สวัสดี! ผู้มาเยือน ยินดีต้อนรับสู่ Quaint School Community คอมมูโรงเรียนสำหรับผู้พิการ

Go down
avatar
ผู้มาเยือน
ผู้มาเยือน

Lesson 1 : ย้อนรอยอดีต [เควสบังคับ] - Page 3 Empty Re: Lesson 1 : ย้อนรอยอดีต [เควสบังคับ]

Thu 08 Oct 2015, 21:05
เมื่อก่อน..
     พ่อแม่ของเปรม ได้กินยาคุมฉุกเฉินเพื่อไม่ให้คลอดเปรมออกมา แต่สุดท้ายเปรมก็ได้ถือกำเนิดออกมา..
แต่เพราะผลของยาคุมฉุกเฉินทำให้เปรมมีสมองที่ผิดปกติ จนบางทีเกิดอาการคลั่ง ทำให้เปรมไม่ค่อยมีเพื่อน
หลังจบ ป.6 เปรมก็ได้ไปโรงพยาบาล เพื่อไปรักษาอาการคลั่งของตัวเธอ
แล้วเห็นผู้ป่วยคนนึง ที่ตาขวามีรอยบาดแผล ถูกเข็นไปที่ห้องฉุกเฉิน
ไม่รู้ว่าเพราะอะไรร่างกายของเปรมได้ไปนั่งรอผู้ป่วยหน้าห้องฉุกเฉินคนนั้น  
พอผู้ป่วยคนนั้นออกมา ก็ได้สอบถามพยาบาลว่าเขาเป็นใคร พยาบาลบอกว่า 'ก็ไม่รู้เหมือนกัน'
เปรมจึงอาสาเป็นญาติผู้ป่วย และก็จ่ายค่ารักษาทั้งหมด พอผู้ป่วยคนนั้นฟื้นก็ได้รู้ว่า
เธอคนนั้นชื่อ "คิทซึเนะ โอคามิ เด็กสาวลูกครึ่งไทยญี่ปุ่น อายุ 13 "ซึ่งเท่ากันกับเปรม...
รอยแผลที่ตาขวาคิทซึเนะนั้น เกิดขึ้นเพราะอุบัติเหตุทางรถยนตร์ทำให้เธอตาบอดและสูญเสียพ่อแม่ไป
เธอเลยอยู่อาศัยกับป้าที่ยากจน..ช่วงนั้นเปรมได้ยินเรื่องเกี่ยวกับ โรงเรียนควิ้นท์ พอดิบพอดี
เปรมเลยชวน คิทซึเนะ ไปเรียนโรงเรียนนั้นพร้อมออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด
     หลังจากวันนั้นเปรมกับคิทซึเนะ ก็ได้เข้าเรียน "โรงเรียนควิ้นท์" แห่งนี้...

Lesson 1 : ย้อนรอยอดีต [เควสบังคับ] - Page 3 Q-item12
GRADE EXP. +55
avatar
ผู้มาเยือน
ผู้มาเยือน

Lesson 1 : ย้อนรอยอดีต [เควสบังคับ] - Page 3 Empty Re: Lesson 1 : ย้อนรอยอดีต [เควสบังคับ]

Fri 09 Oct 2015, 14:01
สวัสดีค่ะวันนี้จะมาเล่าประวัติของ"คุเมโกะ" นะคะ คุเมโกะเปนเด็กเก็บไม่ชอบพูดคุยกับใครไม่ชอบออกไปไหนอยู่แต่ในบ้านเธอไม่ชอบเสียงดังไม่ชอบที่คนเยอะๆหรือก็คือเธอเป็นคน"สันโดษ"
เมื่อก่อนเธอไม่เป็นแบบนี้หรอกเมื่อก่อนเธอเป็นร่าเริงรักสนุกแต่มาอยู่วัน หนึ่งเพื่อนๆของเธอกลับหักหลังเธอ เธอจึงได้รู้ว่าเธอโดนหลอกใช้มาตลอด แต่เธอกลับไม่รู้ตัวเลย เธอจึงขอแม่ย้ายโรงเรียนพอถึงโรงเรียนใหม่
เธอตื่นเต้นมากที่จะได้มีเพื่อนแต่กลับไม่ใช่อย่างที่คิด... ด้วยความที่เธอเป็นเด็กร่าเริงดูบ้านนอกจึงคิดว่าเธอน่ะน่ารำคาญ(คุเมโกะย้ายมาโรงเรียนในเมืองน่ะค่ะ) เธอจึงไม่มีเพื่อนเลยแถมหนำซ้ำเธอยังโดนแกล้งสารพัด เธอย้ายไปทุกโรงเรียนแต่สิ่งที่ได้เธอกลับได้สิ่งเดิมๆรอยแผลเดิมๆ เธอเริ่มกลัวผู้คน จึงเก็บตัวอยู่ในห้องไม่กล้าออกไปเจอกลับใคร แม่เธอจึงพาเธอออกไปข้างนอกแต่คุเมโกะก็พยายามจะบอกแม่ว่าไม่อยากออกไปแต่สุดท้ายเธอก็ต้องยอมเพราะพี่ชายของเธอเข้ามาช่วย..
เธอนั่งรถไปเรื่อยๆเอาหัวพิงกระจกมองโลกภายนอกที่เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ...
ครืดๆ!!
เอี้ยดดดดดด!!!!!!!!
โครม!!
"กรี๊ดดดดดดดด!!!!"
นั่นคือเสียงสุดท้ายที่ฉันเปล่งออกและภาพสุดท้ายที่ฉันเห็นคือ....
รถได้ถูกชนโดยรถสิบล้อ... . .
เมื่อฉันลืมตาขึ้นมาฉันก็เห็นหน้าของพี่ชายและแม่ร้องไห้ด้วยความทุกข์และสุขในเวลาเดียวกัน..
" 'เมโกะจัง!!ตื่นแล้วเหรอลูก!!แม่เป็นห่วงแทบแย่!"
"เกิดอะไรขึ้น...." ฉันจำได้ลางๆนะว่าถูกสิบล้อชน...
"เราน่ะโดนรถชนน่ะลูกแม่กับพี่ชายบาดเจ็บนิดหน่อยแต่ว่าลูกน่ะ...." แม่สีหน้าไม่ดีและมองไปตรงขาของฉัน...
"ขะ...ขาหนู ฮึกๆๆๆ....."
"ไม่เป็นไรนะลูกแม่ยังอยู่ตรงนี้..." แม่กอดฉันไว้... ฉันร้องไห้เพราะว่าขาของฉันน่ะหายไปตั้งข้างนึง...
"ผมว่าน้องต้องไปเข้าโรงเรียน 'Quiant School Community' แล้วล่ะครับแม่.."
.
.
และนี้คือประวัติทั้งหมดของฉันค่ะ ขอบคุณที่รับฟัง.

Lesson 1 : ย้อนรอยอดีต [เควสบังคับ] - Page 3 Q-item12
GRADE EXP. +60
avatar
ผู้มาเยือน
ผู้มาเยือน

Lesson 1 : ย้อนรอยอดีต [เควสบังคับ] - Page 3 Empty mayinstar

Tue 13 Oct 2015, 15:29
*ย้อนอดีตของเมอิน*

"อิน พ่อขอโทษที่ไม่ได้อยู่ดูแลอินต่อ"มือใหญ่ๆของคุณพ่อยังอบอุนอยู่เสมอ แต่มันจะไม่มีอีกแล้ว จะไม่มีมือใหญ่ๆค่อยลูบหัวหนูเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว

"อืออออ...อึก"หนูอยากคุยกับคุณพ่อ แค่ครั้งเดียว ขอแค่ครั้งเดียว แต่พยายามเปล่งเสียงออกมาเท่าไรเสียงมันก็ไม่ยอมออกมา

"อิน หนูต้องอยู่ใช้ชีวิตให้ดีที่สุดนะ ต่อไปนนี้หนูต้องไปอยู่กับคุณน้านะ เขาจะดูแลหนูอย่างดี"ไม่เอาหนูจะอยู่กับคุณพ่อ คุณพ่อ คุณพ่ออย่าทิ้งหนูไปสิคะ หนูไม่อยากอยู่คนเดียว

"อึก..อ่า.."หนูกอดคุณพ่อแน่น คุณแม่คะ อย่าพึ่งเอาคุณพ่อไปจากหนูเลยนะคะ

"อิน พ่อจะไปอยู่กับคุณแม่ คอยดูหนูอยู่ข้างบนนั้นนะ"ไม่เอาหนูไม่ให้คุณพ่อไปไหนทั้งนั้น ไม่เอาอย่าทิ้งหนูไปนะคะ"

"ไม่ต้องห่วงนะคะ  ฉันจะดูแลให้อย่างดีเลย พี่หลับให้สบายนะคะ"

"ขอบคุณเธอมากนะ พ่อรักหนูนะ"มือที่คอยลูบหัวหนูค่อยๆลดลง ลงมาอยู่ตรงไหล หนูกอดคุณพ่อแน่น ไม่เอาหนูไม่เอาแบบนี้

"พอเถอะหนูอิน พ่อหนูไปดีแล้ว เขาไปสบายแล้ว"คุณน้าเข้ามาดึงตัวหนูออก  หนูพยามกอดคุณพ่อแน่นไม่ยอมปล่อย ฮือออ หนูไม่เอาไม่ไป หนูจะอยู่กับคุณพ่อ หนูร้องไห้กอดร่างที่ไร้ลมหายใจของคุณพ่อ ปล่อยน้ำตาทั้งหมดออกมา มือคุณน้าวางลงบนหัวหนูแล้วคอยลูบเบาๆ ไม่อบอุ่นเลย ไม่อบอุ่นเหมือนคุณพ่อเลยสักนิด

- 3 ปี ต่อมา -

"กลับมาแล้วเหรออิน อย่าลืมทำอาหารให้ฉันด้วยละ"หนูเดินเข้ามาในบ้านก็เจอคุณน้าผู้ชายที่นอนดูทีวีอยู่ภายในห้องรับแขก ส่วนคุณน้าผู้หญิงก็ไปทำงานที่ต่างจังหวัด คุณน้าผู้หญิงทำงานเป็นพนักงานบริษัททั่วไปคุณน้าจะรู้มั่งมั้ยนะ ว่าผู้ชายคนนี้น่ะร้ายกาจที่สุดเลย คอยหาทางลวนลามหนูอยู่ตลอด

หนูเดินขึ้นบ้านเพื่อทำการเปลี่ยนชุด เมื่อหนูเปลี่ยนชุดเสร็จก็เทของในกระเป๋าออกมา กระดาษที่ถูกฉีกจากสมุดจำนวนไม่น้อยออกมาจากกระเป๋าพร้อมกับสมุดหนังสือเรียนต่างๆและรวมถึงกระดานเขียนของเล่นที่หนูพกติดตัวตลอดด้วย

' ยายใบ้ '

' ยายตัวไร้ประโยชน์ '

' ยายใบ้แบร่ๆ'

หนูหยิบมันขึ้นมาอ่าน และหยิบมันฉีกทิ้งลงถังขยะเพื่อไม่ให้คุณน้าผู้หญิงมาเห็น หนูโดนแบบนี้เกือบทุกวัน แต่หนูก็มีเพื่อน เมื่อจัดการกระดาษพวกนั้นหมดหนูก็ลงไปทำอาหารให้คุณน้าผู้ชายกิน อยากให้คุณน้าผู้หญิงกลับมาเร็วๆจัง  ทุกตอนกลางคืนคุณน้าผู้ชายชอบมาเคาะประตูเรียกหนูเปิดประตูให้ หนูไม่กล้าเปิดให้เลยได้ยินฮึดฮัดขัดใจก่อนที่คุณน้าผู้ชายจะละความพยายามและหายไป  หนูกลัวเขา หนูอยากจะบอกคุณน้าผู้หญิงแต่ไม่กล้า

"อิน นอนหรือยัง"หนูสะดุ้ง หันหน้าไปที่ประตู ไม่เป็นไรๆหนูล๊อคประตูเอาไว้แล้วนี่ 'แก๊ก' เสียงประตูถูกไขปลดล๊อค

'คุณน้ามีธุระอะไรกับหนูเหรอคะ'หนูชูกระดานให้คุณน้าผู้ชายอ่าน

"น้าแค่มาดูว่าหนูอินกำลังทำอะไรอยู่น่ะ ทำการบ้านอยู่เหรอ น้าช่วยเอามั้ย"คุณน้าผู้ชายเดินเข้าใกล้ หนูดึงให้กระดานลบของความออกแล้วเขียใหม่ด้วยความรวดเร็ว

'ไม่เป็นไรคะ'

"ให้น้าช่วยดีกว่านะ"คุณน้าผู้ชายจับมือหนูแล้วทำท่าเหมือนจะสอนการบ้าน แต่มือคุณน้าผู้ชายลูบที่มือขึ้นมาที่แขน หนูตกใจเลยสะบัดมือออกแล้ววิ่งหนีให้พ้นจากคุณน้าผู้ชาย คุณน้าค่าช่วยหนูด้วย หนูกลัว คุณพ่อคะคุณแม่คะ

"จะหนีน้าไปไหนละ กว่าน้าจะได้โอกาสเข้ามาหาอิน รู้มั้ยน้าต้องใช้ความพยายามมากแค่ไหน วันนี้อินหนีน้าไม่รอดหรอก"คุณน้าผู้ชายเดินเข้ามาใกล้ หนูพยายามหนีให้ห่างแต่ก็โดนกระชากและเหวี่ยงหนู หัวหนูกระแทกกับขอบเตียงจนเจ็บแล้วเกิดอาหารมึนเบลอ"อย่างร้องไห้สิ อินทำตัวเองนะ ถ้ายอมน้าดีๆคงไม่ต้องเจ็บตัว"อยากตะโกนให้ใครมาช่วยเหลือเกินแต่หนูได้แต่ร้องตะโกนภายในใจ

"อือๆ อ่า"เสียงที่ออกจากลำคอออกมาไม่เป็นภาษาคน และดังเพียงนิดเดียว

"ร้องให้ตายก็ไม่มีใครได้ยินเสียงคนใบ้อย่างอินหรอก"คุณน้ากลับมาช่วยอินด้วยนะคะ ช่วยอินด้วย

ปัง!!

