทย์ของโรงเรียนสามารถส่งผู้ป่วยไปรักษาตัวยังโรงพยาบาลชั้นนำอื่นๆที่ผู้ปกครองสะดวกเข้าไปเยี่ยมและดูแลได้ ส่วนสถานภาพนั้นจะถูกประเมินตามดุลพินิจของผู้อำนวยการโรงเรียนหรือประธานคณะปกครองว่าจะให้พักการเรียนหรือพักงานเป็นเวลาเท่าใด
○ การลากิจ
นักเรียน อาจารย์ และ บุคลากร ของโรงเรียนมีสิทธิในการลากิจ 10 วันต่อปี หากใช้สิทธิวันลากิจเกินกว่ากำหนดจะส่งผลกระทบต่อสถานภาพได้ เนื่องจากทางโรงเรียนอาจมีคำสั่งให้พักการเรียนหรือพักงานชั่วคราว
○ การพักการเรียน / การพักงาน
นักเรียน อาจารย์ และ บุคลากร ของโรงเรียนมีสิทธิในการยื่นคำร้องขอพักการเรียนหรือพักงานได้ไม่เกิน 1 ครั้งต่อระยะเวลา 3 ปีนับจากวันที่พักการเรียนหรือพักงานครั้งแรก และไม่สามารถขอพักการเรียนหรือพักงานได้นานเกินกว่า 1 ปี ยกเว้นจะเป็นกรณีที่ทางโรงเรียนพิจารณาเปลี่ยนสถานภาพให้ด้วยเหตุผลต่างๆ เช่น การป่วยเรื้อรัง การพักฟื้นที่ต้องใช้ระยะเวลานาน การลงโทษทางวินัย เป็นต้น ซึ่งจะสามารถพักการเรียนหรือพักงานได้ไม่มีกำหนด และช่วงระยะเวลาที่พักการเรียนหรือพักงานนั้นจะไม่ได้รับทุนการศึกษาหรือเงินเดือนแต่อย่างใด
○ การลาออก
นักเรียน อาจารย์ และ บุคลากร ของโรงเรียนมีสิทธิในการยื่นคำร้องขอลาออกได้ตลอดเวลา โดยการทำจดหมายคำร้องส่งตรงถึง "ผู้อำนวยการโรงเรียน" หรือ "ประธานคณะปกครอง" หลังจากมีการลงลายเซ็นอนุมัติแล้ว ให้ถือว่าบุคคลผู้ยื่นคำร้องพ้นสภาพการเป็น นักเรียน อาจารย์ และ บุคลากร ของโรงเรียนในทันที
○ การไล่ออก
"ผู้อำนวยการโรงเรียน" และ "ประธานคณะปกครอง" มีสิทธิในการปลดสถานภาพให้พ้นสภาพการเป็น นักเรียน อาจารย์ และ บุคลากร ของโรงเรียนในทันทีได้จากการลงโทษทางวินัยขั้นสูงสุด เมื่อบุคคลนั้นทำผิดกฎระเบียบร้ายแรงของโรงเรียน
กิจกรรมชมรม
นักเรียนทุกคนจำเป็นต้องเข้าร่วมชมรมใดชมรมหนึ่งและต้องทำกิจกรรมชมรมในวันเสาร์ตามเวลาที่กำหนดไว้ ส่วนเวลาอื่นๆนั้นขึ้นอยู่กับความสมัครใจของตนเอง เช่น หลังเลิกเรียน เป็นต้น การยื่นขอเปิดชมรมใหม่สามารถยื่นเรื่องได้ที่ "สภานักเรียน" ตามกฎระเบียบที่ระบุไว้เท่านั้น โดยจะมีชมรมพิเศษที่ขึ้นตรงต่อทางโรงเรียนและมีเงื่อนไขพิเศษในการเข้าชมรมอยู่ทั้งหมด 2 ชมรมได้แก่
○ สภานักเรียน :
สภานักเรียนขึ้นตรงต่อ "ผู้อำนวยการโรงเรียน" มีหน้าที่ในการบริหารจัดการกิจกรรมของโรงเรียนต่างๆ รวมไปถึงการดูแลและให้ความช่วยเหลือนักเรียนในโรงเรียน การสมัครเข้าสภานักเรียนจะต้องผ่านการคัดเลือกโดยสมาชิกสภานักเรียนเดิม และภายในสภานักเรียนจะมีการเลือกตั้งผู้ดำรงตำแหน่ง "ประธานนักเรียน" ด้วยการโหวตคะแนนเสียงจากนักเรียนทุกคนในโรงเรียน
○ โสตทัศนศึกษา :
โสตทัศนศึกษาขึ้นตรงต่อ "ประธานคณะปกครอง" มีหน้าที่ในการประชาสัมพันธ์ข่าวสารและประสานงานเกี่ยวกับกิจกรรมภายในโรงเรียนผ่านทางช่องทางต่างๆ เช่น รายการเสียงตามสายที่จัดขึ้นช่วงพักเที่ยงและช่วงหลังเลิกเรียน การออกหนังสือพิมพ์และวารสารโรงเรียน การออกใบปลิวโฆษณา การลงประกาศติดบอร์ด เป็นต้น การสมัครเข้าโสตทัศนศึกษาจะต้องผ่านการคัดเลือกโดยการสอบประเมินความรู้และสัมภาษณ์ทัศนคติ ทางโสตทัศนศึกษามีการเปิดรับสมัครสมาชิกใหม่เข้าชมรมเพียงแค่ไม่กี่ครั้งต่อปีเท่านั้น
กิจกรรมวันสำคัญ
ทางโรงเรียนจะมีการจัดงานกิจกรรมในวันสำคัญ เช่น วันไหว้ครู ฯลฯ ซึ่งนักเรียนทุกคนจะต้องเข้าร่วมกิจกรรม ส่วนกิจกรรมในวันพิเศษอื่นๆเช่น วันวาเลนไทน์ วันสงกรานต์ วันคริสต์มาส วันขึ้นปีใหม่ ฯลฯ รวมไปถึงกิจกรรมที่ทางชมรมต่างๆจัดขึ้นนั้น นักเรียนสามารถเข้าร่วมได้ตามความสมัครใจ
กิจกรรมส่งเสริมความรู้
ทางโรงเรียนและชมรมต่างๆจะมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมความรู้ เช่น การแข่งขันทางด้านวิชาการ การประกวดความสามารถพิเศษ การแสดงผลงานจากทักษะพิเศษ ฯลฯ โดยจะมีการประกาศรับสมัครผ่านทางช่องทางการสื่อสารต่างๆของโรงเรียนโดยชมรม "โสตทัศนศึกษา" เช่น การกระจายเสียงผ่านทางลำโพงทั่วบริเวณโรงเรียน ช่องสัญญาณโทรทัศน์ของโรงเรียน หนังสือพิมพ์โรงเรียน วารสารโรงเรียน ใบปลิว ประกาศติดบอร์ด ฯลฯ
กิจกรรมค่ายอาสา
กิจกรรมค่ายอาสาจะเป็นการจัดโดยทางโรงเรียน ซึ่งเป็นการออกเดินทางไปพักนอกสถานที่และทำกิจกรรมต่างๆ เช่น การเรียนรู้ การทำความดี การปลูกฝังศีลธรรมและจริยธรรม เป็นต้น ซึ่งค่ายอาสานั้นเป็นกิจกรรมที่ให้นักเรียนลงทะเบียนเข้าร่วมด้วยความสมัครใจประกอบกับความเห็นชอบจากผู้ปกครองเท่านั้น
กิจกรรมงานบริจาคและการกุศลประจำปี
ทางโรงเรียนจะส่งบัตรเชิญการเข้าร่วมงานบริจาคและการกุศลประจำปีให้กับ "ผู้ปกครอง" ของนักเรียนทุกๆคน ในแต่ละปีจะมีโครงการแตกต่างกันไป เช่น การระดมเงินบริจาคเพื่อช่วยเหลือมูลนิธิผู้พิการทั่วโลก การทำประโยชน์ให้สังคมรูปแบบต่างๆ เป็นต้น
กิจกรรมผู้ปกครอง
ทางโรงเรียนได้มีการจัดกิจกรรมผู้ปกครองเพื่อให้นักเรียนและอาจารย์ได้พบกับผู้ปกครอง เช่น วันประชุมผู้ปกครอง ซึ่งจะจัดปีละครั้งในวันรับสมุดพกและผลประเมินทางการแพทย์ประจำปี นอกเหนือจากนั้นผู้ปกครองสามารถเดินทางเข้ามาที่โรงเรียนเพื่อทำการเยี่ยมนักเรียนได้ตลอดเวลา โดยสามารถเปิดห้องพักที่อาคารหอพักได้ในกรณีที่มาเยี่ยมนักเรียนแบบค้างคืนได้ไม่เกิน 3 คืนเท่านั้น และต้องชำระค่าห้องพักตามอัตราเต็มจำนวนที่ทางอาคารหอพักกำหนดไว้ นอกจากกรณีของผู้ปกครองแล้ว บุคคลภายนอกที่มีความสัมพันธ์กับนักเรียนในรูปแบบต่างๆก็สามารถใช้สิทธิในการเยี่ยมเช่นเดียวกับผู้ปกครองเช่นกัน แต่จำเป็นต้องมีอาจารย์หรือบุคลากรของโรงเรียนเป็นผู้รับรองเท่านั้น