"คุณจะทำอะไรหลานฉันน่ะ"หนูยิ้มออกมาเมือคุณน้าเดินเข้ามาภายในห้อง หนูตะเกียดตะกายเข้าไปหาคุณน้าผู้หญิงแล้วกอดแน่นด้วยความกลัวคุณน้าลูบหัวหนูเบาๆเป็นการปลอบโยน

"ผมแค่จะช่วยอินทำการบ้านแค่นั้นเอง"หนูส่ายหน้ากับคำพูดของเขา อย่าเชื่อเขานะคะ เขาโกหกคุณน้าอยู่นะคะ

"เห็นฉันโง่มากรึไง ทำไมฉันจะไม่รู้ว่าตลอดที่หนูอินอยู่บ้านนี้มาคุณจงใจลวนลามหนูอินขนาดไหน"คุณน้ารู้มาตลอดเลยเหรอคะ แล้วทำไม"ฉันรอวันที่จะจับคุณได้คาหนังคาเขา แล้วก็เป็นวันนี้! ออกไปจากบ้านฉันซะก่อนที่ฉันจะโทรเรียกตำรวจ"

"เราเป็นสามีภรรยากันนะ คุณจะทำกับอย่างนี้เพราะเด็กคนนี้คนเดียวไม่ได้นะ"หนูเงยหน้ามองคุณน้าผู้หญิง

"ทำไมจะไม่ได้ คุณเอาเงินฉันไปเล่นการพนัน ทุกวันๆ ทำไมฉันจะไม่รู้แล้วยังเอาชื่อฉันไปค้ำประกันอะไรอีกมากมายจนฉันเป็นหนี้อยู่ทุกวันนี้ พรุ่งนี้จะจะไปเซ็นใบหย่าให้คุณ เชิญออกไปจากบ้านฉันด้วย ก่อนที่ฉันจะโทรหาตำรวจจริงๆ"คุณน้าผู้ชายเดินออกจากห้องของหนูไปอย่างหัวเสีย หนูไม่รู้ว่าเขาออกไปจากบ้านนี้รึยัง หนูกอดคุณน้าผู้หญิงแล้วซุกหน้าร้องไห้ ทั้งดีใจและโล่งอกที่คุณน้าผู้หญิงเข้ามาช่วยหนูเอาไว้"ไม่เป็นไรแล้วนะหนูอิน น้าขอโทษที่ปล่อยให้หนูโดนผู้ชายคนนั้นทำร้าย น้าตัดสินใจแล้วน้าจะส่งหนูไปเรียนที่นั้น สถานที่ที่หนูจะปลอดภัย"หนูมองคุณน้าอย่างสงสัย ส่งสายตาสื่อถามว่าที่ไหน

" Quaint School Community จ๊ะ"

Lesson 1 : ย้อนรอยอดีต [เควสบังคับ] - Page 3 Q-item12
GRADE EXP. +85
avatar
ผู้มาเยือน
ผู้มาเยือน

Lesson 1 : ย้อนรอยอดีต [เควสบังคับ] - Page 3 Empty Re: Lesson 1 : ย้อนรอยอดีต [เควสบังคับ]

Wed 14 Oct 2015, 11:18
ย้อนรอยอดีต "ฮิโซกะ"
ฉันเป็นเด็กพิการทางสายตาเนื่องจากประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อตอน 9 ขวบ ภายในรถมีลูกพี่ลูกน้อง ฉันและคนขับ ซึ่งกำลังเดินทางไปโรงเรียน
ขณะนั้นมีฝนตกหนักดินจึงถล่มลงมาทับรถที่กำลังวิ่งอยู่บนถนน ทำให้ฉันมีสายตาที่เลือนลาง ส่วนลูกพี่ลูกน้อง และคนขับนั้นเสียชีวิต ฉันก็ไม่รู็เหมือนกันว่าทำไมฉันถึงรอด...
พ่อแม่ต่างดูแลฉันอย่างดีเนื่องจากฉันบกพร่องทางสายตา แล้ววันหนึ่งก็ได้มีเด็กคนหนึ่งปีนเข้ามาในห้องของฉันทางหน้าต่างๆ...
ตึกๆๆ เสียงของผู้บุกรุกกำลังปีนเข้ามา
"นั่นใครหน่ะ" ฉันถามออกไปอย่างสงสัยเพราะไม่เคยมีใครปีนเข้ามาทางหน้าต่างมาที่ห้องของ
"เบาหน่อยๆ" จากเสียงที่เขาพูดและการเห็นเลือนๆลางๆก็พอรู้ได้ว่าเขาน่าจะเป็นเด็กผู้ชายรุ่นราวคราวเดียวกับฉัน
"นายเข้ามาที่ห้องของฉันทำไม" ฉันถาม
"ฉันขอแอบอยู่ที่นี่สักแป๊ปได้มั้ย" เขาถามด้วยน้ำเสียงกระวนกระวาย
"ได้สิ แต่นายต้องมาเล่นกับฉันทุกวัน" ฉันเสนอข้อเสนอไปเนื่องจากความพิการทางสายตาของฉันทำให้ฉันไม่ได้ออกไปไหนไม่ได้เล่นกับใครตั้งแต่ประสบอุบัติเหตุครั้งนั้น
"ฉันไม่ได้ว่างขนาดนั้นหรอกนะ"เขาตอบกลับมา
"งั้นก็เชิญ ช่วยด้วยค่ะมีคนบุกรุก"ฉันแกล้งส่งเสียงออกไป
"นี่เธอ!" เขาตะโกนแล้วเอามือปิดปากฉัน "โอเคๆก็ได้" เขาจำต้องยอม 555ฉันแอบขำในใจ
หลังจากวันนั้นพวกเราก็เล่นด้วยกันทุกวัน ฉันก็ถามสาเหตุว่าวันนั้นเข้าแอบใคร เขาก็บอกว่าแอบพวกนักเลงแถวนี้เพราะเขาดันไปมีเรื่องด้วยเนื่องจากไปช่วยคนพิการที่ถูกเจ้าพวกนั้นรังแก พวกเราเล่นกันทุกวันจนสนิทกันมาก อยู่มาวันนึงเขาก็บอกว่ากับฉันว่า
"ฉันต้องไปแล้วนะ คงไม่ได้กลับมาอีกนาน"
"ไปไหน...."ฉันถามด้วยน้ำเสียงสั่นกลัวว่าจะไม่เจอกันอีก
"ไปQuaintหน่ะ" ไม่ทันที่ฉันจะได้ถามอะไรต่อเขาก็บอกว่าต้องไปแล้ว เขาจึงรีบปีนหน้าต่างออกไป..
คืนนั้นเมื่อแม่ของฉันเอาอาหารเข้ามาให้ในห้องฉันก็ถามแม่ว่า
"แม่คะQuaint คืออะไรหรอคะ"
"คือโรงเรียนสำหรับผู้พิการหน่ะ" แม่ฉันตอบกลับมา
"แม่คะหนูขอไปเรียนที่นั่นได้มั้ย" เมื่อแม่เห็นฉันท่าทางสนอกสนใจเป็นพิเศษก็ยอมตกลงให้เรียน..

Lesson 1 : ย้อนรอยอดีต [เควสบังคับ] - Page 3 Q-item12
GRADE EXP. +65
avatar
ผู้มาเยือน
ผู้มาเยือน

Lesson 1 : ย้อนรอยอดีต [เควสบังคับ] - Page 3 Empty Re: Lesson 1 : ย้อนรอยอดีต [เควสบังคับ]

Wed 21 Oct 2015, 01:22
ฉัน นภัสวรรณ บุตรวัตร มีความฝันอยากจะเป็นหมอ แต่...ฉันเป็นโรคหอบมาตั้งแต่เกิด ฉันไปเรียนที่ไหนก็เรียนที่นั้นได้ไม่นาน เพราะ ฉันเป็นโรคหอบขั้นรุนแรง ขนาดว่า ถ้าวิ่งเพียง 100 เมตร ฉันก็เป็นลมแล้ว นั้นเลยทำให้ทุกโรงเรียนที่ฉันเคยอยู่มานั้น ขอร้องให้ฉันออกเพราะกลัวว่าถ้าหากฉันเรียนที่โรงเรียนนั้นไปนานๆแล้วล่ะก็เกิดฉันเป็นอะไรไป ทางนั้นจะต้องรับผิดชอบซึ่งฉันก็มักจะโดนเชิญออกแทบจะทุกๆเทอม เมื่อมีคนรู้เรื่อง
จนวันนึงฉันได้ไปพบกับหมอที่ชื่อ ดอสั้น เขานั้นแหละที่เป็นผู้จุดประกายให้ฉันอยากเป็นหมออย่างสุดตัว และ ฉันก็ไม่ยอมแพ้ ทั้งพ่อและแม่ของฉันจึงช่วยกันค้นหาโรงเรียนที่รับคนแบบฉันเข้าเรียน ซึ่งจะมีหมอดูแลตลอด แต่พออยู่ไปสักพักฉันก็ต้องเปลี่ยนโรงเรียนอีก เพราะเขาบอกว่าอาการของฉันนั้นหนักเกินกว่าที่จะรักษาที่นี่หาย จึงส่งฉันไปอีกโรงเรียนนึง แล้วอีกโรงเรียนนึงพอผ่านไปสักพักก็บอกกับฉันด้วยประโยคเดียวกันกับโรงเรียนที่แล้ว นั้นทำให้ฉันเซ็งมากจนเกือบจะร้องไห้ออกมา และแล้ว คุณหมอดอสั้น ก็ได้ส่งจดหมายฉบับนึงมาให้ฉัน ในนั้นเขียนว่า ใบสมัครเรียนโรงเรียนควิ้นท์ และนั่นแหละคือจุดเริ่มต้นของการมาสมัครเรียนที่นี่ของฉัน

Lesson 1 : ย้อนรอยอดีต [เควสบังคับ] - Page 3 Q-item12
GRADE EXP. +60
avatar
ผู้มาเยือน
ผู้มาเยือน

Lesson 1 : ย้อนรอยอดีต [เควสบังคับ] - Page 3 Empty Re: Lesson 1 : ย้อนรอยอดีต [เควสบังคับ]

Sun 01 Nov 2015, 10:26
ย้อนรอยอดีต
ผมชื่อ ไนน์ ผมเกิดที่ประเทศไทย เเต่ไปอาสัยกับพ่อเลี้ยงที่ญี่ปุ่น ตั้งเเต่ยังเด็ก เเละตลอดหลายปีที่ผมอยู่ญี่ปุ่น ผมไม่เคยได้ออกจากบ้านไปไหนเลย อยู่เเต่ในห้อง เล่นคอมพิวเตอร์ทุกวัน ดูอนิเมะ ทุกวัน เเละไม่ค่อยจะออกไปเจอเเสงเเดด ผมชอบอยู่ที่มืดๆ เเละดวงตาของผมก็เริ่มจะมึนมัว มองไม่ค่อยชัด อ่านหนังสือก็ไม่ได้ ถ้าไม่ใส่เเว่น เพราะทุกอย่างมันลายตาไปหมด จนทำไห้วินหัวมาก
เเละทุกครั้งที่ผมตื่นนอนเเละโดนเเสงเเดดยามเช้า มันทำไห้ผมปวดตาอย่างเเรง เเละหน้ามืดไปเลย ผมจึงเป็นโรคกลัวเเสงเเดด ถ้าวันไหนที่เดินออกนอกบ้าน ผมจะไส่หมวก หรือไม่ก็ เสื้อที่มีหมวกเสมอ เเล้วก็พกร่มอันใหญ่ไปด้วย จนคนข้างบ้านเรียกผมว่า ''เจ้าหนูเเวมไพร'' เเละผมก็ไม่มีไครกล้ามาเล่นกับผมเพื่อนสักคนก็ไม่มี โรงเรียนผมก็จะไปเฉพาะ ฤดูหนาวกับวันที่ฝนตกฟ้ามืด
เเละเมื่อผมกำลังจะจบการศึกษา ชั้นปถมปีที่6 พ่อเลี้ยงผมก็บอกไห้เตรียมของเพื่อไปหาเเม่ เเละบังคับไห้ผมไปเรียนที่ Quaint School Communityผมสงสัยอยู่นิดหน่อยเเต่ไม่ถามอะไรกับพ่อ  ผมได้ไปหาข้อมูลเกี่ยวกับQuaint จึงได้รู้ว่าเป็นโรงเรียนของคนพิการ ถึงผมจะไม่ยอมรับว่าผมเป็นคนพิการก็เถอะ เเต่ผมก็ยอมไปเเต่โดยดี เพราะว่าเป็นความต้องการของแม่

Lesson 1 : ย้อนรอยอดีต [เควสบังคับ] - Page 3 Q-item12
GRADE EXP. +60
avatar
ผู้มาเยือน
ผู้มาเยือน

Lesson 1 : ย้อนรอยอดีต [เควสบังคับ] - Page 3 Empty Re: Lesson 1 : ย้อนรอยอดีต [เควสบังคับ]

Thu 03 Dec 2015, 14:16
>ย้อนรอยอดีตนามัตสึ เรียวตะ<

คนทุกคนต่างก็มีเป้าหมายในตัวของตัวเองด้วยกันทั้งนั้น บางต่างก็พยายามที่จะไขว้คว้า แม้จะต้องท้อขนาดไหนแต่ก็ยังคงพยายาม
หวังว่าสักวันคงจะคว้าฝันนั้นไว้ได้ ผมชื่นชมนะ.. คนที่สามารถทำตามความฝันของตัวเองได้

ไม่เหมือนกับผม ที่ต่อให้พยายามแค่ไหน ความฝันนั้นมันก็พังลงไปแล้ว พังลงไปต่อหน้าต่อตาเลย

ความฝันของผมคืออะไรงั้นเหรอ? มันก็ผ่านมานานแล้ว นานซะจนเกือบลืมมันไปแล้วว่าเคยฝันไว้ ผมนะ..อยากที่จะมองสิ่งที่สวยงามบนโลกนี้อีกมากมาย
อยากจะค้นหาสถานที่ที่เป็นที่ของผมจริงๆ อยากมองเห็นพระอาทิตย์ตกดิน อยากมองเห็นดวงดาวว่ามันจะสวยแค่ไหน มันก็เป็นเรื่องเพ้อเจ้อของเด็กอายุสิบสามนะ
อย่างที่บอก.. ว่าความฝันของผมมันพังไปแล้ว เพราะอะไรนะเหรอ? อืม.. ก็เพราะว่าผมไม่มีวันได้มองเห็นมันอีกแล้วไง แม้แต่ตอนนี้อนาคตของตัวเอง
ผมยังมองไม่เห็นเลย มันเป็นเรื่องน่าเศร้าใช่ไหมละที่มาเสียดวงตาไปทั้งๆที่อายุแค่นี้ แต่ก็นะ.. ผมชินแล้วละ


การโกหกไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีหรือเรื่องไม่ดีมันก็คือการโกหก ผมเกลียดคนโกหก ผมเกลียดคนที่ทำให้ผมเป็นแบบนี้ ทั้งๆที่ผมไม่ได้อยากจะเป็น
ดวงตาของผมเริ่มพร่ามัวตั้งแต่อายุแปดขวบ มันเริ่มมองไม่เห็นในเวลามืด หรือบางครั้งดวงตาก็พร่าไปตอนที่มองแดดจ้าแรงๆ ทั้งๆที่ผมคิดว่ามันไม่เป็นไร มันไม่น่าจะเป็นอะไรเลยแท้ๆ
แต่คนคนนั้นกลับบอกว่าผมต้องได้รับการผ่าตัด เขาพาผมไปยังโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ไปหาหมอ ทั้งๆที่ผมเองก็ไม่เข้าใจ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองนั้นเป็นอะไร
แต่ทำไมคนคนนั้นถึงทำเป็นเรื่องร้ายแรง และบอกว่าอยากให้ผมได้ผ่าตัด เขาบอกกับผมว่ามัน”จะไม่เป็นอะไร จะกลับมามองเห็นเหมือนเดิมได้แน่นอน” เขาบอกกับผมแท้ๆ บอกแบบนั้นกับผม


และทำไม.. พอลืมตาตื่นขึ้นมาผมถึงได้มองไม่เห็นอะไรเลย! ไม่เห็นเลย!  หมอบอกว่าเป็นการผ่าตัดผิดพลาด และยังไง?
ชีวิตผมพังไปแล้วคุณรับผิดชอบผมได้งั้นเหรอ แค่มาบอกว่ามันผิดพลาด มันผิดพลาดตั้งแต่คุณให้หมอคนนั้นมาผ่าตัดดวงตาผม
ทั้งๆที่เขายังเป็นแค่หมอฝึกหัดแท้ๆ คุณบอกเองว่ามันจะไม่เป็นอะไร จะกลับมามองเห็นได้อย่างแน่นอน
แล้วนี่คืออะไร? ความฝันผม ทุกๆอย่างในชีวิตผม ผมมองไม่เห็นแม้แต่ตัวเอง ตอนนี้กำลังรู้สึกอะไรอยู่ กำลังคิดอะไรอยู่
ควรจะทำอะไรต่อไป ผมคิดไม่ออก

หลังจากนั้นผมก็ได้แต่เก็บตัวอยู่ในห้อง การนอนหลับเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่คิดว่าแค่หลับไปตื่นมาฝันร้ายนี่มันก็จบแล้ว แต่ไม่ว่าผมจะนอนไปนานแค่ไหน
หลับไปกี่ครั้ง.. ผมก็ยังไม่กับฝันนี้สักที คนคนนั้นมาขอโทษและบอกว่าจะรับผิดชอบ ผมไม่ต้องการความรับผิดชอบ! ผมแค่ต้องการดวงตาคืน
คืนให้ผมได้ไหม? ผมเคยถามเขาไป แต่เขาก็ได้แต่เงียบ เขาคืนให้ผมไม่ได้แล้วนับภาษาอะไรกับการรับผิดชอบ ผมจะไม่เชื่ออีกแล้ว คนโกหก..


หลังจากวันที่ผมสูญเสียดวงตาผมใช้หูของตัวเองแทนการมองเห็น อ่า.. ประมาณว่าพยายามเพ่งหูให้ได้ยินว่ากำลังฟังเสียงอะไรอยู่ ตอนเช้าที่ผมตื่นขึ้นมา
ผมได้ยินเสียงนกร้องและผมก็จินตนาการถึงว่ามันกำลังอะไรอยู่ จะเรียกได้ว่าเป็นความสุขเล็กน้อยที่มีก็ว่าได้ และในวันหนึ่งผมได้เสียงฝีเท้าของคนคนนั้น
เขาเดินมาบอกว่าเขาจะไม่ปล่อยให้ผมต้องเป็นแบบนี้ ขอให้เชื่อเขาอีกรอบได้ไหม เขาจะรับผิดชอบต่อดวงตาที่ผมเสีย
แม้ใจจริงจะไม่อยากเชื่อแต่คนตรงหน้าคือ “พี่ชาย” เราสองคนเป็นเด็กกำพร้ามีกันแค่สองคนมาตั้งแต่แรก ถ้าไม่เชื่อเขาแล้วจะเชื่อใคร

ผมยอม.. ยอมเชื่อเขาอีกครั้ง ยอมไว้ใจ
เขาบอกกับผมว่ามีสถานที่ที่หนึ่งที่ช่วยผมได้ ผมไม่เกี่ยงหรอกว่าเขาจะพาผมไปที่ไหน

แต่ขอละ.. อย่าโกหกผมอีกนะ อย่าทิ้งไปเลย..

สุดท้ายเขาจึงพาผมมาที่นี่ Quaint School

Lesson 1 : ย้อนรอยอดีต [เควสบังคับ] - Page 3 Q-item12
GRADE EXP. +55
avatar
ผู้มาเยือน
ผู้มาเยือน

Lesson 1 : ย้อนรอยอดีต [เควสบังคับ] - Page 3 Empty Re: Lesson 1 : ย้อนรอยอดีต [เควสบังคับ]

Wed 23 Dec 2015, 19:48
สวัสดีค่ะ ฉัน ณัฐรดี แพร่แสงเอี่ยม มีปัญหาด้านเสียงที่ผิดปกติมาตั้งแต่กำเนิด ทำให้เสียงฉันเหมือนกับเสียงของผู้ชาย สมัยเด็กๆฉันมักจะชอบทำตัวเหมือนกับเด็กผู้ชาย เพราะว่าฉันกลัวว่าจะโดนเพื่อนล้อเรื่องเสียงของฉัน แต่ความจริงมันก็เก็บไว้ได้ไม่นาน พอฉันเริ่มโตขึ้นฉันก็เริ่มจะมีพัฒนาการทจะี่เข้าสู่วัยรุ่น เพื่อนผู้ชายพอรู้เรื่องก็พากันล้อฉันแกล้งฉันกัน จนสุดท้ายฉันจึงต้องขอแม่ย้ายโรงเรียน แล้วฉันก็มาเจอกับรุ่นพี่คนนึงที่เป็นทอม เขาเป็นคนน่ารักแล้วก็ใจดี ทำให้ฉันแอบรักเขามาตลอด2ปีที่เรียนที่นั้น แต่อยู่ๆก็มีเพื่อนจากโรงเรียนเก่าทักเฟสบุ้คฉันมาแล้วมาทำให้ฉันหวั่นไหว สุดท้ายแล้วมันก็กลายเป็นปัญหาเพราะแค่เสียงของฉัน ซึ่งมันก็ ทำให้ฉันต้องย้ายบ้านย้ายโรงเรียนอีกครั้ง พ่อจึงเสนอโรงเรียนที่เหมาะกับฉันมากที่สุด คือโรงเรียน Quaint แวบแรกที่ฉันเห็นก็สงสัยว่าโรงเรียนอะไรประหลาดจังตั้งชื่อโรงเรียนที่มีความหมายว่า ประหลาด ด้วยความอยากรู้ของฉันจึงทำให้ฉันได้มาสมัครเรียนที่นี่ที่โรงเรียนแห่งนี้ ซึ่งฉันมั่นใจว่าฉันคงจะไม่มีปัญหากับเรื่องเสียงของฉันอีกแล้วล่ะ

Lesson 1 : ย้อนรอยอดีต [เควสบังคับ] - Page 3 Q-item12
GRADE EXP. +55
avatar
ผู้มาเยือน
ผู้มาเยือน

Lesson 1 : ย้อนรอยอดีต [เควสบังคับ] - Page 3 Empty เควส "ย้อนรอยอดีต"

Fri 15 Jan 2016, 18:45
"ทำไม ทำงานทุเรศอย่างนี้!!" เสียงที่ดังลั่นที่ออกมาจากปากของประธานบริษัทแห่งหนึ่งตะโกนใส่ผมที่ทำงานไม่ได้เรื่องผมจึงพูดกลับไปว่า
"ขอโทษครับ คราวหลังผมจะทำงานให้ดีกว่านี้ครับ" พูดเสร็จผมก็รีบเอางานที่ให้เขาดู ออกมาแล้วรีบออกมาจากห้องประธานทันที

"ฮะๆๆๆๆ ไอเด็กโง่เอ้ยยย" เสียงบ่นพึมพำของผู้ใหญ่ที่ร่วมงานด้วยกระทบใส่หูของผม

ทุกๆวัน ผมก็ทำงานไปเรื่อยๆ ไม่รู้ว่า จะเลิกทำตอนไหน "แปลกนะ เด็กอย่างเรา ไม่ต้องทำงานก็ได้นี่นา ช่างเหอะ! เรามาทำแล้วนี่ ก็ทำให้มันสุดๆไปเลยละกัน"
ผมบ่นพึมพำกับตัวเอง

วันหนึ่ง ผมได้รับมอบหมายให้ทำงานอย่างหนึ่ง ที่ต้องใช้เครื่องตัดชนิดหนึ่งซึ่งผมไม่เคยใช้มันเลย แต่เคยเห็นคนอื่นใช้กันอยู่ "ทำไมไม่ใช้คนอื่นนะ ทำไมมาใช้เราละเนี่ย"
ผมบ่นนิดๆ แต่ก็ไม่ละทิ้งงาน ผมจึงตัดสินใจใช้เครื่องนั้น ขณะที่ผมใช้งานอยู่ มือข้างซ้ายได้หลุดเข้าไปในเครื่องนั้นและได้ตัดมือผมไป ผมร้องเสียงจนหมดสติไป

"อืมม...อ่าา..พ... พ่อ...ค..ครับ" ผมฟื้นขึ้นมาในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งใกล้ๆบริษัทและเรียกหาคนที่กำลังกุมมือผมอยู่ ผู้ที่ผมเรียกเขาว่า "พ่อ"
"ไม่เป็นไรนะ กร" พ่อพูดปลอบใจผม

ทางบริษัทนั้น ก็ไม่รับผมเข้าทำงานอีกเลย เพราะกลัวว่าจะมีคนไปแจ้งความว่าใช้แรงงานเด็ก