ชุดนักเรียน
ชุดนักเรียนถูกออกแบบผสมผสานกับชุดผู้ป่วย เพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับนักเรียนที่จำเป็นต้องติดเครื่องตรวจในร่างกาย หรือต้องเข้ารับการตรวจบ่อยครั้ง ตัวชุดทำมาจากผ้าเนื้อดี นิ่มสบาย และเบาบางรับกับอากาศร้อนของเมืองไทย กระเป๋าเสื้อด้านขวาปักสัญลักษณ์ควิ้นท์ด้วย ริบบิ้นและเนคไทแบ่งสีตามระดับการศึกษาของนักเรียน ดังนี้
○ มัธยมศึกษาปีที่ 1 : สีขาว
○ มัธยมศึกษาปีที่ 2 : สีแดง
○ มัธยมศึกษาปีที่ 3 : สีเขียว
○ มัธยมศึกษาปีที่ 4 : สีส้ม
○ มัธยมศึกษาปีที่ 5 : สีน้ำเงิน
○ มัธยมศึกษาปีที่ 6 : สีดำ
ชุดพละ
ตัวเสื้อทำมาจากผ้ายืดที่ระบายอากาศได้ดีทำให้ไม่มีกลิ่นเหงื่อตกค้าง กระเป๋าเสื้อด้านซ้ายปักสัญลักษณ์ควิ้นท์ ชุดพละถูกออกแบบให้เป็นสีทึบเพื่อความสะดวกในการดำเนินกิจกรรมกลางแจ้งโดยไม่ต้องกังวลถึงคราบหรือรอยสกปรกตกค้างบนเสื้อ ซึ่งนักเรียนสามารถนำมาเปลี่ยนเพื่อใส่เฉพาะชั่วโมงที่มีการเรียนวิชาพละศึกษา หรือ สามารถใส่ทั้งวันในวันที่มีเรียนวิชาพละศึกษาก็ได้เช่นกัน
ชุดบุคลากร
ชุดบุคลากรแบ่งเป็น 2 ประเภท ดังนี้
1. เสื้อเชิ๊ตสีม่วงเข้มซึ่งเป็นสีประจำโรงเรียน ตัวเสื้อถูกออกแบบเป็นสีทึบเพื่อความสุภาพ ใช้เป็นอีกทางเลือกในการสวมใส่เวลามีการประชุมใหญ่ในกิจกรรมวันสำคัญ รวมไปถึงเวลาเดินทางนอกสถานที่ ส่วนเวลาสอนปกติภายในโรงเรียนไม่จำเป็นต้องใส่เครื่องแบบตลอดเวลา สามารถเลือกแต่งกายสุภาพตามดุลพินิจได้เช่นกัน
2. เสื้อกาวน์แพทย์ประจำโรงเรียน เพื่อระบุถึงอาชีพและหน้าที่ของความเป็นแพทย์ ด้านในของเสื้อกาวน์สามารถแต่งตัวสุภาพได้ตามดุลพินิจ
ทรงผมและเครื่องประดับ
ทางโรงเรียนมีแบบฟอร์มชุดนักเรียนให้เฉพาะเสื้อและกางเกงเท่านั้น ในส่วนของเครื่องแต่งกายหรือเครื่องประดับอื่นๆ เช่น ชุดว่ายน้ำ ถุงเท้า รองเท้า สร้อยคอ แหวน นาฬิกา กระเป๋า ฯลฯ รวมไปถึงทรงผม นักเรียนสามารถเลือกใช้และสวมใส่ได้อย่างอิสระ แต่ควรคำนึง หลีกเลี่ยง หรือ ระมัดระวัง ถึงความเหมาะสม หรือ ความเสี่ยงอันตรายแก่ผู้อื่น เช่น ไม่ถูกกาลเทศะ มีความแหลมคม เป็นต้น ส่วนสีผมนั้นทางโรงเรียนบังคับนักเรียนห้ามย้อมสีผมโดยเด็ดขาด
การสวมรองเท้าในอาคารเรียน
ภายในอาคารเรียนจะไม่อนุญาตให้สวมรองเท้าหรือเดินด้วยถุงเท้าเปล่าโดยเด็ดขาด ดังนั้นจึงมีตู้ล็อคเกอร์ส่วนตัวให้สำหรับเก็บรองเท้าและของใช้ส่วนตัวเล็กน้อย โดยนักเรียนจะต้องเปลี่ยนรองเท้าเป็น "สลิปเปอร์" ที่ทางโรงเรียนจัดเตรียมไว้ให้เท่านั้น เพื่อเป็นการรักษาความสะอาดภายในอาคารเรียน
เข็มกลัดประธานนักเรียน
เข็มกลัดเงินแท้รูปตราสัญลักษณ์ของโรงเรียนพร้อมสลักข้อความ "สภานักเรียน" ตัวหมุดกลัดทำมาจากแม่เหล็กเพื่อความสะดวกต่อผู้พิการในหลายๆด้าน ใช้กลัดบนเสื้อนักเรียนช่วงหน้าอกฝั่งซ้าย ผู้ที่มีสิทธิในการกลัดคือผู้ดำรงตำแหน่ง "ประธานนักเรียน" เท่านั้น
Wristband
หลังจากลงทะเบียนเป็นนักเรียน อาจารย์ และ บุคลากรของโรงเรียนแล้ว จะได้รับริสแบนด์ที่เป็นเครื่องมือที่ใช้ทำธุรกรรมทั้งหมดในโรงเรียน เช่น การชำระเงินผ่านบัญชีธนาคารที่เชื่อมต่อไว้ การเก็บข้อมูลการดำเนินการต่างๆ เป็นต้น วิธีการใช้งานคือนำริสแบนด์แนบกับเครื่องสแกนสัญญาณ แต่เนื่องจากริสแบนด์มีการเชื่อมบัญชีธนาคารเพื่อสามารถใช้ชำระเงินได้ ดังนั้นในกรณีที่สูญหายจะต้องรีบแจ้งธนาคารในโรงเรียนโดยเร็วที่สุดเพื่อทำการอายัดริสแบนด์เก่าและออกริสแบนด์ใหม่ให้ โดยจะต้องเสียค่าธรรมเนียมตามที่ทางธนาคารกำหนดไว้
การตรวจสุขภาพ
นักเรียนจะถูกบังคับให้เข้าตรวจสุขภาพสัปดาห์ละ 1 ครั้งตามเวลาในตารางเรียน ณ อาคารพยาบาลของโรงเรียน เพื่อติดตามอาการและสุขภาพในปัจจุบัน ส่วนอาจารย์และบุคลากรจะได้รับสิทธิในการตรวจสุขภาพสัปดาห์ละ 1 ครั้ง โดยจะต้องเป็นเวลาที่ไม่ใช่คาบการตรวจสุขภาพของนักเรียน
โรงอาหาร
ระบบการใช้โรงอาหารคือ นักเรียน อาจารย์ และบุคลากรของโรงเรียนจะใช้ Wristband สำหรับการลงทะเบียนสั่งอาหารในตอนเช้าผ่านทางคอมพิวเตอร์ของโรงเรียนตามจุดต่างๆ เช่น ในห้องพัก ในโรงอาหาร เป็นต้น โดยจะมีเมนูต่างๆระบุเอาไว้ ในแต่ละมื้อหลักจะต้องสั่ง อาหารจานหลัก อาหารจานรอง และของหวาน หากต้องการรับประทานเพิ่มสามารถหยิบอาหารที่มีการจัดวางในรูปแบบ Buffet ได้ไม่อั้น หลังจากที่สั่งอาหารกับระบบในตอนเช้าแล้ว เมื่อถึงแต่ละมื้ออาหารที่สั่งไว้ เพียงแค่นำริสแบนด์แตะกับเครื่องสแกนสัญญาณที่โต๊ะอาหาร อาหารที่สั่งไว้จะถูกเสิร์ฟถึงโต๊ะภายใน 5 นาที หลังจากได้รับอาหารแล้ว สามารถนำอาหารออกไปรับประทานนอกโรงอาหารได้ และหลังจากรับประทานเสร็จจะต้องนำภาชนะไปเก็บในจุดที่กำหนดไว้ให้เรียบร้อยไม่ว่าจะรับประทานในหรือนอกโรงอาหารก็ตาม
เวลาเปิดให้บริการ
อาคารและสถานที่ภายในบริเวณโรงเรียนจะมีเวลาเปิด-ปิดแตกต่างกัน ดังนี้
○ เปิดตลอด 24 ชั่วโมง
- ป้อมรักษาความปลอดภัย
- ลานจอดรถ
- ลานจอดเฮลิคอปเตอร์
- ลานจอดจักรยาน
- อาคารพยาบาล
- อาคารหอพัก
○ กำหนดการ เปิด-ปิด ขึ้นอยู่กับกิจกรรมในสถานที่
- ลานประชุมภายในอาคารหอประชุม
- หอประชุมใหญ่และโรงละครหรือโรงภาพยนตร์ในอาคารหอประชุม
○ 04.00 - 22.00 น.