เวลาต่อมา 1 อาทิตย์ ผมได้ออกจากโรงพยาบาลกับพ่อ แล้วจากนั้นก็กลับบ้าน
"พ่อ ค่ารักษาพยาบาลแพงมั้ยครับ" ผมพูดกับพ่อ "ไม่เป็นไรหรอกน่า เงินแค่นี้เองพ่อหาใหม่ได้ ที่สำคัญกว่าคือลูกนะ ถ้าลูกเป็นไรไป พ่อจะทำยังไง
แม่เราก็ไม่อยู่แล้วนะ เราสองคนต้องช่วยเหลือกันนะ" พ่อพูดกับผม พร้อมใบหน้าอันยิ้มแย้มแล้วก็ขยี้หัวผม
"ครับๆ" ผมพยักหน้าพร้อมกับผมยุ่งๆ ที่โดนพ่อขยี้

เวลาถัดไป
"นี่!! ลูก อยากพบเพื่อนมั้ย พ่อได้ยินมาว่ามีโรงเรียนสำหรับคนพิการด้วยนะ" พ่อรีบวิ่งมาบอกผมพร้อมสีหน้าอันตื้นเต้นดีใจ
"เห? ยังไงครับ" ผมสงสัยทำหน้างง
"แต่รู้สึกว่า ค่าเทอมแพงมากๆ เลยนะ" พ่อบอกกับผม
"ไม่เป็นไร ใช้เงินที่ผมเก็บสะสมมาใช้ก็ได้ครับ" ผมบอกกับพ่อ แล้วนำกระปุกที่เต็มไปด้วยธนบัตรหลายๆบัตรมาให้พ่อ
"โห!! มีเงินเยอะนี่ ดีเลย พ่อจะช่วยอีกแรงนะ" พ่อตะลึงไปซักพักแล้วบอกว่าจะช่วยผมออกเงินค่าเทอมให้
จากนั้นทั้งสองคนก็ได้มาสมัครที่โรงเรียน QUINT แห่งนี้

"ผมจะกลับมา แล้วนำความรู้ที่ผมได้ มาช่วยพ่อครับ!!" นั้นคือคำพูดของผมที่ผมจะมุ่งสู่รั้วโรงเรียนแห่งแรกของชีวิตที่บอกกับพ่อที่ยืนส่งผมด้วยความปลื้มปิติ

และนี้คือ ย้อนรอยอดีต ของ ผม ดัษกร อเนกการ ครับ

Lesson 1 : ย้อนรอยอดีต [เควสบังคับ] - Page 3 Q-item12
GRADE EXP. +85
avatar
ผู้มาเยือน
ผู้มาเยือน

Lesson 1 : ย้อนรอยอดีต [เควสบังคับ] - Page 3 Empty Re: Lesson 1 : ย้อนรอยอดีต [เควสบังคับ]

Tue 19 Jan 2016, 21:25
-ย้อนรอยอดีต ฮันนา-


"เราควรทำยังไงดีค่ะคุณหมอ"
"ไม่มีเวลาแล้ว ผมต้องตัดแขนซ้าย แล้วเอาแก้วออกจากปอดเธอ"

-ย้อนกับไป1ช.ม ก่อน-

ฮันนาตระเตรียมของเพื่อไปตกปลาแถวแม่น้ำเทมส์กับคุณพ่อและคุณแม่

"คุณพ่อคะ หนูเอาหนังสือไปอ่านรอได้มั้ยคะ" เด็กน้อยถาม

"แหมลูกพ่อ..ได้สิจ๊ะ แล้วแต่หนูเลย"ผู้เป็นพ่อยิ้มพร้อมลูบหัว

เมื่อทั้งสามคนเตรียมของเรียบร้อยแล้วก็ออกจากบ้านโดยมิได้สังเกตุถึงความผิดปกติเลย
เมื่อขับรถใกล้สี่แยก คุณพ่อจึงเตรียมเหยียบเบรก แต่ก็พบว่าถึงแม้ว่าจะเหยียบเท่าไหร่ ก็รถไม่สามารถบังคับให้รถหยุดได้เลย
รถเดินหน้าไปเรื่อยและไม่มีท่าจะหยุดยั้ง
ด้วยสัญชาตญาณของความเป็นแม่ แม่จึงกอดฮันนาเอาไว้ในอ้อมอก

"แม่จ๋า.."

"หนูจะต้องไม่เป็นอะไร..หนูจะต้องอยู่นะลูก"หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

ในเสี้ยววินาทีนั้นเองก็มีรถบรรทุกที่วิ่งมาด้วยความเร็วสูง ชนเข้าอย่างจัง
จากรถบีเอมดับบลิวราคาเรือนสิบล้าน บัดนี้กลายเป็นเศษเหล็กที่บัดนี้สภาพดูไม่ได้เลย
ฮันนาสลบไปนานเท่าใดไม่รู้  รู้ตัวอีกทีก็อยู่ในห้องผ่าตัดเสียแล้ว
เด็กหญิงคิดว่าต้องตายแน่ๆ จึงตั้งปณิฐานก่อนที่จะหมดสติอีกครั้งไปว่า ถ้าครั้งนี้รอดกลับมามีชีวิต เมื่อโตขึ้นจะเป็นแพทย์เพื่อรักษาคนให้ได้
เมื่อฮันนาฟื้นขึ้นมาก็พบว่าตนสูญเสียแขนไปข้างหนึ่ง จึงไม่อยากจะทำอะไรอีกต่อไป อยากใช้ชีวิตเรื่อยๆแบบนี้ไปตลอดกาล
ทันใดนั้นเสียงเปิดประตูก็ทำให้เธอตื่นจากห้วงความคิด

..แอ๊ดด..

"เป็นไงบ้างฮันนา คุณสบายดีมั้ย"คุณหมอถาม

"ไม่หรอกค่ะ ฉันมันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว"เมื่อพูดแล้ว น้ำตาแห่งความน้อยใจในโชคชะตามันก็ไหลรินอย่างควบคุมไม่ได้

"ฉันเข้าใจเธอ เพราะฉันเองก็ใช้ขาเทียมเหมือนกับเธอ"คุณหมอพูดพร้อมถลกกางเกงขึ้นนิดหน่อย เผยให้เห็นขาเทียมที่ทำด้วยเหล็ก

"ฉันจะทำเรื่องของเธอส่งไปที่รร แห่งหนึ่ง"หมอพูดพลางเขียนใบประวัติไปด้วย

"โรงเรียนอะไรหรอคะ"

" QUINT.." "ถ้าเธอเรียนที่นี่เธอจะได้เรียนรู้หลายๆอย่างเลยล่ะ "

เด็กหญิงปล่อยให้คุณหมอจัดการที่เรียนให้โดยไม่ได้เหลียวหันไปมอง สายตาก็ทอดออกไปนอกริมหน้าต่าง
โดยที่เธอไม่รู้ว่าอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เธอจะได้พบมิตรภาพที่เธอไม่สามารถลืมได้ไปตลอดกาล

Lesson 1 : ย้อนรอยอดีต [เควสบังคับ] - Page 3 Q-item12
GRADE EXP. +60
avatar
ผู้มาเยือน
ผู้มาเยือน

Lesson 1 : ย้อนรอยอดีต [เควสบังคับ] - Page 3 Empty Re: Lesson 1 : ย้อนรอยอดีต [เควสบังคับ]

Mon 25 Jan 2016, 21:33
ย้อนรอยอดีตของ ดาเรน่า อลิซ่าเนีย
เรื่องมีอยู่ว่า...
ฉันมีชื่อว่า ดาเรน่า ก่อนที่จะมาเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้ ฉันมีความสุขกับการเรียนมาโดยตลอด มีเพื่อนๆมากมาย ต่อมาครอบครัวของฉันต้องย้ายไปอยู่ที่ญี่ปุ่นเพราะพ่อกับแม่มีความจำเป็นบางอย่าง ซึ่งฉันเคยถามพวกท่านแล้ว แต่ท่านต้องกลับมาว่า"เป็นเด็กไม่จำเป็นต้องรู้หรอก" ทำให้ฉันต้องย้ายโรงเรียนไปเรียนที่ญี่ปุ่นแทน แต่ด้วยวัฒนธรรมที่แตกต่าง ความเป็นอยู่ อะไรหลายๆอย่างที่ฉันไม่ชิน ทำให้โดนเพื่อนแกล้งตลอดเวลา อยู่มาวันหนึ่ง... ในคาบวิทยาศาสตร์ครูให้ทำการทดลองเพื่อนของฉันแกล้งผสมสารเคมีแล้วเรียกให้ฉันมาใกล้ๆ ฉันซึ่งไม่รู้อะไรเลยกำลังเอื้อมมือจะไปแตะหลอดทดลอง ทันใดนั้นมันก็ระเบิดใส่ จนคนในห้องตื่นตระหนกไปหมด ครูจึงพาฉันไปโรงพยาบาลทันที่ หมอบอกว่าฉันโดนสารเคมีที่เป็นอันตรายมาก ต้องได้รับการบำบัด ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ ไม่เช่นนั้นมือจะใช้การไม่ได้อีกแล้ว.. พอมาโรงเรียน ครูก็มาว่าฉันว่า ฉันเป็นคนผสมสารเคมีนั่น ที่จริงฉันไม่ได้ทำ แต่เพื่อนกลับโยนความผิดให้ซะงั้น ทำให้เพื่อนๆในห้องเริ่มเกลียดฉัน แก้งฉัน ทำร้าย มากขึ้นกว่าเดิม จนฉันเริ่มจำมีอาการป่วยทางจิต เก็บกด ทำให้ฉันตัดสินใจปรึกษากับพ่อแม่ จนได้ย้ายมาเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้

Lesson 1 : ย้อนรอยอดีต [เควสบังคับ] - Page 3 Q-item12
GRADE EXP. +50
pangkawjoa
pangkawjoa
ประธานนักเรียน
ประธานนักเรียน
เทียบเท่า ศาสตราจารย์อาวุโส / ผู้บริหารอาวุโส
INFO.Taira Payakaroon
อาจารย์ภาษาไทย

Star Piece3212
CHIPS+586 M 322 K 265
Credit
Lesson 1 : ย้อนรอยอดีต [เควสบังคับ] - Page 3 Exp111100 / 100100 / 100Lesson 1 : ย้อนรอยอดีต [เควสบังคับ] - Page 3 Exp211

-30% Grade Exp. สูงสุด

PASSPORT
 :
Lesson 1 : ย้อนรอยอดีต [เควสบังคับ] - Page 3 Exp1112280/21000Lesson 1 : ย้อนรอยอดีต [เควสบังคับ] - Page 3 Bar-em13  (2280/21000)
 :

Lesson 1 : ย้อนรอยอดีต [เควสบังคับ] - Page 3 Empty Re: Lesson 1 : ย้อนรอยอดีต [เควสบังคับ]

Tue 08 Mar 2016, 14:56
ย้อนรอยอดีตของ "ไทระ พยัคฆ์อรุณ"



โลกนี้คงมีทั้งคนที่โชคดีและโชคร้าย
ซึ่งตัวผมเองคงเป็นแบบหลัง...หรือเปล่านะ?



      ภายในห้องนอนที่สะอาดสะอ้านมันถูกตกแต่งไปด้วยโปสเตอร์การ์ตูนหลากหลายแผ่น ผมชอบนั่งมองดูโปสเตอร์พวกนั้นอย่างมีความสุขทว่าตอนนี้มีสิ่งหนึ่งที่ดึงความสนใจของผมอยู่ แผ่นพับแนะนำโรงเรียน "Quaint" โรงเรียนสำหรับผู้พิการ คุณแม่เพิ่งนำสิ่งนี้มาให้เมื่อเย็นวานนี้เอง ดูจากสีหน้าของคุณแม่ตอนที่ยื่นเจ้านี่ให้ก็รู้เลยว่าท่านเป็นห่วงผมอยู่ เฮ้อ...นี่ถ้าผมพูดออกไปได้ว่า 'ขอบคุณครับที่เป็นห่วงผมเสมอ' ผมคงพูดออกไปดังๆ แล้ว

      แต่ก็อย่างว่าล่ะ ในเมื่อผมเป็น 'ผู้พิการทางการได้ยิน' ที่ไม่อาจได้ยินเสียงใดๆ อีกต่อไปแล้ว จึงทำให้ไม่สามารถพูดโต้ตอบได้ด้วยเช่นกัน

      ที่จริงผมเกิดมาเป็นคนปกตินะ ได้ยินเสียงและพูดได้แต่เมื่อหนึ่งกว่าปีก่อนก็มีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้น ตอนนั้นผมอยู่ประถมห้าได้ล่ะมั้ง ด้วยความที่ผมมักจะยิ้มแย้มและช่วยเหลือผู้อื่นเสมอทำให้เป็นที่รักของทั้งเพื่อนและอาจารย์ ไม่เพียงเท่านั้น...ผมจัดว่าเป็นเด็กที่หน้าตาดีคนหนึ่งเลยไม่แปลกที่จะมีเด็กผู้หญิงมาแอบปลื้มบ้าง จนกระทั่งวันหนึ่งมีเด็กผู้หญิงต่างห้องเข้ามาบอกชอบผม ส่วนผมเองไม่ได้คิดอะไรกับเธอเลยเพราะเพิ่งเคยเจอกันครั้งแรกจึงปฏิเสธเธอไป

      ผมคิดว่าเรื่องมันจะจบเพียงเท่านี้ แต่ไม่เลย...มันกลับเป็นชนวนทำให้เกิดเหตุทะเลาะวิวาท

      วันต่อมา หลังเลิกเรียนผมมักจะเดินกลับบ้านเองเพราะมันอยู่ใกล้ๆ กับโรงเรียน ระหว่างที่เดินกลับก็เจอพวกเด็กมัธยมสองสามคน ดูจากดาวที่ปักอยู่ตรงอกเสื้อนักเรียนแล้วก็รู้ว่าเป็นมัธยมหนึ่ง พวกนั้นเดินเข้ามาล้อมผมไว้แถมยังถือไม้มาด้วย โดยที่ไม่พูดพร่ำอะไรพวกนั้นก็รุมตีผมไม่ยั้งมือ เด็กตัวเล็กๆ อย่างผมจะไปต่อกรอะไรได้เลยทำได้เพียงใช้แขนปัดป้องแต่ก็ทำได้ยากนัก จนครั้งสุดท้ายหนึ่งในพวกนั้นใช้ไม้ฟาดโดนหัวผมอย่างจัง วินาทีนั้นสติเริ่มเลือนหาย ภาพเบื้องหน้ามืดลงเรื่อยๆ แล้วในที่สุดมันก็ดับวูบไป


++++++++++++++++++++++++++++++++


      หลังจากนั้นผมก็ฟื้นคืนสติ ภาพแรกที่เห็นคือเพดานสีขาวของโรงพยาบาล ผมกวาดตามองรอบๆ ก็เห็นคุณแม่นั่งหลับอยู่ที่ข้างเตียงผมเลยพยายามเปล่งเสียงเรียก แปลกนะ...ที่ผมไม่ได้ยินเสียงตัวเอง

      ใช้เวลาไม่นักนักคุณแม่ก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้นและเมื่อเห็นว่าผมปลอดภัยดี ท่านก็โผเข้ามาสวมกอด เมื่อกอดจนพอใจแล้วคุณแม่ก็ผละออกแล้วลูบไล้ใบหน้าของผมราวกับโหยหามานาน ในขณะเดียวกันริมฝีปากของท่านก็ขยับไปมาคล้ายกับพูดอะไรบางแต่ทว่า...

      ...ผมไม่ได้ยินเสียงท่าน...

      เพราะไม่ได้ยินเสียงเลยไม่รู้ว่าท่านกำลังพูดอะไรจึงได้แต่นิ่งเงียบ เมื่อเห็นว่าผมไม่ยอมพูดจา คุณแม่ก็แสดงสีหน้ากังวลออกมาก่อนจะกดเรียกพยาบาล ไม่นานนักก็มีคุณหมอกับพี่พยาบาลสองคนเดินเข้ามา ผมคิดว่าคุณแม่คงกำลังเล่าอาการของผมให้พวกคุณหมอฟัง จากนั้นคุณหมอก็ขยับปากพูดอะไรบางอย่างทำให้คุณแม่ทรุดลงไปทันที ผมอยากเดินเข้าไปหาคุณแม่แต่ก็ไม่อาจทำได้ ร่างกายมันไม่ยอมขยับตามคำสั่งเอาเสียเลย

      เวลาดำเนินไปอย่างต่อเนื่องจนล่วงเลยมาเกือบสัปดาห์ ในที่สุดผมก็เข้าใจว่าเพราะสมองได้รับการกระทบกระเทือนรุนแรงทำให้โสตประสาทของผมเสียหายหนัก การได้ยินของผมก็พิกลพิการไปด้วย ชั่ววินาทีนี้เหมือนผมกำลังดำดิ่งสู่ก้นเหวลึกที่มีแต่ความเงียบงัน

      ผมกลายเป็นคนหูหนวกไปโดยสมบูรณ์แล้ว...


++++++++++++++++++++++++++++++++


      หลังจากที่ออกจากโรงพยาบาล ผมก็พักฟื้นร่างกายอีกพักใหญ่กว่าจะได้กลับไปเรียน เมื่อมาถึงโรงเรียนมีเพื่อนบางคนที่ไม่อยากเข้ามาสุงสิงด้วยเพราะผมกลายเป็นพิการ แต่ก็ยังมีบางคนที่ไม่ได้ทำท่ารังกียจ ยังคงเข้ามาทักทายแม้ว่าผมจะไม่ได้ยิน วิธีการที่เราใช้สื่อสารกันคือพวกเพื่อนๆ จะเขียนคำพูดลงในสมุด และผมยังได้รู้อีกว่าพวกผู้ชายที่เข้ามารุมทำร้ายผมคือพี่ของเด็กผู้หญิงที่มาสารภาพรักกับผม เธอคนนั้นแค้นใจที่ผมไม่ตอบรับเธอเลยให้พี่ชายมาแก้แค้น

      มันเป็นการแก้แค้นที่สาหัสนัก ถึงขั้นพราก "เสียง" ไปจากผม

      ผมก็ไม่รู้หรอกนะว่าพวกนั้นจะเป็นยังไงแต่ก็ได้ข่าวมาว่าตำรวจตามสืบจนรู้ตัวและกำลังดำเนินความอยู่ ขอให้กฏหมายลงโทษพวกนั้นได้ล่ะกัน

      การใช้ชีวิตประจำวันของผมลำบากมากเป็นเท่าตัว ไม่ว่าจะที่โรงเรียนหรือที่บ้านผมต้องใช้วิธีเขียนใส่ในสมุดเอา จนกระทั่งวันหนึ่งผมเริ่มฝึกภาษามือเพื่อที่จะได้ทุนเวลาในการเขียนลงไปได้บ้าง ในที่สุดผมก็ใช้ภาษามือได้คล่องเลยสอนคุณแม่กับเพื่อนๆ บ้าง ท่าภาษามือที่ผมสอนก็เป็นคำง่ายๆ อย่าง ขอบคุณ หรือ สวัสดี นั่นเอง

      ผมใช้ชีวิตแบบนี้มาจนกระทั่งจบประถมหกและจะต้องขึ้นเรียนมัธยมซึ่งผมกังวลมาก ผมไม่รู้ว่าที่โรงเรียนใหม่จะรับคนพิการแบบผมได้ไหม ทางคุณแม่เองก็คงเข้าใจความรู้สึกของผมดีเลยพยายามหาโรงเรียนที่เหมาะกับผมให้ แล้วในที่สุดก็มาเจอที่นี่...

      ...Quaint School...

      ที่นี่ผมสามารถใช้ชีวิตร่วมกับคนแบบเดียวกันได้ โรงเรียนแห่งนี้อาจทำให้ผมใชีชิวิตสะดวกขึ้นและคงทำให้ผมได้รับประสบการณ์ที่ไม่เคยพบเจอมาก่อนแน่ ที่นั่นอาจมีเด็กที่พิการและกำลังจมดิ่งสู่ความโศกเศร้าเมื่อที่ผมเคยเป็นก็ได้ ผมจึงอยากลองไปช่วยคนพวกนั้นให้กลับมายิ้มแย้มได้อีกครั้งเหมือนที่คุณแม่และเพื่อนๆ ช่วยทำให้ผมกลับมามีรอยยิ้มสดใสได้เหมือนเดิม




...โลกนี้คงมีทั้งคนที่โชคดีและโชคร้าย...
...ไม่แน่ว่าผมอาจจะเป็นทั้งอย่าง แต่ก็จะไขว่คว้าโชคดีและความสุขมาให้จงได้...

Lesson 1 : ย้อนรอยอดีต [เควสบังคับ] - Page 3 Q-item12
GRADE EXP. +85
gotspinner
gotspinner
เทียบเท่ามัธยมศึกษาปีที่ 4
INFO.Rin Sukho
นักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 4

Star Piece688
CHIPS+14 M 550 K 921
Credit
Lesson 1 : ย้อนรอยอดีต [เควสบังคับ] - Page 3 Exp11130 / 10030 / 100Lesson 1 : ย้อนรอยอดีต [เควสบังคับ] - Page 3 Exp211

Lesson 1 : ย้อนรอยอดีต [เควสบังคับ] - Page 3 Rin-sp10

PASSPORT
 :
Lesson 1 : ย้อนรอยอดีต [เควสบังคับ] - Page 3 Exp111400/2000Lesson 1 : ย้อนรอยอดีต [เควสบังคับ] - Page 3 Bar-em13  (400/2000)
 :

Lesson 1 : ย้อนรอยอดีต [เควสบังคับ] - Page 3 Empty Re: Lesson 1 : ย้อนรอยอดีต [เควสบังคับ]

Sat 16 Apr 2016, 16:58
สวัสดีค่ะ ฉันชื่อ "รินทร์" ชื่อเต็ม รินทร์ สุขโข
             ฉันเป็นพูดไม่ได้ตั้งแต่เกิด พ่อสอนให้ฉันใช้ไอแพดเพื่อพิมพ์ข้อความในการพูดคุยกับคนอื่น ฉันพิมพ์แล้วก็เอาให้คนอื่นอ่าน ฉันฝึกทำแบบนี้จนคล่องกับพ่อและแม่ที่บ้าน แต่เมื่อถึงเวลาที่ฉันจะต้องเข้าโรงเรียนฉันไม่สามารถที่จะสื่อสารแบบนี้กับเพื่อนคนอื่นๆได้ ไม่สิ ฉันไม่มีเพื่อน เพราะฉันพูดไม่ได้และคนอื่นขี้เกียจที่จะมานั่งรออ่านข้อความของฉัน ฉันจึงใช้เวลากับไอแพด ดูอนิเมะ เล่นเกมส์ อ่านหนังสือ ฉันไม่เสียใจหรือน้อยใจในโชคชะตาหรอกนะ ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะฉันมีความสุขที่ได้ปลีกวิเวกนั่งอยู่คนเดียว ทำอะไรตามใจฉัน แต่ก็นะฉันก็ต้องหาวิธีอ่านเพื่อสื่อสารกับคนอื่นได้เร็วกว่านี้ ฉันจึงหัดเขียนแอพพลิเคชั่นเพื่อใช้ในการสื่อสาร โดยพิมพ์ข้อความลงไปแล้วจะแปลงเป็นเสียงพูดออกมา นั่นทำให้ฉันพิมพ์ดีดได้เร็วมาก จนทำให้ฉันสื่อสารกับคนอื่นๆได้ง่ายขึ้น ฉันทำแบบนี้ในโรงเรียนจนเรียนจบชั้นประถม แต่ฉันก็ยังไม่มีเพื่อน แต่นั่นไม่ทำให้ฉันยอมแพ้หรอก ถึงจะยังไม่มีเพื่อน ฉันก็จะเข้าเรียนต่อมัธยม ...
             หลังจากเรียนจบชั้นประถม ฉันก็เริ่มหาที่เรียนต่อ พ่อเลยเอาข้อมูลของโรงเรียนโรงเรียนหนึ่งมาให้ฉันดู....
             "Quaint School Community" โรงเรียนสำหรับผู้พิการ...
             ฉันก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่เกี่ยวกับโรงเรียนนี้ แต่ฉันคิดว่า ในเมื่อโรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนคนพิการ ฉันเองก็เป็นคนพิการ และคนพิการน่าจะเข้าใจคนพิการเหมือนกันได้ น่าจะมีใครซักคนนั่งคุยฟังเสียงไอแพดของฉันและเป็นเพื่อนกันได้ ฉันจึงได้สมัครเข้ามาในโรงเรียนนี้ ...
             เอาล่ะ! ฉันจะหาเพื่อนคนแรกของฉันในโรงเรียนแห่งนี้ได้ไหมนะ... ^_________^

Lesson 1 : ย้อนรอยอดีต [เควสบังคับ] - Page 3 Q-item12
GRADE EXP. +70
avatar
ผู้มาเยือน
ผู้มาเยือน

Lesson 1 : ย้อนรอยอดีต [เควสบังคับ] - Page 3 Empty Re: Lesson 1 : ย้อนรอยอดีต [เควสบังคับ]

Tue 03 May 2016, 14:15
ย้อนรอยอดีตของ เทียร์น่า ซิลเวอร์ทอร์น
...................
สวัสดีค่ะ ฉันชื่อ เทียร์ .... เทียร์น่า  ซิลเวอร์ทอร์น
               ในอดีตชีวิตฉันรุ่งเรืองมาก....ฉันเป็นลูกสาวคนที่2ของตระกูล'ซิลเวอร์ทอร์น'มาเฟียกลุ่มหนึ่งที่มีความเเข็งแกร่งเต็มเปี่ยมเกลียดชังความอ่อนแอเป็นที่สุด.........
               แต่แล้ว.....โชคชะตากลับเล่นตลก...ฉันประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ฉันเสีย.......ขาทั้งสองของฉัน........ ตระกูลของฉันทอดทิ้งผู้อ่อนแอ ตอนแรกฉันคิดว่สเป็นเรื่องธรรมดาของมาเฟีย แต่พอโดนซะเอง...ฉันรู้สึกสมเพชตัวเอง......ครอบครัวทิ้งฉันโดยให้เงินฉันไว้เพื่อดูแลตัวเอง...ถ้าคิดเป็นเงินไทยก็คงมีค่า หนึ่งแสนบาท ฉันกลับมาอยู่ที่ไทยที่ที่เป็นบ้านเกิดของแม่ที่เสียไป
               จากมาเฟียที่เเข็งแกร่ง เยือกเย็นถูกทิ้งราวกับขยะที่ไม่ใช่แล้ว ถูกทิ้งโดยพ่อจองตนเอง....ชีวิตฉันเลวร้ายขึ้น 

จนกระทั่ง....ชั้นเจอ.....