- สวนสาธารณะ
- ชายหาดหลังอาคารหอพัก
- สระว่ายน้ำอาคารหอพัก
○ 06.00 - 22.00 น.
- ศูนย์การค้า Walking Street ใต้อาคารหอพัก
○ 06.00 - 20.00 น.
- ประตูโรงเรียน
- ประชาสัมพันธ์
- ร้าน La Pastel (Cake&Bakery)
- ธนาคาร
- สนามฟุตบอลใหญ่และสแตนด์เชียร์กีฬา
- อาคารกีฬาหรือโรงยิมทั้งหมด
- โรงอาหาร
- ส่วนหย่อมและสวนสมุนไพร
○ 06.00 - 18.00 น.
- อาคารเรียน
○ 18.00 - 02.00 น.
- The Porch Bar & Restaurant
กฎระเบียบ
1. ห้ามเล่นการพนัน หรือการเล่นที่มีลักษณะขอบข่ายการพนัน
2. ห้ามสูบบุหรี่ ดื่มสุรา เสพยาเสพติด หรือของมึนเมาอื่นๆ เด็ดขาด
3. สำหรับอาจารย์และบุคลากร สามารถสูบบุหรี่และดื่มสุราได้ในพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น
4. ห้ามลักขโมยและทำลายทรัพย์สินของโรงเรียนหรือผู้อื่นโดยเด็ดขาด
5. ห้ามเข้าไปในสถานที่ที่ไม่ได้รับอนุญาต
6. ห้ามนักเรียนออกนอกเขตบริเวณโรงเรียนนอกเหนือจากเวลา เปิด-ปิด ประตูโรงเรียน
7. ห้ามแสดงกิริยาวาจาหรือการกระทำที่ไม่สุภาพต่อผู้อื่น
8. ห้ามประพฤติเกเร ทำร้ายร่างกาย หรือข่มขู่ข่มเหงผู้อื่น
9. ห้ามหนีเรียนหรือกิจกรรมบังคับที่ทางโรงเรียนกำหนดไว้
10. ห้ามเปิดอุปกรณ์สื่อสารและอุปกรณ์ที่ไม่ได้รับอนุญาตในแต่ละชั้นเรียนในเวลาเรียน
11. ห้ามทุจริตในการสอบโดยเด็ดขาด
12. ห้ามอยู่ภายในอาคารหรือสถานที่เกินกว่าเวลาเปิดทำการที่กำหนดไว้
13. ห้ามปลอมแปลงลายเซ็นหรือหลักฐานอันก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลและสถาบัน
14. ห้ามนักเรียนทำสีผมโดยเด็ดขาด กรณีอาจารย์และบุคลากรสามารถย้อมสีผมได้ตามปกติ แต่ควรเป็นสีธรรมชาติหรือสีสุภาพ
บทลงโทษ
หากมีการประพฤติผิดในกฎระเบียบของโรงเรียน จะถูกตัดสินบทลงโทษตามดุลพินิจของผู้อำนวยการโรงเรียนหรือประธานคณะปกครอง โดยบทลงโทษมีทั้งหมด 5 ระดับ ดังนี้
○ ระดับ 1 : ตักเตือน
บุคคลที่ประพฤติตนไม่เหมาะสมหรือทำความผิดสถานเบา จะถูกตักเตือนด้วยวาจาหรือจดบันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อให้มีโอกาสแก้ไขปรับปรุงพฤติกรรมในอนาคต
○ ระดับ 2 : เชิญผู้ปกครองมาพบ หรือ ตัดเงินเดือน
บุคคลที่ประพฤติตนไม่เหมาะสมหรือทำความผิดสถานเบาที่ส่งผลกระทบต่อผู้อื่นโดยเห็นผลชัดเจน หรือกรณีที่ประพฤติผิดในสิ่งที่เคยถูกตักเตือนก่อนหน้านี้ จะถูกเรียกผู้ปกครองมาพบเพื่อให้รับทราบถึงพฤติกรรม หรือ ตัดเงินเดือนเพื่อเป็นบทลงโทษทางวินัย
○ ระดับ 3 : ทำทัณฑ์บน พร้อมเรียกผู้ปกครองมาพบ หรือ ตัดเงินเดือน
บุคคลที่ประพฤติตนไม่เหมาะสมหรือทำความผิดที่ส่งผลกระทบต่อผู้อื่นให้มีความเสียหายทางด้านทรัพย์สิน สภาพร่างกาย สภาพจิตใจ หรือกรณีที่ประพฤติผิดในสิ่งที่เคยถูกเชิญผู้ปกครองมาพบหรือถูกตัดเงินเดือนก่อนหน้านี้ จะถูกทำทัณฑ์บนเพื่อเป็นลายลักษณ์อักษรถึงการรับทราบบทลงโทษหากมีการประพฤติผิดครั้งต่อไป และถูกเรียกผู้ปกครองมาพบเพื่อให้รับทราบถึงพฤติกรรม หรือ ตัดเงินเดือนเพื่อเป็นบทลงโทษทางวินัยด้วย
○ ระดับ 4 : ให้พักการเรียน หรือ พักงาน ชั่วคราว
บุคคลที่ประพฤติตนไม่เหมาะสมหรือทำความผิดที่ส่งผลกระทบต่อผู้อื่นให้มีความเสียหายทางด้านทรัพย์สิน สภาพร่างกาย สภาพจิตใจ และอาจทำให้เกิดปัญหาซับซ้อนมากขึ้น หรือกรณีที่ประพฤติผิดในสิ่งที่เคยถูกทำทัณฑ์บนก่อนหน้านี้ จะถูกให้พักการเรียนหรือพักงานชั่วคราวอย่างไม่มีกำหนดหรือตามดุลพินิจของผู้อำนวยการโรงเรียนและประธานคณะปกครอง นอกจากนี้จะไม่ได้รับทุนการศึกษาหรือเงินเดือนในช่วงที่ถูกพักการเรียนอีกด้วย
○ ระดับ 5 : ให้พ้นสภาพจากการเป็นนักเรียน อาจารย์ และบุคลากร ของโรงเรียนในทันที
บุคคลที่ประพฤติตนไม่เหมาะสมหรือทำความผิดร้ายแรงอันก่อให้เกิดปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อบุคคลหรือสถาบันอันก่อให้เกิดการเสื่อมเสียเกียรติภูมิและชื่อเสียง จะถูกเพิกถอนสถานภาพการเป็น นักเรียน อาจารย์ และบุคลากร ของโรงเรียนในทันที
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
นรินทร์
อดีตผู้อำนวยการโรงเรียน
ขณะนี้ทางโรงเรียนขอแจ้งให้ทุกท่านทราบถึง "คู่มือนักเรียน" ในโหมดเนื้อเรื่อง เพื่อใช้อ้างอิงในการเขียนภารกิจหรือกิจกรรมต่างๆ นับจากนี้เป็นต้นไป ข้อมูลต่างๆของโรงเรียนที่เคยแจ้งให้ทราบผ่านทางปากเปล่าหรือที่ระบุไว้ในกระทู้ต่างๆก่อนหน้านี้ที่มีความขัดแย้งกับข้อมูลในกระทู้นี้นี้จะไม่สามารถใช้อ้างอิงได้อีกต่อไป โดยหลังจากนี้ทางโรงเรียนจะ ยึดข้อมูลที่มีอยู่ทั้งหมดภายในกระทู้นี้ในการอ้างอิงเท่านั้น โดยมีรายละเอียดทั้งหมด ดังนี้
.