โรงเรียนแห่งนี้.....



ชีวิตฉันจะเริ่มใหม่อีกครั้ง........ ด้วยตัวของฉันเอง....................

Lesson 1 : ย้อนรอยอดีต [เควสบังคับ] - Page 3 Q-item12
GRADE EXP. +50
avatar
ผู้มาเยือน
ผู้มาเยือน

Lesson 1 : ย้อนรอยอดีต [เควสบังคับ] - Page 3 Empty Re: Lesson 1 : ย้อนรอยอดีต [เควสบังคับ]

Mon 09 May 2016, 16:11
ย้อนรอยอดีตของ "ยูมิโนริ ยูมิน"

สวัสดีค่ะ....ฉ..ฉันชื่อ..ยูมิน ค่ะ
บ้านเกิดของฉันคือ..โรงพยาบาล---- ม...ไม่ใช่ค่ะ!
บ้านเกิดของฉันคือกรุงเทพ แต่ฉันเป็นลูกครึ่งอังกฤษ-ญี่ปุ่นนะคะ..
พ่อกับแม่ของฉันรักและเลี้ยงดูฉันมาอย่างดี
จนกระทั่งวันหนึ่ง.....บ้านของฉันเกิดเหตุเพลิงไหม้
วินาทีนั้น...ฉ-ฉันจำได้อย่างดี! ฉันตื่นขึ้นมาพร้อมแม่และน้องสาวของฉัน
พวกเรา3คนหนีออกมาได้ทันพอดี และ...ใช่! พวกเราปลอดภัย
 แต่....พ่อของฉันไม่รอด...เขาไม่รอด!!
ฉันเห็นเขาตายต่อหน้าต่อตา! เห็นคนที่รักตายต่อหน้าต่อตา!!?!
ทั้งฉัน แม่ และน้องเสียใจอย่างมาก.....

  หลังจากที่พ่อเสียไป...เรื่องมันยังไม่จบแค่นั้นหรอกนะ!   ครอบครัวของฉันน่ะ...มีหนี้มหาศาร
แถมบริษัทยังล้มลาย..

   พวกเราไม่มีทางเลือก..!  แม่ของฉันจึง"ฆ่า" น้องสาวของฉัน
ใช่แล้วล่ะจ้ะ! แม่แท้ๆได้"ฆ่า"น้องสาวของฉัน พร้อมกับฆ่าตัวตายเพื่อหนีหนี้ทั้งหมด
แต่ฉันก็ยังรอด ฉันหนีออกจากบ้านมาได้
จะนับว่า"โชคดี"ดีมั้ยหล่ะ?!
  ทำไมชีวิตของฉันเป็นแบบนี้ล่ะ ทำไมชีวิตของฉันถึงมีความสุขบ้างไม่ได้เลยล่ะ?!
ชีวิตฉันผ่านเรื่องราวเลวร้ายมามากแค่ไหนกันแล้วรู้มั้ยย!!!
ทั้งเห็นพ่อที่ฉันรักตายจากไป...ทั้งเจอแม่แท้ๆที่ฆ่าน้องสาวฉันได้ลงคอ...
ไม่เหลือ....ชีวิตฉันไม่เหลืออะไรอีกแล้ว!!!!!!!!!! ขอมีความสุขสักครั้งเลยไม่ได้หรือยังไงวะ!?

อ๊ะ! ข..ขอโทษ เมื่อกี้ฉันเผลอแสดงท่าทางกิริยาที่ไม่ดีออกไปเหรอ?
ขอโทษจริงๆนะ^^ อารมณ์ของฉันค่อนข้างรุนแรงเมื่อมีเรื่องให้กังวลใจน่ะจ้ะ

  แต่ตอนนี้ฉันมีทางออกแล้วล่ะนะ!
ที่นี่ไงล่ะ! "Quaint School Community" ฉันจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ของฉันที่นี่!
ฉันหวังว่าอะไรๆมันจะดีขึ้นนะ!

Lesson 1 : ย้อนรอยอดีต [เควสบังคับ] - Page 3 Q-item12
GRADE EXP. +60
avatar
ผู้มาเยือน
ผู้มาเยือน

Lesson 1 : ย้อนรอยอดีต [เควสบังคับ] - Page 3 Empty ย้อนรอยอดีต [เควสบังคับ]

Mon 09 May 2016, 18:10
จุดเริ่มต้นของฉันงั้นเหรอ.. ก็ไม่ได้น่าตื่นเต้นอะไร..

ฉันเป็นลูกคนเดียวของครอบครัว ครอบครัวฉันมีฐานะดีเเต่มันก็ไม่ได้ช่วยฉันเท่าไหร่...
ตั้งเเต่จำความได้ฉันก็ไม่ดคยออกจากบ้านไม่เคยออกไม่ไหนเเละไม่เคยออกจากห้อง..
ทำไมถึงไม่ออกจากห้องนะเหรอ? ก็ไม่ใช่ไม่อยากออกไปไหน เเต่เพราะฉันมันไม่ปกติ
ฉันนะเป็นโรคเเพ้ไรฝุ่นขั้นรุนเเรง เเละเเน่นอนว่าฝุ่นหน่ะมีทุกที เพราะงั้นฉันถึงต้องใช้ชีวิตอยู่แต่ในห้องปลอดฝุ่นนี่ไง
เเต่มันก้ไม่ได้แย่ขนาดนั่น เพราะฉันไม่จำเป็นต้องทนอยู่ในห้องนี้อีกต่อไปเเล้ว ฉันจะได้ออกไปใช้ชีวิตตามปกติเหมือนคนอื่น
โดยที่จะต้องใส่หน้ากากกันฝุ่นตลอดเวลา.. ก็มันช่วยไม่ได้นินะ

วันเเรกของการออกมาใช้ชีวิตข้างนอกก็คือการมาโรงเรียน ฉันคิดว่าอย่างฉันจะมีเพื่อนรึป่าว เเต่ก็ได้เเค่คิด
"วันนี้เรามีนักเรียนใหม่ย้ายมาเป็นเพื่อนกับเขาด้วยล่ะ" อาจารย์พูดก่อนจะสะกิดฉันให้เเนะนำตัว
"สวัสดีค่ะ.. ฉันชื่อกินเนส เวอร์มิลเลี่ยน ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะค่ะ" ฉันรวบรวมความกล้าที่มีเเล้วเเนะนำตัวจะโดนเกลียดรึป่าว..
"ฝากตัวด้วยนะ^^" ฉันคงแค่กังวลไปเอง...
หลังจบคาบเเรก ทุกคนในห้องต่างก็กรูกันเข้ามาถามนู่นนี่สารพัด แต่คำถามที่ถูกถามมากที่สุดคงหนีไม่พ้น 'เธอใส่หน้ากากทำไมเหรอ?' ละนะ
"เที่ยงนี้เธอมาทานข้าวกับเราสิ"
"ได้เหรอ?!" ฉันดีใจมากที่มีคนชวนไปทานข้าว นี่เป็นครั้งเเรกในชีวิตฉันที่มีเพื่อน
"ได้สิ ก็เพื่อนกันนิ"เเละฉันก็ได้เป็นเพื่อนกับอัน
นี่ก็ผ่านมา1อาทิตย์เเล้ว ฉันกับอันก็สนิทกันมากขึ้น ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดีเเต่เเล้วก็เกิดเรื่องขึ้น...
พอฉันลืมตาตื่นขึ้นมา ก็พบว่าตัวเองอยู่โรงพยาบาลฉันจำอะไรไม่ค่อยได้...
แม่บอกว่าฉันสูดเอาฝุ้นเข้าไปตอนอยู่ที่โรงเรียยเลยสลบไป แต่ฉันใส่หน้ากากตลอดมันเป็นแบบนี้ได้ไง...
เเละในตอนนั้นเองที่ฉันนึกออก ตอนนั้นอันถอดหน้ากากฉันเพื่อพิสูจณ์ว่าฉันเเพ้ฝุ่นจริงหรือแค่เเหกตา..
หลังจากฉันหายดีฉันก็กลับมาเรียนตามปกติ เเต่ก็ไม่เจออัน และอีกหลายวันต่อมาอันก็ยังไม่มาโรงเรียน คนอื่นก็บอกไม่รู้ไม่เห็น
ฉันคิดวว่าอันคงหนีฉันไปเเล้ว ขณะที่ฉันกำลังเดินไปโรงอาหารนั่นเองฉันก็ได้เจอกับเธออีกครั้ง..
"อัน!" ฉันเรียกอันลั่น อันไม่ตอบเเต่กลับเดินมากระชากฉันไปเเทน
"นี่อัน เธอจะพาฉันไปไหน?" ฉันถามอย่างสงสัย
"พาไปตายไง! เพราะเธอทั้งหมดเพราะเธอคนเดียวยัยตัวประหลาด!" ฉันตกใจกับคำพูดของอัน จนไม่ทันได้สังเกตุรอบตัว
"พาฉันมาทีนี่ทำไม.." ข้างในมันมีแต่ฝุ่น.. กลัว.. ไม่อยากอยู่ที่นี่..
"ทำไมนะเหรอ? ก็บอกเเล้วไงว่าพามาตาย!เพราะเธอครอบครัวฉันถึงต้องล้มจมเพราะเธอเราถึงไม่มีที่ซุกหัวนอนเราต้องอยู่แบบอดๆอยากๆเพราะเธอ ลาก่อนนะกินเนสเพื่อนรัก"
อันเปิดประตูห้องเก็บของก่อนจะกระชากหน้ากากฉันเเล้วผลักฉันเข้าไป
"เธอทำ.. ปะ..แปปนี้..ทำไม.."ฮึก.. ทรมาน.. ไม่อยากอยู่ที่นี่ฉันกลัว..
"เธอพรากทุกอย่างไปจากฉัน ยัยตัวน่ารังเกียจ!" ฉันคิดได้ในทันทีว่าพ่อแม่ต้องกำจัดครอบครัวอันเพราะฉัน นี่เองสินะที่ทำให้อันโกรธเเค้นฉัน..
"ฉันขอโทษ..." ก่อนที่สติจะกับวูบไป

เรื่องมันก็ผ่านมานานเเล้ว อย่าไปรื้อฟื้นเลย จากนั้นฉันก็มาสมัครเข้าเรียนที่Quaint School Communityเพราะมีคนเเนะนำมา
ฝากตัวด้วย...

Lesson 1 : ย้อนรอยอดีต [เควสบังคับ] - Page 3 Q-item12
GRADE EXP. +50
avatar
ผู้มาเยือน
ผู้มาเยือน

Lesson 1 : ย้อนรอยอดีต [เควสบังคับ] - Page 3 Empty Re: Lesson 1 : ย้อนรอยอดีต [เควสบังคับ]

Tue 10 May 2016, 13:13
ย้อนรอยอดีตของ คิน

ฉันชื่อ คิน เป็นชื่อเล่นที่คนอื่นๆเรียกกัน ฉันป่วยละมั้งหรือเรียกว่าพิการดีล่ะ ฉันน่ะจะได้ยินเสียงคนพูดชัดก็ต่อเมื่อเสียงนั้นมีความถี่ระดับเสียงค้างคาว เพราะเป็นแบบนี้ถึงได้ถูกใครๆรำคาญ ถูกเมิน อยู่ตลอด สาเหตุของมันน่ะเหรอ ก็เริ่มมาจาก เมื่อหลายปีก่อน ตอนที่ฉันอายุ 5 ขวบ วันนั้นเป็นวันเกิดของฉัน คุณอาคือคนที่ฉันสนิทมากที่สุด คุณอาของฉันพาฉันไปเที่ยวและซื้อของขวัญให้เหมือนทุกครั้ง แต่ครั้งนี้มันพิเศษตรงที่ ฉันได้มาดูงานวิจัยของคุณอาด้วย เพราะเป็นงานด่วนเราจึงไม่ได้ไปเที่ยวเหมือนทุกที แต่ก็เรียกว่าเที่ยวได้เหมือนกันนะ เพราะที่นี่ก็มีอะไรน่าตื่นตามากมาย คุณอาบอกให้ฉันเดินเล่นแถวๆนี้และห้ามซน ฉันก็เชื่อฟังท่าน ฉันเดินดูพวกโครงกระดูก พวกพืชในกล่องกลมๆ เหมือนมีเชื้อราอยู่ด้วยแหละ แต่มันดูสวยดีนะ ฉันเดินดูเพลินจนสุดทาง ตรงมันมีประตูเหล็กที่ปิดไม่สนิทอยู่ฉันคิดว่ามันคงเป็นพวกงานวิจัยอีกแน่ๆ เลยเข้าไปดูอีกอย่างมันไม่มีป้ายห้ามเข้าด้วย คิกๆ ฉันแอบย่องเข้าไปค่อยแง้มประตู มันหนักนะแต่เลื่อนได้ลื่นมากฉันเลยรีบเข้าไปทันที มันเป็นห้องโล่งไม่มีหน้าต่างไม่มีช่องลม แต่มีอยู่จุดหนึ่งที่เป็นกระจกใสกลมๆ เหมือนจะเอาไว้มองจะข้างนอก พอฉันเข้ามาประตูมันก็ปิดแล้วเหมือนจะมีเสียงล็อกด้วย!!
"เฮ้ เปิดสิ ใครก็ได้ มีใครอยู่มั้ย ฮึกๆ ฮืออ" ฉันนั่งร้องไห้อยู่คนเดียว เวลาผ่านไปหลายนาที จู่ในห้องที่ฉันอยู่ก็สว่างขึ้น แล้วฉันรู้สึกว่าหูของฉันมันค่อยๆอื้อ เหมือนเวลาขับรถขึ้นเขา มันรุนเเรงขึ้นเรื่อยๆ จนฉันได้ยินเสียงวิ้ง ในหัว ฉันตะเกียกตะกายตุบประตูเรียกให้คนช่อย เเรงกดดันนั้นยังเพิ่มขึ้เรื่อยๆ เเละฉันเริ่มจะไม่ไหวแล้ว ฉันนอนอยู่นิ่งๆ ใจหนึ่งรอคอยความตายอีกหนึ่งใจรอคอยความหวัง จากนั้นก็เริ่มมีเลือดไหลออกมาจากจมูกและก็ตามด้วยหูของฉัน ภาพรอบตัวทุกอย่างเริ่มเบลอไปหมดแล้ว แต่เหมือนพระเจ้าจะยังไม่ทอดทิ้งฉัน ประตูตรงหน้าฉันมันเปิดออกแล้วพร้อมกับเเรงกดดันนั่นเหมือนจะลดลงนะ ฉันเห็นขาของใครหลายๆคนวิ่งเข้ามาทางฉันและทุกอย่างก็มืดลง
.
.
.
.
1 สัปดาห์ ผ่านไป

ฉันเพิ่งจะตืนเมื่อคืนนี่เอง เหล่านักวิจัยไม่รู้เป็นหมอกันทุกคนรึเปล่าเพราะใส่ชุดเหมือนกันหมดพวกเขาเดินกันขวักไขว่ บ้างก็มาดูอาการฉัน บ้างก็มาถามว่าฉันรู้สึกยังไง คิดว่านะ ก็คนพวกนี้พูดอะไรกันก็ไม่รู้ฟังไม่รู้เรื่องสักนิด พึมๆพำๆกันอยู่ได้ แล้วคุณอาก็เข้าห้องมา ฉันดีใจมากที่จะได้กลับบ้านซะที ฉันรีบวิ่งกระโดดไปกอดคุณอาทันที
"กอ..ั้..พป.๑ะ฿ต" คุณอาก้มมองมาที่ฉันเเล้วก็พูดเหมือนพวกคนอื่นอื่นๆเลย งึมงำๆ ฟังไม่รู้เรื่อง ฉันทำหน้านิ่วแล้วก็ถามออกไปอย่างงอนๆ
"แำีร.. ร.ืี๒ุ๑.!!!..." อะ..อะไรกันฉันพูดภาษาอะไรเนี่ย ฉันทรุดนั่งลงกับพื้นและพยายามพูดประโยคต่างๆ แต่สิ่งที่ได้ยินคือเสียงที่พึมพำอะไรบางอย่างเหมือนพูดมั่วๆ บางคำก็เสียงขาดๆหายๆ ฉันหันไปมองคุณอาที่ตอนนี้ก็ทำหน้าลำบากใจอย่างมาก คุณอาจึงส่งสมุดบันทึกกับปากกามาให้ฉันเขียนแทนพูด ฉันก็รับมาอย่างไม่ลังเล

'หนูไม่ได้ยินที่อาพูด หรือหนูพูดเลย '
'มันมีอะไรหลายๆอย่างที่อาต้องอธิบาย คินพร้อมที่จะยอมรับมั้ย'
ฉันพยักหน้า ทำให้คุณอายิ้มแล้วก็ลงมือเขียน คนอื่นๆ ก็ทยอยกันออกไปข้างนอก
'ห้องที่หนูเข้าไปน่ะ มันเป็นห้องที่ใช้ทดสอบคลื่นความถี่ของเสียง มันจะเป็นห้องที่ใช้พิพากษานักโทษในวันข้งหน้า แต่ตอนนี้เราอยู่ในช่วงทดลองและพัฒนา มันจะทำงานทันทีที่ประตูปิดสนิท มันจะค่อยๆปรับคลื่นความถี่ในห้องนั้น หนูรู้สึกว่าหูอื้อใช่มั้ยล่ะ'
(-_-)(_ _)(-_-)(_ _) ฉันหยิบปากกามาเขียนบ้าง
'แล้วเกิดอะไรขึ้นกับหนู'
คุณอาอ่านแล้วก็เขียนอีก สีหน้าของคุณอาเหมือนจะลังเลที่จะเขียนอยู่นะ อ้ะเสร็จแล้วๆ
'เราใช้สารถนอมเซลล์ ชื่อมันยาวขอเรียกแบบนี้ละกัน มันจะเข้าไปเยียวยาเซลล์ที่กำลังตาย และค่อยๆรักษา มันเป็นงานวิจัยตัวอย่างที่เราคิดค้นขึ้นเพื่อใช้กับคนพิการทางหู แต่มันเป็นตัวอย่างที่ยังไม่ได้ทดสอบ ดังนั้น หนูจึงเป็นคนเแรกที่ได้ใช้ ขอโทษนะที่ใช้หนูเป็นหนูทดลอง ขอโทษนะ' ฉันอ่านจบก็หันไปมองคุณอา ฉันเข้าไปกอดคุณอาคุณอาเองก็กอดฉันตอบเช่นกัน
.
.
วันนี้คุณพ่อกับคุณแม่มาหายฉัน พวกท่านก็เสียใจไม่ต่างกับฉันตอนนั้น แต่ฉันเริ่มรับได้แล้วล่ะ เพราะทีมงานของคุณอาช่วยสร้างเตรื่องกรองคลื่นมันเหมือนเครื่องเล่นเพลงของคุณอาเลยล่ะ มีเฮดโฟนด้วย แต่ก็ไม่สะดวกเสมอไปล่ะนะ เพราะกว่ามันจะกรองคลื่นเสร็จก็ประมาณ 1-2 นาทีอยู่ บางคำก็เบา ไม่ชัดจนฉันฟังไม่ออกด้วย  ตอนนี้ทุกอย่างก็ดีขึ้นบ้างแล้วเหลือเเค่ว่าจะใช้ชีวิตปกติได้รึเปล่าเท่านั้น
.
.
.
โรงเรียน XXX
ฉันอายุ 6 ปีแล้วล่ะ ตอนนี้กำลังอยู่ที่โรงเรียน ที่นี่ฉันไม่ค่อยคุยกับใครเพราะเพิ่งเข้ามาใหม่ และก็เพิ่งเปิดเทอมด้วย
"นี่ๆ เธอฟังเพลงไรอ่ะ ขอฟังบ้างสิ"
'นี่ๆ เธอ..' เด็กผู้หญิงผมสั้นเดินมาหาฉันเเละก็พูอะไรบางอย่างจากนั้นก็เข้ามาดึงหูฟังฉันด้วย
"เฮ้ นี่อย่านะ!!" ฉันพูดออกไปพร้อมกับกุมหูฟังไว้ พอหันไปมองก็พบว่าเด็กคนนั้นกำลังทำหน้าตาตกใจ ตาเบิกกว้างและก็เริ่มร้องไห้
"ทำไม ต้องตะโกนด้วย. ฮึกๆ ฮือๆๆ" เด็กคนนั้นเหมือนจะเริ่มปล่อยโอ
'ทำไมต้อง ตะกอนด้วย ' ตะกอน? อ้อ ตะโกนเหรอ ฉันเปล่านะ
"เอ่อคือ ฉันขอโทษคือฉันไม่ตั้งใจ" ฉันเดินเข้าไปหาเธอ แต่เธอไม่ยอมหยุดเลย คนอื่นๆก็เริ่มซุบซิบกัน แล้วครูก็มา จากนั้นฉันก็โดนสวดยับ ฉันรู้ แต่ฉันปิดเครื่องกรองคลื่นไว้เพราะถ้าต้องมาฟังทั้งแปลทั้งเสียงจริงคงปวดหัวตาย  และหลังจากวันนั้นก็เกิดเหตุการณ์ซ้ำๆ หลายอย่าง ทั้งถูกแกล้ง ทั้งเพื่อนหนีห่าง ทั้งครูที่ทำท่าทีรำคาญ เบื่อหน่าย ฉันเองก็ไม่ต่างกันหรอกนะ ฉันเรียนได้แค่ 2 ปี ก็ออกมาเรียนที่บ้านเพราะทนอยู่สภาพนั้นไม่ไหว และแล้ว คุณอาก็มาเยี่ยมฉัน จริงๆก็มาทุกเดือนเพื่อเช็คสภาพเครื่องกรองคลื่นนี่
"อาว่า คินน่าจะกลับไปเรียนได้แล้วนะ เดี๋ยวก็ไม่มีเพื่อนหรอก"
'อาว่า คินน่าจะกลับไปเรียนได้แล้วนะ เดี๋ยวก็ไม่มีเพื่อนหรอก'
"อาก็รู้ หนูใช้ชีวิตประจำวันลำบาก " ฉันตอบเสียงเศร้าๆ
"แต่อาเจอที่ ที่หนูจะใช้ชีวิตได้อย่างปกติและไม่แตกต่างแล้วนะ "
'แต่อาเจอที่ ที่หนูจะใช้ชีวิตได้อย่างปกติและไม่แตกต่างแล้วนะ  ' ฉันหันขวับไปมองคุณอาทันทีที่ฟังจบ
"ที่นี่ไง " คุณอาหยิบโทรศัพท์ออกมากดๆ แล้วก็ยื่นมา ฉันก้มมองภาพในโทรศัพท์ที่คุณอายื่นมา
QUAINT SCHOOL COMMUNITY
----------------------------------------------------
เรื่องมันก็เป็นแบบนี้แหละ ฝากตัวด้วยนะคะ


Lesson 1 : ย้อนรอยอดีต [เควสบังคับ] - Page 3 Q-item12
GRADE EXP. +90
avatar
ผู้มาเยือน
ผู้มาเยือน

Lesson 1 : ย้อนรอยอดีต [เควสบังคับ] - Page 3 Empty Re: Lesson 1 : ย้อนรอยอดีต [เควสบังคับ]

Tue 12 Jul 2016, 19:04
เรื่องราวของฉันก่อนที่จะมาอยู่โรงเรียนนี้มีอยู่ว่า...
"อย่ามายุ่งกับฉันน่ะยัยตัวขี้โรคน่ารังเกียจ" เสียงตวาดดังขึ้น
"อามุ...." ในตอนนั้น ฉันไม่อาจรู้ได้เลยว่า ฉันทำอะไรให้อามุโกรธ
ตั้งแต่เด็กเราเป็นเพื่อนที่สนิทกันมาก ไม่ว่าจะทำอะไรเราก็จะทำไปด้วยกันตลอดไม่ว่าจะกินนอนเล่น เราก็ตัวติดกันตลอด จนมีหลายๆคนทักว่า "ฝาแฝด" กันเลยที่เดียว ฉันเป็นคนที่ไม่ค่อยจะมีเพื่อน เท่าที่จำได้ก็มีเพียงแค่อามุเท่านั้นที่เป็นเพื่อนกับฉัน ฉันเองก็ไม่รู้ว่าฉันไม่ดีตรงไหนเพื่อนๆก้ไม่มาเล่นกับฉัน จน... "นี่อามุ ทำไมถึงไม่มีใครเล่นกับฉันละ?" ฉันถามอามุอย่างสงสัย "คงเป็นเพราะเธอเป็นโครเครซี่อาย (โรคตาขี้เกียจ)กับโรคหัวใจละมั้ง สำหรับคนอื่นแล้วมันดูน่ารังเกียจน่ะ" "ขนาดนั้นเลยหรอ" ฉันตอบ คำพูดของอามุทำให้ฉันเจียบตัวขึ้นมาเลยที่เดียว
"ก็นะในความคิดของฉันนะ แต่ว่าน่ะเทอเป็นเพื่อนของฉัน ฉันไม่สนหนอกจ้ะ" อามุตอบพลางยิ้มให้ด้วยท่าทางร่าเริงตามฉบับของเธอ อามุเป็นเด็กผู้หญิงที่ตัวเล็กน่ารัก นิสัยดีแถมเธอยังป็อปปูล่าในหมู่เพื่อนๆอีกด้วย
ต่างจากฉันโดนสิ้นเชอง ตัวฉันนั้นมักจะโดนคนอื่นๆ กลั่นแกล้งอยู่เป็นประจำ แล้วก็จะเป็นอามุตลอกที่มาช่วย แต่แล้ววันหนึ่ง.......