.
.
สารบัญ
หัวข้อสำหรับการค้นหา
** คลิ๊กที่หัวข้อด้านล่างเพื่อไปยังหัวข้อนั้นๆได้ทันที **
.
.
สารบัญ
หัวข้อสำหรับการค้นหา
** คลิ๊กที่หัวข้อด้านล่างเพื่อไปยังหัวข้อนั้นๆได้ทันที **
○ การก่อตั้งและจุดประสงค์
○ ข้อมูลพื้นฐานของโรงเรียน
○ ปรัชญาของโรงเรียน
○ ตราสัญลักษณ์ของโรงเรียน
○ วิสัยทัศน์โรงเรียน
○ ผู้บริหารโรงเรียน
○ การสมัครเข้าเรียน
○ สกุลเงิน
○ ค่าใช้จ่ายรายปี
○ ตารางสอน
○ การเลื่อนระดับชั้น
○ วันหยุดประจำปีและการปิดเทอม
○ การลาหยุดและสถานภาพ
○ กิจกรรมชมรม
○ กิจกรรมวันสำคัญ
○ กิจกรรมส่งเสริมความรู้
○ กิจกรรมค่ายอาสา
○ กิจกรรมงานบริจาคและการกุศลประจำปี
○ กิจกรรมผู้ปกครอง
○ ชุดนักเรียน
○ ชุดพละ
○ ชุดบุคลากร
○ ทรงผมและเครื่องประดับ
○ การสวมรองเท้าในอาคารเรียน
○ เข็มกลัดประธานนักเรียน
○ Wristband
○ การตรวจสุขภาพ
○ โรงอาหาร
○ เวลาเปิดให้บริการ
○ กฎระเบียบ
○ บทลงโทษ
การก่อตั้งและจุดประสงค์
โรงเรียนก่อตั้งขึ้นโดย "Reine Guillet" อดีตผูับริหารบริษัท QUAINT และกลุ่มหุ้นส่วนอื่นๆ โดยจุดประสงค์เพื่อให้โอกาสแก่เด็กที่มีความพิการในด้านของร่างกายหรือป่วยทางด้านจิตใจ ที่มักไม่ได้รับโอกาสทางสังคมเฉกเช่นเด็กคนอื่นๆ นำพามาซึ่งความสุขของเด็กเหล่านั้น
ข้อมูลพื้นฐานของโรงเรียน
โรงเรียนตั้งอยู่ที่ เลขที่ 8 ทางหลวงหมายเลข 4028 ตำบลแหลมผักเบี้ย อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี 76100 บนเนื้อที่ 53.44 ไร่ (85,500 ตารางเมตร) โดยใช้งบประมาณในการสร้างทั้งสิ้น 37,425,450,000 (สามหมื่นเจ็ดพันสี่ร้อยยี่สิบห้าบาทสี่แสนห้าหมื่นชิพถ้วน) เป็นโรงเรียนเอกชนที่เปิดสอนเฉพาะหลักสูตรวิชาสามัญ ตั้งแต่ระดับชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึง มัธยมศึกษาปีที่ 6 ปัจจุบันมีนักเรียนทั้งหมด 111 คน อาจารย์และบุคลากร แบบประจำทั้งหมด 12 คน และแบบชั่วคราวทั้งหมด 48 คน
เนื่องจากว่าโรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนเอกชนที่มีระบบการพักอาศัยในโรงเรียนคล้ายโรงเรียนประจำ นักเรียนจึงต้องพักในอาคารหอพักของโรงเรียน จะสามารถกลับบ้านได้เฉพาะช่วงวันหยุดยาวและปิดเทอม กรณีวันอื่นๆจะต้องมี "ผู้คุ้มครอง" เซ็นรับรองและเดินทางไปด้วยเท่านั้น ผู้คุ้มครองนั้นจะเป็นผู้ปกครองหรือบุคลากรของโรงเรียนก็ได้ เมื่อเซ็นยิมยอมเป็นผู้คุ้มครองเพื่อพานักเรียนออกจากโรงเรียนนอกเวลาที่กำหนดแล้ว จะถือว่าในช่วงเวลาที่อยู่นอกโรงเรียน นักเรียนบุคคลนั้นจะอยู่ในความรับผิดชอบของผู้คุ้มครองแทนโรงเรียนทันที ส่วนกรณีอาจารย์และบุคลากรนั้น ทางโรงเรียนไม่บังคับให้พักอาศัยอยู่ในอาคารหอพักของโรงเรียน สามารถเดินทางกลับบ้านหรือออกข้างนอกโรงเรียนได้ตลอดเวลา
ปรัชญาของโรงเรียน
"Imperfect happiness" หรือ "ความสุขที่ไม่สมบูรณ์แบบ"
ตราสัญลักษณ์ของโรงเรียน
วิสัยทัศน์โรงเรียน
ให้ความรู้ทางด้านวิชาการและทักษะในการดำรงชีวิตภายใต้ความพิการของตนเอง ส่งเสริมบุคลิกภาพและการเข้าสังคม จัดกิจกรรมและโครงงานเพื่อสร้างเสริมความรู้รอบตัว ผลักดันการเรียนรู้ในทางปฏิบัติเพื่อให้นักเรียนได้ใช้ศักยภาพทางด้านร่างกายที่มีอยู่ไปสู่สุขภาพที่แข็งแรงยิ่งขึ้น เสริมสร้างศีลธรรมและจริยธรรมในจิตใจ อีกทั้งพัฒนานักเรียนให้สามารถดูแลตนเองและใช้ชีวิตร่วมกับบุคคลทั่วไปในสังคมได้แม้ว่าจะจบการศึกษาแล้ว
ผู้บริหารโรงเรียน
○ ผู้ก่อตั้งโรงเรียน : Reine Guillet
○ ผู้อำนวยการโรงเรียน : ( อยู่ระหว่างการว่าจ้าง )
○ ผู้บริหารโรงเรียน : Elite Urban Royle
การสมัครเข้าเรียน
การสมัครเข้าเรียนนั้นจะเป็นรูปแบบ "สมัครเข้ามาด้วยตนเอง" วิธีนี้ว่าที่นักเรียนหรือผู้ปกครองจะเป็นผู้เดินทางเข้ามาสมัครด้วยตนเองที่โรงเรียน โดยผ่านขั้นตอนการ "สอบประเมินผลความรู้ความสามารถและความพิการ" เป็นลำดับแรกเพื่อประเมินความรู้และความพิการ ณ ปัจจุบัน สำหรับการเตรียมพร้อมดูแลนักเรียนได้อย่างเหมาะสมหลังจากนี้ จากนั้นจะเป็นการสอบสัมภาษณ์กับผู้อำนวยการโรงเรียนเพื่อวัดทัศนคติ เมื่อผ่านแล้วจะต้องชำระค่าเทอมและค่าห้องพัก เมื่อเสร็จสิ้นนักเรียนสามารถย้ายเข้ามาเริ่มต้นเรียนได้ทันที
สกุลเงิน
ทางโรงเรียนจะใช้สกุลเงิน "CHIPS" เท่านั้น ซึ่งเป็นค่าเงินดิจิตอลของโรงเรียน โดยที่ นักเรียน อาจารย์ และ บุคลากร ของโรงเรียนจะต้องเปิดบัญชีธนาคารในโรงเรียน เพื่อทำการแลกเปลี่ยนค่าเงินในอัตราแลกเปลี่ยนที่ทางธนาคารกำหนด ซึ่งโดยปกติอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินจะอยู่ที่ $1 = 14 CHIPS หรือหากเทียบค่าเงินไทยก็จะประมาณ 1 CHIPS = 2.50 THB นั่นเอง โดยบัญชีนี้จะใช้ในการทำธุรกรรมทางการเงินภายในโรงเรียนทั้งหมด หากต้องการเปลี่ยนเป็นค่าเงินอื่น จะต้องโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารที่เปิดนอกสาขาของโรงเรียนเท่านั้น
ค่าใช้จ่ายรายปี
ทางโรงเรียนจะมีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายรายปี เช่น ค่าเทอม ค่าห้องพัก ค่าอาหาร ค่าสวัสดิการ ค่าบำรุงรักษาโรงเรียน ฯลฯ โดยจะมีการตัดบัญชีธนาคารแบ่งชำระเป็นรายเดือนทุกวันที่ 1 ของทุกเดือน ซึ่งทั้งหมดถือเป็นค่าใช้จ่ายเบ็ดเสร็จแล้ว ยกเว้นค่าใช้จ่ายเสริมหรือฟุ่มเฟือย เช่น ค่าสินค้าและการใช้บริการฟุ่มเฟือยภายในร้านค้าต่างๆใต้อาคารหอพัก เป็นต้น ซึ่งค่าใช้จ่ายส่วนนี้จะไม่ถูกนับรวมในค่าใช้จ่ายรายปี
○ นักเรียน
ชำระค่าเทอมปีละ 1,200,000 CHIPS และค่าห้องพักปีละ 600,000 CHIPS ต่อปี
○ อาจารย์และบุคลากร
ชำระอุปกรณ์การศึกษาหรือปฎิบัติหน้าที่ปีละ 600,000 CHIPS และค่าห้องพักปีละ 600,000 CHIPS ต่อปี
กรณีนักเรียนที่ได้รับทุนการศึกษาจากทางโรงเรียน เช่น ทุนเรียนดี ทุนรางวัลจากบริษัทผู้สนับสนุน เป็นต้น จะสามารถนำทุนการศึกษานั้นมาชำระค่าใช้จ่ายรายปีได้
ตารางสอน
การจัดตารางสอนของโรงเรียนจะเป็นวิชาการควบคู่การปฎิบัติ อีกทั้งยังส่งเสริมสุขภาพที่แข็งแรงด้วยวิชาพละศึกษาผ่านทางการสอนกีฬาประเภทต่างๆที่มีประโยชน์แตกต่างกัน
การเลื่อนระดับชั้น
เนื่องจากเป้าหมายของทางโรงเรียนคือเมื่อจบการศึกษาไปแล้ว นักเรียนจะต้องมีวิชาความรู้และสามารถช่วยเหลือตนเองได้โดยที่ความพิการนั้นไม่เป็นอุปสรรคต่อการดำรงชีวิตอีกต่อไป ดังนั้นการเลื่อนระดับชั้นจะไม่ได้วัดผลเพียงแค่คะแนนสอบทางด้านวิชาการเท่านั้น แต่จะมีการประเมินทักษะการดำรงชีวิตภายใต้ความพิการจากคณะแพทย์ด้วย โดยในการเลื่อนแต่ละระดับชั้นจะให้ความสำคัญ ดังนี้
○ มัธยมศึกษาปีที่ 1 - 3 :
วัดผลทางวิชาการ 30% | ทักษะการดำรงชีวิตภายใต้ความพิการ 70%
○ การวัดผลเพื่อขึ้นมัธยมปลาย :
วัดผลทางวิชาการ 100% | ทักษะการดำรงชีวิตภายใต้ความพิการ 50%
○ มัธยมศึกษาปีที่ 4 - 6 :
วัดผลทางวิชาการ 50% | ทักษะการดำรงชีวิตภายใต้ความพิการ 50%
○ การวัดผลเพื่อจบการศึกษา :
วัดผลทางวิชาการ 100% | ทักษะการดำรงชีวิตภายใต้ความพิการ 100%
โดยการเลื่อนระดับชั้นจะไม่ได้เลื่อนหลังเรียนจบแต่ละเทอมหรือตามปีเหมือนกับโรงเรียนปกติทั่วไป แต่จะเป็นการยื่นเรื่อง "สอบวัดผล" ผ่านทางอาจารย์หัวหน้าระดับชั้น โดยสามารถยื่นเรื่องได้ตลอดเวลา ไม่จำเป็นต้องเรียนระดับชั้นนั้นให้ครบปีก่อน โดยหลังทำการยื่นเรื่องแล้ว อาจารย์หัวหน้าระดับชั้นจะแจ้งกำหนดการวันสอบวัดผลให้ทราบในภายหลัง
วันหยุดประจำปีและการปิดเทอม
ทางโรงเรียนกำหนดให้มีวันหยุดประจำปีโดยยึดจาก "วันหยุดราชการไทย" ตามปกติ และในการปิดเทอมจะแบ่งเป็น ปิดกลางเทอม ซึ่งอยู่ระหว่างวันที่ 1 - 30 ตุลาคมของทุกปี และ ปิดปลายเทอม ซึ่งอยู่ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม ถึง 31 พฤษภาคม ของทุกปี โดยช่วงวันหยุดหรือปิดเทอมนั้นอาคารหอพักและอาคารสวัสดิการต่างๆยังคงเปิดให้ดำเนินการตามปกติ ดังนั้นบุคคลใดที่ไม่ได้กลับบ้านในช่วงเวลาดังกล่าว ยังคงสามารถพักอาศัยอยู่ภายในโรงเรียนได้ตามปกติเช่นเดิม
การลาหยุดและสถานภาพ
การรักษาสถานภาพการเป็น นักเรียน อาจารย์ และ บุคลากร ของโรงเรียน จะต้องปฎิบัติตามกฎระเบียบของโรงเรียนอย่างเคร่งครัด มีจำนวนวันลาป่วยและลากิจได้ไม่เกินอัตราที่กำหนดไว้ อีกทั้งการขอพักการเรียนหรือพักงาน การลาออก การไล่ออก นั้นล้วนส่งผลต่อสถานภาพทั้งสิ้น ดังนี้
○ การลาป่วย
นักเรียน อาจารย์ และ บุคลากร ของโรงเรียนมีสิทธิในการลาป่วย 3 วันต่อปีโดยไม่ต้องแสดงใบรับรองแพทย์ หากใช้อัตราเกินกำหนดแล้วจะต้องแสดงใบรับรองแพทย์จากแพทย์ของอาคารพยาบาลที่โรงเรียนเท่านั้น กรณีที่มีใบรับรองแพทย์จะได้รับสิทธิในการลาป่วยตามจำนวนวันที่แพทย์ประเมินไว้ หากต้องลาป่วยต่อเนื่องเป็นเวลาเกิน 30 วัน อาจส่งผลกระทบต่อสถานภาพได้ เนื่องจากทางโรงเรียนอาจมีคำสั่งให้พักการเรียนหรือพักงานชั่วคราว และหากการพักฟื้นอาการป่วยนั้นใช้ระยะเวลานานเกินกว่า 45 วัน แพทย์ของโรงเรียนสามารถส่งผู้ป่วยไปรักษาตัวยังโรงพยาบาลชั้นนำอื่นๆที่ผู้ปกครองสะดวกเข้าไปเยี่ยมและดูแลได้ ส่วนสถานภาพนั้นจะถูกประเมินตามดุลพินิจของผู้อำนวยการโรงเรียนหรือประธานคณะปกครองว่าจะให้พักการเรียนหรือพักงานเป็นเวลาเท่าใด
○ การลากิจ
นักเรียน อาจารย์ และ บุคลากร ของโรงเรียนมีสิทธิในการลากิจ 10 วันต่อปี หากใช้สิทธิวันลากิจเกินกว่ากำหนดจะส่งผลกระทบต่อสถานภาพได้ เนื่องจากทางโรงเรียนอาจมีคำสั่งให้พักการเรียนหรือพักงานชั่วคราว
○ การพักการเรียน / การพักงาน
นักเรียน อาจารย์ และ บุคลากร ของโรงเรียนมีสิทธิในการยื่นคำร้องขอพักการเรียนหรือพักงานได้ไม่เกิน 1 ครั้งต่อระยะเวลา 3 ปีนับจากวันที่พักการเรียนหรือพักงานครั้งแรก และไม่สามารถขอพักการเรียนหรือพักงานได้นานเกินกว่า 1 ปี ยกเว้นจะเป็นกรณีที่ทางโรงเรียนพิจารณาเปลี่ยนสถานภาพให้ด้วยเหตุผลต่างๆ เช่น การป่วยเรื้อรัง การพักฟื้นที่ต้องใช้ระยะเวลานาน การลงโทษทางวินัย เป็นต้น ซึ่งจะสามารถพักการเรียนหรือพักงานได้ไม่มีกำหนด และช่วงระยะเวลาที่พักการเรียนหรือพักงานนั้นจะไม่ได้รับทุนการศึกษาหรือเงินเดือนแต่อย่างใด