"นี่อามุ เธอจะคบกับยัยตัวขยะแขยงนั้นอีกนานแค่ใหนกัน!!" เสียงเอะอะดังขึ้นที่หน้าห้องน้ำหญิง
"ก็ไม่อยากจะคบนานนักหรอกนะ แต่ยัยยั้ยมันเป็นคนฉลาด ก็ต้องคบเอาผลประโยชน์สิ" เสียงยังคงดังต่อเนื่องนั้นทำให้ฉันไม่กล้าออกไปจากห้องน้ำ และจำต้องรอจนกว่าพวกเธอจะออกไป
"ยัยนั้นหมดประโยชน์แล้ว ทิ้งมันได้แล้วละอามุ" ทันทีที่ฉันได้ยินชื่อของอามุ นันก็ทำให้ฉันอยากจะรู้ทันที่ว่าสิ่งที่เขาพูดกันคืออะไร
"โอ้ยยย!! ได้ๆ!! เดี๋ยวฉันจะไปบอกมันเดี๋ยวนี้แหละขยะแขยงแถมเป็นโรค"
"อามุ!! เทอจะไม่เป็นเพื่อนกันฉันแล้วหรอ!?"
"จีมิน... ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี้"อามุหน้าเหวอไปเลยตอนฉันโผล่ออกมา
"นี่เธอจะไม่เป็นเพื่อนกับฉันแล้วหรอ! ฉันทำอะไรผิดหรอ บอกฉันได้นะฉันจะแก้ไขทุกอย่างเลย!" ฉันพยายามถามอามุ เผื่อเธอจะตอบอะไรฉันบ้าง
"เธออยากรู้งั้นหรอความจริงหนะ?" อามุยิ้มที่มุมปาก
"ฉันไม่ชอบเธอมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ทั้งที่เธอนะน่ารังเกียจขนาดนั้นแท้ๆ ทำไมถึงเก่งไปซะทุกอย่าง ฉันอิจฉาเธอฉันเกลียดเธอเข้าใจไหม!!"
"อามุฉันของโทษฉันไม่รู้ว่าฉันผิดอะไร ถ้าฉันผิดไปก็ขอโทษด้วย อามุอย่าเลิกคบฉันเลยนะ!!" ฉันทำทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้อามุทิ้งฉันไป ฉันไม่อยากอยู่คนเดียว
"อย่ามายุ่งกับฉันยัยตัวขี้โรคยัยตัวน่ารักเกียจ!!"
และนั้นเป็นสาเหตุที่ทำให้ฉันย้ายมายัง Quaint School Community นี้ เผื่อว่าชีวิตฉันจะดีขึ้นบ้าง

Lesson 1 : ย้อนรอยอดีต [เควสบังคับ] - Page 3 Q-item12
GRADE EXP. +60
avatar
ผู้มาเยือน
ผู้มาเยือน

Lesson 1 : ย้อนรอยอดีต [เควสบังคับ] - Page 3 Empty Re: Lesson 1 : ย้อนรอยอดีต [เควสบังคับ]

Fri 26 Aug 2016, 00:44
ย้อนร้อยอดีต อวี๋เจียว
鷦 ( เจียว ) คำสั้นๆคำหนึ่งในภาษาจีนอันมีความหมายว่า 'เจ้านกกระจิบ'
นกกระจิบรู้จักกันว่าเป็นนกขนาดเล็ก ชอบกระดกหางขึ้นลงแถมยังกระโดดไปมาตลอดเวลาพร้อมกับเสียงจิ๊บๆที่ดังลอดจากจงอยปากไม่มีเหนื่อย
    อวี๋เจียว ถ้าเปรียบแล้วก็เป็นหนึ่งในเจ้านกกระจิบที่ชอบกระโดดไปมาไม่อยู่นิ่ง แถมยังชอบร้องจิ๊บๆเหมือนเพื่อนนกกระจิบตัวอื่นๆทั่วไป
ติดแต่ก็ตรงที่ว่าเขาแปลกกว่านกตัวอื่นตรงที่ไม่สามารถได้ยินเสียงร้องจิ๊บๆของตัวเองได้อย่างชัดเจนนั่นเอง
เป็นเจ้านกกระจิบที่หูตึง

-----------------------------------------------

  ปะป๊าของอวี๋เจียวเป็นชาวจีนผู้มีฐานะร่ำรวยจากการบริหารจัดการธุรกิจ
  ส่วนหม่าม้าเป็นชาวอังกฤษที่เข้ามาอาศัยและทำงานในประเทศจีน
ทั้งสองคนถือได้ว่าเป็นคนสุขภาพร่างกายดีเพราะนับได้ตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าก็ครบสามสิบสอง
แถมตรวจร่างกายเป็นประจำทุกปีผลตรวจก็ออกมาน่าสบายใจห่างไกลโรคร้าย

แต่แล้วเมื่อพบรักกันและตัดสินใจแต่งงานกัน
ลูกของพวกเขากลับมีไม่ค่อยจะครอบสามสิบสอง
พูดง่ายๆก็คือมีเพียงสามสิบเอ็ดครึ่งเท่านั้น!

อวี๋เจียวเป็นโรคหูตึงจากพันธุกรรม

อ้าว? แล้วไฉนในเมื่อทั้งปะป๊าหม่าม้าของเจ้านกตัวนี้มีปีกแข็งแรงสมบูรณ์ครบสามสิบสอง
ทำไมเจ้าลูกนกน้อยถึงมีเพียงแค่สามสิบเอ็ดครึ่งกันล่ะ?

สาเหตุทางกรรมพันธ์ไม่ได้มาจากปะป๊าและหม่าม้า
แต่ว่ามาจากคนที่เป็นปะป๊าของปะป๊าซึ่งต่างหาก
ใช่แล้ว คุณปู่ของอวี๋เจียวเป็นโรคหูตึงนั่นเอง

แต่ว่าอวี๋เจียวก็ไม่เคยโทษคุณปู่เลยที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้ ไม่เคยเลยแม้แต่น้อย
อันที่จริงคิดในแง่ดีเสียอีกว่า อา..อย่างน้อยก็มีอะไรที่เหมือนคุณปู่

แม้โรคหูตึงทำให้อวี๋เจียวมองเห็นแต่ภาพที่เกือบจะไม่มีเสียง ทำให้บางทีก็วิ่งซนเพราะไม่ได้ยินเสียงที่หม่าม้าดุมาไกลๆ
คุยกับเด็กข้างบ้านก็ไม่ค่อยจะรู้เรื่องเท่าไหร่จึงทำได้แต่ยิ้มและพูดอะไรออกไปไม่ถูก
มองดูเด็กคนอื่นๆวิ่งไล่จับกันอย่างสนุกสนานโดยตนไม่รู้เกี่ยวกับบทสนานั้นพวกเขาคุยอะไรกันนะ
จนสุดท้ายก็ต้องกลับมาที่บ้านนั่งวาดรูปคนเดียวโดยไม่มีเพื่อน
ไปโรงเรียนแบบปกติเหมือนคนอื่นไม่ได้ คุณพ่อต้องจ้างคุณครูมาสอนเฉพาะที่บ้าน
พอโตขึ้นอีกหน่อยก็ต้องติดเครื่องช่วยฟังรูปร่างแปลกๆไว้ข้างหูตลอดอีกต่างหาก

แต่ว่าตีให้ตายยังไงก็ไม่โทษคุณปู่อยู่ดี

เรื่องดำเนินแบบนี้มาเรื่อยๆจนกระทั่งมีญาติผู้ใหญ่ที่ทำธุรกิจร่วมกับปะป๊าได้แนะนำโรงเรียนแห่งหนึ่ง
สุดท้ายแล้วปะป๊าก็ได้พิจรณาตัดสินใจส่งอวี๋เจียวไปศึกษา ณ โรงเรียนที่มีชื่อว่า ' Quaint School '
เป็นสถานที่ที่เหมาะกับอวี๋เจียว นกกระจิบที่ได้ยินเสียงตนเองไม่ค่อยชัด
ที่นี่จะเป็นที่แรกที่ทำให้เจ้านกกระจิบหูตึงได้สัมผัสกับคำว่าโรงเรียน
และแล้วการผจญภัยบทใหม่ก็เริ่มขึ้น
จะเป็นอย่างไรต่อไปกันนะ?
อา...
Lesson 1 : ย้อนรอยอดีต [เควสบังคับ] - Page 3 8vxohh

Lesson 1 : ย้อนรอยอดีต [เควสบังคับ] - Page 3 Q-item12
GRADE EXP. +95
avatar
ผู้มาเยือน
ผู้มาเยือน

Lesson 1 : ย้อนรอยอดีต [เควสบังคับ] - Page 3 Empty By oldSenmag

Thu 20 Oct 2016, 10:49
ในสมัยที่พายุพัดถล่มเมืองๆหนึ่ง ในประเทศไอซ์แลนด์
ซึ่ง "แม็ซ คิเรณ" เกิดในช่วงนั้นพอดิบพอดี บรรยากาศที่นั่น
ทรุดโทรม สภาพเมืองพังทลาย ผู้คนได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตหลายราย
รวมถึงพ่อของ แม็ซ เช่นกัน อาการสาหัสจาก ต้นไม้ทับซึ่งรับน้ำหนัก
ของลมพายุไม่ไหว ก่อนตายพ่อของ แม็ซ เกรงว่าทั้ง ภรรยา และลูกที่พึ่งเกิด
จะได้รับอันตราย เขาจึ่งสั่งให้แม่ของแม็ซ ซึ่งเป็นคนไทย ให้กลับประเทศไป
โดยหอบข้าวของสมบัติ และแม็ซ ไปด้วย
" ไปจากที่นี้ซะ อย่ากลับมาจนกว่าผมจะหายดี
ดูแลเด็กคนนี้ให้ดีที่สุด " ถึงแม้ว่าแม่ของแม็ซ จะมีท่าทีไม่
อยาก แต่เพราะมีลูกที่พึ่งจะเกิด และเป็นคำขอของ สามีแล้ว เธอจึงกลับ
ประเทศไทยโดยดี

"ก่อนผมจะมาที่นี้ แม่ได้เล่าว่า พ่อได้เสียไปแล้วก่อนที่เราจะมาถึงประเทศไทย ซึ่งผมก็เข้าใจ และเสียใจอยู่บ้าง
แต่มันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ ที่ธรรมชาติจะเอาชนะคนได้อย่างนี้ ผมจึงตั้งใจจะเก็บเรื่องนี้เป็นความทรงจำที่แย่ๆไว้"
 "ผมจำความได้ตอนอายุ 6ขวบ แม่สังเกตุว่าผมไม่พูดอะไรเลยตั้งแต่เด็ก แม้แต่คราง หัวเราะอะไรก็ไม่เคย
แม่จึงพาผมไปรักษาตัวที่คลินิกใกล้บ้าน หมอบอกว่า ผมโดนมรพิษตั้งแต่อยู่ในท้อง ซึ่งมันได้ถ่ายเข้าไปในหลอดลม
ของผม ทำให้ไม่สามารถพูดได้ แม่ที่รู้สึกช็อค ก็โล่งอกไป เพราะมันไม่มีผลต่อร่างกายมาก แค่ไม่สามารถกินอาหาร
ที่จัด เพราะมันจะกระตุ้นช่องหลอดลม ทำให้เจ็บคอถึงขั้นรุนแรง แม่พยักหน้าขอบคุณหมอ และกลับบ้านของเราไป
บ้านของแม่อยู่ในชุมชนที่ค่อนข้างแออัด ทำให้คนที่อาศัยอยู่ดูเยอะมาก ผมอาศัยอยู่กับแม่ ยาย และตา บ้านเรา
ขายปาท่องโก๋ และขนมครก ถานะปลานกลาง อยู่อย่างพอเพียง แม่สอนภาษาไทย และไอซ์แลนด์ซึ่งเป็นภาษาของพ่อ
ให้กับผม เพื่อเขียนในสิ่งที่ผมจะพูดกับคนในครอบครัว และคนอื่นๆ เวลาผมไปไหนก็จะมี สมุดโน๊ตแผ่นกลางๆติดตัวไปด้วย
  " ผมถูกเพื่อนในหมู่บ้านรังแก เป็นเบ๊ ไปวันๆ โดนด่าไอ้ใบ้บ้าง ไอ้พิการบ้าง ซึ่งมันไม่มีผลกระทบอะไรไปมากกว่า
หลังจากคุณตา คุณยายเสียไป ผมอายุได้ 12ปี แม่รู้สึกว่าผมควรที่จะไปโรงเรียนได้แล้ว เพราะแม่คงไม่รู้จะสอนอะไรให้
ผมขนาดนั้น ผมก็คิดว่าอย่างนั้น เพราะนับวัน เงินใช้ไปเรื่อยๆก็ใกล้จะหมด อยากให้ผมลองดูแลตัวเองบ้าง"
  "แต่ก็ไม่มีโรงเรียนไหนอยากรับคนใบ้อย่างผม ซึ่งผมต้องหาโรงเรียนที่เหมาะแล้วเข้าใจผมอย่างดี
แต่พอมาคิดอีกที [ผมมายีนอยู่หน้ารั้วโรงเรียนชะแล้วครับ :)]

Lesson 1 : ย้อนรอยอดีต [เควสบังคับ] - Page 3 Q-item12
GRADE EXP. +70


แก้ไขล่าสุดโดย oldSenmag เมื่อ Wed 15 Mar 2017, 08:58, ทั้งหมด 3 ครั้ง
ขึ้นไปข้างบน
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
2012 © Powered by QUAINT