○ การลาออก
นักเรียน อาจารย์ และ บุคลากร ของโรงเรียนมีสิทธิในการยื่นคำร้องขอลาออกได้ตลอดเวลา โดยการทำจดหมายคำร้องส่งตรงถึง "ผู้อำนวยการโรงเรียน" หรือ "ประธานคณะปกครอง" หลังจากมีการลงลายเซ็นอนุมัติแล้ว ให้ถือว่าบุคคลผู้ยื่นคำร้องพ้นสภาพการเป็น นักเรียน อาจารย์ และ บุคลากร ของโรงเรียนในทันที
○ การไล่ออก
"ผู้อำนวยการโรงเรียน" และ "ประธานคณะปกครอง" มีสิทธิในการปลดสถานภาพให้พ้นสภาพการเป็น นักเรียน อาจารย์ และ บุคลากร ของโรงเรียนในทันทีได้จากการลงโทษทางวินัยขั้นสูงสุด เมื่อบุคคลนั้นทำผิดกฎระเบียบร้ายแรงของโรงเรียน
กิจกรรมชมรม
นักเรียนทุกคนจำเป็นต้องเข้าร่วมชมรมใดชมรมหนึ่งและต้องทำกิจกรรมชมรมในวันเสาร์ตามเวลาที่กำหนดไว้ ส่วนเวลาอื่นๆนั้นขึ้นอยู่กับความสมัครใจของตนเอง เช่น หลังเลิกเรียน เป็นต้น การยื่นขอเปิดชมรมใหม่สามารถยื่นเรื่องได้ที่ "สภานักเรียน" ตามกฎระเบียบที่ระบุไว้เท่านั้น โดยจะมีชมรมพิเศษที่ขึ้นตรงต่อทางโรงเรียนและมีเงื่อนไขพิเศษในการเข้าชมรมอยู่ทั้งหมด 2 ชมรมได้แก่
○ สภานักเรียน :
สภานักเรียนขึ้นตรงต่อ "ผู้อำนวยการโรงเรียน" มีหน้าที่ในการบริหารจัดการกิจกรรมของโรงเรียนต่างๆ รวมไปถึงการดูแลและให้ความช่วยเหลือนักเรียนในโรงเรียน การสมัครเข้าสภานักเรียนจะต้องผ่านการคัดเลือกโดยสมาชิกสภานักเรียนเดิม และภายในสภานักเรียนจะมีการเลือกตั้งผู้ดำรงตำแหน่ง "ประธานนักเรียน" ด้วยการโหวตคะแนนเสียงจากนักเรียนทุกคนในโรงเรียน
○ โสตทัศนศึกษา :
โสตทัศนศึกษาขึ้นตรงต่อ "ประธานคณะปกครอง" มีหน้าที่ในการประชาสัมพันธ์ข่าวสารและประสานงานเกี่ยวกับกิจกรรมภายในโรงเรียนผ่านทางช่องทางต่างๆ เช่น รายการเสียงตามสายที่จัดขึ้นช่วงพักเที่ยงและช่วงหลังเลิกเรียน การออกหนังสือพิมพ์และวารสารโรงเรียน การออกใบปลิวโฆษณา การลงประกาศติดบอร์ด เป็นต้น การสมัครเข้าโสตทัศนศึกษาจะต้องผ่านการคัดเลือกโดยการสอบประเมินความรู้และสัมภาษณ์ทัศนคติ ทางโสตทัศนศึกษามีการเปิดรับสมัครสมาชิกใหม่เข้าชมรมเพียงแค่ไม่กี่ครั้งต่อปีเท่านั้น
กิจกรรมวันสำคัญ
ทางโรงเรียนจะมีการจัดงานกิจกรรมในวันสำคัญ เช่น วันไหว้ครู ฯลฯ ซึ่งนักเรียนทุกคนจะต้องเข้าร่วมกิจกรรม ส่วนกิจกรรมในวันพิเศษอื่นๆเช่น วันวาเลนไทน์ วันสงกรานต์ วันคริสต์มาส วันขึ้นปีใหม่ ฯลฯ รวมไปถึงกิจกรรมที่ทางชมรมต่างๆจัดขึ้นนั้น นักเรียนสามารถเข้าร่วมได้ตามความสมัครใจ
กิจกรรมส่งเสริมความรู้
ทางโรงเรียนและชมรมต่างๆจะมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมความรู้ เช่น การแข่งขันทางด้านวิชาการ การประกวดความสามารถพิเศษ การแสดงผลงานจากทักษะพิเศษ ฯลฯ โดยจะมีการประกาศรับสมัครผ่านทางช่องทางการสื่อสารต่างๆของโรงเรียนโดยชมรม "โสตทัศนศึกษา" เช่น การกระจายเสียงผ่านทางลำโพงทั่วบริเวณโรงเรียน ช่องสัญญาณโทรทัศน์ของโรงเรียน หนังสือพิมพ์โรงเรียน วารสารโรงเรียน ใบปลิว ประกาศติดบอร์ด ฯลฯ
กิจกรรมค่ายอาสา
กิจกรรมค่ายอาสาจะเป็นการจัดโดยทางโรงเรียน ซึ่งเป็นการออกเดินทางไปพักนอกสถานที่และทำกิจกรรมต่างๆ เช่น การเรียนรู้ การทำความดี การปลูกฝังศีลธรรมและจริยธรรม เป็นต้น ซึ่งค่ายอาสานั้นเป็นกิจกรรมที่ให้นักเรียนลงทะเบียนเข้าร่วมด้วยความสมัครใจประกอบกับความเห็นชอบจากผู้ปกครองเท่านั้น
กิจกรรมงานบริจาคและการกุศลประจำปี
ทางโรงเรียนจะส่งบัตรเชิญการเข้าร่วมงานบริจาคและการกุศลประจำปีให้กับ "ผู้ปกครอง" ของนักเรียนทุกๆคน ในแต่ละปีจะมีโครงการแตกต่างกันไป เช่น การระดมเงินบริจาคเพื่อช่วยเหลือมูลนิธิผู้พิการทั่วโลก การทำประโยชน์ให้สังคมรูปแบบต่างๆ เป็นต้น
กิจกรรมผู้ปกครอง
ทางโรงเรียนได้มีการจัดกิจกรรมผู้ปกครองเพื่อให้นักเรียนและอาจารย์ได้พบกับผู้ปกครอง เช่น วันประชุมผู้ปกครอง ซึ่งจะจัดปีละครั้งในวันรับสมุดพกและผลประเมินทางการแพทย์ประจำปี นอกเหนือจากนั้นผู้ปกครองสามารถเดินทางเข้ามาที่โรงเรียนเพื่อทำการเยี่ยมนักเรียนได้ตลอดเวลา โดยสามารถเปิดห้องพักที่อาคารหอพักได้ในกรณีที่มาเยี่ยมนักเรียนแบบค้างคืนได้ไม่เกิน 3 คืนเท่านั้น และต้องชำระค่าห้องพักตามอัตราเต็มจำนวนที่ทางอาคารหอพักกำหนดไว้ นอกจากกรณีของผู้ปกครองแล้ว บุคคลภายนอกที่มีความสัมพันธ์กับนักเรียนในรูปแบบต่างๆก็สามารถใช้สิทธิในการเยี่ยมเช่นเดียวกับผู้ปกครองเช่นกัน แต่จำเป็นต้องมีอาจารย์หรือบุคลากรของโรงเรียนเป็นผู้รับรองเท่านั้น
ชุดนักเรียน
ชุดนักเรียนถูกออกแบบผสมผสานกับชุดผู้ป่วย เพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับนักเรียนที่จำเป็นต้องติดเครื่องตรวจในร่างกาย หรือต้องเข้ารับการตรวจบ่อยครั้ง ตัวชุดทำมาจากผ้าเนื้อดี นิ่มสบาย และเบาบางรับกับอากาศร้อนของเมืองไทย กระเป๋าเสื้อด้านขวาปักสัญลักษณ์ควิ้นท์ด้วย ริบบิ้นและเนคไทแบ่งสีตามระดับการศึกษาของนักเรียน ดังนี้
○ มัธยมศึกษาปีที่ 1 : สีขาว
○ มัธยมศึกษาปีที่ 2 : สีแดง
○ มัธยมศึกษาปีที่ 3 : สีเขียว
○ มัธยมศึกษาปีที่ 4 : สีส้ม
○ มัธยมศึกษาปีที่ 5 : สีน้ำเงิน
○ มัธยมศึกษาปีที่ 6 : สีดำ
ชุดพละ
ตัวเสื้อทำมาจากผ้ายืดที่ระบายอากาศได้ดีทำให้ไม่มีกลิ่นเหงื่อตกค้าง กระเป๋าเสื้อด้านซ้ายปักสัญลักษณ์ควิ้นท์ ชุดพละถูกออกแบบให้เป็นสีทึบเพื่อความสะดวกในการดำเนินกิจกรรมกลางแจ้งโดยไม่ต้องกังวลถึงคราบหรือรอยสกปรกตกค้างบนเสื้อ ซึ่งนักเรียนสามารถนำมาเปลี่ยนเพื่อใส่เฉพาะชั่วโมงที่มีการเรียนวิชาพละศึกษา หรือ สามารถใส่ทั้งวันในวันที่มีเรียนวิชาพละศึกษาก็ได้เช่นกัน
ชุดบุคลากร
ชุดบุคลากรแบ่งเป็น 2 ประเภท ดังนี้
1. เสื้อเชิ๊ตสีม่วงเข้มซึ่งเป็นสีประจำโรงเรียน ตัวเสื้อถูกออกแบบเป็นสีทึบเพื่อความสุภาพ ใช้เป็นอีกทางเลือกในการสวมใส่เวลามีการประชุมใหญ่ในกิจกรรมวันสำคัญ รวมไปถึงเวลาเดินทางนอกสถานที่ ส่วนเวลาสอนปกติภายในโรงเรียนไม่จำเป็นต้องใส่เครื่องแบบตลอดเวลา สามารถเลือกแต่งกายสุภาพตามดุลพินิจได้เช่นกัน
2. เสื้อกาวน์แพทย์ประจำโรงเรียน เพื่อระบุถึงอาชีพและหน้าที่ของความเป็นแพทย์ ด้านในของเสื้อกาวน์สามารถแต่งตัวสุภาพได้ตามดุลพินิจ
ทรงผมและเครื่องประดับ
ทางโรงเรียนมีแบบฟอร์มชุดนักเรียนให้เฉพาะเสื้อและกางเกงเท่านั้น ในส่วนของเครื่องแต่งกายหรือเครื่องประดับอื่นๆ เช่น ชุดว่ายน้ำ ถุงเท้า รองเท้า สร้อยคอ แหวน นาฬิกา กระเป๋า ฯลฯ รวมไปถึงทรงผม นักเรียนสามารถเลือกใช้และสวมใส่ได้อย่างอิสระ แต่ควรคำนึง หลีกเลี่ยง หรือ ระมัดระวัง ถึงความเหมาะสม หรือ ความเสี่ยงอันตรายแก่ผู้อื่น เช่น ไม่ถูกกาลเทศะ มีความแหลมคม เป็นต้น ส่วนสีผมนั้นทางโรงเรียนบังคับนักเรียนห้ามย้อมสีผมโดยเด็ดขาด
การสวมรองเท้าในอาคารเรียน
ภายในอาคารเรียนจะไม่อนุญาตให้สวมรองเท้าหรือเดินด้วยถุงเท้าเปล่าโดยเด็ดขาด ดังนั้นจึงมีตู้ล็อคเกอร์ส่วนตัวให้สำหรับเก็บรองเท้าและของใช้ส่วนตัวเล็กน้อย โดยนักเรียนจะต้องเปลี่ยนรองเท้าเป็น "สลิปเปอร์" ที่ทางโรงเรียนจัดเตรียมไว้ให้เท่านั้น เพื่อเป็นการรักษาความสะอาดภายในอาคารเรียน
เข็มกลัดประธานนักเรียน
เข็มกลัดเงินแท้รูปตราสัญลักษณ์ของโรงเรียนพร้อมสลักข้อความ "สภานักเรียน" ตัวหมุดกลัดทำมาจากแม่เหล็กเพื่อความสะดวกต่อผู้พิการในหลายๆด้าน ใช้กลัดบนเสื้อนักเรียนช่วงหน้าอกฝั่งซ้าย ผู้ที่มีสิทธิในการกลัดคือผู้ดำรงตำแหน่ง "ประธานนักเรียน" เท่านั้น
Wristband
หลังจากลงทะเบียนเป็นนักเรียน อาจารย์ และ บุคลากรของโรงเรียนแล้ว จะได้รับริสแบนด์ที่เป็นเครื่องมือที่ใช้ทำธุรกรรมทั้งหมดในโรงเรียน เช่น การชำระเงินผ่านบัญชีธนาคารที่เชื่อมต่อไว้ การเก็บข้อมูลการดำเนินการต่างๆ เป็นต้น วิธีการใช้งานคือนำริสแบนด์แนบกับเครื่องสแกนสัญญาณ แต่เนื่องจากริสแบนด์มีการเชื่อมบัญชีธนาคารเพื่อสามารถใช้ชำระเงินได้ ดังนั้นในกรณีที่สูญหายจะต้องรีบแจ้งธนาคารในโรงเรียนโดยเร็วที่สุดเพื่อทำการอายัดริสแบนด์เก่าและออกริสแบนด์ใหม่ให้ โดยจะต้องเสียค่าธรรมเนียมตามที่ทางธนาคารกำหนดไว้
การตรวจสุขภาพ
นักเรียนจะถูกบังคับให้เข้าตรวจสุขภาพสัปดาห์ละ 1 ครั้งตามเวลาในตารางเรียน ณ อาคารพยาบาลของโรงเรียน เพื่อติดตามอาการและสุขภาพในปัจจุบัน ส่วนอาจารย์และบุคลากรจะได้รับสิทธิในการตรวจสุขภาพสัปดาห์ละ 1 ครั้ง โดยจะต้องเป็นเวลาที่ไม่ใช่คาบการตรวจสุขภาพของนักเรียน
โรงอาหาร
ระบบการใช้โรงอาหารคือ นักเรียน อาจารย์ และบุคลากรของโรงเรียนจะใช้ Wristband สำหรับการลงทะเบียนสั่งอาหารในตอนเช้าผ่านทางคอมพิวเตอร์ของโรงเรียนตามจุดต่างๆ เช่น ในห้องพัก ในโรงอาหาร เป็นต้น โดยจะมีเมนูต่างๆระบุเอาไว้ ในแต่ละมื้อหลักจะต้องสั่ง อาหารจานหลัก อาหารจานรอง และของหวาน หากต้องการรับประทานเพิ่มสามารถหยิบอาหารที่มีการจัดวางในรูปแบบ Buffet ได้ไม่อั้น หลังจากที่สั่งอาหารกับระบบในตอนเช้าแล้ว เมื่อถึงแต่ละมื้ออาหารที่สั่งไว้ เพียงแค่นำริสแบนด์แตะกับเครื่องสแกนสัญญาณที่โต๊ะอาหาร อาหารที่สั่งไว้จะถูกเสิร์ฟถึงโต๊ะภายใน 5 นาที หลังจากได้รับอาหารแล้ว สามารถนำอาหารออกไปรับประทานนอกโรงอาหารได้ และหลังจากรับประทานเสร็จจะต้องนำภาชนะไปเก็บในจุดที่กำหนดไว้ให้เรียบร้อยไม่ว่าจะรับประทานในหรือนอกโรงอาหารก็ตาม
เวลาเปิดให้บริการ
อาคารและสถานที่ภายในบริเวณโรงเรียนจะมีเวลาเปิด-ปิดแตกต่างกัน ดังนี้
○ เปิดตลอด 24 ชั่วโมง
- ป้อมรักษาความปลอดภัย
- ลานจอดรถ
- ลานจอดเฮลิคอปเตอร์
- ลานจอดจักรยาน
- อาคารพยาบาล
- อาคารหอพัก
○ กำหนดการ เปิด-ปิด ขึ้นอยู่กับกิจกรรมในสถานที่
- ลานประชุมภายในอาคารหอประชุม
- หอประชุมใหญ่และโรงละครหรือโรงภาพยนตร์ในอาคารหอประชุม
○ 04.00 - 22.00 น.
- สวนสาธารณะ
- ชายหาดหลังอาคารหอพัก
- สระว่ายน้ำอาคารหอพัก
○ 06.00 - 22.00 น.
- ศูนย์การค้า Walking Street ใต้อาคารหอพัก
○ 06.00 - 20.00 น.
- ประตูโรงเรียน
- ประชาสัมพันธ์
- ร้าน La Pastel (Cake&Bakery)
- ธนาคาร
- สนามฟุตบอลใหญ่และสแตนด์เชียร์กีฬา
- อาคารกีฬาหรือโรงยิมทั้งหมด
- โรงอาหาร
- ส่วนหย่อมและสวนสมุนไพร
○ 06.00 - 18.00 น.
- อาคารเรียน
○ 18.00 - 02.00 น.
- The Porch Bar & Restaurant
กฎระเบียบ
1. ห้ามเล่นการพนัน หรือการเล่นที่มีลักษณะขอบข่ายการพนัน
2. ห้ามสูบบุหรี่ ดื่มสุรา เสพยาเสพติด หรือของมึนเมาอื่นๆ เด็ดขาด
3. สำหรับอาจารย์และบุคลากร สามารถสูบบุหรี่และดื่มสุราได้ในพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น
4. ห้ามลักขโมยและทำลายทรัพย์สินของโรงเรียนหรือผู้อื่นโดยเด็ดขาด
5. ห้ามเข้าไปในสถานที่ที่ไม่ได้รับอนุญาต
6. ห้ามนักเรียนออกนอกเขตบริเวณโรงเรียนนอกเหนือจากเวลา เปิด-ปิด ประตูโรงเรียน
7. ห้ามแสดงกิริยาวาจาหรือการกระทำที่ไม่สุภาพต่อผู้อื่น
8. ห้ามประพฤติเกเร ทำร้ายร่างกาย หรือข่มขู่ข่มเหงผู้อื่น
9. ห้ามหนีเรียนหรือกิจกรรมบังคับที่ทางโรงเรียนกำหนดไว้
10. ห้ามเปิดอุปกรณ์สื่อสารและอุปกรณ์ที่ไม่ได้รับอนุญาตในแต่ละชั้นเรียนในเวลาเรียน
11. ห้ามทุจริตในการสอบโดยเด็ดขาด
12. ห้ามอยู่ภายในอาคารหรือสถานที่เกินกว่าเวลาเปิดทำการที่กำหนดไว้
13. ห้ามปลอมแปลงลายเซ็นหรือหลักฐานอันก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลและสถาบัน
14. ห้ามนักเรียนทำสีผมโดยเด็ดขาด กรณีอาจารย์และบุคลากรสามารถย้อมสีผมได้ตามปกติ แต่ควรเป็นสีธรรมชาติหรือสีสุภาพ
บทลงโทษ
หากมีการประพฤติผิดในกฎระเบียบของโรงเรียน จะถูกตัดสินบทลงโทษตามดุลพินิจของผู้อำนวยการโรงเรียนหรือประธานคณะปกครอง โดยบทลงโทษมีทั้งหมด 5 ระดับ ดังนี้
○ ระดับ 1 : ตักเตือน
บุคคลที่ประพฤติตนไม่เหมาะสมหรือทำความผิดสถานเบา จะถูกตักเตือนด้วยวาจาหรือจดบันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อให้มีโอกาสแก้ไขปรับปรุงพฤติกรรมในอนาคต
○ ระดับ 2 : เชิญผู้ปกครองมาพบ หรือ ตัดเงินเดือน
บุคคลที่ประพฤติตนไม่เหมาะสมหรือทำความผิดสถานเบาที่ส่งผลกระทบต่อผู้อื่นโดยเห็นผลชัดเจน หรือกรณีที่ประพฤติผิดในสิ่งที่เคยถูกตักเตือนก่อนหน้านี้ จะถูกเรียกผู้ปกครองมาพบเพื่อให้รับทราบถึงพฤติกรรม หรือ ตัดเงินเดือนเพื่อเป็นบทลงโทษทางวินัย
○ ระดับ 3 : ทำทัณฑ์บน พร้อมเรียกผู้ปกครองมาพบ หรือ ตัดเงินเดือน
บุคคลที่ประพฤติตนไม่เหมาะสมหรือทำความผิดที่ส่งผลกระทบต่อผู้อื่นให้มีความเสียหายทางด้านทรัพย์สิน สภาพร่างกาย สภาพจิตใจ หรือกรณีที่ประพฤติผิดในสิ่งที่เคยถูกเชิญผู้ปกครองมาพบหรือถูกตัดเงินเดือนก่อนหน้านี้ จะถูกทำทัณฑ์บนเพื่อเป็นลายลักษณ์อักษรถึงการรับทราบบทลงโทษหากมีการประพฤติผิดครั้งต่อไป และถูกเรียกผู้ปกครองมาพบเพื่อให้รับทราบถึงพฤติกรรม หรือ ตัดเงินเดือนเพื่อเป็นบทลงโทษทางวินัยด้วย
○ ระดับ 4 : ให้พักการเรียน หรือ พักงาน ชั่วคราว
บุคคลที่ประพฤติตนไม่เหมาะสมหรือทำความผิดที่ส่งผลกระทบต่อผู้อื่นให้มีความเสียหายทางด้านทรัพย์สิน สภาพร่างกาย สภาพจิตใจ และอาจทำให้เกิดปัญหาซับซ้อนมากขึ้น หรือกรณีที่ประพฤติผิดในสิ่งที่เคยถูกทำทัณฑ์บนก่อนหน้านี้ จะถูกให้พักการเรียนหรือพักงานชั่วคราวอย่างไม่มีกำหนดหรือตามดุลพินิจของผู้อำนวยการโรงเรียนและประธานคณะปกครอง นอกจากนี้จะไม่ได้รับทุนการศึกษาหรือเงินเดือนในช่วงที่ถูกพักการเรียนอีกด้วย
○ ระดับ 5 : ให้พ้นสภาพจากการเป็นนักเรียน อาจารย์ และบุคลากร ของโรงเรียนในทันที
บุคคลที่ประพฤติตนไม่เหมาะสมหรือทำความผิดร้ายแรงอันก่อให้เกิดปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อบุคคลหรือสถาบันอันก่อให้เกิดการเสื่อมเสียเกียรติภูมิและชื่อเสียง จะถูกเพิกถอนสถานภาพการเป็น นักเรียน อาจารย์ และบุคลากร ของโรงเรียนในทันที
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
นรินทร์
อดีตผู้อำนวยการโรงเรียน
Date of broadcast :
11 JAN 2018
Signature ------------------------------------------------>
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|